เปลี่ยนเจ้าที่

ผมและภรรยาเป็นคนกรุงเทพ ออกมารับราชการ ห่างจากเมืองหลวงเกือบ 1000 กม. แต่ก็เพราะผมเองมีญาติห่างๆ ทางคุณแม่ในจังหวัด จึงเป็นส่วนหนึ่งที่เราสองคนจึงเลือกที่นี่ แต่ก็ไม่วาย ติดนิสัยนอนดึกตื่นสายมาตั้งแต่วัยรุ่น แต่พออยู่ต่างจังหวัด หลังเที่ยงคืนนี่เงียบมากๆ กระทั่งเสียงรถจากถนนใหญ่ นานๆ จึงจะได้ยินซักคันนึง

คืนนี้ ก็เป็นคืนที่เงียบมากๆ อีกคืนหนึ่ง อาจเพราะเป็นบ้านหลังสุดท้ายก็ดี รถไม่ผ่าน คนไม่เดิน จะมีแต่ก็เสียงน้องหมาเจ้าถิ่น เห่ายังไม่เท่าไร หอนที่ไรนี่อดขนลุกตามทุกที และโดยเฉพาะเมื่อต่างคนต่างเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่ๆ หน่อย พอไม่อยู่พร้อมๆ กันแค่ 2-3 หลัง มองหาแสงไฟหน้าต่างบ้านไหน ก็มีแต่ความมืด มันยิ่งดูวังเวงขึ้นอีกไม่รู้กี่เท่า

เราสองคนปฏิบัติธรรมครับ พากันนั่งสมาธิเดินจงกรมก่อนนอน โดยมากไม่รอกัน ใครหมดธุระ ถึงเวลาอันสมควร ก็ต่างคนต่างนอน เอาจริงๆ ผมก็ตี 1 เศษๆ ทุกวัน ส่วนภรรยาผมมักจะหลับก่อน วันนี้ก็เช่นกัน

ทำงานมาทั้งวัน คิดเยอะ กว่าจะนั่งจนสงบก็นานทีเดียว ความเงียบแม้จะชวนวังเวง อีกด้านหนึ่ง กลับเป็นเพื่อนที่ดีมากๆ ของสมาธิ  โดยปกติของสมาธิ เมื่อถึงความสงบตั้งมั่นระดับหนึ่ง ใจจะไม่แส่ส่ายไปตามอคติ หรือกิเลสหยาบๆ เมื่อรับรู้อะไร มักจะรู้ได้จริงๆ ไม่มีความคิดความรู้สึกเราเข้าไปปะปนจนผิดเพี้ยนไป... ไม่มีเสียงหมาหอน ไม่มีกลิ่นธูป ไม่มีลมพัดวูบวาบ แต่ในขณะที่ผมหลับตานั่งสมาธิอยุ่ที่โซฟารับแขก ผมรู้สึกได้ชัดมากๆ ว่ามีใครมายืนอยู่ที่ประตูรั้วเป็นชายวัยกลางคน ผมรองทรงสูงสีขาว ดูมีอำนาจ ท่าทางภูมิฐานในชุดหม้อห้อมคาดผ้าขาวม้า ชะเง้อมองเข้ามาอย่างสงบ

ไม่ใช่ครั้งแรกที่ผมเจออะไรแบบนี้ในสมาธิ ผมอุทิศส่วนกุศล แผ่เมตตาโดยอัตโนมัติ ซึ่งบางทีอาจจะอัตโนมัติเกินไป คุณลุงท่านนั้นรับไว้อย่างสงบ แล้วค่อยๆ เดินจากไปอย่างสงบ สง่างาม น่าเกรงขาม จนผมเริ่มสงสัยว่า ท่านอาจจะไม่ได้มาขอส่วนบุญ? แล้วท่านมีธุระอะไร?

เช้าวันต่อมาผมเล่าถึงการปรากฏของคุณลุงท่านนั้นในภรรยาฟัง เมื่อแจกแจงรูปพรรณสันฐานเสร็จ แฟนผมรับต่อทันทีว่า ท่านเข้าฝัน รูปร่างท่าทาง พร้อมด้วยบรรยากาศน่าเกรงขามเช่นเดียวกัน แต่ในฝันที่ส่วนมากจะเลือนลางนั้น ภรรยาผมจำได้แม่นยำว่า ท่านมาขอให้ไปบอกน้องที่ทำงานคนนึง ว่าอย่าไล่ที่เค้าเลย ขอให้เค้าอยุ่ที่นั่นเถอะ เค้าถูกไล่มาครั้งหนึ่งแล้ว จากบ้านหนองอีเลิศ... ภรรยาผมย้ำชัดๆ เลยว่า ชื่อนี้เลยพี่ หนองอีเลิศ

ผมสะอึกนิ่งอยู่พักใหญ่ นอกจากจะทึ่งว่า บทสนทนาในฝันชัดเจนได้ขนาดนี้เลยเหรอ? ผมยังระลึกได้แทบจะทันที ว่าผมขับรถผ่านบ้านหนองอีเลิศเกือบทุกปีในวันทำบุญครอบรอบคุณยายเสีย เพราะเป็นหมู่บ้านติดๆ กับหมู่บ้านคุณตาคุณยายผม คุณแม่ผมก็คุ้นเคยเป็นอย่างดี

น้องที่ทำงานก็เหมือนกัน เห็นว่าซื้อที่มาทำหอ แล้วก็ไม่อยากทำแล้ว จะขายต่อก็ไม่มีใครซื้อซะที  

รีบโทรกลับไปเช็คที่กรุงเทพ คุณแม่ก็สะอึกไม่แพ้กัน... คุณแม่เล่าว่า เมื่อก่อนมีเจ้าที่ประจำหมู่บ้านนี้ ดุมาก ใครไปรุ่มร่ามล่วงเกิน ก็หลอกหลอนจนเป็นบ้าไปหลายคนแล้ว แต่ต่อมา กปภ.มาทำประปาหมู่บ้านตรงนั้นพอดี คุณแม่ผมก็ว่า ไม่เห็นมีใครเจออีก

ภรรยาผมโทรหาน้องที่ทำงาน ทางนั้นเล่าให้ฟังว่า ขายที่ไม่ได้ มีคนแนะนำให้เปลี่ยนเจ้าที่ กำลังหาคนทำพิธีอยู่หรือไงนี่ล่ะ ก็เล่าๆ ให้ฟัง

รู้แล้วว่าท่านไปไหน
รุ้แล้วว่าท่านมีธุระอะไร
ดูเหมือนคนที่ตกใจที่สุดก็น้องที่ทำงานนี่ล่ะนะครับ


https://mobile.facebook.com/Were-all-friends-887134834673363/?ref=bookmarks
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่