ข่าวจาก tnews เรื่องชาวเกียวโตบ่นและร้องเรียนเรื่องจำนวนนักท่องเที่ยวที่เข้ามามากเกินไป เท่าที่อ่านดู
ทางสำนักข่าวนำเนื้อหามาจาก facebook ของคนไทยในญี่ปุ่น เห็นให้เครดิตที่ท้ายข่าว
http://news.tnews.co.th/contents/328508
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งคนไทยนิยมไปเที่ยวติดอันดับต้นๆรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยนั้น
เริ่มสร้างปัญหาให้กับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เมืองที่เป็นแหล่งทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ทำเอาคนท้องถิ่นอยู่กินลำบากและเริ่มเกิดความรู้สึกแอนตี้ บางเมืองถึงกลับยกเลิกเทศกาลสำคัญๆของชุมชน
เพราะประเมินว่าไม่สามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ความเคลื่อนไหวนี้ถูกรายงานมาจากคนไทยที่
อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น โดยรายงานผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Thanakorn Jaisuksakuldee
“ที่สนใจคือ ข่าววันนี้มีเนื้อหาค่อนข้างร้อนแรงและยกระดับขึ้นมาเป็นดราม่าในระดับหนึ่งของสังคมชาวเกาะ
อันเงียบสงบในสัปดาห์นี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวนะครับ ผมเองก็ไม่รู้จะเข้าข้างฝ่ายไหนดี เห็นใจชาวบ้านท้องถิ่น
ก็เห็นใจ แต่ก็อยากจะตำหนิรัฐบาลญี่ปุ่นเสียมากกว่านะ
โปรโมทส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบทุ่มสุดตัว สารพัดโปรเจ็คต่างถูกคิดออกมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ให้มาเยือนญี่ปุ่นให้มากที่สุด แต่ก็เพื่อนำเงินรายได้เข้าประเทศนั่นแหละนะ รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องทำ
น่าเห็นใจอยู่ พอนักท่องเที่ยวแห่กันมากันมากขึ้นตามกระแสมากกว่าเมื่อก่อนอย่างมากมายก็เริ่มมีเสียงบ่นว่า
รำคาญนักท่องเที่ยว ชาวบ้านเดือดร้อนจากนักท่องเที่ยว คิดว่ากรณีแบบนี้คงจะคล้ายๆกับกรณีที่นักท่องเที่ยวบุก
กรุงลอนดอนเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละมั้งนะ ที่ทำให้ชาวกรุงลอนดอนเป็นเดือดเป็นแค้นจนต้องออกมาชูป้าย
ประท้วงไล่นักท่องเที่ยวให้กลับบ้านไปเสียที
ทุกวันนี้ในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆดังๆของโลกก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหากับการรับมือต่อการหลั่งไหลแห่แหนกันเข้ามา
ของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมของโลก อย่างเช่น กรุงลอนดอน ปารีส นครบาร์เซโล่น่า เมืองเวนิสของอิตาลี่ที่
ค่อนข้างอาการหนักจนต้องจัดทำแผนจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการ
รองรับนักท่องเที่ยวของเมืองนั่นเอง
สัปดาห์นี้เป็นคิวของนครเกียวโตเมืองหลวงเก่าอายุเกือบพันปีของญี่ปุ่นที่โดนยำหนักมากที่สุดจากมหกรรมส่งเสริม
การท่องเที่ยวของรัฐบาลนั่นแล อยากได้นักท่องเที่ยวกันจัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวกันเสียจริง ทำให้ถึงปีนี้จำนวน
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นแตะ20 ล้านคนแล้วล่ะนะเออ พณฯท่าน
แต่ถ้าจะเอาตามเป้าหมายของรัฐบาลกลางจริงๆแล้ว 40 ล้านคือเป้าหมายสูงสุดภายในปี 2020 นะครับท่าน
ไม่ได้พูดเล่นนะเอออ
แค่ยี่สิบล้านมันยังวุ่นวายขนาดนี้ แล้วถ้านักท่องเที่ยวมากันจริงๆถึงสี่สิบล้านคนนะ ไม่อยากจะนึกภาพจริงๆ
เลยนะครับว่ามันจะเละขนาดไหน ส่วนตัวคิดว่าเกาะญี่ปุ่นไม่น่าจะมีขีดความสามารถที่จะรับมือนักท่องเที่ยวได้มาก
ขนาดนั้นอย่างแน่นอน
ตัดมาที่เมืองเกียวโตกันต่อ ชาวเมืองต่างก็ออกมาบ่นและร้องเรียนว่า การใช้ชีวิตประจำวันของชาวเมืองได้รับ
ผลกระทบจากโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไม่ลืมหูลืมตาของรัฐบาลมากเหลือเกิน รถบัสเต็มแน่นเอี้ยดทุกสาย
บ้านพักแบบผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ขยะล้นเมือง รถติด ห้องน้ำไม่พอให้บริการ แทบทุกพื้นที่ของเมืองเต็มไปด้วย
นักท่องเที่ยวมากมายมหาศาล ชาวบ้านท้องถิ่นเริ่มย้ายตัวเองหนีนักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปอยู่เมืองรอบนอก
ตอนนี้หลายชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบจนแทบเรียกได้ว่า เป็นโศกนาฏกรรมทางการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
เดือนเมษายนปีนี้ ชุมชนกิออนชินบาชิริมแม่น้ำชิราคาว่า ได้ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานเทศกาลซากุระไลท์อัพ
ซึ่งได้จัดมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน โดยให้เหตุผลว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากเกินไปเกินกว่าจะรับมือไหว
ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ กังวลใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุและปัญหาอื่นๆอีกมากมายที่จะตามมา จนทำให้คณะ
กรรมการท้องถิ่นต้องตัดสินใจยกเลิกงานในที่สุด
ตอนนี้มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เทศบาลเมืองกำลังปวดหัว นั่นคือ ธุรกิจการถ่ายรูปก่อนแต่งงาน (พรีเวดดิ้ง )
โดยมีบริษัททัวร์หัวใสหลายๆแห่งที่ทำการโฆษณาเชิญชวนให้คู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนแต่งงาน
โดยใช้ทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเกียวโตเป็นจุดขาย คู่บ่าวสาวผู้ร่ำรวยจากต่างประเทศบางคู่ใช้กองถ่าย
ขนาดย่อมๆ ใช้พนักงานยึดเอาสถานที่ถ่ายภาพแบบไร้ความเกรงใจตลอดจนไม่เคารพและให้เกียรติชาวเมือง
ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน จนมีการกระทบกระทั่งเป็นคดีความมาแล้วก็มี
คณะกรรมการอนุรักษ์ความสวยงามของท้องถิ่นกล่าวว่า การบริโภคแบบไร้จิตสำนึกในการอนุรักษ์ มีแต่จะ
ทำลายทั้งประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น การท่องเที่ยวเติบโตอย่างบ้าคลั่งเกินไป ความสวยงาม
อันเงียบสงบแบบดั้งเดิมหายไป เมืองเกียวโตคงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า พวกเขาจะรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงนี้
อย่างไรต่อไปในอนาคต
ความจริงแล้วจะโทษรัฐบาลกลางทั้งหมดก็ไม่ถูกหรอก เพราะรัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องมองในภาพรวมของ
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งหมด จะโทษนักท่องเที่ยวทั้งหมดก็คงจะไม่ถูกอีกนั่นแหละ จะให้
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนมีระเบียบวินัยเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ดั่งใจชาวญี่ปุ่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอกนะเออ
ตามแผนการของรัฐบาลญี่ปุ่นจริงๆแล้ว ต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขยายตัวออกไปเที่ยวที่
ต่างจังหวัดในทั่วประเทศให้มากที่สุดต่างหากล่ะ แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ผิดหรอก ที่พวกเขาจะเลือกไปเฉพาะ
เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆดังๆเท่านั้น รัฐบาลคงต้องกลับไปทำการบ้านอีกครั้งนั่นแหละว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร”
Cr.fb : Thanakorn Jaisuksakuldee
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
เกียวโตขยะล้น-อยู่ลำบาก ทัวร์ถ่ายพรีเวดดิ้งติดกลุ่มป่วน
ทางสำนักข่าวนำเนื้อหามาจาก facebook ของคนไทยในญี่ปุ่น เห็นให้เครดิตที่ท้ายข่าว
http://news.tnews.co.th/contents/328508
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวซึ่งคนไทยนิยมไปเที่ยวติดอันดับต้นๆรวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติด้วยนั้น
เริ่มสร้างปัญหาให้กับคนญี่ปุ่น โดยเฉพาะเมืองที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว เมืองที่เป็นแหล่งทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์
ทำเอาคนท้องถิ่นอยู่กินลำบากและเริ่มเกิดความรู้สึกแอนตี้ บางเมืองถึงกลับยกเลิกเทศกาลสำคัญๆของชุมชน
เพราะประเมินว่าไม่สามารถรับมือกับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาล ความเคลื่อนไหวนี้ถูกรายงานมาจากคนไทยที่
อาศัยอยู่ในญี่ปุ่น โดยรายงานผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว Thanakorn Jaisuksakuldee
“ที่สนใจคือ ข่าววันนี้มีเนื้อหาค่อนข้างร้อนแรงและยกระดับขึ้นมาเป็นดราม่าในระดับหนึ่งของสังคมชาวเกาะ
อันเงียบสงบในสัปดาห์นี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวนะครับ ผมเองก็ไม่รู้จะเข้าข้างฝ่ายไหนดี เห็นใจชาวบ้านท้องถิ่น
ก็เห็นใจ แต่ก็อยากจะตำหนิรัฐบาลญี่ปุ่นเสียมากกว่านะ
โปรโมทส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบทุ่มสุดตัว สารพัดโปรเจ็คต่างถูกคิดออกมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ
ให้มาเยือนญี่ปุ่นให้มากที่สุด แต่ก็เพื่อนำเงินรายได้เข้าประเทศนั่นแหละนะ รัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องทำ
น่าเห็นใจอยู่ พอนักท่องเที่ยวแห่กันมากันมากขึ้นตามกระแสมากกว่าเมื่อก่อนอย่างมากมายก็เริ่มมีเสียงบ่นว่า
รำคาญนักท่องเที่ยว ชาวบ้านเดือดร้อนจากนักท่องเที่ยว คิดว่ากรณีแบบนี้คงจะคล้ายๆกับกรณีที่นักท่องเที่ยวบุก
กรุงลอนดอนเมื่อหลายปีก่อนนั่นแหละมั้งนะ ที่ทำให้ชาวกรุงลอนดอนเป็นเดือดเป็นแค้นจนต้องออกมาชูป้าย
ประท้วงไล่นักท่องเที่ยวให้กลับบ้านไปเสียที
ทุกวันนี้ในเมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆดังๆของโลกก็ล้วนแล้วแต่มีปัญหากับการรับมือต่อการหลั่งไหลแห่แหนกันเข้ามา
ของนักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมของโลก อย่างเช่น กรุงลอนดอน ปารีส นครบาร์เซโล่น่า เมืองเวนิสของอิตาลี่ที่
ค่อนข้างอาการหนักจนต้องจัดทำแผนจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความสามารถในการจัดการ
รองรับนักท่องเที่ยวของเมืองนั่นเอง
สัปดาห์นี้เป็นคิวของนครเกียวโตเมืองหลวงเก่าอายุเกือบพันปีของญี่ปุ่นที่โดนยำหนักมากที่สุดจากมหกรรมส่งเสริม
การท่องเที่ยวของรัฐบาลนั่นแล อยากได้นักท่องเที่ยวกันจัง ส่งเสริมการท่องเที่ยวกันเสียจริง ทำให้ถึงปีนี้จำนวน
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพุ่งสูงขึ้นแตะ20 ล้านคนแล้วล่ะนะเออ พณฯท่าน
แต่ถ้าจะเอาตามเป้าหมายของรัฐบาลกลางจริงๆแล้ว 40 ล้านคือเป้าหมายสูงสุดภายในปี 2020 นะครับท่าน
ไม่ได้พูดเล่นนะเอออ
แค่ยี่สิบล้านมันยังวุ่นวายขนาดนี้ แล้วถ้านักท่องเที่ยวมากันจริงๆถึงสี่สิบล้านคนนะ ไม่อยากจะนึกภาพจริงๆ
เลยนะครับว่ามันจะเละขนาดไหน ส่วนตัวคิดว่าเกาะญี่ปุ่นไม่น่าจะมีขีดความสามารถที่จะรับมือนักท่องเที่ยวได้มาก
ขนาดนั้นอย่างแน่นอน
ตัดมาที่เมืองเกียวโตกันต่อ ชาวเมืองต่างก็ออกมาบ่นและร้องเรียนว่า การใช้ชีวิตประจำวันของชาวเมืองได้รับ
ผลกระทบจากโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวแบบไม่ลืมหูลืมตาของรัฐบาลมากเหลือเกิน รถบัสเต็มแน่นเอี้ยดทุกสาย
บ้านพักแบบผิดกฎหมายเพิ่มมากขึ้น ขยะล้นเมือง รถติด ห้องน้ำไม่พอให้บริการ แทบทุกพื้นที่ของเมืองเต็มไปด้วย
นักท่องเที่ยวมากมายมหาศาล ชาวบ้านท้องถิ่นเริ่มย้ายตัวเองหนีนักท่องเที่ยวต่างชาติออกไปอยู่เมืองรอบนอก
ตอนนี้หลายชุมชนเริ่มได้รับผลกระทบจนแทบเรียกได้ว่า เป็นโศกนาฏกรรมทางการท่องเที่ยวเลยทีเดียว
เดือนเมษายนปีนี้ ชุมชนกิออนชินบาชิริมแม่น้ำชิราคาว่า ได้ตัดสินใจยกเลิกการจัดงานเทศกาลซากุระไลท์อัพ
ซึ่งได้จัดมาตั้งแต่เมื่อสองปีก่อน โดยให้เหตุผลว่า จำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติมากเกินไปเกินกว่าจะรับมือไหว
ทำให้ชาวบ้านรู้สึกไม่สบายใจ กังวลใจเกี่ยวกับอุบัติเหตุและปัญหาอื่นๆอีกมากมายที่จะตามมา จนทำให้คณะ
กรรมการท้องถิ่นต้องตัดสินใจยกเลิกงานในที่สุด
ตอนนี้มีอีกอย่างหนึ่งที่ทำให้เทศบาลเมืองกำลังปวดหัว นั่นคือ ธุรกิจการถ่ายรูปก่อนแต่งงาน (พรีเวดดิ้ง )
โดยมีบริษัททัวร์หัวใสหลายๆแห่งที่ทำการโฆษณาเชิญชวนให้คู่บ่าวสาวมาถ่ายรูปเป็นที่ระลึกก่อนแต่งงาน
โดยใช้ทิวทัศน์อันสวยงามของเมืองเกียวโตเป็นจุดขาย คู่บ่าวสาวผู้ร่ำรวยจากต่างประเทศบางคู่ใช้กองถ่าย
ขนาดย่อมๆ ใช้พนักงานยึดเอาสถานที่ถ่ายภาพแบบไร้ความเกรงใจตลอดจนไม่เคารพและให้เกียรติชาวเมือง
ซึ่งเป็นเจ้าของบ้าน จนมีการกระทบกระทั่งเป็นคดีความมาแล้วก็มี
คณะกรรมการอนุรักษ์ความสวยงามของท้องถิ่นกล่าวว่า การบริโภคแบบไร้จิตสำนึกในการอนุรักษ์ มีแต่จะ
ทำลายทั้งประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของท้องถิ่น การท่องเที่ยวเติบโตอย่างบ้าคลั่งเกินไป ความสวยงาม
อันเงียบสงบแบบดั้งเดิมหายไป เมืองเกียวโตคงต้องหาคำตอบให้ได้ว่า พวกเขาจะรับมือต่อความเปลี่ยนแปลงนี้
อย่างไรต่อไปในอนาคต
ความจริงแล้วจะโทษรัฐบาลกลางทั้งหมดก็ไม่ถูกหรอก เพราะรัฐบาลก็มีความจำเป็นต้องมองในภาพรวมของ
รายได้จากการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งหมด จะโทษนักท่องเที่ยวทั้งหมดก็คงจะไม่ถูกอีกนั่นแหละ จะให้
นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทุกคนมีระเบียบวินัยเป็นระเบียบเรียบร้อยได้ดั่งใจชาวญี่ปุ่นก็คงจะเป็นไปไม่ได้หรอกนะเออ
ตามแผนการของรัฐบาลญี่ปุ่นจริงๆแล้ว ต้องการส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติขยายตัวออกไปเที่ยวที่
ต่างจังหวัดในทั่วประเทศให้มากที่สุดต่างหากล่ะ แต่นักท่องเที่ยวก็ไม่ผิดหรอก ที่พวกเขาจะเลือกไปเฉพาะ
เมืองท่องเที่ยวใหญ่ๆดังๆเท่านั้น รัฐบาลคงต้องกลับไปทำการบ้านอีกครั้งนั่นแหละว่าจะแก้ปัญหานี้อย่างไร”
Cr.fb : Thanakorn Jaisuksakuldee
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------