ผู้ป่วยเป็นผู้สูงอายุ อายุ 65 ปี แต่เดิมมีโรคประจำตัวคือ เบาหวาน ปลายประสาทอักเสบและไขมัน โดยเมื่อ 3 เดือนที่แล้วถูกวินิจฉัยว่ามีภาวะซึมเศร้าเพิ่มเติม คุณหมอ A จึงได้จ่ายยารักษาเพิ่ม 2 ชนิดคือ fluoxetine กินตอนเช้า และ diazepam กินก่อนนอน เนื่องจากผู้ป่วยแจ้งว่านอนไม่ค่อยหลับ
ผู้ป่วยรับประทานยาตามที่คุณหมอ A บอกตลอด โดยระหว่าง 3 เดือน ผู้ป่วยมีอาการ หลงลืมง่าย เบื่ออาหาร ท้องเสีย ง่วงซึมตลอดเวลา และที่ญาติเป็นห่วงมากที่สุดคือ หายใจไม่ออก ในขณะที่มีสติอยู่ ลักษณะคือเหมือนผู้ป่วยพยายามที่จะหายใจ แต่เหมือนอากาศไม่เข้าไปในร่างกาย จนในที่สุดก็หมดสติ นิ้วมือเกร็ง (ไม่มีอาการกระตุก) แต่ชีพจรยังมีอยู่ เป็นแบบนี้ประมาณ 4-5 ครั้งได้ โดยทุกครั้งจะเป็นในช่วงกลางคืน หลังจากที่กิน diazepam ไปแล้วประมาณ 1-4 ชั่วโมงโดยจะสลบไปประมาณ 2 นาที เมื่อตื่นมา จะเบลอๆ มึนๆ ต้องใช้เวลาสักพักกว่าปฏิกิริยาตอบสนองดีขึ้นเหมือนปกติ แต่มีครั้งล่าสุด สลบนาน 5 นาที ต้องใช้ระยะเวลาร่วม 20 นาทีกว่าจะถามตอบ ข้อมูลส่วนตัวของตัวเองได้ โดยปฏิกิริยาเริ่มดีขึ้นตามระยะเวลาที่ฟื้นขึ้นตามลำดับ จากลืมตาอย่างเดียว ถามตอบไม่ได้ จนพูดคุยได้ปกติ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ทางญาติผู้ป่วยจึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามียาที่ผู้ป่วยได้รับเพิ่มเติมคือยาอะไร เนื่องจากก่อนหน้านั้นผู้ป่วยอาการคงที่จากการรักษา โรคประจำตัว ตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ แต่หลังจากที่ได้รับยา 2 ชนิดเพิ่มมา กลับมีอาการ เหมือนระบบหายใจผิดปกติในขณะที่ยังรู้สึกตัวอยู่ จนในที่สุดก็สลบไป ซึ่งจากข้อมูลที่หาได้คือ fluoxetine นั้นใช้ปรับสารเคมีในสมอง แต่อาจมีผลข้างเคียงได้ ซึ่งส่วนมากก็ตรงกับที่คนไข้เป็น สำหรับ diazepam นั้นเท่าที่สังเกตดูคือ ตั้งแต่ได้รับยาดังกล่าวมา ผู้ป่วยจะมีอาการนอนกรนเสียงดังมาก จากเดิมที่ดังอยู่แล้วเป็นดังมากจนคนที่นอนด้วยนอนไม่หลับ และจากเดิมที่กรนเป็นจังหวะมามีลักษณะของการหายใจยาวดังเฮือก เหมือนกับมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในบางช่วงเวลา ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลดู ยาในกลุ่มนี้ใช้ป้องกันอาการชัก อาการตื่นตระหนก กล่อมประสาทและคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีอาการง่วงซึม แต่มีข้อควรระวังคือห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea) หรือมีปัญหาเรื่องการหายใจอื่น ๆ เช่น หายใจไม่อิ่ม, ชัก, นอนกรน,
ล่าสุดทางญาติได้ตัดสินใจพาไปหาคุณหมอ B ซึ่งเป็นแพทย์ทางด้านระบบประสาท โดยได้เอาประวัติการรักษาและยาประจำตัวทั้งหมดที่ได้รับจากคุณหมอ A ไปให้คุณหมอ B ดู ทางคุณหมอ B ได้ ส่งไป Xray ปอด ,ECG, ตรวจไต ซึ่งทุกอย่างปกติ เหลือเพียงแต่ฉีดสีเข้าร่างกายเท่านั้นที่ยังต้องรอคิวในสัปดาห์หน้า โดยระหว่างนี้ ให้งด fluoxetine ก่อน และสำหรับ diazepam คุณหมอ B ได้จ่ายยาตัวอื่น ซึ่งอยู่ในกลุ่ม benzodiazepine เหมือนกันคือ clonazepam โดยบอกให้ทานตามปกติ
ข้อกังวลของญาติก็คือ ยา clonazepam นั้นเท่าที่ญาติเข้าใจคือ เป็นยาในกลุ่ม benzodiazepine เหมือนกับ diazepam ประกอบกับผู้ป่วย มีอาการนอนกรน และอาจจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จึงอยากถามคุณหมอในพันทิปว่า การใช้ยาในกลุ่ม (SSRI) Fluoxetine และกลุ่ม (benzodiazepine
) clonazepam สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรค เบาหวาน ปลายประสาทอักเสบ ไขมัน และมีภาวะนอนกรน/หยุดหายใจขณะหลับ นั้นมีผลข้างเคียงหรืออันตรายอย่างไรบ้าง
สอบถามคุณหมอเกี่ยวกับผลข้างเคียงของการใช้ยารักษาโรคซึมเศร้า ในกลุ่ม SSRI และ benzodiazepine
ผู้ป่วยรับประทานยาตามที่คุณหมอ A บอกตลอด โดยระหว่าง 3 เดือน ผู้ป่วยมีอาการ หลงลืมง่าย เบื่ออาหาร ท้องเสีย ง่วงซึมตลอดเวลา และที่ญาติเป็นห่วงมากที่สุดคือ หายใจไม่ออก ในขณะที่มีสติอยู่ ลักษณะคือเหมือนผู้ป่วยพยายามที่จะหายใจ แต่เหมือนอากาศไม่เข้าไปในร่างกาย จนในที่สุดก็หมดสติ นิ้วมือเกร็ง (ไม่มีอาการกระตุก) แต่ชีพจรยังมีอยู่ เป็นแบบนี้ประมาณ 4-5 ครั้งได้ โดยทุกครั้งจะเป็นในช่วงกลางคืน หลังจากที่กิน diazepam ไปแล้วประมาณ 1-4 ชั่วโมงโดยจะสลบไปประมาณ 2 นาที เมื่อตื่นมา จะเบลอๆ มึนๆ ต้องใช้เวลาสักพักกว่าปฏิกิริยาตอบสนองดีขึ้นเหมือนปกติ แต่มีครั้งล่าสุด สลบนาน 5 นาที ต้องใช้ระยะเวลาร่วม 20 นาทีกว่าจะถามตอบ ข้อมูลส่วนตัวของตัวเองได้ โดยปฏิกิริยาเริ่มดีขึ้นตามระยะเวลาที่ฟื้นขึ้นตามลำดับ จากลืมตาอย่างเดียว ถามตอบไม่ได้ จนพูดคุยได้ปกติ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที
ทางญาติผู้ป่วยจึงได้หาข้อมูลเพิ่มเติมว่ามียาที่ผู้ป่วยได้รับเพิ่มเติมคือยาอะไร เนื่องจากก่อนหน้านั้นผู้ป่วยอาการคงที่จากการรักษา โรคประจำตัว ตามที่แพทย์นัดอย่างสม่ำเสมอ แต่หลังจากที่ได้รับยา 2 ชนิดเพิ่มมา กลับมีอาการ เหมือนระบบหายใจผิดปกติในขณะที่ยังรู้สึกตัวอยู่ จนในที่สุดก็สลบไป ซึ่งจากข้อมูลที่หาได้คือ fluoxetine นั้นใช้ปรับสารเคมีในสมอง แต่อาจมีผลข้างเคียงได้ ซึ่งส่วนมากก็ตรงกับที่คนไข้เป็น สำหรับ diazepam นั้นเท่าที่สังเกตดูคือ ตั้งแต่ได้รับยาดังกล่าวมา ผู้ป่วยจะมีอาการนอนกรนเสียงดังมาก จากเดิมที่ดังอยู่แล้วเป็นดังมากจนคนที่นอนด้วยนอนไม่หลับ และจากเดิมที่กรนเป็นจังหวะมามีลักษณะของการหายใจยาวดังเฮือก เหมือนกับมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ ในบางช่วงเวลา ซึ่งเท่าที่หาข้อมูลดู ยาในกลุ่มนี้ใช้ป้องกันอาการชัก อาการตื่นตระหนก กล่อมประสาทและคลายกล้ามเนื้อ ส่งผลให้มีอาการง่วงซึม แต่มีข้อควรระวังคือห้ามใช้กับผู้ป่วยที่มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (Sleep apnea) หรือมีปัญหาเรื่องการหายใจอื่น ๆ เช่น หายใจไม่อิ่ม, ชัก, นอนกรน,
ล่าสุดทางญาติได้ตัดสินใจพาไปหาคุณหมอ B ซึ่งเป็นแพทย์ทางด้านระบบประสาท โดยได้เอาประวัติการรักษาและยาประจำตัวทั้งหมดที่ได้รับจากคุณหมอ A ไปให้คุณหมอ B ดู ทางคุณหมอ B ได้ ส่งไป Xray ปอด ,ECG, ตรวจไต ซึ่งทุกอย่างปกติ เหลือเพียงแต่ฉีดสีเข้าร่างกายเท่านั้นที่ยังต้องรอคิวในสัปดาห์หน้า โดยระหว่างนี้ ให้งด fluoxetine ก่อน และสำหรับ diazepam คุณหมอ B ได้จ่ายยาตัวอื่น ซึ่งอยู่ในกลุ่ม benzodiazepine เหมือนกันคือ clonazepam โดยบอกให้ทานตามปกติ
ข้อกังวลของญาติก็คือ ยา clonazepam นั้นเท่าที่ญาติเข้าใจคือ เป็นยาในกลุ่ม benzodiazepine เหมือนกับ diazepam ประกอบกับผู้ป่วย มีอาการนอนกรน และอาจจะมีภาวะหยุดหายใจขณะหลับ จึงอยากถามคุณหมอในพันทิปว่า การใช้ยาในกลุ่ม (SSRI) Fluoxetine และกลุ่ม (benzodiazepine
) clonazepam สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรค เบาหวาน ปลายประสาทอักเสบ ไขมัน และมีภาวะนอนกรน/หยุดหายใจขณะหลับ นั้นมีผลข้างเคียงหรืออันตรายอย่างไรบ้าง