ผมมีเรื่องจะปรึกษาทุกท่าน เรื่องยาวหน่อยนะครับ คุณจะได้เห็นขั้นตอนการทำงานที่คุณไม่คาดคิดว่ามันจะเกิดกับแบงค์ที่มีชื่อเสียขนาดนี้ ใครจะทำธุรกรรมอะไรก็ควรเลือกให้ดีหน่อยนะครับ
หจก. หนึ่ง ได้เปิดดำเนินการเมื่อ มิ.ย 59 โดยหุ้นส่วนผจก. ก และหุ้นส่วน ข. (ผมยังไม่เข้าเป็นหุ้นส่วน)ต่อมานาย ก. ได้มายืมเงินผมไปลงทุนจำนวนนึง(มารู้ทีหลัง คือ เอาไปจ่ายหนี้นอกระบบ) และประกอบกับนาย ก. ได้เป็นหนี้ผมอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว(สภาพตอนนั้นคือไม่ได้คืนแน่นอน) และนาย ก. บอกว่ามีงานใหญ่อยู่งานนึงสัญญา 6 เดือน ถึง พ.ค.60 ผมเห็นว่าน่าสนใจน่าจะเป็นหนทางได้หนี้คืน ผมจึงเสนอถ้าจะยืมเงินอีก ต้องให้ผมเข้าไปร่วมเป็นหุ้นส่วน ผจก ด้วย(ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะกลัวไม่ได้เงินก้อนแรกคืน) โดยระบุเงื่อนไขว่า ต้องมีหุ้นส่วนหจก. 2 คนลงลายมือชื่อและประทับตรา และผมเข้าไปเป็นหุ้นส่วน ผจก. เมื่อ ม.ค.60(มหากาพเรื่องนี้เลยเกิดขึ้น) โดยเปิดบัญชี หจก. ไว้ 2 เล่ม กรุงเทพ กรุงไทย โดยผมเป็นผู้เบิกถอนเพียงผู้เดียว
4 เดือนแรก ก็พอคุยกันได้ แต่ก็สร้างปัญหาให้ผมตามแก้อยู่ตลอด จนต่อมาเกิดมีปัญหาทะเลาะกันจนไม่สามารถคุยตกลงกันได้ เหตุการณ์สำคัญมาเกิดขึ้นตอนเข้าเดือนที่ 5 ครับ นาย ก. ไปแอบเปิดบัญชีหจก. กับแบงค์เขียว แล้วเปิดบัญชีสำเร็จด้วยคำถาม คือ เปิดได้อย่างไร ตอนนี้ผมยังสงสัยอยู่เลย คำตอบจากผจก. สาขา บอกว่า นาย ก. ใช้หนังสือรับรองฉบับเก่าไปเปิด โดยไปกับนาย ข. แล้วเจ้าหน้าให้กลับไปอัพเดทหนังสือรับรองมาใหม่ เมื่ออัพเดทเสร็จ เจ้าหน้าที่ดูแต่วันที่โดยไม่ดูเงื่อนไขอื่นๆ และอนุมัติให้เปิดบัญชีได้เลย(เจ้าหน้าที่คนนี้มาช่วยงานที่สาขาเพียงเดือนเดียวแล้วก็ไป) แต่สร้างความเดือดร้อนไว้ให้ผมมหาศาลมาก นาย ก. สามารถเปิดบัญชีสำเร็จ เมื่อวันที่ 28/04/17
หลังจากนั้นได้วางแผนไปรับเช็คมาได้ เพราะเค้าเคยไปรับเป็นประจำเมื่อวันที่ 22/05/17 แล้วเอาเงินเข้าบัญชี มูลค่า 19x,xxx บาท เอาไปใช้อย่างสบายใจ
ต่อมาผมทราบเรื่องได้ไปดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ทางแบงค์ก็ยอมรับผิดทุกอย่าง โดยแจ้งผลการพิจารณาว่าจะคืนเช็คให้หจก.ในวันที่ 09/06/17 ที่ผ่านมา ซึ่งผมคิดอยู่แล้วตั้งแต่วันที่ทราบเรื่องว่าผลพิจารณามันต้องออกมาเป็นแบบนี้ แต่ที่ผมรับไม่ได้จริงๆ กับแบงค์นี้ คือ เงื่อนไขที่ว่าถ้าคุณจะมารับเช็ค ต้องพาหุ้นส่วนผจก. คือนาย ก. ที่ผมมีปัญหากันถึงขั้นตัดขาดไม่ไปเผาผีกันแล้ว มาเซ็นต์เอกสารว่าจะไม่เอาผิดธนาคาร ไม่ฟ้องร้องธนาคาร xxเอามีดมาฆ่าxซะยังดีกว่ามาออกเงื่อนไขนี้ xxเอาตัวรอดคนเดียว แล้วxละคนที่เสียหายต้องไปกู้ยืมเงินมาจ่ายค่าแรงคนงานก่อน xxเอาสมองที่ไหนมาคิด ขอระบายหน่อยเหอะครับ ขนาดผู้จัดการสาขาที่ทำผิดพลาดบอกกับผมว่าไปตามที่บ้านนาย ก 3 รอบแล้ว ตามยังไงก็ไม่เจอ บ้านก็เปลี่ยว เค้าก็กลัวตายเช่นกัน แล้วธนาคารจะใครผมพบชะตาเดียวกันกับผู้จัดการสาขาหรอครับ
ผมเสนอแล้วว่าใช้ใบแจ้งความฐานยักยอกทรัพย์ที่ผมแจ้งความเอาผิด นาย ก. แทนได้มั้ย คำตอบคือไม่ได้ครับ คุณก็ลอยตัวซิครับ เงินก็ยังไม่เสีย แล้วผมละครับเป็นหนี้ ดอกเบี้ยวิ่งทุกวัน คุณเล่นปัดความรับผิดชอบ ยื้อเวลาอยู่ ให้ผมวิ่งเต้นอยู่คนเดียว (ทุกคนลองคิดดูนะครับถ้าผมร่วมมือกับนาย ก. โกงธนาคาร ผมต้องโดนเรื่องแจ้งความเท็จ นาย ก. ต้องโดนเรื่องปลอมแปลงเอกสารหนังสือรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นกับธนาคาร มันจะคุ้มกันมั้ยครับกับเงินแค่นี้)
ใครที่จะใช้บริการอะไรกับแบงค์นี้ก็ลองพิจารณาดูนะครับ ผมคนนึงละเข็ดจริงๆ
ท้ายนี้ที่เล่ามาทั้งหมด ผมอยากให้ทุกท่านช่วยเสนอแนะว่าผมต้องทำอย่างไรต่อไป แล้วฝากช่วยแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ
ร้องเรียนการทำงานของแบงค์เขียว เปิดบัญชีหจก. ผิดพลาด แต่เงื่อนไขที่รับผิดชอบ มันดูเหมือนการบ่ายเบี่ยงไปเรื่อย
หจก. หนึ่ง ได้เปิดดำเนินการเมื่อ มิ.ย 59 โดยหุ้นส่วนผจก. ก และหุ้นส่วน ข. (ผมยังไม่เข้าเป็นหุ้นส่วน)ต่อมานาย ก. ได้มายืมเงินผมไปลงทุนจำนวนนึง(มารู้ทีหลัง คือ เอาไปจ่ายหนี้นอกระบบ) และประกอบกับนาย ก. ได้เป็นหนี้ผมอยู่เป็นจำนวนมากอยู่แล้ว(สภาพตอนนั้นคือไม่ได้คืนแน่นอน) และนาย ก. บอกว่ามีงานใหญ่อยู่งานนึงสัญญา 6 เดือน ถึง พ.ค.60 ผมเห็นว่าน่าสนใจน่าจะเป็นหนทางได้หนี้คืน ผมจึงเสนอถ้าจะยืมเงินอีก ต้องให้ผมเข้าไปร่วมเป็นหุ้นส่วน ผจก ด้วย(ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดอย่างมาก เพราะกลัวไม่ได้เงินก้อนแรกคืน) โดยระบุเงื่อนไขว่า ต้องมีหุ้นส่วนหจก. 2 คนลงลายมือชื่อและประทับตรา และผมเข้าไปเป็นหุ้นส่วน ผจก. เมื่อ ม.ค.60(มหากาพเรื่องนี้เลยเกิดขึ้น) โดยเปิดบัญชี หจก. ไว้ 2 เล่ม กรุงเทพ กรุงไทย โดยผมเป็นผู้เบิกถอนเพียงผู้เดียว
4 เดือนแรก ก็พอคุยกันได้ แต่ก็สร้างปัญหาให้ผมตามแก้อยู่ตลอด จนต่อมาเกิดมีปัญหาทะเลาะกันจนไม่สามารถคุยตกลงกันได้ เหตุการณ์สำคัญมาเกิดขึ้นตอนเข้าเดือนที่ 5 ครับ นาย ก. ไปแอบเปิดบัญชีหจก. กับแบงค์เขียว แล้วเปิดบัญชีสำเร็จด้วยคำถาม คือ เปิดได้อย่างไร ตอนนี้ผมยังสงสัยอยู่เลย คำตอบจากผจก. สาขา บอกว่า นาย ก. ใช้หนังสือรับรองฉบับเก่าไปเปิด โดยไปกับนาย ข. แล้วเจ้าหน้าให้กลับไปอัพเดทหนังสือรับรองมาใหม่ เมื่ออัพเดทเสร็จ เจ้าหน้าที่ดูแต่วันที่โดยไม่ดูเงื่อนไขอื่นๆ และอนุมัติให้เปิดบัญชีได้เลย(เจ้าหน้าที่คนนี้มาช่วยงานที่สาขาเพียงเดือนเดียวแล้วก็ไป) แต่สร้างความเดือดร้อนไว้ให้ผมมหาศาลมาก นาย ก. สามารถเปิดบัญชีสำเร็จ เมื่อวันที่ 28/04/17
หลังจากนั้นได้วางแผนไปรับเช็คมาได้ เพราะเค้าเคยไปรับเป็นประจำเมื่อวันที่ 22/05/17 แล้วเอาเงินเข้าบัญชี มูลค่า 19x,xxx บาท เอาไปใช้อย่างสบายใจ
ต่อมาผมทราบเรื่องได้ไปดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง ทางแบงค์ก็ยอมรับผิดทุกอย่าง โดยแจ้งผลการพิจารณาว่าจะคืนเช็คให้หจก.ในวันที่ 09/06/17 ที่ผ่านมา ซึ่งผมคิดอยู่แล้วตั้งแต่วันที่ทราบเรื่องว่าผลพิจารณามันต้องออกมาเป็นแบบนี้ แต่ที่ผมรับไม่ได้จริงๆ กับแบงค์นี้ คือ เงื่อนไขที่ว่าถ้าคุณจะมารับเช็ค ต้องพาหุ้นส่วนผจก. คือนาย ก. ที่ผมมีปัญหากันถึงขั้นตัดขาดไม่ไปเผาผีกันแล้ว มาเซ็นต์เอกสารว่าจะไม่เอาผิดธนาคาร ไม่ฟ้องร้องธนาคาร xxเอามีดมาฆ่าxซะยังดีกว่ามาออกเงื่อนไขนี้ xxเอาตัวรอดคนเดียว แล้วxละคนที่เสียหายต้องไปกู้ยืมเงินมาจ่ายค่าแรงคนงานก่อน xxเอาสมองที่ไหนมาคิด ขอระบายหน่อยเหอะครับ ขนาดผู้จัดการสาขาที่ทำผิดพลาดบอกกับผมว่าไปตามที่บ้านนาย ก 3 รอบแล้ว ตามยังไงก็ไม่เจอ บ้านก็เปลี่ยว เค้าก็กลัวตายเช่นกัน แล้วธนาคารจะใครผมพบชะตาเดียวกันกับผู้จัดการสาขาหรอครับ
ผมเสนอแล้วว่าใช้ใบแจ้งความฐานยักยอกทรัพย์ที่ผมแจ้งความเอาผิด นาย ก. แทนได้มั้ย คำตอบคือไม่ได้ครับ คุณก็ลอยตัวซิครับ เงินก็ยังไม่เสีย แล้วผมละครับเป็นหนี้ ดอกเบี้ยวิ่งทุกวัน คุณเล่นปัดความรับผิดชอบ ยื้อเวลาอยู่ ให้ผมวิ่งเต้นอยู่คนเดียว (ทุกคนลองคิดดูนะครับถ้าผมร่วมมือกับนาย ก. โกงธนาคาร ผมต้องโดนเรื่องแจ้งความเท็จ นาย ก. ต้องโดนเรื่องปลอมแปลงเอกสารหนังสือรายงานการประชุมผู้ถือหุ้นกับธนาคาร มันจะคุ้มกันมั้ยครับกับเงินแค่นี้)
ใครที่จะใช้บริการอะไรกับแบงค์นี้ก็ลองพิจารณาดูนะครับ ผมคนนึงละเข็ดจริงๆ
ท้ายนี้ที่เล่ามาทั้งหมด ผมอยากให้ทุกท่านช่วยเสนอแนะว่าผมต้องทำอย่างไรต่อไป แล้วฝากช่วยแชร์ด้วยนะครับ ขอบคุณทุกคนที่อ่านจนจบครับ