ผมเป็นวัยผู้ใหญ่แล้วนะครับ แต่อยากไปสแกนลายนิ้วมือ เพราะมีเรื่องต้องตัดสินใจหลายอย่าง
เลยคิดว่าน่าจะพอมีอะไรเป็นไกด์ได้บ้าง จึงไปสแกน
การแปรผลจะมีหลายส่วนนะครับ
ในส่วนของการเอาลายนิ้วมือมาสัมพันธ์กับบุคิกภาพ
ถามว่าตรงกับ
อดีตตั้งแต่จำความได้ จนถึงปัจจุบันไหม ผมให้ความตรง 80%
เพราะมีบางอย่างที่ผมไม่มีบุคลิกแบบนั้น แต่กลับได้เปอร์เซ็นต์สูง
แต่โดยรวมๆ แล้วถือว่ากลมกลืน
อีกส่วนคือการเอาลายนิ้วมือไปสัมพันธ์กับทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
อันนี้บอกเลยว่าตรงแค่ 50%
มีข้อนึงที่ขัดแย้งกับตัวเรามากเลย เช่นด้านสังคมและปฏิสัมพันธ์ ผมมีน้อยมาก
และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก
ถึงขนาดที่ไปฝึกงานเป็น sales แล้วไม่ผ่านการคัดเลือก เพราะมีทักษะด้านนี้น้อยมาก
แต่ผลกับได้คะแนนเป็นอันดับ 1 มีเปอร์เซ็นสูงสุด !
ผมจึงไปค้นข้อมูลเท่าที่หาได้ ก็ปรากฎว่า
การจะวัดตามทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
เขามีแบบทดสอบของเขาโดยเฉพาะ และผู้คิดทฤษฎีนี้เขาก็ไม่ได้ใช้การสแกนลายนิ้วมือเป็นเครื่องมือด้วย
และมีงานวิจัยบอกว่าลายนิ้วมือมีความสัมพันธ์ต่ำมากกับทฤษฎีพหุปัญญาด้วย
ดูได้ที่ ==>
http://www.ijars.net/articles/PDF/2258/26115_CE[VSU]_F(GH)_PF1(VsuGH)_PFA(GH)_PF2(VsuGH).pdf
(ก๊อปเพสต์เอานะครับ ทำลิงค์แล้วไม่ไป)
ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ตราบใดที่เขายังไม่สามารถเคลมได้ว่าได้ผลแม่นยำ 100% ก็ไม่ควรเอาเป็นสรณะ
(บริษัทที่ผมไปเขาเคลมว่า90%)
การทำให้เด็ก
ก็ควรใช้บอกแนวโน้มเฉย ๆ ไม่ควรเอาไปตีตรา
เพราะการจะรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน มีทักษะอะไร ไม่มีใครมาบอกเราได้นอกจากตัวเอง
บางคนโจมตีว่าการทำแบบสอบถาม ไม่ดีเพราะบิดเบือนได้
แต่ผมชอบมากกว่า เพราะถ้าเราตอบคำถามอย่างจริงใจ แสดงว่าเรายอมรับในข้อนั้น ผลย่อมออกมาตรง
และหากเด็กยังไม่เข้าใจการตอบแบบสอบถาม ก็ควรรอให้เขาโตพอจะเข้าใจเสียก่อน
ที่อยากเอามารีวิว เพราะอยากถามคนอื่นที่ไปสแกนด้วย(วัยผู้ใหญ่) ว่าของคุณตรงกี่%
เพราะในการแปลผล ผมว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ให้ feedback กับผู้แปลผลว่ามันตรง/ไม่ตรง เพราะเกรงใจเขา
เหมือนเราไปกินอาหารที่ไม่อร่อย ก็คงไม่มีใครเดินเข้าไปบอกแม่ค้าว่าคุณทำอาหารไม่อร่อย เพราะเกรงใจ
[CR] ไปสแกนลายนิ้วมือ Dermatoglyphics มา
เลยคิดว่าน่าจะพอมีอะไรเป็นไกด์ได้บ้าง จึงไปสแกน
การแปรผลจะมีหลายส่วนนะครับ
ในส่วนของการเอาลายนิ้วมือมาสัมพันธ์กับบุคิกภาพ
ถามว่าตรงกับอดีตตั้งแต่จำความได้ จนถึงปัจจุบันไหม ผมให้ความตรง 80%
เพราะมีบางอย่างที่ผมไม่มีบุคลิกแบบนั้น แต่กลับได้เปอร์เซ็นต์สูง
แต่โดยรวมๆ แล้วถือว่ากลมกลืน
อีกส่วนคือการเอาลายนิ้วมือไปสัมพันธ์กับทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
อันนี้บอกเลยว่าตรงแค่ 50%
มีข้อนึงที่ขัดแย้งกับตัวเรามากเลย เช่นด้านสังคมและปฏิสัมพันธ์ ผมมีน้อยมาก
และเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็ก
ถึงขนาดที่ไปฝึกงานเป็น sales แล้วไม่ผ่านการคัดเลือก เพราะมีทักษะด้านนี้น้อยมาก
แต่ผลกับได้คะแนนเป็นอันดับ 1 มีเปอร์เซ็นสูงสุด !
ผมจึงไปค้นข้อมูลเท่าที่หาได้ ก็ปรากฎว่า
การจะวัดตามทฤษฎีพหุปัญญา (Multiple Intelligences)
เขามีแบบทดสอบของเขาโดยเฉพาะ และผู้คิดทฤษฎีนี้เขาก็ไม่ได้ใช้การสแกนลายนิ้วมือเป็นเครื่องมือด้วย
และมีงานวิจัยบอกว่าลายนิ้วมือมีความสัมพันธ์ต่ำมากกับทฤษฎีพหุปัญญาด้วย
ดูได้ที่ ==> http://www.ijars.net/articles/PDF/2258/26115_CE[VSU]_F(GH)_PF1(VsuGH)_PFA(GH)_PF2(VsuGH).pdf
(ก๊อปเพสต์เอานะครับ ทำลิงค์แล้วไม่ไป)
ดังนั้น สำหรับผมแล้ว ตราบใดที่เขายังไม่สามารถเคลมได้ว่าได้ผลแม่นยำ 100% ก็ไม่ควรเอาเป็นสรณะ
(บริษัทที่ผมไปเขาเคลมว่า90%)
การทำให้เด็ก ก็ควรใช้บอกแนวโน้มเฉย ๆ ไม่ควรเอาไปตีตรา
เพราะการจะรู้ว่าเราเป็นคนแบบไหน มีทักษะอะไร ไม่มีใครมาบอกเราได้นอกจากตัวเอง
บางคนโจมตีว่าการทำแบบสอบถาม ไม่ดีเพราะบิดเบือนได้
แต่ผมชอบมากกว่า เพราะถ้าเราตอบคำถามอย่างจริงใจ แสดงว่าเรายอมรับในข้อนั้น ผลย่อมออกมาตรง
และหากเด็กยังไม่เข้าใจการตอบแบบสอบถาม ก็ควรรอให้เขาโตพอจะเข้าใจเสียก่อน
ที่อยากเอามารีวิว เพราะอยากถามคนอื่นที่ไปสแกนด้วย(วัยผู้ใหญ่) ว่าของคุณตรงกี่%
เพราะในการแปลผล ผมว่าคนส่วนใหญ่มักจะไม่ได้ให้ feedback กับผู้แปลผลว่ามันตรง/ไม่ตรง เพราะเกรงใจเขา
เหมือนเราไปกินอาหารที่ไม่อร่อย ก็คงไม่มีใครเดินเข้าไปบอกแม่ค้าว่าคุณทำอาหารไม่อร่อย เพราะเกรงใจ