ตื่นเต้นจังเล้ย… รีวิวแรกของเรา เพราะเรามั่นใจว่าเราก็แต่งหน้าดีในระดับนึงจึงมั่นหน้ามาทำรีวิวนี้ ^^ ฮ่าๆ ก็ในเมื่อเพื่อนบอกว่าดีแล้วเราจะรออะไร จัดมาให้แบบภาพนิ่งซะด้วยเต็มที่ไปเล๊ย และที่เลือกแต่งธีมรับปริญญานี้ก็เป็นไอเดียจากเพื่อนอีกเหมือนกัน มาติชมกันเลยค้า…

ปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าทั้งหมดมาถาถมอยู่บนหน้าฟ้าที่เดียว คือเรื่องจริง
เป็นคนผิวแพ้ง่าย หน้ามัน รอยแผลเป็น รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวผิวคล้ำ
แต่ในเมื่อเราเกิดมาในยุคที่เมคอัพเฟื่องฟู เราก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป ลุยเลย..!!

ด้วยความที่ไม่อยากลงบำรุงให้หนักหน้าจนเยิ้มย้อยมารวมกันระหว่างวัน และตอนนี้ในคลังก็ไม่มี BB CC ที่คิดว่าจะเอามาปกปิดรูขุมขนอันกว้างใหญ่ได้ เลยหยิบ GINIV GLAMOUR GARDIEN มาใช้ ที่ไปซื้อตาม คุณโมเมในคลิปยูทูป ‘แต่งหน้าสวยสุขภาพดีบกับป้อม วินิจ’ เพราะนางมี SPF50 PA+++ แถมมาด้วย กันแดดระดับที่คิดว่าเอาอยู่
ถึงแม้การปกปิดจะบางเบาไปนิดสำหรับงานรับปริญญา แต่นางปิดรูขุมขนอยู่หมัดนะจ๊ะ เนียนกริ๊บ ปรับให้หน้าสว่าง ถ้าวันใสๆ ก็รอดค่ะ ถ้าใครหนังหน้าดีหน่อยลงรอบสองรอบก็โอนะ แป้งตามได้เลย
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ Beautrium สาขาสยาม )

ในเมื่อเราต้องการการปกปิดและติดทนแบบมาเหนือเทพ แต่งกันตั้งแต่ยังไม่สว่างและอยู่ถ่ายรูปกันจนอาทิตย์ตกดิน สิ่งที่เราขาดไม่ได้จึงเป็น Revron ฝาดำขั้นเทพ ที่ใครๆ เค้าก็แนะนำ สีที่ใช้คือ Natural Tan เพราะฟ้าตัวคล้ำมากกก และต้องการปกปิดรอยด่างดำแบบขั้นสุด ลงรอบเดียวเอาอยู่เลยจ่ะ ส่วนตัวชอบใช้นิ้วมือเรานี่แหละตบๆ เพราะคิดเอาเองว่าอุณหภูมิผิวมันเข้ากันดี ฮ่า ๆๆๆๆๆ
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ EVEANDBOY )

เล่นแสงและเงากับหน้าสักนิดด้วยการลง BB สีสว่างขึ้นมาอีกหน่อย ที่มี่คือ BB ของ IN2
IT เบอร์ 2 ลงบริเวณสันจมูกและตรงกลางระหว่างคิ้วนะคะ พิกซ์เม้นนางเริ่ดอยู่นา ไม่เหลวจนเกินไป ตบๆ กดๆ แปปเดียว เนียบกริบ
( อันนี้ซื้อนานแล้วจำอะไรไม่ได้เลย )

คอนซิลเลอร์แน่นๆ เน้นๆ ใต้ตาช่วยให้ใบหน้าสว่างวาบขึ้นมาทันตาเห็น ครั้งนี้ใช้ของ Collection จ้า เบอร์ 2 สีออกขาวชมพู texture เค้าแน๊นแน่นค่ะ กันน้ำกันเหงื่อ เริ่ดสุด ซื้อมาก็ไม่ค่อยได้ใช้ ที่แถมมายังไม่ได้แกะเลย ใครอยากได้แล้วสะดวกทิ้งที่อยู่ไว้ เราก็สะดวกส่งให้ แต่อย่าลืมโอนค่าส่งมาด้วยนะ 55555555+
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ TRUSHUYA ตอนมีโปร 1 แถม 1 )

ลงแป้งเหอะหน้าเริ่มหนาละ ที่ใช้ Maybelline ตัวนี้ เพราะเพื่อนแนะนำมาจ้า ปกติใช้ในชีวิตประจำวันนั่งในห้องแอร์เบาๆ นางก็เอาอยู่นะจ๊ะ แต่ยังไม่เคยได้ไปผจญภัยที่ไหนแบบเหงื่อท่วมตัว ซอรี่ด้วยนะคะ วันหลังจะมาลองให้ใหม่เนอะ แต่นางก็ราคาเบาๆ น่ารักอยู่นะ คุณสมบัติก็สมราคา ไม่น่าเกลียด
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ Beautrium สาขาสยาม )

คิ้วคิ้วจ้า มงลงหน้าแล้ว (แอบตลกตรงที่ขอไม่กันคิ้วนะคะ เพราะว่าจะลองไว้ดูแบบสุดๆ ว่าจะได้ถึงไหน เกิดมาก็กันตลอดตั้งแต่เด๊กกกเด็ก) ที่ใช้คือ Mistin Brow Secret ตัวนี้เลย ฟ้าใช้สีน้ำตาลเข้มตรงกลางนะจ๊ะ ใช้จนเป็นรูอยู่หลุมเดียว แล้วเขียนด้วยตัวดินสออีกครั้งเพื่อความคมชัดของลายเส้น จริงๆ ตัวดินสอยังไม่ค่อยอยากแนะนำนะ เพราะยังไม่เจอที่ถูกใจเลย ใครว่าอันไหนทนก็ลองมาเยอะนะ แต่ไม่เห็นด้วย Cathy Doll ตัวนี้ก็ลองเหมือนกัน นางเขียนดีนะ สีสวยชอบเลย แต่ความติดทนส่วนตัวคิดว่านางยังเอาไม่อยู่เท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนหน้ามันด้วยแหละ
( ตัวนี้น่าจะหาซื้อง่ายอยู่นะ ตามร้านเครื่องสำอางทั่วไปเล๊ย )

งัดดั้ง งัดมิติคิ้วกันค้า แต่เพื่อไม่ให้เป็นการฉ่ำวาวมากเกินไปในงานรับปริญญา จึงเลือกที่จะหยิบ Skinfood muffin มาใช้เพราะสีนางออกชัดอยู่และไม่วิ๊งว๊าวแข่งกับหน้ามันๆ ของเรา ก็ถือว่าโออยู่นาา..
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่เกาหลีนาจา )

มาต่อกันที่ตา อย่าเพิ่งปิดหนีไปไหน เรามากันครึ่งทางแล้วนะจ๊ะ พาเลทตาที่เลือกใช้ได้แก่ NYX Lid Lingerie เพราะว่านางคือตัวท็อปที่หยิบเอามาใช้บ่อยที่สุด เนื้อแมทๆ ใช้ได้ชัวร์ไม่ต้องกลัวตอนโดนตรวจ สีที่เลือกใช้ก็จะนัวๆ ไปเลยจ่ะ แต่เราจะเน้นที่การบล็อกตาเบาๆ เว้นช่วงรอยพับตาเบาไว้ให้ดูแบ๊วๆ ตาโตๆ
( อันนี้ขุ่นแม่นางให้มาจ้า รักนางที่สุด )

ก็จะเลือกลงสีที่ไล่ระดับความเข้มแล้วเบลนให้ฟุ้งๆ เข้ากัน แต่สีเข้มจะลงเฉพาะบริเวณหางตานะจ๊ะ แอบลงสดำเพิ่มด้วยแหละ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ 555

Eyeliner ที่ได้ออกงานในวันนี้คือ lifeford จ้า สีชัด ติดทน กันเหงื่อกันน้ำ และแอบเช็ดออกง่ายด้วยนะจ๊ะ สิบสิบสิบไปเล้ยย และพ่วงมาด้วยมาสคาร่าของ BQ ไม่แน่ใจว่าเป็นของประเทศไทย ฮ่าๆ แต่นางปัดแล้วยาวจริง แต่ไม่กันน้ำนะจ๊ะ ดอกจันไว้เลย แต่ก็ไม่ทำให้ตาเป็นหมีแพนด้าเหมือนกันเพราะนางหลุดลอกออกเป็นแผ่นเป็นเส้น จบปิ๊ง
( อันนี้ซื้อร้าน Boots )

ปากไม่ป่วยแล้วจ้า สีลิปสติกที่เลือกใช้ก็คือสีออกโทนชมพูนู้ดๆ นะจ๊ะ ให้ลุคที่ดูเป็นสาวหวานเรียบร้อยเหมาะกับงาน ที่ใช้คือ EVEANDBOY VL.03 พิกเม้นนางแน่นติดทน เป็นกึ่งแมทไม่ทำให้ปากแห้งเกินไป ส่วนตัวชอบนะ แถมยังแอบโบกกลอสเพิ่มเข้าไปอีกด้วยแหละ และก็แอบเติมสีแดงเข้มเข้าไปให้ดูมีมิติมากขึ้นไปอีก
( แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องซื้อที่ EVEANDBOY เนอะ )

สุดท้ายปิดงานที่พวงแก้มหวานๆ กับสี ROSE ROYCE ของ catrice เบาๆ แมทและไม่วาวอีกเช่นเคย แต่สีแอบบางเบาอยู่นะจ๊ะ ต้องปัดซ้ำหลายรอบหน่อย แต่ปัดแล้วดูแพงแน่นอน
( อันนี้พี่สาวซื้อมาฝากจากญี่ปุ่นจ้า )
ท้าดา....

จบแล๊ววมหากาพย์รีวิวที่คิดว่าง่ายแต่พอทำแล้วก็จริงจังไปทุกขั้นทุกตอน แต่สีภาพมันก็จะเพี้ยนๆ หน่อย จะแก้ตัวในรีวิวต่อไป ถ้าชอบก็ชมกันเยอะๆ นะจ๊ะ พรีสสส แต่ถ้าไม่ชอบก็แอบชมก่อนแล้วค่อยติกันเบาๆ เนอะ ^^ // ขอบคุณทุกคนนะค๊า บัย !!
[CR] หน้าแน่นทั้งวัน ในวันรับปริญญา แต่งขนาดนี้ถ่ายนอกรอบกับเพื่อนยังไงก็ไม่ดรอป
ปัญหาเกี่ยวกับผิวหน้าทั้งหมดมาถาถมอยู่บนหน้าฟ้าที่เดียว คือเรื่องจริง
เป็นคนผิวแพ้ง่าย หน้ามัน รอยแผลเป็น รูขุมขนกว้าง และเป็นสิวผิวคล้ำ
แต่ในเมื่อเราเกิดมาในยุคที่เมคอัพเฟื่องฟู เราก็ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป ลุยเลย..!!
ด้วยความที่ไม่อยากลงบำรุงให้หนักหน้าจนเยิ้มย้อยมารวมกันระหว่างวัน และตอนนี้ในคลังก็ไม่มี BB CC ที่คิดว่าจะเอามาปกปิดรูขุมขนอันกว้างใหญ่ได้ เลยหยิบ GINIV GLAMOUR GARDIEN มาใช้ ที่ไปซื้อตาม คุณโมเมในคลิปยูทูป ‘แต่งหน้าสวยสุขภาพดีบกับป้อม วินิจ’ เพราะนางมี SPF50 PA+++ แถมมาด้วย กันแดดระดับที่คิดว่าเอาอยู่
ถึงแม้การปกปิดจะบางเบาไปนิดสำหรับงานรับปริญญา แต่นางปิดรูขุมขนอยู่หมัดนะจ๊ะ เนียนกริ๊บ ปรับให้หน้าสว่าง ถ้าวันใสๆ ก็รอดค่ะ ถ้าใครหนังหน้าดีหน่อยลงรอบสองรอบก็โอนะ แป้งตามได้เลย
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ Beautrium สาขาสยาม )
ในเมื่อเราต้องการการปกปิดและติดทนแบบมาเหนือเทพ แต่งกันตั้งแต่ยังไม่สว่างและอยู่ถ่ายรูปกันจนอาทิตย์ตกดิน สิ่งที่เราขาดไม่ได้จึงเป็น Revron ฝาดำขั้นเทพ ที่ใครๆ เค้าก็แนะนำ สีที่ใช้คือ Natural Tan เพราะฟ้าตัวคล้ำมากกก และต้องการปกปิดรอยด่างดำแบบขั้นสุด ลงรอบเดียวเอาอยู่เลยจ่ะ ส่วนตัวชอบใช้นิ้วมือเรานี่แหละตบๆ เพราะคิดเอาเองว่าอุณหภูมิผิวมันเข้ากันดี ฮ่า ๆๆๆๆๆ
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ EVEANDBOY )
เล่นแสงและเงากับหน้าสักนิดด้วยการลง BB สีสว่างขึ้นมาอีกหน่อย ที่มี่คือ BB ของ IN2
IT เบอร์ 2 ลงบริเวณสันจมูกและตรงกลางระหว่างคิ้วนะคะ พิกซ์เม้นนางเริ่ดอยู่นา ไม่เหลวจนเกินไป ตบๆ กดๆ แปปเดียว เนียบกริบ
( อันนี้ซื้อนานแล้วจำอะไรไม่ได้เลย )
คอนซิลเลอร์แน่นๆ เน้นๆ ใต้ตาช่วยให้ใบหน้าสว่างวาบขึ้นมาทันตาเห็น ครั้งนี้ใช้ของ Collection จ้า เบอร์ 2 สีออกขาวชมพู texture เค้าแน๊นแน่นค่ะ กันน้ำกันเหงื่อ เริ่ดสุด ซื้อมาก็ไม่ค่อยได้ใช้ ที่แถมมายังไม่ได้แกะเลย ใครอยากได้แล้วสะดวกทิ้งที่อยู่ไว้ เราก็สะดวกส่งให้ แต่อย่าลืมโอนค่าส่งมาด้วยนะ 55555555+
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ TRUSHUYA ตอนมีโปร 1 แถม 1 )
ลงแป้งเหอะหน้าเริ่มหนาละ ที่ใช้ Maybelline ตัวนี้ เพราะเพื่อนแนะนำมาจ้า ปกติใช้ในชีวิตประจำวันนั่งในห้องแอร์เบาๆ นางก็เอาอยู่นะจ๊ะ แต่ยังไม่เคยได้ไปผจญภัยที่ไหนแบบเหงื่อท่วมตัว ซอรี่ด้วยนะคะ วันหลังจะมาลองให้ใหม่เนอะ แต่นางก็ราคาเบาๆ น่ารักอยู่นะ คุณสมบัติก็สมราคา ไม่น่าเกลียด
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่ Beautrium สาขาสยาม )
คิ้วคิ้วจ้า มงลงหน้าแล้ว (แอบตลกตรงที่ขอไม่กันคิ้วนะคะ เพราะว่าจะลองไว้ดูแบบสุดๆ ว่าจะได้ถึงไหน เกิดมาก็กันตลอดตั้งแต่เด๊กกกเด็ก) ที่ใช้คือ Mistin Brow Secret ตัวนี้เลย ฟ้าใช้สีน้ำตาลเข้มตรงกลางนะจ๊ะ ใช้จนเป็นรูอยู่หลุมเดียว แล้วเขียนด้วยตัวดินสออีกครั้งเพื่อความคมชัดของลายเส้น จริงๆ ตัวดินสอยังไม่ค่อยอยากแนะนำนะ เพราะยังไม่เจอที่ถูกใจเลย ใครว่าอันไหนทนก็ลองมาเยอะนะ แต่ไม่เห็นด้วย Cathy Doll ตัวนี้ก็ลองเหมือนกัน นางเขียนดีนะ สีสวยชอบเลย แต่ความติดทนส่วนตัวคิดว่านางยังเอาไม่อยู่เท่าไหร่ เพราะเราเป็นคนหน้ามันด้วยแหละ
( ตัวนี้น่าจะหาซื้อง่ายอยู่นะ ตามร้านเครื่องสำอางทั่วไปเล๊ย )
งัดดั้ง งัดมิติคิ้วกันค้า แต่เพื่อไม่ให้เป็นการฉ่ำวาวมากเกินไปในงานรับปริญญา จึงเลือกที่จะหยิบ Skinfood muffin มาใช้เพราะสีนางออกชัดอยู่และไม่วิ๊งว๊าวแข่งกับหน้ามันๆ ของเรา ก็ถือว่าโออยู่นาา..
( ตัวนี้ฟ้าซื้อที่เกาหลีนาจา )
มาต่อกันที่ตา อย่าเพิ่งปิดหนีไปไหน เรามากันครึ่งทางแล้วนะจ๊ะ พาเลทตาที่เลือกใช้ได้แก่ NYX Lid Lingerie เพราะว่านางคือตัวท็อปที่หยิบเอามาใช้บ่อยที่สุด เนื้อแมทๆ ใช้ได้ชัวร์ไม่ต้องกลัวตอนโดนตรวจ สีที่เลือกใช้ก็จะนัวๆ ไปเลยจ่ะ แต่เราจะเน้นที่การบล็อกตาเบาๆ เว้นช่วงรอยพับตาเบาไว้ให้ดูแบ๊วๆ ตาโตๆ
( อันนี้ขุ่นแม่นางให้มาจ้า รักนางที่สุด )
ก็จะเลือกลงสีที่ไล่ระดับความเข้มแล้วเบลนให้ฟุ้งๆ เข้ากัน แต่สีเข้มจะลงเฉพาะบริเวณหางตานะจ๊ะ แอบลงสดำเพิ่มด้วยแหละ แต่ไม่ได้ถ่ายไว้ 555
Eyeliner ที่ได้ออกงานในวันนี้คือ lifeford จ้า สีชัด ติดทน กันเหงื่อกันน้ำ และแอบเช็ดออกง่ายด้วยนะจ๊ะ สิบสิบสิบไปเล้ยย และพ่วงมาด้วยมาสคาร่าของ BQ ไม่แน่ใจว่าเป็นของประเทศไทย ฮ่าๆ แต่นางปัดแล้วยาวจริง แต่ไม่กันน้ำนะจ๊ะ ดอกจันไว้เลย แต่ก็ไม่ทำให้ตาเป็นหมีแพนด้าเหมือนกันเพราะนางหลุดลอกออกเป็นแผ่นเป็นเส้น จบปิ๊ง
( อันนี้ซื้อร้าน Boots )
ปากไม่ป่วยแล้วจ้า สีลิปสติกที่เลือกใช้ก็คือสีออกโทนชมพูนู้ดๆ นะจ๊ะ ให้ลุคที่ดูเป็นสาวหวานเรียบร้อยเหมาะกับงาน ที่ใช้คือ EVEANDBOY VL.03 พิกเม้นนางแน่นติดทน เป็นกึ่งแมทไม่ทำให้ปากแห้งเกินไป ส่วนตัวชอบนะ แถมยังแอบโบกกลอสเพิ่มเข้าไปอีกด้วยแหละ และก็แอบเติมสีแดงเข้มเข้าไปให้ดูมีมิติมากขึ้นไปอีก
( แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องซื้อที่ EVEANDBOY เนอะ )
สุดท้ายปิดงานที่พวงแก้มหวานๆ กับสี ROSE ROYCE ของ catrice เบาๆ แมทและไม่วาวอีกเช่นเคย แต่สีแอบบางเบาอยู่นะจ๊ะ ต้องปัดซ้ำหลายรอบหน่อย แต่ปัดแล้วดูแพงแน่นอน
( อันนี้พี่สาวซื้อมาฝากจากญี่ปุ่นจ้า )
ท้าดา....
จบแล๊ววมหากาพย์รีวิวที่คิดว่าง่ายแต่พอทำแล้วก็จริงจังไปทุกขั้นทุกตอน แต่สีภาพมันก็จะเพี้ยนๆ หน่อย จะแก้ตัวในรีวิวต่อไป ถ้าชอบก็ชมกันเยอะๆ นะจ๊ะ พรีสสส แต่ถ้าไม่ชอบก็แอบชมก่อนแล้วค่อยติกันเบาๆ เนอะ ^^ // ขอบคุณทุกคนนะค๊า บัย !!