ดิฉันแต่งงานกับสามีชาวนอร์เวย์ ประมาณ 7 ปี อาศัยอยู่นอร์เวย์และสัญชาตินอร์เวร์ แต่ยังถือสัญชาติไทยอยู่
เมื่อคืนวันเสาร์ หรือ เกือบเช้าวันอาทิตย์ 17 ก.ค ดิฉันขับรถไปส่งสามีและเพื่อนไปดื่มเหล้ากันในเมือง
ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวหน้าร้อน สามีกลับถึงบ้านตี 5 ได้ยินเสียงมากับผู้หญิง ซึ่งเวลานั้นเรานอนหลับในห้อง
ได้ยินเสียงดังเลยตกใจตื่น และแอบฟัง ได้ยินทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบและสามีได้มีอะไรกับหยิงคนนั้น
เราเดินออกมาจากห้องและเห็นกับตา ซึ่งเราช๊อคมาก แอบคิดว่าคงเป็นความเมาแต่ไม่ใช่ เหมือนไม่เมา
กันทั้งคู่ เราขอสามีหย่าทันที และสามีบอกเราว่าขอคุยกันหลังจากเค้าตื่น ซึ่งเราก็นั่งรอจนสายเพื่อคุย
เค้าอยากให้เราอยู่ต่อแต่ภาพมันติดตาเรา และ ได้ยินสามีพูดถึงเราแย่ๆ ทำให้เราไม่สามารถกลับไปเป็น
เหมือนเดิมได้ เราเลือกที่จะหย่า ...
เราและสามีซื้อบ้านด้วยกันหลังแต่งงาน เรามีเงินสด และสามี มีเงินสด ส่วนที่เหลือก็กู้ยืมจากธนาคาร
ในสัญญาการซื้อขาย ตกลงกันไว้ที่ 50 เปอร์เซ็น การเป็นเจ้าของเท่าๆ กัน หลังจากการซื้อบ้าน หนึ่งปี
เราและสามีได้ทำการปรับปรุงบ้านและทำอพาร์ตเม้นให้เช่า ด้านล่าง ด้านบนเราอยู่ สรุปคือเราทำบ้านใหม่
ทั้งหลัง เวลาผ่านไป เข้าปีที่ 4 สามีได้มรดกมา เราทำโรงจอดรถขนาด 2 คัน และทำบริเวณ บ้านใหม่หมด
พร้อม ตกแต่งสวนและทางเข้าบ้าน ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากมรดก พร้อมซื้อรถ ใหม่ 2 คัน รถบ้าน 1 คัน
ฮาร์เลย์ 1 คัน และมีการสะสมเหล้าจากต่างประเทส ประมาณ 100 ขวด โดยประมาณ พร้อมเรียกคนมาตี
ราคาบ้าน ซึ่งราคาบ้านนั้น เพิ่มมูลค่าขึ้นเยอะมาก..
เวลาผ่านไป 2-3 ปี จนถึงวันนี้ เราตกลงที่จะหย่ากับสามี สามีได้ พุดถึงเงินที่เค้าได้จากมรดก และเอามา
ลงทุนทำบ้าน ว่าถ้ามีการขายบ้าน ต้องหักเงินที่เค้าใช้ต่อเติมบ้านไปเมื่อ 3 ปีก่อน ก่อนที่จะมีการแบ่งปัน
รถ เหล้าทุกอย่างเป็นของเค้า เราไม่มีสิทธ์ ทั้ง ๆที่เราก็ทำงาน ประจำเหมือนกัน เค้าไม่มีการทำเอกสารใด ๆ
หรือเซ็นเอกสารการนำเงินของเค้ามาใช้ต่อเติมบ้าน เพราะในธนาคารมีการเขียน ไว้เป็นลายลักษณ์ อักษร
ตอนซื้อว่า 50 เปอร์เซ็นเท่ากัน ..
อยากถามเพื่อน ๆ หรือคนที่เคยผ่านประสบการณ์การหย่าร้างในประเทศนอร์เวย์ ว่า..
- เราต้องมีการแบ่งให้เค้าตามที่เค้าบอก หรือว่าเราควรตั้งทนาย ซึ่งค่าทนายที่นี่แพงมาก (แอบเครียด)
- เงินที่เค้านำมาต่อเติมบ้านหลังแต่งงาน ควรเป็นสินสมรสหรือไม่
- รถ และทรัพย์สินอื่น ๆ (ซื้อหลังได้มรดก) ที่มีร่วมกัน เป็นสินสมรถหรือไม่
- ฟ้องหย่าสามี เรียกร้องค่าเลี้ยงดูเลยดีมั้ย จะทำได้มั้ย (ประเด็นนี้ไม่สำคัญ อารมณ์ล้วนๆ)
จริง ๆ เราไม่เคยคิดว่าจะมีการหย่าร้างใด ๆ แต่เรารับไม่ไหวจริง ๆ เค้าทำผิดกับเราก่อน ทำไมเราต้องยอมเค้า..
ใครพอทราบเกี่ยวกับกฎหมายการหย่าร้างในประเทศนอร์เวร์บ้าง..
เมื่อคืนวันเสาร์ หรือ เกือบเช้าวันอาทิตย์ 17 ก.ค ดิฉันขับรถไปส่งสามีและเพื่อนไปดื่มเหล้ากันในเมือง
ซึ่งเป็นช่วงหยุดยาวหน้าร้อน สามีกลับถึงบ้านตี 5 ได้ยินเสียงมากับผู้หญิง ซึ่งเวลานั้นเรานอนหลับในห้อง
ได้ยินเสียงดังเลยตกใจตื่น และแอบฟัง ได้ยินทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบและสามีได้มีอะไรกับหยิงคนนั้น
เราเดินออกมาจากห้องและเห็นกับตา ซึ่งเราช๊อคมาก แอบคิดว่าคงเป็นความเมาแต่ไม่ใช่ เหมือนไม่เมา
กันทั้งคู่ เราขอสามีหย่าทันที และสามีบอกเราว่าขอคุยกันหลังจากเค้าตื่น ซึ่งเราก็นั่งรอจนสายเพื่อคุย
เค้าอยากให้เราอยู่ต่อแต่ภาพมันติดตาเรา และ ได้ยินสามีพูดถึงเราแย่ๆ ทำให้เราไม่สามารถกลับไปเป็น
เหมือนเดิมได้ เราเลือกที่จะหย่า ...
เราและสามีซื้อบ้านด้วยกันหลังแต่งงาน เรามีเงินสด และสามี มีเงินสด ส่วนที่เหลือก็กู้ยืมจากธนาคาร
ในสัญญาการซื้อขาย ตกลงกันไว้ที่ 50 เปอร์เซ็น การเป็นเจ้าของเท่าๆ กัน หลังจากการซื้อบ้าน หนึ่งปี
เราและสามีได้ทำการปรับปรุงบ้านและทำอพาร์ตเม้นให้เช่า ด้านล่าง ด้านบนเราอยู่ สรุปคือเราทำบ้านใหม่
ทั้งหลัง เวลาผ่านไป เข้าปีที่ 4 สามีได้มรดกมา เราทำโรงจอดรถขนาด 2 คัน และทำบริเวณ บ้านใหม่หมด
พร้อม ตกแต่งสวนและทางเข้าบ้าน ซึ่งเป็นเงินที่ได้จากมรดก พร้อมซื้อรถ ใหม่ 2 คัน รถบ้าน 1 คัน
ฮาร์เลย์ 1 คัน และมีการสะสมเหล้าจากต่างประเทส ประมาณ 100 ขวด โดยประมาณ พร้อมเรียกคนมาตี
ราคาบ้าน ซึ่งราคาบ้านนั้น เพิ่มมูลค่าขึ้นเยอะมาก..
เวลาผ่านไป 2-3 ปี จนถึงวันนี้ เราตกลงที่จะหย่ากับสามี สามีได้ พุดถึงเงินที่เค้าได้จากมรดก และเอามา
ลงทุนทำบ้าน ว่าถ้ามีการขายบ้าน ต้องหักเงินที่เค้าใช้ต่อเติมบ้านไปเมื่อ 3 ปีก่อน ก่อนที่จะมีการแบ่งปัน
รถ เหล้าทุกอย่างเป็นของเค้า เราไม่มีสิทธ์ ทั้ง ๆที่เราก็ทำงาน ประจำเหมือนกัน เค้าไม่มีการทำเอกสารใด ๆ
หรือเซ็นเอกสารการนำเงินของเค้ามาใช้ต่อเติมบ้าน เพราะในธนาคารมีการเขียน ไว้เป็นลายลักษณ์ อักษร
ตอนซื้อว่า 50 เปอร์เซ็นเท่ากัน ..
อยากถามเพื่อน ๆ หรือคนที่เคยผ่านประสบการณ์การหย่าร้างในประเทศนอร์เวย์ ว่า..
- เราต้องมีการแบ่งให้เค้าตามที่เค้าบอก หรือว่าเราควรตั้งทนาย ซึ่งค่าทนายที่นี่แพงมาก (แอบเครียด)
- เงินที่เค้านำมาต่อเติมบ้านหลังแต่งงาน ควรเป็นสินสมรสหรือไม่
- รถ และทรัพย์สินอื่น ๆ (ซื้อหลังได้มรดก) ที่มีร่วมกัน เป็นสินสมรถหรือไม่
- ฟ้องหย่าสามี เรียกร้องค่าเลี้ยงดูเลยดีมั้ย จะทำได้มั้ย (ประเด็นนี้ไม่สำคัญ อารมณ์ล้วนๆ)
จริง ๆ เราไม่เคยคิดว่าจะมีการหย่าร้างใด ๆ แต่เรารับไม่ไหวจริง ๆ เค้าทำผิดกับเราก่อน ทำไมเราต้องยอมเค้า..