คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
แหะๆ ยังทำงานไม่เสร็จ แต่อยากตอบ ก็สั้นๆ ตรงประเด็นในสิ่งที่คุณควรรู้
1. จะกู้สร้างบ้านบนที่ดินเปล่าของตัวเอง>>> ยื่นกู้เป็นสินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านได้
อย่าหลงกลไปช่วยพนักงานแบงค์ทำยอดสินเชื่อประเภทอื่นนะ ดอกเบี้ยมันจะแพง และเสียสิทธิประโยชน์หลายอย่าง
เตือนกันไว้ก่อน
2.กู้สร้างบ้าน แบงค์จะจ่ายเงินกู้ให้เป็นงวดๆ ตามการตรวจรับงานที่เห็นสมควรที่กำหนดกันไว้ ไม่ได้จ่ายก้อนเดียวทั้งหมด
ดังนั้น การมีเงินก้อนสำรองไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า
3.สร้างบ้าน มาพร้อมกับคำว่า "งบบาน" คิดเผื่อ+เตรียมเงินสำรองไว้เสมอ
4.รายได้อื่นนอกจากเงินเดือน หากมีหลักฐานยืนยันชัดเจน โดยเฉพาะหลักฐานการเสียภาษี
โอกาสที่แบงค์จะนำมาเป็นในฐานรายได้ก็มีสูง แต่ไม่ใช่ทุกแบงค์
5. กรณีคุณเจ้าของกระทู้ ...ภาระมีแค่ บัตรเครดิต + บัตรกดเงิน รวมกันประมาณ 1 แสน.... อันนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญ
หนี้ก้อนนี้คือ กดเงินสดออกมาใช้ หรือ จ่ายรายเดือนขั้นต่ำ และมี ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ อยู่ใช่ไหม
หรือ เป็นลักษณะผ่อนซื้อสินค้าแบบโปร 0% รายเดือนแบบจ่ายเต็มทุกงวด (แค่ยังเหลืองวดที่ยังไม่ถึงกำหนดไว้เฉยๆ) ไม่ได้มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
ถ้าเป็นแบบแรกก็จบปิ้งอะ โอกาสจะกู้เงินได้มีน้อยมาก เพราะดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้เกิด = เสียเครดิตบูโรไปเรียบร้อย
ถึงเอาเงินก้อนมาปิดหนี้ ก็ต้องรอไปต่ำๆ สุดที่เคยเห็นกู้กันได้ก็ 1 ปี แต่มาตรฐานอยู่ที่ 3 ปีหลังปิดบัญชี
แต่ถ้าเป็นแบบที่ 2 ก็ไม่มีปัญหากับเครดิตบูโรแต่อย่างใด แค่มาลุ้นกันว่า แบงค์ไหนจะยอมรวมรายได้อื่นเป็นรายได้ให้
ก็ต้องลองปรึกษาหลายๆ ที่ ของเราตอนกู้แบงค์เหลืองยอม ... อนุมัติวงเงินมาเยอะกว่าที่คาดไว้มาก
6. เงินก้อนเป็นล้านในบัญชีแบงค์ สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้ออกมาได้ด้วยนะ บางแบงค์มีบริการนี้
มันดีตรงที่ว่า เราก็ยังได้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ตามปกติ (แม้จะ%จะต่ำเตี้ย) เบ็ดเสร็จจะเสียส่วนต่างดอกเบี้ยแค่ไม่กี่%
(ตอนนั้นใช้ BBL เบ็ดเสร็จจ่ายดอกเบี้ยกู้ไป 1 หรือ 1.5% นี่แหละ จำไม่แม่น มันนานแล้ว)
แต่เงินในบัญชีที่วางไว้ห้ามถอน ส่วนระยะเวลาผ่อนนี่จำไม่ได้ น่าจะราวๆ 5 ปีมั๊ง
7. เท่าที่ประเมินรายได้ (ยังไม่เคลียร์เรื่องรายจ่าย) แนะนำว่า กู้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ชีวิตจะหายใจโล่งสุด
จะได้มีรายได้สำรองเผื่อ "งบบาน" ด้วย
1. จะกู้สร้างบ้านบนที่ดินเปล่าของตัวเอง>>> ยื่นกู้เป็นสินเชื่อเคหะ สินเชื่อบ้านได้
อย่าหลงกลไปช่วยพนักงานแบงค์ทำยอดสินเชื่อประเภทอื่นนะ ดอกเบี้ยมันจะแพง และเสียสิทธิประโยชน์หลายอย่าง
เตือนกันไว้ก่อน
2.กู้สร้างบ้าน แบงค์จะจ่ายเงินกู้ให้เป็นงวดๆ ตามการตรวจรับงานที่เห็นสมควรที่กำหนดกันไว้ ไม่ได้จ่ายก้อนเดียวทั้งหมด
ดังนั้น การมีเงินก้อนสำรองไว้ก่อนจะปลอดภัยกว่า
3.สร้างบ้าน มาพร้อมกับคำว่า "งบบาน" คิดเผื่อ+เตรียมเงินสำรองไว้เสมอ
4.รายได้อื่นนอกจากเงินเดือน หากมีหลักฐานยืนยันชัดเจน โดยเฉพาะหลักฐานการเสียภาษี
โอกาสที่แบงค์จะนำมาเป็นในฐานรายได้ก็มีสูง แต่ไม่ใช่ทุกแบงค์
5. กรณีคุณเจ้าของกระทู้ ...ภาระมีแค่ บัตรเครดิต + บัตรกดเงิน รวมกันประมาณ 1 แสน.... อันนี้คือจุดเปลี่ยนสำคัญ
หนี้ก้อนนี้คือ กดเงินสดออกมาใช้ หรือ จ่ายรายเดือนขั้นต่ำ และมี ดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้ อยู่ใช่ไหม
หรือ เป็นลักษณะผ่อนซื้อสินค้าแบบโปร 0% รายเดือนแบบจ่ายเต็มทุกงวด (แค่ยังเหลืองวดที่ยังไม่ถึงกำหนดไว้เฉยๆ) ไม่ได้มีดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้
ถ้าเป็นแบบแรกก็จบปิ้งอะ โอกาสจะกู้เงินได้มีน้อยมาก เพราะดอกเบี้ยผิดนัดชำระหนี้เกิด = เสียเครดิตบูโรไปเรียบร้อย
ถึงเอาเงินก้อนมาปิดหนี้ ก็ต้องรอไปต่ำๆ สุดที่เคยเห็นกู้กันได้ก็ 1 ปี แต่มาตรฐานอยู่ที่ 3 ปีหลังปิดบัญชี
แต่ถ้าเป็นแบบที่ 2 ก็ไม่มีปัญหากับเครดิตบูโรแต่อย่างใด แค่มาลุ้นกันว่า แบงค์ไหนจะยอมรวมรายได้อื่นเป็นรายได้ให้
ก็ต้องลองปรึกษาหลายๆ ที่ ของเราตอนกู้แบงค์เหลืองยอม ... อนุมัติวงเงินมาเยอะกว่าที่คาดไว้มาก
6. เงินก้อนเป็นล้านในบัญชีแบงค์ สามารถใช้ค้ำประกันเงินกู้ออกมาได้ด้วยนะ บางแบงค์มีบริการนี้
มันดีตรงที่ว่า เราก็ยังได้ดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ตามปกติ (แม้จะ%จะต่ำเตี้ย) เบ็ดเสร็จจะเสียส่วนต่างดอกเบี้ยแค่ไม่กี่%
(ตอนนั้นใช้ BBL เบ็ดเสร็จจ่ายดอกเบี้ยกู้ไป 1 หรือ 1.5% นี่แหละ จำไม่แม่น มันนานแล้ว)
แต่เงินในบัญชีที่วางไว้ห้ามถอน ส่วนระยะเวลาผ่อนนี่จำไม่ได้ น่าจะราวๆ 5 ปีมั๊ง
7. เท่าที่ประเมินรายได้ (ยังไม่เคลียร์เรื่องรายจ่าย) แนะนำว่า กู้ไม่เกิน 1.5 ล้านบาท ชีวิตจะหายใจโล่งสุด
จะได้มีรายได้สำรองเผื่อ "งบบาน" ด้วย
แสดงความคิดเห็น
กู้เงินปลูกบ้าน เอารายได้อื่นๆ นอกจากงานประจำมารวมได้มั้ยครับ?
ตอนนี้กำลังจะปลูกบ้านใหม่ ในที่ของตัวเองที่เพิ่งแบ่งจากกองมรดกอยู่ พยายามรวบรวมเอกสารเกี่ยวกับเงินๆ ทองๆ เพื่อพิจารณาเรื่องขนาด และแบบบ้าน ที่มาของรายได้ผมจะประมาณนี้ครับ
1. เงินเดือน (งานประจำ บ. A) 19,*** บาท
2. เงินค่าคอมฯ (จาก บ. B โดยได้ไม่เท่ากันแต่ละปี) ปีละประมาณ 250,000 - 300,000 บาท ... มีหลักฐานเป็น 50 ทวิ (หักภาษี ณ ที่จ่าย) ระบุว่าเป็น "ค่านายหน้า" ย้อนไปถึงประมาณปี 54
3. เงินมรดก เป็นเงินสด มีอยู่ล้านต้นๆ ... แต่ไม่อยากใช้ครับ ฝากประจำไว้เป็นทุนการศึกษา (ตามคำสั่งเสีย)
ภาระมีแค่ บัตรเครดิต + บัตรกดเงิน รวมกันประมาณ 1 แสน <<< จะเอาเงินที่เพิ่งได้มาไปโปะ แต่ไม่รู้จะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
ถ้านำเอาเฉพาะเงินเดือนมาคิด ภาระหนี้ 40% จะจ่ายได้แค่เดือนละ 7800 บาท ยังไม่รวมค่าบัตรที่ต้องชำระ จะกู้ได้ประมาณ 1.3 ล้าน (คิดที่ดอกเบี้ย 3 ปีแรก 4.5 ทีเหลือ 5.87 ... สอบถามจาก SCB คร่าวๆ ผิดถูกขออภัยครับ)
คำถามคือ;
1. ปกติ ธนาคารจะพิจารณาเงินที่ได้รับนอกเหนือจากเงินเดือนโดยมีหลักฐานการจ่ายภาษี (เช่นกรณีของผมจะได้ 50 ทวิ ทุกครั้ง) หรือไม่ครับ?
2. ธนาคารจะเผื่อกรณีขึ้นตำแหน่ง (เงินเดือนขึ้น) หรือความเสี่ยง (กรณีออกจากงาน) ไว้อย่างไรครับ?
ผมคิดจะถือเอกสารเดินเข้า ธ. ทุกแห่งในห้าง (ประหยัดเวลา) แล้วเทียบข้อมูล แบบนี้จะเวิร์ค มั้ยครับ? เห็นในเว็บ บางแห่งบอกว่า ต้องมีใบขออนุญาตสร้างบ้าน (ยังไม่มี เพราะไม่รู้จะเอาแบบไหน ไม่รู้จะกู้ได้เท่าไหร่)
ขอบคุณครับ