ขอน้ำๆก่อนน่ะ เนื้อๆจะตามมา
เริ่มที่แม่ของเรา แม่เรามีพี่น้องหลายคนมาก แต่ก็แยกย้ายกันไปหมด มีไม่กี่คนที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน
แม่เราขายของ ประมาณโชว์ห่วยอะไรทำนองนั้น รายได้ก็ดีพอสมควรน่ะ(ไม่ได้อวดน่ะ) แต่นี้คือเรื่องราวทั้งหมด
แม่มีน้องคนหนึ่ง น้องคนนี้ก็ค้าขายเหมือนกัน น้ามีลูก 2 คน ชาย1 หญิง1 เรียนดีทุกคน น้าคนนี้ชอบยืมเงินแม่เรามาก ตอนเด็กเราก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมาก
เพราะเด็กอยู่ แต่ตอนนี้เรารู้เรื่องแทบทั้งหมดของแม่เลย
น้าจะชอบทำอารหารมาให้กินบ่อยๆ แต่จะชอบแลกด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แรกๆก็สัก สี่หลัก แต่หลังเริ่มหนักขึ้น
น้ายืมบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยชอบเอามาคืน จนน้าออกรถกะบะมาคันหนึ่ง(บ้านเราใช้แต่จักรยาน) สักสี่ปี น้าคนนี้ทะเลาะกับลุงเราเรื่องรถคันนี้
ก็มานั่งคุยกับแม่ แม่เราก้อใจใหญ่เกิ๊น แม่ช่วยออกเงินก่อน บอกว่ามีเรื่องอะไรจะได้พึ่งพาน้าคนนี้ได้
พอนานวันเข้า เงินที่ยืมไปมันเริ่มพอกหางหมู จากห้าหลักต้นๆเริ่มเป็นหกหลัก จนมาวันหนึ่ง น้าได้ทะเลาะกับลุงคนเดิมอีกครั้ง จนน้าตัดสินใจที่จะย้ายบ้าน
โดยการซื้อดิน ซึ่งก็มานั่งคุยกับแม่เราอีกครั้ง และแล้วก้อแบบเดิม บอกว่าเป็นพี่น้องกันต้องช่วยเหลือกัน(อีกแล้ว) รอบนี้น้าได้เงินไปครึ่งล้านเพื่อซื้อที่ดิน
เรื่องที่ดินเราขัดมาตลอด จนตอนนี้เงินที่ยืมไปเลื่อนมาเป็น 7 หลัก น้าบอกจะรวมมาคืน แต่ไม่เคยเห็นเงินจำนวนนั้นเลย
หลังจากนั้นไม่นาน น้าออกมาอยู่บ้านเช่าก่อนเพื่อที่ไม่เจอกับลุง น้าได้แอบออกรถยนต์มาคันหนึ่งให้ลูกชายเค้า โดยไม่ได้บอกแม่เรา
1ปีมาแล้วที่ออกรถมา ซึ่งลูกชายก็ยังเรียนไม่จบแต่มีรถใช้ ลูกชายน้าคนนี้ ไม่เคยจะไปช่วยขายของเลย ขยันเที่ยว ดื่ม กิน ใช่แบรน์เนม
ส่วนของรถคือ hrv แต่หลังๆเห็นว่าออกไปช่วยบ้าง เพราะหาลูกจ้างไม่ได้ ส่วนลูกสาว เป็นติ่งเกาหลี ทุกคอนเสริต์ ไอโฟนเปลี่ยนทุกรุ่น เที่ยวเก่ง กินของขึ้นห้าง บอกเลยลูกคุณหนู คนนี้ก้อไม่ช่วยขายของอีกเหมือนกัน แต่เห็นว่าเริ่มๆไปกันแล้ว
ผ่านไประยะหนึ่ง แม่ได้ซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งแม่บอกจะให้คนเช่า แต่คนเช่าก็คือ น้าคนนี้ แม่เก็บวันล่ะ100บาท และขอเก็บเงินที่เป็นหนี้ไว้อีก100
รุปเราต้องตามเก็บวันละแค่200บาท ซึ่งในทุกๆวันน้าคนนี้ ต้องมาซื้อของที่ร้านเราไปทำของ บ้างครั้งไม่จ่ายค่าของเลย บ้างครั้งก็ค้างเงินอีก
จนล่าสุดได้ขายที่ไปแล้ว เราพยายามท่วงอยู่สองวัน แต่ก็ไม่ได้มาสักบาท น้าบอกแม่ว่าขอเอาไปใช้หนี้ก่อน เค้ามีหนี้อยู่
บอกเลยได้ไม่เห็นด้วยมาก(คือเราเป็นคนที่ค่อนข้างงกพอตัว)
เรารู้สึกว่า หนี้ที่น้าก่อเราไม่รู้เรื่องเลย แต่พอจะชดใช้ แม่กับเราต้องมารับรู้ ส่วนรถของลูกเงินไม่พอก็มาขอยืมแม่อีก เราว่ามันมากเกินไป ในความคิดเรา
# บ้านเราใช้จักรยานเป็นหลัก จะไปไหนก็เหมารถยนต์บ้าง จ้างวินบ้าง เรื่องเที่ยวก็นานๆที
ซึ่งจะไปไหนทีก็ไม่เคยให้พี่น้องแม่รับรู้เลย ณ ตอนนี้ก็ไม่เคยได้พึ่งพาพี่น้องอย่างจิงจัง พอจะคุยกับแม่เรื่องนี้ ก็ชอบทะเลาะกัน
เราเล่าใหเพื่อนที่พอสนิทบ้าง ทุกคนก้อรู้สึกว่าเยอะไป
อยากรู้ความคิดเห็นของหลายๆคนบ้าง ว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้
*ตอนนี้บอกเลยว่าแม่เราไม่มีเงินเก็บส่วนตัวเลย ไม่มีเงินสำรองไว้ฉุกเฉินเลย
อยากให้ช่วยแสดงความคิดเห็นกันหน่อย น่ะ
เริ่มที่แม่ของเรา แม่เรามีพี่น้องหลายคนมาก แต่ก็แยกย้ายกันไปหมด มีไม่กี่คนที่อยู่ในจังหวัดเดียวกัน
แม่เราขายของ ประมาณโชว์ห่วยอะไรทำนองนั้น รายได้ก็ดีพอสมควรน่ะ(ไม่ได้อวดน่ะ) แต่นี้คือเรื่องราวทั้งหมด
แม่มีน้องคนหนึ่ง น้องคนนี้ก็ค้าขายเหมือนกัน น้ามีลูก 2 คน ชาย1 หญิง1 เรียนดีทุกคน น้าคนนี้ชอบยืมเงินแม่เรามาก ตอนเด็กเราก็ไม่ค่อยสนใจอะไรมาก
เพราะเด็กอยู่ แต่ตอนนี้เรารู้เรื่องแทบทั้งหมดของแม่เลย
น้าจะชอบทำอารหารมาให้กินบ่อยๆ แต่จะชอบแลกด้วยเงินจำนวนหนึ่ง แรกๆก็สัก สี่หลัก แต่หลังเริ่มหนักขึ้น
น้ายืมบ่อยมาก แต่ไม่ค่อยชอบเอามาคืน จนน้าออกรถกะบะมาคันหนึ่ง(บ้านเราใช้แต่จักรยาน) สักสี่ปี น้าคนนี้ทะเลาะกับลุงเราเรื่องรถคันนี้
ก็มานั่งคุยกับแม่ แม่เราก้อใจใหญ่เกิ๊น แม่ช่วยออกเงินก่อน บอกว่ามีเรื่องอะไรจะได้พึ่งพาน้าคนนี้ได้
พอนานวันเข้า เงินที่ยืมไปมันเริ่มพอกหางหมู จากห้าหลักต้นๆเริ่มเป็นหกหลัก จนมาวันหนึ่ง น้าได้ทะเลาะกับลุงคนเดิมอีกครั้ง จนน้าตัดสินใจที่จะย้ายบ้าน
โดยการซื้อดิน ซึ่งก็มานั่งคุยกับแม่เราอีกครั้ง และแล้วก้อแบบเดิม บอกว่าเป็นพี่น้องกันต้องช่วยเหลือกัน(อีกแล้ว) รอบนี้น้าได้เงินไปครึ่งล้านเพื่อซื้อที่ดิน
เรื่องที่ดินเราขัดมาตลอด จนตอนนี้เงินที่ยืมไปเลื่อนมาเป็น 7 หลัก น้าบอกจะรวมมาคืน แต่ไม่เคยเห็นเงินจำนวนนั้นเลย
หลังจากนั้นไม่นาน น้าออกมาอยู่บ้านเช่าก่อนเพื่อที่ไม่เจอกับลุง น้าได้แอบออกรถยนต์มาคันหนึ่งให้ลูกชายเค้า โดยไม่ได้บอกแม่เรา
1ปีมาแล้วที่ออกรถมา ซึ่งลูกชายก็ยังเรียนไม่จบแต่มีรถใช้ ลูกชายน้าคนนี้ ไม่เคยจะไปช่วยขายของเลย ขยันเที่ยว ดื่ม กิน ใช่แบรน์เนม
ส่วนของรถคือ hrv แต่หลังๆเห็นว่าออกไปช่วยบ้าง เพราะหาลูกจ้างไม่ได้ ส่วนลูกสาว เป็นติ่งเกาหลี ทุกคอนเสริต์ ไอโฟนเปลี่ยนทุกรุ่น เที่ยวเก่ง กินของขึ้นห้าง บอกเลยลูกคุณหนู คนนี้ก้อไม่ช่วยขายของอีกเหมือนกัน แต่เห็นว่าเริ่มๆไปกันแล้ว
ผ่านไประยะหนึ่ง แม่ได้ซื้อบ้านไว้หลังหนึ่งแม่บอกจะให้คนเช่า แต่คนเช่าก็คือ น้าคนนี้ แม่เก็บวันล่ะ100บาท และขอเก็บเงินที่เป็นหนี้ไว้อีก100
รุปเราต้องตามเก็บวันละแค่200บาท ซึ่งในทุกๆวันน้าคนนี้ ต้องมาซื้อของที่ร้านเราไปทำของ บ้างครั้งไม่จ่ายค่าของเลย บ้างครั้งก็ค้างเงินอีก
จนล่าสุดได้ขายที่ไปแล้ว เราพยายามท่วงอยู่สองวัน แต่ก็ไม่ได้มาสักบาท น้าบอกแม่ว่าขอเอาไปใช้หนี้ก่อน เค้ามีหนี้อยู่
บอกเลยได้ไม่เห็นด้วยมาก(คือเราเป็นคนที่ค่อนข้างงกพอตัว)
เรารู้สึกว่า หนี้ที่น้าก่อเราไม่รู้เรื่องเลย แต่พอจะชดใช้ แม่กับเราต้องมารับรู้ ส่วนรถของลูกเงินไม่พอก็มาขอยืมแม่อีก เราว่ามันมากเกินไป ในความคิดเรา
# บ้านเราใช้จักรยานเป็นหลัก จะไปไหนก็เหมารถยนต์บ้าง จ้างวินบ้าง เรื่องเที่ยวก็นานๆที
ซึ่งจะไปไหนทีก็ไม่เคยให้พี่น้องแม่รับรู้เลย ณ ตอนนี้ก็ไม่เคยได้พึ่งพาพี่น้องอย่างจิงจัง พอจะคุยกับแม่เรื่องนี้ ก็ชอบทะเลาะกัน
เราเล่าใหเพื่อนที่พอสนิทบ้าง ทุกคนก้อรู้สึกว่าเยอะไป
อยากรู้ความคิดเห็นของหลายๆคนบ้าง ว่าคิดยังไงกับเรื่องนี้
*ตอนนี้บอกเลยว่าแม่เราไม่มีเงินเก็บส่วนตัวเลย ไม่มีเงินสำรองไว้ฉุกเฉินเลย