เป็นสาววาย แต่ผู้ชายที่คุยด้วยแอนตี้เรื่องแบบนี้มาก ควรเลิกคุยไปเลยดีไหมคะ ?

สวัสดีค่ะ คือตอนนี้จขกท.กำลังคุยๆกับผู้ชายคนหนึ่งอยู่เกือบปีนึงแล้ว ยังไม่ได้ใช้คำว่าเป็นแฟน แต่ก็คุยกันเหมือนแบบนั้น เราคุยกันได้หลายเรื่องค่ะ ทำให้รู้ว่ามีทั้งเรื่องที่เข้ากันได้ และเรื่องที่เข้ากันไม่ได้ แต่เราก็พยายามคุยกันด้วยเหตุผล ค่อยๆปรับเข้าหากัน  แต่ถึงอย่างนั้นมันก็มีอยู่เรื่องนึงที่เราไม่รู้จะแก้ยังไงดี นั่นก็คือเรื่องที่เราเป็นสาววาย แต่เขากลับเป็นคนที่แอนตี้เรื่องแบบนี้มาก ไม่ได้หมายถึงแค่การ์ตูนแนวชายรักชายอย่างเดียวนะคะ แต่ยังรวมถึง กลุ่ม LGBT ในชีวิตจริง ที่เขาพูดออกมาตรงๆเลยว่าไม่ชอบ

ต้องขอบอกก่อนว่า เราไม่ได้เป็นเหมือนสาววายบางคนที่ทำตัวน่ารำคาญ อย่างเช่นการจิ้นไปทั่ว หรือเอะอะพูดเรื่องนี้ทั้งวัน หรือพยายามยัดเยียดเรื่องแบบนี้ให้คนอื่นไปทั่ว เราไม่ได้เป็นแบบนั้นแน่นอน เรารู้กาลเทศะดี เราเลือกคุยเรื่องแบบนี้เฉพาะกับเพื่อนสนิทหรือในกลุ่มเฉพาะเท่านั้น เราเข้าใจว่ามีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบเป็นเรื่องธรรมดา เราจะไม่ยัดเยียดให้ใครโดยที่เขาไม่เต็มใจแน่นอน

ต่อไปนี้จะขอแทนคนที่เราคุยด้วยว่า "A" และเล่าเป็นลำดับเหตุการณ์ที่ทำให้เรากังวลเรื่องนี้นะคะ

ครั้งที่ 1

เราเคยแซวพี่ผู้ชายที่รู้จักอยู่คนหนึ่งกับน้องผู้ชาย (ครั้งนั้นเผลอจริงๆค่ะ ปากไปไวกว่าความคิด  แต่พี่เขาไม่ว่าค่ะ เคยถามตรงๆแล้วว่าแซวเล่นแบบนี้โกรธไหม พี่บอกว่า ก็ขำๆนะ ไม่เป็นไร) เจตนาแค่แซวเล่นค่ะ ไม่ได้ยัดเยียดเกินไปแน่นอน จากนั้นก็มีแซวๆอีก แต่ไม่บ่อย เจ้าตัวไม่ว่า แต่คนเดือดร้อนดันเป็นA ที่จู่ๆก็บอกว่า "ทำไมต้องไปว่าพี่เขาแบบนั้น พี่เขามีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่แล้ว ทำไมต้องไปว่าว่าเป็นเกย์"
เรานี่งงเลยค่ะ พยายามอธิบายว่า "แซวเล่นขำๆนะ พี่แกเองก็ไม่ได้ว่านะ ไม่ได้แซวบ่อย ไม่ได้ใช้คำหยาบด้วย ใช้คำเบาๆ เช่น เป็นห่วงกันอีกละ คิดถึงกันอะดิ แค่นี้ ถามพี่เขาแล้วนะ พี่เขาบอกไม่เป็นไร ก็ขำๆกันไป "
แต่Aก็พูดกลับว่า "พี่เขาบอกไม่เป็นไร แต่ลึกๆก็ต้องไม่โอเคปะ ใครจะไปชอบให้คนอื่นมายัดเยียดให้เป็นเกย์อะ"  
ตอนนั้นเราก็คิดตามค่ะว่า ก็จริงนะ ต่างคนต่างความคิด พี่เขาอาจจะไม่โอเครึเปล่า จากนั้นเถียงกันไปมาไม่นานก็เงียบไปเอง แล้วก็เปลี่ยนเรื่องคุยกัน  ครั้งนั้นเราเก็ทเลยค่ะ ว่าAคงไม่ชอบเรื่องแบบนี้

ป.ล. หลังจากนั้น เราเลยกลับไปถามพี่ผู้ชายอีกรอบ (เราพูดได้เลยว่าเราสนิทกับพี่เขาขนาดที่ถามกันตรงๆได้ มีอะไรปรึกษากันตลอดค่ะ) พี่เขาก็บอก "ไม่นะ ก็บอกแล้วว่าขำๆ ไม่คิดมาก เพื่อนพี่ เกย์ ตุ๊ด กะเทยเยอะแยะ แซวแรงกว่าน้องพี่ก็ไม่ว่า ขำๆดี"  


ครั้งที่ 2

เราชอบคุยโทรศัพท์กับเพื่อนสนิทเรื่องแบบนี้ค่ะ คุยทีก็นานเป็นชั่วโมง  จนAถามว่า "โทรไม่ติด คุยอะไรกับใครเป็นเป็นชั่วโมง"
เราก็ตอบว่า "ก็คุยกับเพื่อนเรื่องการ์ตูนเนี่ยแหละ คุยไปเรื่อย"  
แล้วAก็ถามกลับว่า "คุยเรื่องวายกันอะดิ ใช่มะ" เราก็เลยตอบว่า "ใช่ ก็ชอบแนวเดียวกัน"
หลังจากนั้นก็ยาวเลยค่ะ เขาถามกลับอีกว่า "ทำไมถึงชอบอะไรแบบนี้ ไม่เข้าใจ"  
เราก็พยายามธิบายว่า มันเป็นความสุขของเรา เราชอบมาตั้งนานแล้ว แต่เขากลับตอบเรากลับว่ามันแปลก มันประหลาด  ครั้งนั้นทะเลาะกันค่ะ
จนต้องคุยกันตรงๆว่า "โอเค ถ้าAไม่ชอบเรื่องแบบนี้ เราก็จะพยายามไม่พูดเนอะ คุยกันเรื่องอื่นดีกว่า จะได้ไม่ทะเลาะกัน"
ก็จบๆไปค่ะ หลังจากนั้นก็เลยเข้าใจว่าเขาไม่ชอบขนาดที่ว่าพูดถึงเรื่องแบบนี้ไม่ได้เลย

ครั้งที่ 3

ครั้งนี้รุนแรงมากค่ะ คือปกติเราคุยกันเรื่องการ์ตูนบ่อยมาก ทั้งเราและAชอบการ์ตูนเหมือนกัน แล้ววันนึงเราคุยกันเรื่อง Attack on titan ไปๆมาๆ คุยเรื่องรีไวล์กับเอลวิน เขาก็คุยว่า รีไวล์ทำตามคำสั่งเอลวินทุกอย่าง ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้จะฆ่ากันตาย  
แล้วจู่ๆAก็พูดเองค่ะว่า "ไอ้สองคนนี้ มันต้องมีคนจิ้นให้มันคู่กันแน่ๆ"
เราก็ตกใจเพราะเขาเคยบอกเองว่าไม่ชอบเรื่องแบบนี้ จู่ๆมาพูดเองทำไม แต่เราก็ตอบไปค่ะว่า "อืม คนชอบเยอะแยะ เราเองก็ชอบคู่นี้"
เท่านั้นแหละค่ะ เป็นเรื่องขึ้นมาเลย เขาพูดมายาวมาก จับใจความเฉพาะคำสำคัญที่พูดออกมาคือ
"ไม่เข้าใจอะ ทำไมถึงชอบอะไรแบบนี้ คนเขียนเขาไม่ได้ทำให้มันเป็นแบบนี้ซะหน่อย ทำไมต้องเอาไปจิ้นบ้าบออะไรให้มันเสียหาย ประหลาด ไร้สาระ ธรรมชาติสร้างให้ผู้ชายต้องคู่กับผู้หญิงสิ นอกนั้นมันผิด" เท่านั้นแหละค่ะ เราน้ำตาคลอเลย เราไม่นึกว่าเขาจะมีความคิดและจิตใจที่คับแคบขนาดนี้
แต่เราก็ยังพยายามอธิบายว่า "ทำไมคิดแบบนั้น ความรักเป็นสิ่งสวยงาม ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับเพศไหน จะชายชาย หญิงหญิง หรือเพศไหนๆ ถ้ามันเกิดขึ้น มันเป็นสิ่งที่สวยงาม มันไม่จำกัดอยู่ที่เพศซะหน่อย"  
แต่เขาก็ยังคงไม่เข้าใจเราค่ะ เถียงกลับและย้ำคำเดิมๆตลอดว่ามันผิดปกติ ผิดธรรมชาติ ยาวไปถึงโลกสร้างให้มนุษย์มี 2 เพศ คือชาย - หญิง เพราะเกิดมาเป็นแบบนี้จึงได้คู่กัน เพศเดียวกันมันผิดธรรมชาติ และอีกมากมาย ซึ่งแต่ละคำที่เขาพูดออกมามันทำให้เราผิดหวังกับความคิดของเขามาก

เหตุการณ์ที่เล่ามานี้มันเป็นแค่ครั้งใหญ่ๆที่เราจำได้แม่นนะคะ มันมีอีกหลายเรื่องและหลายครั้งมากๆที่เราทะเลาะกัน แต่สุดท้ายก็พยายามปรับความเข้าใจกันได้ ยกเว้นเรื่องนี้จริงๆที่เขาดูอคติจนเกินกว่าที่จะมาเข้าใจเราได้

ถ้าให้เลิกชอบวาย มันเป็นไปไม่ได้เลยค่ะ เพราะเราชอบแบบนี้มาตั้งนานแล้ว แต่ถ้าจะให้เลิกคุยกับAเราก็เสียใจและเขาก็คงเสียใจไม่แพ้กัน เพราะเราเคยทะเลาะกันเรื่องอื่นหลายครั้งจนเราถามเขาว่า "ถ้าเหนื่อยจะหยุดก็ได้นะ" เขาโมโหเลยค่ะ บอกว่า "อย่าถามแบบนี้อีก เขาจะหยุดก็ต่อเมื่อเราเป็นฝ่ายไล่เขาไปเอง"

เราควรทำยังไงดีคะ ตอนนี้ระหว่างเรากับAมันผูกพันกันเหมือนแฟน แค่ไม่ได้ใช้คำว่าแฟน เราไม่อยากเสียใจ แล้วก็ไม่อยากให้เขาเสียใจ ไม่อยากใช้เหตุผลนี้ในการบอกลาเลยค่ะ พอจะมีทางออกให้เขาเปิดใจ ยอมรับในสิ่งที่เราชอบไหมคะ หรือเราควรเทเขาจริงๆ TT^TT
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เราว่าการรังเกียจ LGBT สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่แค่เรื่องการ์ตูน หนัง หรือความชอบหรอกค่ะ เราอาจรู้สึกว่าเรารักเขา เราเบลอได้ คุยเรื่องอื่นได้ แต่มันอาจจะมีบททดสอบในสถานการณ์อื่นเข้ามา อย่างลืมนะว่าพวก LGBT มีอยู่จริง ไม่ได้เป็นแค่ตัวละครเท่านั้น ถึงตอนที่พวกคุณต้องปฏิสัมพันธ์กับพวกเขา มันจะดราม่าเอานะ ถ้าเราทำตัวแบบนึง ส่วนเขาเลือกจะทำตัวอีกแบบนึง

กรณี worst case สุด อันนี้ขอตอบในขอบเขตที่คุณกับเขาเป็นแฟนกัน และอาจต้องแต่งงานกันนะคะ คุณคิดไหมว่าคุณจะทำอย่างไรในฐานะแม่ ถ้าหากลูกที่เกิดจากพ่อแบบนี้เป็น LGBT ?

คุณจะปกป้องลูกคุณจากความเจ็บปวดทางใจ และการถูกทำร้ายจิตใจซ้ำๆจากพ่อที่ควรจะรักเขามากที่สุด และรับในสิ่งที่เขาเป็นไม่ได้ ทั้งที่มันไม่ผิดแม้แต่ศีล 5 ได้หรือเปล่า? คุณจะมั่นใจได้ไหมว่าเขาจะไม่ผิดหวัง และดราม่าจนครอบครัวไม่มีความสุขเพียงเพราะเขายอมรับเพศที่แตกต่างไม่ได้ คุณแน่ใจไหมว่าคุณจะโอเค และเบลอทิ้งได้ถ้าหากคนที่ต้องโดนทำร้ายจากความคิดเหล่านั้นคือลูกคุณเอง ไม่ว่าคุณจะอยากหรือไม่อยาก แต่การเกิดมาเป็น LGBT ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ ไม่ว่าสังคมจะมองอย่างไรก็มีเด็กเหล่านี้เพิ่มขึ้นทุกวัน ต่อให้ร้องแรกแหกกระเชิงว่าผิดปกติแค่ไหน ก็มีคนสมบูรณ์แข็งแรงในเพศนี้ ที่ดำรงชีวิตได้อย่างถูกมนุษยธรรม และแพทย์ไม่วินิจฉัยว่ามันคืออาการป่วย ไม่ใช่ความผิดปกติ ไม่จำเป็นต้องรักษา เราไม่ได้แช่งนะ แค่มันมีโอกาสเกิดขึ้นจริงเท่านั้น พิจารณาคนใกล้ตัวดูเอาว่าถึงตอนนั้นเขาจะทำอย่างไร แล้วเราควรทำตัวอย่างไร
ความคิดเห็นที่ 20
อยากแนะนำให้ห่างออกมาดีกว่าค่ะ มันไม่ใช่แต่เรื่องทัศนคติหรือรสนิยมไม่ตรงกันเท่านั้น
แต่เหมือนเขาอคติแรงมาก แล้วก็หมายหัวคุณเอาไว้แล้ว ว่าคุณเป็นสาววาย เพราะงั้นจะต้องจิ้นแบบนั้นแบบนี้
และไม่เคารพขอบเขตเรื่องส่วนตัวของคุณ พยายามขุดขึ้นมาพูดเพื่อให้ทะเลาะกัน

คือคนเราไม่ชอบอะไรหรือเกลียดอะไร ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกค่ะ
แต่ถ้าไม่ชอบหรือเกลียดสิ่งนั้น แล้วพาลมาต่อว่าหรือชวนคุณทะเลาะด้วยในเรื่องนั้น
แบบนี้คบยากค่ะ เหนื่อยด้วย
แล้วมันจะส่งผลลบต่อสุขภาพจิตของคุณทั้งคู่ในระยะยาว
เพราะเขาก็จะคอยระแวงคุณว่าคุณคิดงู้นงี้ จิ้นงั้นจิ้นโง้น
ส่วนคุณก็ต้องคอยระวังตัวจนตัวลีบ เพื่อไม่ให้พาดพิงสิ่งที่เขาเกลียด

การที่จะอยู่ร่วมกันได้โดยที่คนหนึ่งชอบสิ่งหนึ่ง แต่อีกคนเกลียดสิ่งหนึ่ง
คือต้องไม่พูดถึงสิ่งนั้นค่ะ เพื่อไม่ให้ก้าวก่ายหรือทำร้ายความรู้สึกของอีกฝ่าย
เพราะมันเห็น ๆ อยู่แล้วว่าจะต้องเห็นแย้งกัน และอาจนำไปสู่การถกเถียงหรือทะเลาะในที่สุด

ถ้าในขณะที่คุณพยายามไม่พูดถึง ไม่พาดพิง ไม่ไปพูดให้เขานึกถึงหรือขุ่นเคืองใจ
แต่เขากลับไม่ให้ความร่วมมือ พูดวกเข้าไปเรื่องนั้น และชอบโยงหรือกล่าวหาคุณอยู่บ่อย ๆ
ก็จะทำให้เหนื่อยและเพลียมากค่ะ เหมือนยังไม่ได้ทำไม่ได้พูดอะไร แต่โดนมองด้วยอคติไปแล้ว
เสียสุขภาพจิตจริง ๆ บอกตรง ๆ

แฟนเก่าเราก็เกลียดวายค่ะ รับไม่ได้ ไม่ชอบมาก ๆ
แต่เขาบอกว่า "ไม่ว่าหรอกนะเรื่องอ่านวาย ไม่ขอให้เลิกอ่านด้วย แต่อย่าเอามาอ่านให้เห็นหรือวางให้เห็น"
ก็เท่านี้ค่ะ อยู่กันได้ไม่มีปัญหา มีขอบเขตที่ไม่ก้าวก่ายกัน ไม่ยุ่งหรือวิจารณ์รสนิยม/งานอดิเรกของอีกฝ่าย

ถ้าคุณตกลงกับนาย A ไม่ได้ ว่าให้เลิกก้าวก่ายหรือโยงเรื่องให้ทะเลาะกัน
เราขอบอกเลยค่ะว่าคบยาก และจะมีแต่เจ็บ
ความคิดเห็นที่ 6
คห.4 มันไม่ใช่แค่เรื่องวาย เรื่องโอตาคุ แล้วครับ
แต่มันเป็นเรื่องทัศนคติคับแคบ ไม่ยอมรับความแตกต่าง
ทั้งๆที่ทั่วโลกเขายอมรับ LGBT กันมากมายแล้ว
อย่างที่ จขกท.บอกแหละครับ ความรักเป็นสิ่งสวยงามเสมอ ไม่ว่าจะเกิดกับเพศไหนก็ตาม

นี่คือเขาไม่ยอมรับคนที่ต่างจากเขาเลย การไม่ยอมรับเกย์ มันก็เหมือนกับการที่คนขาวเหยียดสีผิวไม่ยอมรับคนดำนั่นแหละ
ความคิดเห็นที่ 37
ถ้าเปรียบรสนิยมความชอบ คือหัวใจ  จากนี้เขาจะเอาไม้มาตีมันซ้ำๆจนช้ำแน่นอนค่ะ จนกว่าคุณจะเปลี่ยนใจแอนตี้ LGBTQ เหมือนเขา

ใจของคุณกว้างอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องไปทำให้มันแคบลงเหมือนเขาค่ะ

เลิกเถอะค่ะ เพราะเขาจะไม่มีวันเปลี่ยนความคิด มันจะไม่จบแค่ตรงนี้ มันจะมีอีกต่อๆไปเพราะ LGBTQ สามารถพบเห็นได้ทุกที่ทุกเวลา  ขอยกตัวอย่างเป็นคุณแม่ของเรา ถ้าดูทีวีเจอคนหน้าตาดีจะพูดขึ้นเองทันที "เป็นตุ๊ดแน่ๆ/เป็นเกย์ล่ะสิ"  หรือโต๊ะกินข้าวข้างๆเป็นเพศที่3ก็จะพูดว่า "ดูสิ เพศที่3เขาไม่มีความสุขหรอกลูก" ซึ่งดูจากเคสA ที่พูดเข้าประเด็น Attack on Titan ก็บ่งบอกชัดเจนว่าเป็นฝ่ายชอบเริ่มโจมตี อยู่ด้วยกันไปคงเหมือนแม่เราอ่ะค่ะที่เห็นอะไรก็พูดไม่คิด โจมตีไว้ก่อน ทั้งๆที่เขายังไม่ทันทำอะไร หรือเราไม่แม้แต่จะเปิดประเด็นเลย

นอกจากนี้ A ยังหัวแข็งมาก เขายังไม่พร้อมจะเข้าใจใครเลยค่ะ แล้วคุณพร้อมไหมคะกับการต้องอยู่กับคนที่ไม่พร้อมจะเข้าใจคุณเลย

-------

ลองค่อยๆเฟดหายไปจากชีวิตของเขาดูค่ะ ต้องใจแข็ง นึกถึงเขาน้อยลง(น้อยให้เท่าที่เขาไม่นึกถึงใจเราเวลาโจมตีเรื่องวายอ่ะค่ะ) ไปเที่ยวกับเพื่อนให้เยอะขึ้น ลงเวิคช็อปต่างๆ หัดทำงานอดิเรกที่ไม่เคยทำ เอาเวลาที่เคยใช้กับเขาไปลองหาประสบการณ์ใหม่ๆให้ตัวเองดีกว่า วิธีนี้ก็ไม่ใช่การบอกเลิกที่เจ็บปวดด้วย แต่ต้องใช้เวลาสักหน่อย  พอได้ออกมามองความสัมพันธ์จากที่ไกลๆ เราอาจจะเห็นภาพปัญหาและทางออกต่างๆที่ชัดขึ้นค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่