รำลึกถึงหนังหว่อง ก๊า ไหว่ เนื่องในโอกาสฉลองวันเกิดครบ 59 ปีของเขา (วันที่ 17 กค 2560)


หว่อง ก๊า ไหว่ (กวางตุ้ง) หรือ หวาง เจียเหว่ย (จีนกลาง) เป็นผู้กำกับภาพยนตร์ และนักเขียนบทภาพยนตร์ ชาวฮ่องกง ที่มีชื่อเสียง มีผลงานที่ได้รับการยอมรับว่ามีสไตล์ เหงา เปล่าเปลี่ยวอ้างว้าง ทว่างดงามราวบทกวี

หว่อง ก๊า ไหว่ เกิดที่เซี่ยงไฮ้ และย้ายมาอยู่ฮ่องกงตั้งแต่อายุ 5 ขวบ หลังจากเรียนจบแล้ว เขาเริ่มงานในสถานีโทรทัศน์ทีวีบี โดยทำงานเป็นผู้เขียนบท

หว่อง ก๊า ไหว่ เริ่มกำกับภาพยนตร์เรื่องแรก เมื่อ ค.ศ. 1988 คือเรื่อง "As Tears Go By" หลังจากนั้นเขาก็เริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อยๆ  ภาพยนตร์เรื่อง "Happy Together" (ค.ศ. 1997) เป็นผลงานสร้างชื่อให้กับหว่อง ก๊า ไหว่ ในเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ โดยเขาได้รับรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องถัดมา "In the Mood for Love" (ค.ศ. 2000) ได้เข้าชิงรางวัลบาฟตา สาขาภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม

เรามารำลึกถึงภาพยนตร์ของเขากันเถอะครับ



As tears go by (1988)


มาทราบเรื่องย่อกันนิดนึงนะครับ

หลิวเต๋อหัว - จางเซียะโหย่ว - จางมั่นอวี้ - ว่านจือเหลียง : นําแสดง * เรื่องย่อ : จางง้อป่วยต้องเข้ามาหาหมอในฝั่งฮ่องกง เธอเดินทางมาจากฝั่งเกาลูน ได้พบกับหว่าไจ๋ ซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้อง หว่าไจ๋ เป็นมาเฟียและมีลูกน้องคือสองพี่น้องแมงวันกับอาไซ แม้จะอยู่ด้วยกันไม่นานแต่หว่าไจ๋กับจางง้อ ก็เริ่มมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน หว่าไจ๋ทะเลาะกับมาเบลแฟนสาวอย่างรุนแรงจนเลิกกัน เมื่อจางง้อกลับไปเกาลูน หว่าไจ๋อยากตามเธอไปแต่ติดที่แมงวันคอยหาเรื่องให้เขาคอยแก้ปัญหาให้ไม่หยุด เมื่อหว่าไจ๋ไปหาจางง้อที่ เกาลูน แต่กลับต้องรีบกลับฮ่องกงเพราะแมงวันมีเรื่องกับโทนี่นักเลงอีกแกงค์ หว่าไจ๋ต้องเลือกระหว่างความรัก และศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ซึ่งในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลือกอย่างหลัง

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

ผมเองก็รู้สึกเหมือนหลายๆคนที่เห็นว่า   รายละเอียดของ As Tears Go by โน้มเอียงไปทางหนังทุนต่ำลอกเลียนตามรอยความสำเร็จของ A Better Tomorrow มากกว่าจะเข้าพวกกับผลงานเรื่องอื่น ๆ ของหว่อง ก๊า ไหว่   As Tears Go By ดูจะมี signature ของหว่อง ก๊า ไหว่ปรากฏให้เห็นไม่มากนัก ส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะว่านี่เป็นหนังเรื่องแรกที่เขากำกับ จึงยังไม่ได้ค้นพบลักษณะเฉพาะตัวของตัวเอง






Days of Being Wild (1991)



Days of Being Wild เป็นการพยายามพูดเรื่องถิ่นฐานที่ตัวละครอาศัยอยู่และผูกพัน โดยมียกไจ๋ (แสดงโดย เลสลี่ จาง) หนุ่มหน้าตาดี เป็นตัวเดินเรื่อง ด้วยความเป็นหนุ่มหน้าตาดีและเพียบพร้อม  ทำให้ผู้หญิงหลายคนหลงรักเขา ไม่ว่าจะเป็นโซวไหล่เจิน (แสดงโดย จางม่านอวี้) พนักงานขายน้ำในสนามกีฬา หรือมี่มี่ (แสดงโดย หลิวเจียหลิง) นักเต้นในไนท์คลับ แต่เพราะเขาว่าตัวเองเป็นนกไร้ขา ทำให้ต้องบินตลอดชีวิต จึงไม่พร้อมที่จะมีพันธะกับใคร ซึ่งตรงกันข้ามกับตำรวจหนุ่ม (แสดงโดย หลิวเต๋อหัว) ที่เลือกใช้ชีวิตอยู่ในโลกของความจริง และพร้อมที่เป็นกำลังใจให้ใครก็ได้ คล้ายกับแดนนี่ (แสดงโดย จางเซียะโหย่ว) ที่เป็นสุภาพบุรุษพอที่จะแสดงความรักโดยไม่คาดหวัง






Chungking Express (1994)


เรื่องย่อ (คัดมาจาก วิกิ)

622 (ทาเคชิ คาเนชิโร่) ตำรวจหนุ่มตั้งข้อสงสัยว่าโลกนี้มีอะไรที่ไม่มีวันหมดอายุ เพราะวันที่ 1 เมษายน (ตรงกับวันเอพริลฟูลส์) เป็นวันที่ เมย์ แฟนสาวบอกเลิกกับเขา จากวันนั้นเขาจึงซื้อสับปะรดกระป๋องซึ่งเป็นของโปรดของเธอไปสะสมทุกวัน วันละกระป๋องจนกว่าเธอจะกลับมา หรือไม่ก็ไม่มีสับปะรดกระป๋องที่หมดอายุวันที่ 1 พฤษภาคม ซึ่งตรงกับวันเกิดเขา ให้ซื้อกินอีก จวบจนเที่ยงคืนของวันที่ 30 เมษายน เธอก็ไม่กลับมา 622 จึงเปิดสับปะรดกระป๋องกินทีละกระป๋อง และเริ่มคิดไว้ว่าหัวใจของเธอก็เหมือนสับปะรดกระป๋องคือ มีวันหมดอายุ คืนนั้นเอง ขณะที่อาเจียนสับปะรดกระป๋องออกมาทั้งหมด 622 ก็ได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งที่สวมแว่นตาดำ วิกผมสีทองและสวมเสื้อกันฝน (หลิน ชิงเสีย) เธอเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพย์ติด และเธอกำลังตามหาใครสักคนอย่างเอาเป็นเอาตาย ต่อมาหลังจากดื่มกันจนร้านปิด 622 พาเธอมาที่โรงแรม เธอก็หลับสนิทราวกับอดนานมาหลายวัน ขณะที่ 622 ก็ดูหนังโทรทัศน์จบไป 2 เรื่อง กินอาหารไป 4 จาน ก่อนฟ้าสางของวันที่ 1 พฤษภาคม 622 ก็ได้จากไป โดยที่ไม่ลืมถอดรองเท้าให้เธอ เพราะแม่เขาเคยสอนไว้ว่าผู้หญิงถ้าสวมรองเท้าเข้านอนแล้ว จะเจ็บเท้า

ขณะที่กำลังวิ่งออกกำลังกายอยู่นั้น เพจเจอร์ของเขาที่ไม่เคยมีใครส่งข้อความมาเลยดังหลังจากวิ่งเสร็จ เป็นผู้หญิงคนนั้นนี่เองที่ส่งข้อความอวยพรวันเกิดมาให้เขา 622 ตั้งความหวังว่าคำอวยพรของเธอจะไม่มีวันหมดอายุ

623 (เหลียง เฉาเหว่ย) ตำรวจหนุ่มอีกคนซื้อสลัดให้แฟนสาวที่เป็นแอร์โฮสเตสกินทุกวันจากร้านฟาสต์ฟู้ดแห่งหนึ่ง อาเฟย (วัย หวังเฟย) น้องสาวเจ้าของร้านฟาสต์ฟู้ดที่มาช่วยทำงาน อาเฟยหลงรักเขา ทุกครั้งที่เธอทำงาน เธอจะเปิดเพลง California Dreamin ดังลั่น เมื่อ 623 มาซื้อสลัด เธอจะวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ต่อมาเมื่อแฟนสาวทิ้งเขาไป 623 เศร้าลง เธอเลยชวน 623 ไปแคลิฟอร์เนียด้วยกัน แต่เขาไม่ตอบอะไร เธอแอบไปบ้านเขาเวลาที่ 623 ออกตรวจเวร อาเฟยสนุกสนานมากที่นั่น มีความสุข เธอทำความสะอาด เปลี่ยนน้ำตู้ปลา กระทั่งเปลี่ยนตุ๊กตาบนหัวนอนให้ จน 623 แปลกใจว่าใครมาทำให้ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาก็จับได้คาหนังคาเขา 623 รู้ว่าอาเฟยหลงรักเขา เขาจึงนัดอาเฟยออกเดท แต่แล้วเขาก็ต้องรอเก้อ 623 เพราะเธอไม่มา เขาจึงกลับไปที่ร้านฟาสต์ฟู้ด เถ้าแก่เจ้าของร้านบอกว่าเธอไปเป็นแอร์โฮสเตส และเธอได้ฝากจดหมายไว้ให้เขา ในนั้นมีตั๋วเครื่องบินที่ลางเลือน วันและเวลาเดียวกันแต่เป็นปีถัดไป 623 ไม่เข้าใจความหมายมากนัก แต่แล้วในปีถัดมา อาเฟยในเครื่องแบบแอร์โฮสเตสก็กลับมา และ 623 ก็เลิกเป็นตำรวจแล้ว

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

Chungking Express นับเป็นผลงานการกำกับเรื่องที่ 3 ของหว่อง คาไว ผู้กำกับฯชาวฮ่องกงที่ได้ชื่อว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเรื่องราวของ 2 เหตุการณ์ ที่ไม่เหมือนกันแต่มีผู้คนและบางสิ่งเกี่ยวเนื่องกัน ตัวละครทุกวันในเรื่องแทบจะไม่มีใครมีชื่อที่แท้จริง ยกเว้น อาเฟย นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่มีความสำคัญมากพอที่จะต้องถูกถามหรือเป็นที่จดจำ เสมือนความสัมพันธ์ของผู้คนในเมืองใหญ่เฉกเช่นฮ่องกง ที่ความสัมพันธ์ของผู้คนเป็นไปอย่างฉาบฉวย ซึ่งตัวละครบางตัวเกี่ยวเนื่องมาจากภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้านี้ของเขา คือ Ashes of Time และจะมีบทบาทต่อไปในภาพยนตร์เรื่องหน้า คือ Fallen Angels ด้วย

โดยที่คำว่า Chungking Express นั้นเชื่อว่ามาจากคำลงท้ายของชื่อร้านฟาดฟู้ดในฮ่องกงที่มักลงท้ายว่า Express ส่วน Chungking นั้นมิใช่ชื่อเมือง (จุงกิง) แต่เป็นชื่อย่านที่พักของชาวต่างชาติ โดยเฉพาะชาวตะวันตกในย่านจิมซาจุ่ย ของฮ่องกง คล้ายกับถนนข้าวสารในกรุงเทพมหานคร

ภาพยนตร์ได้รับการกล่าวขานว่า การกำกับภาพของคริสโตเฟอร์ ดอยล์ ถ่ายทอดภาพและเนื้อเรื่องออกมาได้อย่างอ้างว้าง เปล่าเปลี่ยว ไร้เหตุผล ท่ามกลางเมืองใหญ่ที่เต็มไปด้วยสีสันและผู้คนหลากหลาย แต่กลับแปลกแยกทางวัฒนธรรม ยิ่งมีผู้คนอยู่มากเท่าใดยิ่งแตกต่างมากขึ้นเท่านั้น จนนักวิจารณ์บางคนกล่าวว่าเป็นอารมณ์โหยหา "แม่" ของผู้คนในฮ่องกง ที่กำลังจะกลับคืนสู่การปกครองของจีนแผ่นดินใหญ่อีกครั้งในปี ค.ศ. 1997 ที่กำลังจะมาถึง และด้วยวัฒนธรรมป๊อปอันหลากหลายที่ถูกใส่เข้าไปในเรื่อง ทั้งแฟชั่นเสื้อผ้า ทรงผม ดนตรี ถ้อยคำ แสงสีนีออน ตลอดจนดนตรีประกอบก็ทำให้นักวิจารณ์บางคนเรียกรูปแบบของภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า "Avant-pop"

ภาพยนตร์ประสบความสำเร็จทั้งทางรายได้และรางวัลเป็นอย่างมาก โดยได้รับรางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกง ประจำปี ค.ศ. 1995 สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม, ผู้กำกับยอดเยี่ยม, นักแสดงนำชายยอดเยี่ยม (เหลียง เฉาเหว่ย) และตัดต่อยอดเยี่ยม รวมทั้งเหลียง เฉาเหว่ย ยังได้รับรางวัลม้าทองคำ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม ในปี ค.ศ. 1994 อีกด้วย

ในฮอลลีวู้ด นับเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกของหว่อง คาไว ที่เควนติน ทาแรนติโน่ ผู้กำกับฯชาวอเมริกันที่ได้ชื่อว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเองอีกคน เมื่อได้ชมแล้วชื่นชอบ และซื้อไปฉายที่นั่น ซึ่งภาพยนตร์ที่ทำรายได้เป็นจำนวนมากที่สหรัฐอเมริกา และได้สร้างชื่อเสียงให้กับหว่อง คาไว ในระดับโลก

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้








คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
Chungking Express - The Cranberries/Dreams



คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
California Dreaming - Faye Wong in Chungking Express



อยู่ในโลกเหงาๆ เศร้าแล้วเศร้าอีก
บางครั้งอยากบินหลีก แล้วหนีไปให้พ้น
ถึงมากตึกรา ถึงมากหน้าคน
แต่ยังคงไม่พ้น ความเหงาในใจ

เหมือนนกไร้ขา เหมือนฟ้าไร้ดาว
หัวใจที่ฉาว ร้อนหนาวหวั่นไหว
อยู่ในห้องแคบ เสียงแหบร้องไป
คิดถึงหัวใจของใครบางคน

หัวใจมีรัก ชีวิตมีรัก
หัวใจตระหนัก บางครั้งไร้เหตุผล
อยากสื่อสารรัก ไปในหมู่ชน
แต่คงไม่พ้น กำแพงเหงาใจ

จะทำอย่างไร หัวใจมีปีก
จะให้บินหลีก หรือโถมเข้าใส่
ตามหาแต่เธอ หรือเพ้อร่ำไป
จะทำอย่างไร ต้องใช้เวลา




คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

California Dreamin' - The Mamas & The Papas




(มีต่อครับ) ...
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่