สวัสดีค่ะ ในพันทิปมีคนมารีวิวเกาะล้านกันเยอะมากเลย เราเองก็กำลังจะเป็นหนึ่งในนั้น แต่ไม่เคยรีวิวการท่องเที่ยวมาก่อน
หากรูปภาพที่บีบอัดไฟล์แล้วเล็กหรือไม่ชัด หรือการรีวิวไม่ละเอียดต้องขออภัยด้วยนะคะ หากไม่มีคนเข้ามาดูก็ไม่เป็นไร
เราแค่อยากมีกระทู้เก็บไว้ได้อ่านบ้าง ++

เริ่มจากเพื่อนเรามาจากออสเตรเลียเป็นครั้งที่ 2 เราจึงแนะนำเกาะล้านเพราะเดินทางง่ายไม่ไกลจากกรุงเทพฯ พวกเรามาถึงเกาะล้าน
ตอนเที่ยงพอดี เมฆก็ตั้งเค้าฝนกำลังจะตก ได้ยินเสียงคนตะโกนว่าเรือกำลังจะออกแล้ว เราซึ่งฟังภาษาไทยจึงมีหน้าตาแตกตื่นอย่าง
เห็นได้ชัด "ต่ายแล้วววว" ยังไม่ได้ซื้อตั๋วเลยค่ะ ลมพัดมาแรงมาก ถ้าฝนตกแล้วขึ้นเรือไม่ทัน ชีวิตนี่บรรลัยเลยนะคะ ได้ยินดังนั้นจึงบอก
ให้สีดาวิ่งไปที่ท่าเรือแล้วบอกให้เจ้าหน้าที่รอก่อนนะ สีดาก็ทำหน้างง ๆ แล้ววิ่งไป ส่วนเราก็วิ่งหน้าตั้งไปช่องซื้อตั๋วแล้วถามเขาว่าไป
รอบนี้จะทันไหม? เจ้าหน้าที่บอกทัน น้องรีบวิ่งไปเลย เราก็เอาสิทันก็ทัน ได้ตั๋วแล้วรีบวิ่งเป้กระเพื่อมเห็นสีดายืนกวักมือกระโดดหยอย ๆ
ทำท่าบอกให้วิ่งไว ๆ เราก็ขาสั้นเนาะจะวิ่งไวได้ขนาดไหนกันพ่อคุณ พอไปถึงท่าเรือหอบแฮ่ก ขาสั่นเลยตอนก้าวขาลงเรือ ซึ่งเหลือคู่เรา
เป็นคู่สุดท้าย พอลงไปนั่งในเรือใส่เสื้อชูชีพปุ๊ป ฝนตกเลยค่า ตกกระหน่ำลมพัดแรงมาก เจ้าหน้าที่ต้องเอาผ้าใบที่กั้นข้างเรือลงมาปิด
เพราะฝนสาดมา


จากนั้นก็เดินทางมาถึงเกาะล้าน ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่แต่จำไม่ได้แล้วแต่ไม่นานมาก เมื่อมาถึงเกาะก็เกิดความชุลมุนวุ่นวายอีกนิด
เนื่องจากสีดานึกถึงคำว่าเกาะแบบไอร์แลนด์ที่เป็นทะเล หาดทรายและสองเรา 555 แต่ภาพที่เห็นตอนขึ้นเกาะไปก็คือ
นักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินขวักไขว่ ยืนถ่ายรูปกับป้ายเกาะล้าน วินมอไซค์ตะโกนเรียกลูกค้าและรถสุดหรูจากโรงแรมรีสอร์ทขับมา
รับส่งนักท่องเที่ยว เราเองก็เป็นครั้งแรกที่มาเกาะล้านเหมือนกันเลยไม่รู้จะบอกสีดาอย่างไร ได้แต่ปลอบใจไปว่านี่แค่รอบนอกเกาะ
ในเกาะจริง ๆ ไม่มีร๊อกแบบนี้ เชื่อไอ เดี๋ยวไอพาทัวร์ ^^ และรีสอร์ทที่เราไปพักชื่อว่า "เรือนตะวัน รีสอร์ท" เป็นรีสอร์ทเล็ก ๆ น่ารัก
อยู่ไม่ไกลจากท่าเรือ แต่ว่าเราโทรให้ลุงคนดูแลรีสอร์ทขับรถมารับ ก่อนมาเราก็ถามลุงว่าเป็นรถอะไร ลุงบอกรถสวย ๆ มีป้ายรีสอร์ท
ติดอยู่หน้ารถเลย ไปถึงเดี๋ยวหนูก็เห็นเอง เรากับสีดาก็เดินมายืนรอบริเวณต้นมะขามหลังศาลาอะไรสักอย่าง รถแต่ละคันที่ขับผ่าน
มีทั้งสองแถวที่ดัดแปลงน่ารัก มอไซค์ รถกอล์ฟ เราก็ยืนลุ้นกันว่าเราจะได้รถอะไรน้า? และแล้วลุงก็มาคร่า กรี๊สส "รถเปิดประทุน"
คือดีย์....


สีดาทำหน้าฉงนเล็กน้อยแต่ก็ยอมขึ้นแต่โดยดี บอกไทยแลนด์นี่มีอะไรอเมซิ่งเยอะเลย จากนั้นลุงก็ขับรถเปิดประทุนพาลัดเลาะเข้าซอย
อย่างชำนาญ เรากับสีดานั่งเกร็งเท้าสุดฤทธิ์ เพราะทางค่อนข้างแคบและตรอกเยอะมาก รถที่ขับสวนกันก็ไม่มีใครยอมผ่อน เรามองเห็น
มาแต่ไกลละว่ากำลังจะมีมอไซขับสวนมา เราคิดว่าลุงจะผ่อนแต่ที่ไหนได้ ลุงเร่งเครื่องแล้วมอไซก็เร่งเครื่องเข้ามาปะทะกัน แต่...
ไม่ชนกันค่ะ เขามีวิธีเอี้ยวตัว ต้องบอกว่าเอี้ยวตัวนะคะ หลบกันได้ ทำเอาเรากับสีดาใจหายแว๊บ! และแล้วเราก็มาถึงรีสอร์ทอย่างปลอดภัย
น้าผู้หญิงกับลุงบริการดีมากนะคะ น่ารักเป็นกันเอง ไปถึงน้าเปิดแอร์ในห้องไว้ให้เย็นฉ่ำ ห้องสะอาด ไม่มีกลิ่น ทั้งรีสอร์ทมี 2 ชั้น
เราได้ห้องชั้นล่างตรงกลาง เปิดประตูออกมาก็เป็นทะเลเลย วิวสวยมาก แต่ทะเลหน้ารีสอร์ทจะลงเล่นไม่ได้เพราะว่าไม่มีท่าให้ลงนะคะ
แต่วิวสวย สงบ ไม่วุ่นวาย ใครต้องการมาพักผ่อนที่นี่เป็นทางเลือกที่ดีเลย แต่ที่นี่ไม่อาหารเช้าแบบ Breakfast จะมีก็แต่กาแฟ โอวัลติน
ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องนี้ก็สบาย ๆ ค่ะ

แท๊ แด่... ขอลงรูปรีสอร์ทให้ดูในสปอยนะคะ จะได้ไม่เต็มหน้าจอ แต่บอกก่อนเลยว่าบีบอัดไฟล์ภาพจนไม่ชัดเลยค่ะ ขออภัยด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ป้ายชื่อหน้ารีสอร์ทลายสนิม เอ๊ะ หรือเป็นสนิม?

มุมนั่งพักผ่อนหน้าห้อง

โต๊ะตามจำนวนห้องพัก

ห้องเราเอง

ด้านหน้าห้อง




ต่อไปเป็นรูปห้องพัก จริง ๆ แล้วนอนได้ 4 - 5 คน เลย เพราะว่าเตียงใหญ่มาก และมีโซฟาเบดที่คนนอนได้อีกหนึ่งคน
ภายในห้องตกแต่งด้วยของอย่างน่ารัก ถึงแม้ไม่ได้แปลกตามากแต่ว่ามันลงตัว ดูแล้วสบายตา ออกแนววินเทจนิด ๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ก่อนเข้าห้องจะมีเก้าอี้น่ารักแบบนี้พร้อมข้อความเก๋ ๆ ไม่แน่ใจว่าห้องอื่นมีไหม ไม่กล้าชะโงกหน้าไปดู เพราะบริเวณหน้าห้อง
เป็นแบบเปิดโล่ง ต้องเดินมาอีกนิดถึงจะเป็นประตูกระจกเข้าห้องนอน

อันนี้คือโซฟาเบดที่บอก นอนได้หนึ่งคนสบาย สีดานอนตรงนี้ค่ะ

และนี่คือวิมานของเรา ที่นอน 6 ฟุต นอนสบายมาก หมอนนุ่ม ผ้าห่มหอม

มีระเบียบการใช้ห้องเล็กน้อย

ตามกำแพงมีมุมวางของน่ารัก

มีทีวี ตู้เย็นเล็ก ๆ พอแช่เบียร์เย็น ๆ (ล้อเล่น)

นกน้อยในกรงดำ

มีกุญแจมอไซวางไว้ให้ด้วย

โต๊ะข้างเตียง

ตู้เขียนข้อความน่ารัก

มองออกจากในห้อง บรรยากาศดีเลย ตกกลางคืนก็ปิดผ้าม่าน


เมื่อเก็บกระเป๋าเรียบร้อย เราก็เช่ามอไซค์ของที่นี่แหละค่ะ น้ำมันเต็มถัง 300 บาท แล้วจัดการขี่มอไซค์ไปเที่ยวรอบเกาะกัน
สีดาก็บอกอเมซิ่งเป็นรอบที่ 2 เพราะว่า นักท่องเที่ยวที่นี่สามารถขี่มอไซค์ได้ทุกคนโดยไม่สวมหมวกกันน๊อคค่า สีดาบอกว่า
ถ้าเป็นบ้านฉันคงทำแบบนี้ไม่ได้ แล้วอีกอย่าง เกาะที่บ้านนางก็ไม่มีมอไซค์ให้เช่าขี่แบบนี้ด้วย แต่นางปลื้มมากนะคะ
เพราะเหมือนจะทำอะไรก็ได้ไม่ต้องพะวงตำรวจหรือถูกตรวจใบขับขี่ ขี่ออกจากรีสอร์ทก็ไปเจอป้ายบอกสถานที่ยิงปืน
พวกเราเลยจัดเลยค่ะ สีดาบอกว่า ที่นี่ดีจัง ถึงแม้ไม่มี license หรือใบอนุญาตก็สามารถยิงปืนได้ ว่าแล้วสีดาก็จัดหมดแม๊ก
สีดายิงปืนทุกแบบ หมดไปหลายพันเลย... เราเลยไม่ยิงดีกว่า เก็บเงินไว้ทำอย่างอื่น ผลออกมา สีดายิงแม่นตรงเป้าหลายนัด
ที่สำคัญ HEADSHOT ซะด้วย

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ตรงนี้คือยิงตรง HEADSHOT เลย แต่ขอเซ็นเซอร์หน้าศพนะคะ