
Lockheed Burbank Aircraft Plant อำพรางเสร็จแล้ว Image Source: Lockheed Martin
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
การผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศสหรัฐ
มีการใช้กำลังการผลิตทั้งแรงงานคนและเครื่องจักร
ใช้กันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เพราะเครื่องบินมีความสามารถในการทำสงครามได้รอบโลก
บินไปมาได้อย่างรวดเร็วจากการที่มีกำลังเครื่องยนต์มากขึ้น
และทิ้งระเบิดใส่พวกศัตรูให้มีผลกระทบร้ายแรงมากกว่าที่เคยเป็นมา
เรื่องที่สำคัญคือ การหลอกลวงหน่วยสืบราชการลับของข้าศึก
สถานที่ตั้งหลักของโรงงานเครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตร
ต้องเข้มงวดกวดขึ้นกว่าเดิมอย่างที่เคยเป็นมา
แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะอยู่ห่างไกลจาก
ภัยคุกคามทางการทหารหลายพันกิโลเมตร
แต่ก็ยังใช้มาตรการส่วนใหญ่เพื่อการปิดบังอำพราง
แบบอำพรางแก่นแกน ซุ่มซ่อนยาวนาน เช่น
สถานที่รัฐการ สถานที่สำคัญ โรงงานผลิตเครื่องบินทหาร
โดยมีแผนการเพื่อปกปิดอำพรางพื้นที่เหล่านี้
ด้วยการใช้วัสดุอุปกรณ์พรางตาที่เป็นของปลอมส่วนใหญ่
แต่เป้าหมายหลักเบื้องต้นคือ โรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed

Lockheed Burbank Aircraft Plant Image Source: Lockheed Martin
สหรัฐแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีในประเทศตนเองเลย
จนกระทั่งเหตุการณ์รุนแรงและร้ายแรงที่ Pearl Harbor รัฐฮาวาย
วันที่ 7 ธันวาคม 1941 กองทัพอากาศญี่ปุ่นได้รุกเข้ามาในสหรัฐอเมริกา
เป็นเหตุการณ์โจมตีภาคพื้นดินที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
ทางชายฝั่งด้านตะวันตกของรัฐฮาวาย
ฆ่าผู้คนและทหารสหรัฐไปมากกว่า 2,000 คน
ทำลายเครื่องบินโจมตี เครื่องบินทิ้งระเบิด และเรือรบ
ที่จอดนิ่งอยู่ในพื้นที่จำนวนหลายลำ
นับเป็นครั้งแรกของสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่การสู้รบได้เริ่มต้นขึ้นที่ชายฝั่งตะวันตกใกล้กับทางตอนเหนือของสหรัฐ
คำว่า
เราถูกโจมตี ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งประเทศ
มีคำสั่ง/คำขอร้องให้เครื่องบินทุกลำในประเทศ (ทั้งของภาครัฐ/เอกชน)
บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือรัฐของตน
บางลำบินไปทางทิศตะวันตกของประเทศ
เพื่อต่อต้าน/รบกับเครื่องบินญี่ปุ่นตามชายฝั่ง
บางลำบินขึ้นเพื่อคอยสังเกตการณ์และป้องกันพื้นที่
กับช่วยลดทอนความหวาดกลัวของชาวบ้าน
เครื่องบินหลายลำต่างบินลาดตระเวณไปทั่วน่านฟ้า
เพื่อสร้างความรู้สึกว่าปลอดภัยในยามที่สหรัฐเกิดวิกฤติ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1942
เรือดำน้ำญี่ป่นลำหนึ่งถูกพบว่าอยู่นอกชายฝั่ง San Francisco Bay
และเรือดำน้ำญี่ปุ่นอีกลำหนึ่งได้โผล่เหนือผิวน้ำที่ Santa Barbara
อีกไม่กี่คืนต่อมา เรือดำน้ำญี่ปุ่นได้ยิงถล่มคลังเก็บน้ำมันกองทัพสหรัฐ
นายพล John L De Witt ผู้บัญชาการทหารภาคพื้นตะวันตก
ได้มีคำสั่งให้สร้างแนวป้องกันไปทั่วทั้งชายฝั่งแปซิฟิค(ตรงข้ามประเทศญี่ปุ่น)
ยุทธการลับลวงพรางที่รัฐ California เป็นหน้าที่ของผู้พัน John F Ohmer
ผู้บุกเบิกการปิดบังอำพรางและการหลอกลวงด้วยการใช้เทคนิคที่ทำให้เข้าใจผิดได้
เพราะในช่วงสงครามที่ภาคพื้นยุโรป ที่อังกฤษในปี 1940
ผู้พัน Ohmer ได้ศึกษาเรียนรู้การใช้วิธีการดังกล่าวอย่างตั้งอกตั้งใจ
ทำให้พื้นที่เป้าหมายจากการทิ้งระเบิดของกองบิน Luftwaffe นาซีเยอรมันนี
ทิ้งระเบิดหลายหมื่นตันพลาดเป้าหมายไปลงในพื้นที่รกร้าง
เรื่องแบบนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้วว่า
สหรัฐต้องเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินทหารจำนวนมากทันที
3 วันภายหลังจากสหรัฐถูกญี่ปุ่นโจมตี
ผู้บริหาร Lockheed ได้มารวมตัวกันประชุมที่
โรงงานสร้างเครื่องบิน Burbank
สรุปถึงวิธีการ/ขั้นตอนในการเพิ่มกำลังการผลิต
และการสร้างจำนวนเครื่องบินให้มากขึ้นกว่าเดิม
รวมทั้งการพัฒนาเทคนิคที่เป็นความลับภายใน
ผู้พัน John F. Ohmer ได้ร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นคำสั่งว่า
ให้ยกเครื่องบริเวณสถานที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องบิน
ด้วยการติดตั้งระบบการปกปิดอำพรางพื้นที่ทั้งหมด
จากการสังเกตการณ์ทางอากาศเท่าที่จะทำได้
ด้วยความร่วมมือจากนักออกแบบฉากต่าง ๆ
ช่างวาดภาพ ผู้กำกับงานศิลป์ นักออกแบบภูมิทัศน์
ช่างสมัครเล่น ช่างไม้ ผู้เชี่ยวชาญแสงสี และบุคลากรต่าง ๆ
จากสตูดิโอใน Hollywood มี Metro-Goldwyn-Mayer
Disney Studios, 20th Century Fox, Paramount, Universal Pictures และที่ต่าง ๆ
ผู้พัน Ohmer จึงได้เริ่มต้นยุทธการลับลวงพราง March Field และสถานที่ใกล้เคียง

Lockheed Burbank Aircraft Plant Image Source: Lockheed Martin
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ที่ยุโรป
อังกฤษได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการอำพรางสถานที่ต่าง ๆ
เช่น โรงไฟฟ้า สถานีจ่ายน้ำ และสนามบิน เป็นต้น
แม้ว่าผู้พัน Ohmer จะได้แนะนำเทคนิคดังกล่าว
และบอกให้สหรัฐเร่งดำเนินการปกปิดอำพรางสถานที่สำคัญ ๆ แล้วก็ตาม
แต่แนวคิดดังกล่าวกลับถูกเยาะเย้ยและกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน
เพราะหลายคนคิดว่าเครื่องบินรบญี่ปุ่นคงบินมาถึงสหรัฐไม่ได้
แต่เมื่อเกิดการโจมตี Pearl Harbor โดยเครื่องบินญี่ปุ่น
กองทัพสหรัฐต้องรีบเร่งเปลี่ยนใจทันทีทันควัน
เพราะรู้ว่าชาวบ้านเริ่มหวาดวิตกว่าบ้านเรือนของตนจะถูกทิ้งระเบิดไปด้วย
หลังจากหายนะที่ Pearl Harbor สงบลงแล้ว
แผนการของผู้พัน Ohmer จึงถูกนำขึ้นมาพิจารณา/ทบทวนใหม่
ในไม่ช้า กองทัพสหรัฐได้ตัดสินใจที่จะใช้หลักการของผู้พัน Ohmer
ในการสร้างที่ปิดบังอำพรางสถานที่สำคัญ ๆ
ที่มีโอกาสจะถูกทิ้งระเบิดจากฝ่ายศัตรูได้
ลับลวงพรางด้วยภาพลวงตาครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐ
คือ การทำให้โรงงานผลิตเครื่องบิน Lockheed Burbank
กลายเป็นย่านชานเมืองที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
เมื่อมองจากเครื่องบินลงมายังพื้นที่ด้านล่าง
หลังจากนั้นเพียงไม่นานนักช่วงต้นปี 1942
ยุทธการอำพรางแก่นแกน ซุ่มซ่อนยาวนาน
ก็ประสพความสำเร็จตามที่คาดหมายไว้
บริเวณพื้นที่โรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed
คล้ายกับชุมชนที่อยู่อาศัยชาวบ้านย่านชานเมือง

Hidden from the skies Image Source: Lockheed Martin
สนามบินและลานจอดเครื่องบินถูกทาสีเขียว
และล้อมรอบไปด้วยไร่ Alfalfa พืชตระกูลถั่วที่ให้สัตว์กิน
ตัวโรงงานที่สำคัญจะบุด้วยลวดตาข่ายคล้ายกรงไก่
และมีผ้าใบที่ทาสีให้กลมกลืนไปกับพื้นที่รอบ ๆ ข้าง
ต้นไม้ปลอมจะมีการพ่นสีคล้ายขนไก่ติดอยู่
สีน้ำตาลกับสีเขียวคล้ายกับใบไม้
เพื่อแสดงว่าต้นไม้เหี่ยวเฉา/กำลังแตกใบอ่อนอยู่
ทางเดินเชื่อมต่อภายใน/ระหว่างโรงงานผลิตเครื่องบิน
จะปิดบังและคลุมด้วยตาข่ายพรางตา
มีการสร้างหลุมหลบภัยจากระเบิด
และซ่อนปืนต่อสู้อากาศยานไว้
เพื่อป้องกันการโจมตีจากเครื่องบินข้าศึก
คนงานต่างทำงานตามปกติเหมือนเดิม
ในการผลิต/ประกอบเครื่องบินรบ
ในช่วงพัก/เลิกงานประจำวัน
ถ้าจะออกจากโรงงานสร้างเครื่องบิน
คนงานจะเดินไปที่กระโจมเต้นท์ผ้าใบ
เพื่อเปลี่ยนชุดทำงานเป็นชุดชาวบ้าน
ที่แขวนรวมไว้บนราวลวดตากเสื้อผ้า
ก่อนจะส่งชุดทำงานไปซักรีดตามระเบียบ
แล้วจะทยอยกันเดินทางออกไป
เหมือนคนกลับจากทำนาทำไร่ประจำวัน
หลังจากคาดว่าสถานที่นี้อำพรางเสร็จแล้ว
ผู้พัน Ohmer ได้ขึ้นบินเหนือพื้นที่
เพื่อดูว่าสถานที่นี้อำพรางได้จริงหรือไม่
ผู้พัน Ohmer ได้ตัดสินใจด้วยการทดสอบให้ทีมงาน
นำนายพลจากกองทัพมาเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าว
ด้วยการบินเหนือพื้นที่กว่า 5,000 ฟุต
แล้วสอบถามว่า เห็นโรงงานผลิตเครื่องบินหรือไม่
แต่นายพลทุกคนกลับตอนว่า
เท่าที่เห็นและเป็นอยู่คือ
ย่านชานเมืองของรัฐ California
แม้ว่าจะเป็นเรื่องโชคดีอย่างยิ่ง
ที่ในสหรัฐไม่ต้องเจอกับสงครามทางภาคพื้นดินหรือทางอากาศ
แต่ยุทธการลับลวงพราง คือ ยุทธการครั้งยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในการซ่อนตัวโรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed
ให้คล้ายกับย่านชานเมืองที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
และเป็นผลงานพิสูจน์ถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของกองทัพสหรัฐ
ในการปิดบังอำพรางแก่นแกนและซุ่มซ่อนยาวนานได้ดีที่สุด
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/UnZk4i
https://goo.gl/226u7S
https://goo.gl/f55eDb
เรื่องเล่าไร้สาระ
หลังจากสหรัฐถูกญี่ปุ่นโจมตีทิ้งระเบิดที่ Pearl Harbor
ได้มีคำสั่งให้ควบคุมชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นทุกคน
ให้นำตัวไปกักขังในสถานที่ต่าง ๆ ภายใปประเทศ
เพื่อป้องกันการทำตัวเป็นจารชน/ต่อต้านประเทศ
จนสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้สงบแล้ว
จึงยอมให้คนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น
ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นในกองทัพได้
แต่ก็ไม่ค่อยไว้วางใจมากเท่าใดนัก
มีคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นอาสาไปรบในยุโรป
ทางกองทัพสหรัฐก็อนุมัติทันทีโดยไม่ลังเลใจ
จนสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะยุติแล้ว
ทางกองทัพสหรัฐจึงยอมส่งคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น
ไปร่วมรบทางด้านตะวันตกและรวมทั้งยึดครองญี่ปุ่นด้วย
รัฐบาลสหรัฐเพิ่งจะขออภัยคนอเมริกันเชื้อชาติญี่ปุ่น
ในยุคนั้นยังไม่มีฟิล์มสี/ดาวเทียม
การถ่ายภาพทางอากาศจากระยะไกลได้
อย่างเก่งก็ใช้กล้องส่องทางไกลถ่ายภาพ
หรือถ่ายภาพจากเครื่องบินในที่สูง
หรือใช้กล้องถ่ายรูปสายลับติดกับนกพิราบ
ให้บินขึ้นไปถ่ายภาพลงมาเท่าที่จะทำได้
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้มีดาราสตรีดังระดับโลกที่เป็นตำนานคือ
Norma Jeane Mortenson หรือ Marilyn Monroe
กิ๊กอดีตประธานาธิบดี
John F. Kennedy
ที่ถูกซุ่มยิงเสียชีวิตที่ดัลลัส รัฐเท็กซัส
เธอเสียชีวิตเพราะสาเหตุกินยาเกินขนาด
ตามผลการชัณสูตรพลิกศพของแพทย์
มีบางสำนักข่าวระบุว่าเป็นเรื่องการสมคบคิด
ของ CIA ที่สังหาร Marilyn Monroe
เพราะเธอรู้ความลับมากเกินไป
อาจจะเป็นภยันตรายต่ออดีตประธานาธิบดี/ชาติสหรัฐได้
ในช่วงหลังมีอดีตสายลับ CIA หลายคน
ออกมาสารภาพว่ามีส่วนในการวางยาพิษเธอ
แต่ทางรัฐการ/สื่อมวลชนก็ไม่ยอมตอบรับในเรื่องนี้มากนัก
เธอเคยทำงานเป็นกรรมกรที่ Radioplane Munitions Factory ในปี 1945
เมื่อภาพโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เผยแพร่ภาพเกี่ยวกับภารกิจแนวหลังของสตรีชาวอเมริกันไปทั่วแล้ว
ทำให้แมวมองดาราสนใจขึ้นมาแล้วจึงไดัชวนเธอไปทำงานเป็นดาราที่ฮอลลีวู๊ด
ลับลวงพรางโรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed ช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
Lockheed Burbank Aircraft Plant อำพรางเสร็จแล้ว Image Source: Lockheed Martin
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
การผลิตเครื่องบินขนาดใหญ่ของกองทัพอากาศสหรัฐ
มีการใช้กำลังการผลิตทั้งแรงงานคนและเครื่องจักร
ใช้กันอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน
เพราะเครื่องบินมีความสามารถในการทำสงครามได้รอบโลก
บินไปมาได้อย่างรวดเร็วจากการที่มีกำลังเครื่องยนต์มากขึ้น
และทิ้งระเบิดใส่พวกศัตรูให้มีผลกระทบร้ายแรงมากกว่าที่เคยเป็นมา
เรื่องที่สำคัญคือ การหลอกลวงหน่วยสืบราชการลับของข้าศึก
สถานที่ตั้งหลักของโรงงานเครื่องบินของฝ่ายสัมพันธมิตร
ต้องเข้มงวดกวดขึ้นกว่าเดิมอย่างที่เคยเป็นมา
แม้ว่าสหรัฐอเมริกาจะอยู่ห่างไกลจาก
ภัยคุกคามทางการทหารหลายพันกิโลเมตร
แต่ก็ยังใช้มาตรการส่วนใหญ่เพื่อการปิดบังอำพราง
แบบอำพรางแก่นแกน ซุ่มซ่อนยาวนาน เช่น
สถานที่รัฐการ สถานที่สำคัญ โรงงานผลิตเครื่องบินทหาร
โดยมีแผนการเพื่อปกปิดอำพรางพื้นที่เหล่านี้
ด้วยการใช้วัสดุอุปกรณ์พรางตาที่เป็นของปลอมส่วนใหญ่
แต่เป้าหมายหลักเบื้องต้นคือ โรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed
Lockheed Burbank Aircraft Plant Image Source: Lockheed Martin
สหรัฐแทบไม่ได้รับผลกระทบจากการโจมตีในประเทศตนเองเลย
จนกระทั่งเหตุการณ์รุนแรงและร้ายแรงที่ Pearl Harbor รัฐฮาวาย
วันที่ 7 ธันวาคม 1941 กองทัพอากาศญี่ปุ่นได้รุกเข้ามาในสหรัฐอเมริกา
เป็นเหตุการณ์โจมตีภาคพื้นดินที่รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่ง
ทางชายฝั่งด้านตะวันตกของรัฐฮาวาย
ฆ่าผู้คนและทหารสหรัฐไปมากกว่า 2,000 คน
ทำลายเครื่องบินโจมตี เครื่องบินทิ้งระเบิด และเรือรบ
ที่จอดนิ่งอยู่ในพื้นที่จำนวนหลายลำ
นับเป็นครั้งแรกของสงครามโลกครั้งที่ 2
ที่การสู้รบได้เริ่มต้นขึ้นที่ชายฝั่งตะวันตกใกล้กับทางตอนเหนือของสหรัฐ
คำว่า เราถูกโจมตี ได้แพร่สะพัดไปทั่วทั้งประเทศ
มีคำสั่ง/คำขอร้องให้เครื่องบินทุกลำในประเทศ (ทั้งของภาครัฐ/เอกชน)
บินขึ้นไปบนท้องฟ้าเหนือรัฐของตน
บางลำบินไปทางทิศตะวันตกของประเทศ
เพื่อต่อต้าน/รบกับเครื่องบินญี่ปุ่นตามชายฝั่ง
บางลำบินขึ้นเพื่อคอยสังเกตการณ์และป้องกันพื้นที่
กับช่วยลดทอนความหวาดกลัวของชาวบ้าน
เครื่องบินหลายลำต่างบินลาดตระเวณไปทั่วน่านฟ้า
เพื่อสร้างความรู้สึกว่าปลอดภัยในยามที่สหรัฐเกิดวิกฤติ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 1942
เรือดำน้ำญี่ป่นลำหนึ่งถูกพบว่าอยู่นอกชายฝั่ง San Francisco Bay
และเรือดำน้ำญี่ปุ่นอีกลำหนึ่งได้โผล่เหนือผิวน้ำที่ Santa Barbara
อีกไม่กี่คืนต่อมา เรือดำน้ำญี่ปุ่นได้ยิงถล่มคลังเก็บน้ำมันกองทัพสหรัฐ
นายพล John L De Witt ผู้บัญชาการทหารภาคพื้นตะวันตก
ได้มีคำสั่งให้สร้างแนวป้องกันไปทั่วทั้งชายฝั่งแปซิฟิค(ตรงข้ามประเทศญี่ปุ่น)
ยุทธการลับลวงพรางที่รัฐ California เป็นหน้าที่ของผู้พัน John F Ohmer
ผู้บุกเบิกการปิดบังอำพรางและการหลอกลวงด้วยการใช้เทคนิคที่ทำให้เข้าใจผิดได้
เพราะในช่วงสงครามที่ภาคพื้นยุโรป ที่อังกฤษในปี 1940
ผู้พัน Ohmer ได้ศึกษาเรียนรู้การใช้วิธีการดังกล่าวอย่างตั้งอกตั้งใจ
ทำให้พื้นที่เป้าหมายจากการทิ้งระเบิดของกองบิน Luftwaffe นาซีเยอรมันนี
ทิ้งระเบิดหลายหมื่นตันพลาดเป้าหมายไปลงในพื้นที่รกร้าง
เรื่องแบบนี้ชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้วว่า
สหรัฐต้องเพิ่มกำลังการผลิตเครื่องบินทหารจำนวนมากทันที
3 วันภายหลังจากสหรัฐถูกญี่ปุ่นโจมตี
ผู้บริหาร Lockheed ได้มารวมตัวกันประชุมที่
โรงงานสร้างเครื่องบิน Burbank
สรุปถึงวิธีการ/ขั้นตอนในการเพิ่มกำลังการผลิต
และการสร้างจำนวนเครื่องบินให้มากขึ้นกว่าเดิม
รวมทั้งการพัฒนาเทคนิคที่เป็นความลับภายใน
ผู้พัน John F. Ohmer ได้ร่วมประชุมครั้งนี้ด้วย
ได้มีข้อเสนอแนะที่เป็นคำสั่งว่า
ให้ยกเครื่องบริเวณสถานที่ตั้งโรงงานผลิตเครื่องบิน
ด้วยการติดตั้งระบบการปกปิดอำพรางพื้นที่ทั้งหมด
จากการสังเกตการณ์ทางอากาศเท่าที่จะทำได้
ด้วยความร่วมมือจากนักออกแบบฉากต่าง ๆ
ช่างวาดภาพ ผู้กำกับงานศิลป์ นักออกแบบภูมิทัศน์
ช่างสมัครเล่น ช่างไม้ ผู้เชี่ยวชาญแสงสี และบุคลากรต่าง ๆ
จากสตูดิโอใน Hollywood มี Metro-Goldwyn-Mayer
Disney Studios, 20th Century Fox, Paramount, Universal Pictures และที่ต่าง ๆ
ผู้พัน Ohmer จึงได้เริ่มต้นยุทธการลับลวงพราง March Field และสถานที่ใกล้เคียง
Lockheed Burbank Aircraft Plant Image Source: Lockheed Martin
ระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 นั้น ที่ยุโรป
อังกฤษได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการอำพรางสถานที่ต่าง ๆ
เช่น โรงไฟฟ้า สถานีจ่ายน้ำ และสนามบิน เป็นต้น
แม้ว่าผู้พัน Ohmer จะได้แนะนำเทคนิคดังกล่าว
และบอกให้สหรัฐเร่งดำเนินการปกปิดอำพรางสถานที่สำคัญ ๆ แล้วก็ตาม
แต่แนวคิดดังกล่าวกลับถูกเยาะเย้ยและกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน
เพราะหลายคนคิดว่าเครื่องบินรบญี่ปุ่นคงบินมาถึงสหรัฐไม่ได้
แต่เมื่อเกิดการโจมตี Pearl Harbor โดยเครื่องบินญี่ปุ่น
กองทัพสหรัฐต้องรีบเร่งเปลี่ยนใจทันทีทันควัน
เพราะรู้ว่าชาวบ้านเริ่มหวาดวิตกว่าบ้านเรือนของตนจะถูกทิ้งระเบิดไปด้วย
หลังจากหายนะที่ Pearl Harbor สงบลงแล้ว
แผนการของผู้พัน Ohmer จึงถูกนำขึ้นมาพิจารณา/ทบทวนใหม่
ในไม่ช้า กองทัพสหรัฐได้ตัดสินใจที่จะใช้หลักการของผู้พัน Ohmer
ในการสร้างที่ปิดบังอำพรางสถานที่สำคัญ ๆ
ที่มีโอกาสจะถูกทิ้งระเบิดจากฝ่ายศัตรูได้
ลับลวงพรางด้วยภาพลวงตาครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์สหรัฐ
คือ การทำให้โรงงานผลิตเครื่องบิน Lockheed Burbank
กลายเป็นย่านชานเมืองที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
เมื่อมองจากเครื่องบินลงมายังพื้นที่ด้านล่าง
หลังจากนั้นเพียงไม่นานนักช่วงต้นปี 1942
ยุทธการอำพรางแก่นแกน ซุ่มซ่อนยาวนาน
ก็ประสพความสำเร็จตามที่คาดหมายไว้
บริเวณพื้นที่โรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed
คล้ายกับชุมชนที่อยู่อาศัยชาวบ้านย่านชานเมือง
Hidden from the skies Image Source: Lockheed Martin
สนามบินและลานจอดเครื่องบินถูกทาสีเขียว
และล้อมรอบไปด้วยไร่ Alfalfa พืชตระกูลถั่วที่ให้สัตว์กิน
ตัวโรงงานที่สำคัญจะบุด้วยลวดตาข่ายคล้ายกรงไก่
และมีผ้าใบที่ทาสีให้กลมกลืนไปกับพื้นที่รอบ ๆ ข้าง
ต้นไม้ปลอมจะมีการพ่นสีคล้ายขนไก่ติดอยู่
สีน้ำตาลกับสีเขียวคล้ายกับใบไม้
เพื่อแสดงว่าต้นไม้เหี่ยวเฉา/กำลังแตกใบอ่อนอยู่
ทางเดินเชื่อมต่อภายใน/ระหว่างโรงงานผลิตเครื่องบิน
จะปิดบังและคลุมด้วยตาข่ายพรางตา
มีการสร้างหลุมหลบภัยจากระเบิด
และซ่อนปืนต่อสู้อากาศยานไว้
เพื่อป้องกันการโจมตีจากเครื่องบินข้าศึก
คนงานต่างทำงานตามปกติเหมือนเดิม
ในการผลิต/ประกอบเครื่องบินรบ
ในช่วงพัก/เลิกงานประจำวัน
ถ้าจะออกจากโรงงานสร้างเครื่องบิน
คนงานจะเดินไปที่กระโจมเต้นท์ผ้าใบ
เพื่อเปลี่ยนชุดทำงานเป็นชุดชาวบ้าน
ที่แขวนรวมไว้บนราวลวดตากเสื้อผ้า
ก่อนจะส่งชุดทำงานไปซักรีดตามระเบียบ
แล้วจะทยอยกันเดินทางออกไป
เหมือนคนกลับจากทำนาทำไร่ประจำวัน
หลังจากคาดว่าสถานที่นี้อำพรางเสร็จแล้ว
ผู้พัน Ohmer ได้ขึ้นบินเหนือพื้นที่
เพื่อดูว่าสถานที่นี้อำพรางได้จริงหรือไม่
ผู้พัน Ohmer ได้ตัดสินใจด้วยการทดสอบให้ทีมงาน
นำนายพลจากกองทัพมาเยี่ยมชมสถานที่ดังกล่าว
ด้วยการบินเหนือพื้นที่กว่า 5,000 ฟุต
แล้วสอบถามว่า เห็นโรงงานผลิตเครื่องบินหรือไม่
แต่นายพลทุกคนกลับตอนว่า
เท่าที่เห็นและเป็นอยู่คือ
ย่านชานเมืองของรัฐ California
แม้ว่าจะเป็นเรื่องโชคดีอย่างยิ่ง
ที่ในสหรัฐไม่ต้องเจอกับสงครามทางภาคพื้นดินหรือทางอากาศ
แต่ยุทธการลับลวงพราง คือ ยุทธการครั้งยิ่งใหญ่และประสบความสำเร็จมากที่สุด
ในการซ่อนตัวโรงงานสร้างเครื่องบิน Lockheed
ให้คล้ายกับย่านชานเมืองที่อยู่อาศัยของชาวบ้าน
และเป็นผลงานพิสูจน์ถึงความสามารถด้านวิศวกรรมของกองทัพสหรัฐ
ในการปิดบังอำพรางแก่นแกนและซุ่มซ่อนยาวนานได้ดีที่สุด
เรียบเรียง/ที่มา
https://goo.gl/UnZk4i
https://goo.gl/226u7S
https://goo.gl/f55eDb
เรื่องเล่าไร้สาระ
หลังจากสหรัฐถูกญี่ปุ่นโจมตีทิ้งระเบิดที่ Pearl Harbor
ได้มีคำสั่งให้ควบคุมชาวอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นทุกคน
ให้นำตัวไปกักขังในสถานที่ต่าง ๆ ภายใปประเทศ
เพื่อป้องกันการทำตัวเป็นจารชน/ต่อต้านประเทศ
จนสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้สงบแล้ว
จึงยอมให้คนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น
ทำหน้าที่เป็นล่ามภาษาญี่ปุ่นในกองทัพได้
แต่ก็ไม่ค่อยไว้วางใจมากเท่าใดนัก
มีคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่นอาสาไปรบในยุโรป
ทางกองทัพสหรัฐก็อนุมัติทันทีโดยไม่ลังเลใจ
จนสงครามโลกครั้งที่ 2 ใกล้จะยุติแล้ว
ทางกองทัพสหรัฐจึงยอมส่งคนอเมริกันเชื้อสายญี่ปุ่น
ไปร่วมรบทางด้านตะวันตกและรวมทั้งยึดครองญี่ปุ่นด้วย
รัฐบาลสหรัฐเพิ่งจะขออภัยคนอเมริกันเชื้อชาติญี่ปุ่น
ในยุคนั้นยังไม่มีฟิล์มสี/ดาวเทียม
การถ่ายภาพทางอากาศจากระยะไกลได้
อย่างเก่งก็ใช้กล้องส่องทางไกลถ่ายภาพ
หรือถ่ายภาพจากเครื่องบินในที่สูง
หรือใช้กล้องถ่ายรูปสายลับติดกับนกพิราบ
ให้บินขึ้นไปถ่ายภาพลงมาเท่าที่จะทำได้
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
ได้มีดาราสตรีดังระดับโลกที่เป็นตำนานคือ
Norma Jeane Mortenson หรือ Marilyn Monroe
กิ๊กอดีตประธานาธิบดี John F. Kennedy
ที่ถูกซุ่มยิงเสียชีวิตที่ดัลลัส รัฐเท็กซัส
เธอเสียชีวิตเพราะสาเหตุกินยาเกินขนาด
ตามผลการชัณสูตรพลิกศพของแพทย์
มีบางสำนักข่าวระบุว่าเป็นเรื่องการสมคบคิด
ของ CIA ที่สังหาร Marilyn Monroe
เพราะเธอรู้ความลับมากเกินไป
อาจจะเป็นภยันตรายต่ออดีตประธานาธิบดี/ชาติสหรัฐได้
ในช่วงหลังมีอดีตสายลับ CIA หลายคน
ออกมาสารภาพว่ามีส่วนในการวางยาพิษเธอ
แต่ทางรัฐการ/สื่อมวลชนก็ไม่ยอมตอบรับในเรื่องนี้มากนัก
เธอเคยทำงานเป็นกรรมกรที่ Radioplane Munitions Factory ในปี 1945
เมื่อภาพโฆษณาชวนเชื่อของสหรัฐในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
เผยแพร่ภาพเกี่ยวกับภารกิจแนวหลังของสตรีชาวอเมริกันไปทั่วแล้ว
ทำให้แมวมองดาราสนใจขึ้นมาแล้วจึงไดัชวนเธอไปทำงานเป็นดาราที่ฮอลลีวู๊ด
Ella Fitzgerald กับ Marilyn Monroe