เฉียดตายเพราะ"ยาลดความอ้วน"

สวัสดีค่ะวันนี้จขกท.ขออกมาแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับยาลดความอ้วนให้ฟังค่ะ

จขกท.เป็นคนที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วนค่ะ น้ำหนักประมาณ65กิโลกรัม สูง 165 เซนติเมตรค่ะ
จะดูตันๆแน่นๆ(พอจะเห็นภาพกันเนอะ) ปกติเป็นคนออกกำลังกายค่ะ(ออกแบบคาร์ดิโออยู่บ้านนะคะ เต้นบ้าง แพลงบ้าง ฮูล่าฮูป กระโดดเชือก วัลละประมาณ 30-45 นาที) แต่!!ยิ่งออกกล้ามเนื้อเหมือนยิ่งทรยศ
ตัวดูแน่นและหนาขึ้นค่ะไม่ลงพุงนะคะออกไหล่ออกต้นขา

จขกท.รู้สึกแย่มากๆค่ะ เพราะว่าคนในที่ทำงานชอบล้อว่าอ้วนว่าอวบบ้าง หาผัวไม่ได้เพราะอ้วนบ้าง
คือเสียใจมากการอ้วนเป็นอุปสรรคของการทำงานด้วยหรอ

จขกท.ก็เลยนึกถึงยาลดความอ้วนค่ะ ก็เลยลองหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต
ตอนแรกๆจะกินพวก บล็อกแอนด์เบิร์นที่โฆษณาดังๆอ่ะ แต่...น้ำหนักไม่ลดแถมหนักขึ้นอีก
เลยเปลี่ยนกินยาประเภทไฟเบอร์ ผลคือไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลยค่ะ
เราพยายามเลือกสินค้าที่ขายตามร้านค้าดังๆหรือมีการโฆษณา
จนมาเจอยี่ห้อนึงค่ะราคาพอใช้ได้อยู่

เรากินยาตัวนี้ 30 วันแรกสิ่งที่เกิดขึ้นคือน้ำหนักไม่ลดแฮะแต่สัดส่วนหายไปเยอะมากดูผอมเลย
พี่ๆที่ทำงานทักว่าผอมลง แฟนก็ทักว่าผอมลง ก็เลยบอกแฟนไปว่ากินตัวนี้
แฟนก็เลยให้สั่งให้กินเผื่อด้วย

เหมือนจะดีเนอะ แต่ไม่ใช่เลยค่ะสิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือ ผ่านมาประมาณ 2 เดือน หุ่นเราดูไม่อ้วนค่ะแต่ก็พออวบๆนิดๆเป็นที่พอใจ มีคนทัก
มีคนบอกสวยขึ้น แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับเรามันไม่ใช่ค่ะ เราเริ่มเบื่ออาหาร ไม่กินอะไรเลยได้ทั้งวัน ไม่ร่าเริง ไม่มีความสุข กินก็อ้วก
หงุดหงิดนอนไม่หลับ แฟนเราก็เป็นค่ะเค้าเริ่มหงุดหงิดมีอารมณ์ร้อน

จนถึงวันนึงเรารู้สึกว่าเรากำลังมีปัญหาใหญ่คือเริ่มจากวันนั้นเราได้งานที่ยากมากๆมาค่ะเราเริ่มกลัวการทำงาน เรารู้สึกทำไม่ได้
รู้สึกเกลียดตัวเอง (ตอนนั้นมันเเย่มากๆค่ะ) ผลที่ตามมาวันนั้นเราโทรไปหาแฟนเรา(อยู่คนล่ะที่)ว่าเราเบื่อ เราเหนื่อยเรารู้สึกแย่ เราอยากตาย
แล้วต่อจากนั้นมาเราก็เริ่มขึ้นถึคงวิธีการฆ่าตัวตายต่างๆ มันรู้สึกท้อแท้รู้สึกแย่ลำบากในการมีชีวิต ทั้งๆที่ความจริงมันปกติทุกอย่าง จนเราจะเอาปืนยิงหัวตัวเองแต่แว๊บนั้นเรานึกถึงคนที่เรารักมากๆ ภาพต่างๆก็ฝุดขึ้นมาในหัวเลยค่ะ

เราจึงตัดสินใจไปพบแพทย์ที่รพ.ศรีธัญญา ตอนที่ไปครั้งแรกไปหมอที่ตรวจเราจะแอทมิทตัวเราไว้ที่โรงพยาบาลเพราะว่าเรามีโอกาสเสี่ยงสูงมากในการฆ่าตัวตาย แต่เราไม่สามารถอยู่ได้เพราะว่าเราต้องทำงานเราขาดงานไม่ได้ ถ้าขาดงานทั้งระบบเราจะเสียเลยค่ะเพราะหมอบอกว่าต้องอยู่เป็นเดือน
(เราทำงานเกี่ยวกับกฎหมาย) เราร้องไห้ฟูมฟายเราดิ้นพร่านๆไม่ยอมหมอจนหมอบอกว่าต้องอยู่เราก็กรี๊ดๆๆๆบอกว่าถ้าเอาเราไว้เราก็รู้สึกแย่มากๆแน่ๆ พยาบาลที่อยู่ก็เข้ามาคุณกับหมอให้ค่ะโดยหมอให้เงื่อนไขว่าต้องมีคนมาเซ็นชื่อรับเราไปดูแล ตอนนั้นเราให้พี่ที่รู้จักกันมาเซ็นให้ค่ะ
ผลการรักษาก็คือเราเป็น "โรคซึมเศร้า" ค่ะจากการกินยาลดความอ้วนที่เป็นยากดประสาท หลอนประสาท แล้วด้วยว่าเรามีโรคประจำตัวเป็นโรคไมเกรนอยู่แล้วทำให้สื่อในประสาทมีความผิดปกติอย่างรุนแรง

ตอนแรกเราไม่บอกทางครอบครัวเพราะกลัวว่าเค้าจะเครียดเพราะเราแต่พอพบจิตแพทย์บ่อยๆเราก็กล้าที่จะบอกครอบครัวค่ะ พอเค้ารู้เค้าก็ช่วยกันรักษาผิดกับที่เราคิดไว้เยอะแยะ ตั้งแต่วันที่เราเข้าโรงพยาบาลเราให้แฟนหยุดยาตัวดังกล่าวด้วยเราก็อารมณ์ดีขึ้นค่ะกลับมาเป็นปกติ
ตอนนี้เรารักษาตัวได้ 2 เดือนเศษแล้วค่ะและคาดว่าอีกนานกว่าเราจะดีขึ้น เราต้องรับยาต่อเนื่องและพบจิตแพทย์บางครั้ง

วันนี้เลยอยากจะมาเตือนเพื่อนๆทุกคนที่กินยาลดความอ้วนหรือมีอาการคล้ายๆเรา สามารถไปปรึกษาแพทย์ได้ทุกเวลานะคะ ศรีธัญญามีห้องฉุกเฉินให้คำปรึกษาได้ตลอดน้าา
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ แชร์ได้เตือนเป็นอุทธาหรณ์ค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่