สวัสดีครับทุกท่าน ปรกติกระผมอ่านกระทู้ใน pantip เสมอเพื่อหาข้อมูลร้านอาหารและอื่นๆ อีกมากมาย วันนี้ถือเป็นฤกษ์งามยามดีเลยขอมารีวิวร้านอาหารเสียเองเป็นครั้งแรก หากผิดพลาดประการใดก็ได้โปรดชี้แนะด้วยน่ะขอรับกระผม
เริ่มด้วยเมื่อประมาณเดือนก่อนกระผมวนเวียนแต่รับประทานหมู เห็ด เป็ด ไก่และเนื้อสัตว์ต่างๆ จนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย เลยลองค้นหาร้านอาหารแบบประเภทเจและมังสวิรัติบ้างและจากการสืบค้นผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็ได้สะดุดตาร้านๆ หนึ่งเข้า
ชื่อของร้านนั้นก็คือ Broccoli Revolution แถวซอยสุขุมวิท 49
หลังสืบหาตำแหน่งได้ถูกต้องแม่นยำเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ก็ได้มาถึง กระผมรีบหยิบบัตรกระต่ายเข้ากระเป๋าพร้อมสะพายเป้คู่ใจกระโดดขึ้นรถไฟฟ้าทันที!!!
จากรถไฟฟ้าพญาไท มุ่งตรงสู่สถานีพร้อมพงษ์ (บางท่านว่าลงสถานีทองหล่อจะใกล้กว่า แต่กระผมชอบเดินเลยลงสถานีนี้ ประหยัดดีขอรับ)
มาถึงปุ๊บก็ก้าวเท้าเดินฉับๆ ตรงไปทางซอยสุขุมวิท 49 ในบัดดล
มาถึงหน้าปากซอยก็พอดีเจอหน้าร้านเข้าให้

หน้าร้านเป็นแบบเรียบๆ ไม่สะดุดตาเท่าไร หากมองผ่านๆ จะนึกว่าเป็นร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ ธรรมดาๆ

แต่พอเข้ามาข้างในกลับเห็นการตกแต่งแบบแนวเอิร์ทโทนเรียบง่ายที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายน่านั่งชิลๆ หรือนั่งพิมพ์งานมาก
สไตล์การเลือกชุดโต๊ะ เก้าอี้แอบชมว่าเลือกได้น่านั่งและเข้ากับบรรยากาศวันสบายๆ สุดๆ
แรกเข้ามาก็ออกแนวเขินๆ อายๆ เล็กน้อย ส่วนพนักงวานที่สังเกตเห็นเราก็อ้าปาก หุบปากไม่กล้าพูดกับเราเหมือนกัน (สงสัยไม่แน่ใจว่าเราเป็นคนไทยหรือต่างชาติกันแน่ อิอิ) เราเลยเริ่มว่าวภาษาไทยก่อน ทีนี้น้องพนักงานเข้าใจแล้วก็เลยให้เราดูเมนู
ขอบอกตรงๆ ว่าทีแรกเข้าใจว่าอาหาร Vegan หรือเจ/มังสวิรัติแบบตะวันตกจะมีตัวเลือกไม่มากนัก แต่นี้มาเป็นเล่มเลยครับ (แบบว่าน่ากินทั้งนั้น มีทั้งที่เป็นแบบตะวันตกและตะวันออกผสมรวมกันครับ) คราวนี้เลยซวยเราล่ะครับ เลือกไม่ถูก แต่เอาวะครับ ขอเลือกแบบสูงสุดคืนสู่สามัญก่อนก็แล้วกัน เลือกอันที่คุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งก็คือ
1. Beetroot salad (สลัดบีทรูท)
2. Tofu satay (สะเต๊ะเต้าหู้)
3. Green smoothies (สมูทตี้ สาหร่าย Kale กล้วย และอื่นๆ (จำไม่ได้ทั้งหมด))

Beetroot salad ครับ อันนี้ขอบอกว่ารสชาติดีที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ เมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ที่มีสลัดประเภทเดียวกัน คือตัวผักสลัดไม่มีคำว่าเหม็นเขียวเลยครับ แบบว่าสดมากๆ แถมน้ำสลัดก็เข้ากั้น เข้ากัน แม้ตัวสลัดจะมีเพียงแค่บีทรูท แครอท และน้ำสลัดเท่านั้น

ส่วนนี้เป็นTofu satay ครับ ในรูปเมนูดูเล็กไปหน่อย แต่พอมาจริงๆ ใหญ่มากครับ ประกอบด้วย เต้าหู้กับแตงกวาย่างครับ (ใครเป็นเก๊าก็ระวังแตงกวาหน่อยน่ะครับ) ส่วนน้ำจิ้มมีน้ำจิ้มสะเต๊ะกับน้ำอาจาดครับ ต้องบอกว่าจานนี้รสชาติแปลกไปอีกแบบครับ แต่อร่อยมากเช่นกัน เต้าหู้หวานนุ่มไม่กรอบมากรสอ่อน แต่เป็นแตงหวานี้สิที่มีรสเข้มข้นไม่เหมือนใคร (ความจริงควรสลับกันน่ะ ตามความคิดของกระผม) ส่วนน้ำจิ้มทั้งสองอย่างออกธรรมดาไม่น่าตื่นตาเท่าไร น้ำจิ้มจะอร่อยกว่าอาจาดเล็กน้อย

อย่างสุดท้ายคือเครื่องดื่ม Green smoothies เป็นแบบผสมส่วนผสมหลายอย่างตามที่กล่าวไปข้างต้นครับ อันนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าไม่ใช่สายเจหรือมังสวิรัติจ้าอาจรู้สึกเหม็นเขียวอยู่บ้าง แต่สำหรับผมแล้วถือว่าอร่อยมากครับ เพราะผมเคยกินน้ำประเภทนี้มาหลายร้านแล้วและต้องผิดหวังกินไม่หมดมาโดยตลอด แต่แก้วนี้กลับดื่มหมดครับ ตัว smoothies จะเนื้อออกแน่นๆ เข้มข้นมันๆ โดยมีรสของกล้วยเป็นพื้น พอเข้าปากจะมีรสชาติของส่วนผสมอื่นๆแสดงออกมาอีกทีหนึ่งครับ
ค่าเสียหายทั้งหมดรวมแล้ว 520 บาทถ้วนครับ
สรุป
ต้องขอบอกตามมตรงเลยครับว่าเป็นร้านอาหารสไตล์มังสวิรัติแบบตะวันตกที่ประทับใจมากที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ บรรยากาศในร้านชวนให้นั่งเอนหลังสบายๆ ไม่รีบร้อนเหมือนถนนที่อยู่ข้างนอก เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ชุดโต๊ะมีหลายสไตล์ให้เลือกนั่งขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าครับ การสั่งอาหารก็เรียบง่ายคือ ดูเมนู สั่งรายการ จ่ายเงินก่อน แล้วมานั่งรอที่โต๊ะเลยครับ
รสชาติอาหารถือว่าอยู่ชั้นแนวหน้าของอาหารประเภทเดียวกัน ซึ่งหาได้น้อยมากในปัจจุบัน (แต่คราวนี้มาคนเดียวเลยสั่งได้น้อย ไว้คราวหน้าจะพาครอบครัวมาด้วย ทีนี้ล่ะจะสั่งที่อยากกินอื่นๆ อีก (แอบมองไว้หลายรายการเลยครับ ฮ่าๆ) หนึ่งคือไม่เหม็นเขียว สองคือรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ และสามจัดมาได้น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง
พนักงานตอนแรกเข้าแอบตำหนิว่าไม่ค่อยกล้าบริการ แต่พอเราว่าวไทยคราวนี้ล่ะ บริการมาเต็มน่าประทับใจ (แต่ก็ต่างคนต่างวาระน่ะครับเรื่องนี้)
ส่วนจะถามถึงข้อเสียของร้านนี้ก็มีแต่ไม่มีที่จอดรถละมั่งขอรับ แบบว่าอยู่ริมถนนหน้าซอยสุขุมวิท 49 เลยครับ ถ้าจะจอดรถใกล้ๆ คงต้องจอดที่โครงการ Rain Hill สุขุมวิท 47 แล้วเดินมาอีกทีหนึ่ง (ส่วนตัวแนะนำว่าเดินมาจะสะดวกกว่าครับ อีกอย่างเห็นคนนำรถเข้าไปจอดในซอย 49 แต่ไม่ทราบว่าผิดกฏหรือเปล่าน่ะครับ)
สุดท้ายก็กล่าวได้ว่า เป็นร้านทางเลือกที่ดีร้านหนึ่ง น่านั่ง อาหารอร่อย ราคาไม่แรงมากนัก สงบเงียบปลอดสิ่งรบกวน สามารถใช้เวลาว่างที่ร้านได้อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจทั้งการมานั่งคนเดียว มากับครอบครัว หรือมาเป็นหมู่คณะกับฝูงเพื่อน เฮ้ย! เพื่อนฝูง ต้องมาซ้ำอีกเป็นแน่แท้
ปล. อย่างที่บอกว่านี้เป็นกระทู้แรกของกระผม หากผิดพลาดประการใดก็ขอให้ช่วยแนะนำติชมด้วยน่ะขอรับ ส่วนคราวหน้าจะมารีวิวร้านชาดีๆ อีกร้านหนึ่งที่ผ่านทางมาทางนี้พอดีอีกครั้งครับ
ขอบคุณทุกท่านที่รับชม
[CR] (CR) รีวิวร้านอาหาร Vegan Broccoli Revolution สุขุมวิท 49
เริ่มด้วยเมื่อประมาณเดือนก่อนกระผมวนเวียนแต่รับประทานหมู เห็ด เป็ด ไก่และเนื้อสัตว์ต่างๆ จนเริ่มรู้สึกเบื่อหน่าย เลยลองค้นหาร้านอาหารแบบประเภทเจและมังสวิรัติบ้างและจากการสืบค้นผ่านทางอินเตอร์เน็ตก็ได้สะดุดตาร้านๆ หนึ่งเข้า
ชื่อของร้านนั้นก็คือ Broccoli Revolution แถวซอยสุขุมวิท 49
หลังสืบหาตำแหน่งได้ถูกต้องแม่นยำเป็นที่เรียบร้อย วันนี้ก็ได้มาถึง กระผมรีบหยิบบัตรกระต่ายเข้ากระเป๋าพร้อมสะพายเป้คู่ใจกระโดดขึ้นรถไฟฟ้าทันที!!!
จากรถไฟฟ้าพญาไท มุ่งตรงสู่สถานีพร้อมพงษ์ (บางท่านว่าลงสถานีทองหล่อจะใกล้กว่า แต่กระผมชอบเดินเลยลงสถานีนี้ ประหยัดดีขอรับ)
มาถึงปุ๊บก็ก้าวเท้าเดินฉับๆ ตรงไปทางซอยสุขุมวิท 49 ในบัดดล
มาถึงหน้าปากซอยก็พอดีเจอหน้าร้านเข้าให้
หน้าร้านเป็นแบบเรียบๆ ไม่สะดุดตาเท่าไร หากมองผ่านๆ จะนึกว่าเป็นร้านคาเฟ่ ร้านกาแฟ ธรรมดาๆ
แต่พอเข้ามาข้างในกลับเห็นการตกแต่งแบบแนวเอิร์ทโทนเรียบง่ายที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายน่านั่งชิลๆ หรือนั่งพิมพ์งานมาก
สไตล์การเลือกชุดโต๊ะ เก้าอี้แอบชมว่าเลือกได้น่านั่งและเข้ากับบรรยากาศวันสบายๆ สุดๆ
แรกเข้ามาก็ออกแนวเขินๆ อายๆ เล็กน้อย ส่วนพนักงวานที่สังเกตเห็นเราก็อ้าปาก หุบปากไม่กล้าพูดกับเราเหมือนกัน (สงสัยไม่แน่ใจว่าเราเป็นคนไทยหรือต่างชาติกันแน่ อิอิ) เราเลยเริ่มว่าวภาษาไทยก่อน ทีนี้น้องพนักงานเข้าใจแล้วก็เลยให้เราดูเมนู
ขอบอกตรงๆ ว่าทีแรกเข้าใจว่าอาหาร Vegan หรือเจ/มังสวิรัติแบบตะวันตกจะมีตัวเลือกไม่มากนัก แต่นี้มาเป็นเล่มเลยครับ (แบบว่าน่ากินทั้งนั้น มีทั้งที่เป็นแบบตะวันตกและตะวันออกผสมรวมกันครับ) คราวนี้เลยซวยเราล่ะครับ เลือกไม่ถูก แต่เอาวะครับ ขอเลือกแบบสูงสุดคืนสู่สามัญก่อนก็แล้วกัน เลือกอันที่คุ้นเคยมากที่สุด ซึ่งก็คือ
1. Beetroot salad (สลัดบีทรูท)
2. Tofu satay (สะเต๊ะเต้าหู้)
3. Green smoothies (สมูทตี้ สาหร่าย Kale กล้วย และอื่นๆ (จำไม่ได้ทั้งหมด))
Beetroot salad ครับ อันนี้ขอบอกว่ารสชาติดีที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ เมื่อเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ที่มีสลัดประเภทเดียวกัน คือตัวผักสลัดไม่มีคำว่าเหม็นเขียวเลยครับ แบบว่าสดมากๆ แถมน้ำสลัดก็เข้ากั้น เข้ากัน แม้ตัวสลัดจะมีเพียงแค่บีทรูท แครอท และน้ำสลัดเท่านั้น
ส่วนนี้เป็นTofu satay ครับ ในรูปเมนูดูเล็กไปหน่อย แต่พอมาจริงๆ ใหญ่มากครับ ประกอบด้วย เต้าหู้กับแตงกวาย่างครับ (ใครเป็นเก๊าก็ระวังแตงกวาหน่อยน่ะครับ) ส่วนน้ำจิ้มมีน้ำจิ้มสะเต๊ะกับน้ำอาจาดครับ ต้องบอกว่าจานนี้รสชาติแปลกไปอีกแบบครับ แต่อร่อยมากเช่นกัน เต้าหู้หวานนุ่มไม่กรอบมากรสอ่อน แต่เป็นแตงหวานี้สิที่มีรสเข้มข้นไม่เหมือนใคร (ความจริงควรสลับกันน่ะ ตามความคิดของกระผม) ส่วนน้ำจิ้มทั้งสองอย่างออกธรรมดาไม่น่าตื่นตาเท่าไร น้ำจิ้มจะอร่อยกว่าอาจาดเล็กน้อย
อย่างสุดท้ายคือเครื่องดื่ม Green smoothies เป็นแบบผสมส่วนผสมหลายอย่างตามที่กล่าวไปข้างต้นครับ อันนี้ต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าไม่ใช่สายเจหรือมังสวิรัติจ้าอาจรู้สึกเหม็นเขียวอยู่บ้าง แต่สำหรับผมแล้วถือว่าอร่อยมากครับ เพราะผมเคยกินน้ำประเภทนี้มาหลายร้านแล้วและต้องผิดหวังกินไม่หมดมาโดยตลอด แต่แก้วนี้กลับดื่มหมดครับ ตัว smoothies จะเนื้อออกแน่นๆ เข้มข้นมันๆ โดยมีรสของกล้วยเป็นพื้น พอเข้าปากจะมีรสชาติของส่วนผสมอื่นๆแสดงออกมาอีกทีหนึ่งครับ
ค่าเสียหายทั้งหมดรวมแล้ว 520 บาทถ้วนครับ
สรุป
ต้องขอบอกตามมตรงเลยครับว่าเป็นร้านอาหารสไตล์มังสวิรัติแบบตะวันตกที่ประทับใจมากที่สุดเท่าที่เคยกินมาเลยครับ บรรยากาศในร้านชวนให้นั่งเอนหลังสบายๆ ไม่รีบร้อนเหมือนถนนที่อยู่ข้างนอก เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่งเลยก็ว่าได้ ชุดโต๊ะมีหลายสไตล์ให้เลือกนั่งขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าครับ การสั่งอาหารก็เรียบง่ายคือ ดูเมนู สั่งรายการ จ่ายเงินก่อน แล้วมานั่งรอที่โต๊ะเลยครับ
รสชาติอาหารถือว่าอยู่ชั้นแนวหน้าของอาหารประเภทเดียวกัน ซึ่งหาได้น้อยมากในปัจจุบัน (แต่คราวนี้มาคนเดียวเลยสั่งได้น้อย ไว้คราวหน้าจะพาครอบครัวมาด้วย ทีนี้ล่ะจะสั่งที่อยากกินอื่นๆ อีก (แอบมองไว้หลายรายการเลยครับ ฮ่าๆ) หนึ่งคือไม่เหม็นเขียว สองคือรสชาติเข้มข้นเป็นเอกลักษณ์ และสามจัดมาได้น่ารับประทานเป็นอย่างยิ่ง
พนักงานตอนแรกเข้าแอบตำหนิว่าไม่ค่อยกล้าบริการ แต่พอเราว่าวไทยคราวนี้ล่ะ บริการมาเต็มน่าประทับใจ (แต่ก็ต่างคนต่างวาระน่ะครับเรื่องนี้)
ส่วนจะถามถึงข้อเสียของร้านนี้ก็มีแต่ไม่มีที่จอดรถละมั่งขอรับ แบบว่าอยู่ริมถนนหน้าซอยสุขุมวิท 49 เลยครับ ถ้าจะจอดรถใกล้ๆ คงต้องจอดที่โครงการ Rain Hill สุขุมวิท 47 แล้วเดินมาอีกทีหนึ่ง (ส่วนตัวแนะนำว่าเดินมาจะสะดวกกว่าครับ อีกอย่างเห็นคนนำรถเข้าไปจอดในซอย 49 แต่ไม่ทราบว่าผิดกฏหรือเปล่าน่ะครับ)
สุดท้ายก็กล่าวได้ว่า เป็นร้านทางเลือกที่ดีร้านหนึ่ง น่านั่ง อาหารอร่อย ราคาไม่แรงมากนัก สงบเงียบปลอดสิ่งรบกวน สามารถใช้เวลาว่างที่ร้านได้อย่างเพลิดเพลินจำเริญใจทั้งการมานั่งคนเดียว มากับครอบครัว หรือมาเป็นหมู่คณะกับฝูงเพื่อน เฮ้ย! เพื่อนฝูง ต้องมาซ้ำอีกเป็นแน่แท้
ปล. อย่างที่บอกว่านี้เป็นกระทู้แรกของกระผม หากผิดพลาดประการใดก็ขอให้ช่วยแนะนำติชมด้วยน่ะขอรับ ส่วนคราวหน้าจะมารีวิวร้านชาดีๆ อีกร้านหนึ่งที่ผ่านทางมาทางนี้พอดีอีกครั้งครับ
ขอบคุณทุกท่านที่รับชม
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น