เนื่องจาก มันอาจเห็นว่า บางความเห็นไม่เป็นประโยชน์สำหรับมัน มันจึงลบกระทู้นั้นไปแล้ว
มัน บังอาจแอบอ้างว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ละหรือดับกิเลส
เพราะกิเลสเป็นไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ละหรือดับกิเลส เป็นการกดข่มกายใจ เพราะกิเลสละหรือดับไม่ได้
หนึ่ง มันช่วยไปหามาหน่อยในพระไตรฯ ประมาณพุทธพจน์ว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย กิเลสนี้อย่าไปละหรือดับ เพราะจะเป็นการกดข่มกายใจ
นี่เป็นประมาณความเห็น ในกระทู้ที่มันลบไปแล้ว
กิเลสอย่าไปละหรือดับ เพราะเป็นการกดข่มกายใจ นั่งดูกิเลสมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
อาชญากรรม ความรุนแรง ปัญหาสังคม การเบียดเบียนกันทั้งต่อตนเองและผู้อื่น สาเหตุล้วนมาจากกิเลสคือ โลภะ โทสะ และโมหะ อันมีรากเหง้า
มาจากอวิชชา
กิเลสเกิดขึ้น อยากได้ทรัพย์ผู้อื่นมาเป็นของตน
กิเลสตั้งอยู่ จัดการปล้นและฆ่าผู้อื่นเพื่อปิดปาก
กิเลสดับไป ฆ่าและได้ทรัพย์ผู้อื่นมาเป็นของตนแล้ว
กิเลสเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป โดยการตอบสนองกิเลส
กิเลสคืออกุศลกรรม กระทำให้มากนั่นย่อมสั่งสมเป็นอนุสัย สั่งสมจนเป็นอาจิณกรรม อันจะส่งผลเป็นอกุศลกรรมนิมิตในจุติจิต
ส่งผลอันได้รับวิบากให้ไป ปฎิสนธิจิตในอบายภูมิ
รากเหง้าแห่งอาชญากรรมความรุนแรงทั้งหลาย ล้วนมาจากกิเลส
เมื่อเกิดขึ้น พระพุทธองค์จึงทรงให้มีสติระลึกรู้และละซะด้วยสัมมาวายามะ แล้วมีสติกลับมาเจริญกุศลคือสัมมาสติให้ระลึกรู้ในกาย เวทนา จิต ธรรม
มิใช่ไปตามระลึกรู้กิเลส ให้เกิดการสั่งสมจนเป็นอนุสัย จนกระทั่งไปก่ออาชญากรรมเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น
แล้วกล้าบังอาจมาแอบอ้างว่า พระองค์ไม่ได้สอนให้ไปดับหรือละกิเลสได้อย่างไร
แอบอ้าง บิดเบือน ว่าอย่าไปดับหรือละกิเลส เพราะเป็นการกดข่มกายใจ ว่านั่นคือวิปัสสนา คือปัญญานำสมาธิ คือมรรคทั้งแปด คือทั้ง 84000
คือทางอันเอก ง่าย ลัด สั้น ตรง
แอบอ้าง บิดเบือนธรรมเพื่อหวังเจาะกลุ่มลูกค้า กล่าวโจมตีธรรมที่พระองค์ทรงบัญญัติ แล้วมานั่งแก้ต่างในภายหลัง อย่างไม่มีความละอายและเกรงกลัว
ต่อบาป
เผยแพร่ ส่งเสริม บิดเบือนธรรมแห่งพระพุทธองค์เพียงเพื่อลาภ สักการะ โดยไม่นึกถึงความสับสน เสียหาย หากมีผู้เชื่อทิฎฐิอันผิดๆและวิปริตเหล่านั้น
มีวัตรปฎิบัติอันเป็นที่กังขา อันอาจจะทำให้บวรพระพุทธศาสนาต้องเศร้าหมอง
จะรับผิดชอบ พิจารณาทบทวนแก้ไข ธรรมอันบิดเบือนนั้นไหม
กล้าดียังไงครับ มาบังอาจแอบอ้างว่า
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไปละหรือดับกิเลส เพราะเป็นการกดข่มกายใจ
ไปหาพุทธพจน์มาครับ ว่าพระองค์ตรัสเช่นนั้น !!!!!!!!!
แด่ ผู้บังอาจแอบอ้างว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไปดับกิเลส
มัน บังอาจแอบอ้างว่า พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ละหรือดับกิเลส
เพราะกิเลสเป็นไตรลักษณ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป
ละหรือดับกิเลส เป็นการกดข่มกายใจ เพราะกิเลสละหรือดับไม่ได้
หนึ่ง มันช่วยไปหามาหน่อยในพระไตรฯ ประมาณพุทธพจน์ว่า
ดูกร ภิกษุทั้งหลาย กิเลสนี้อย่าไปละหรือดับ เพราะจะเป็นการกดข่มกายใจ
นี่เป็นประมาณความเห็น ในกระทู้ที่มันลบไปแล้ว
กิเลสอย่าไปละหรือดับ เพราะเป็นการกดข่มกายใจ นั่งดูกิเลสมันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป
อาชญากรรม ความรุนแรง ปัญหาสังคม การเบียดเบียนกันทั้งต่อตนเองและผู้อื่น สาเหตุล้วนมาจากกิเลสคือ โลภะ โทสะ และโมหะ อันมีรากเหง้า
มาจากอวิชชา
กิเลสเกิดขึ้น อยากได้ทรัพย์ผู้อื่นมาเป็นของตน
กิเลสตั้งอยู่ จัดการปล้นและฆ่าผู้อื่นเพื่อปิดปาก
กิเลสดับไป ฆ่าและได้ทรัพย์ผู้อื่นมาเป็นของตนแล้ว
กิเลสเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไป โดยการตอบสนองกิเลส
กิเลสคืออกุศลกรรม กระทำให้มากนั่นย่อมสั่งสมเป็นอนุสัย สั่งสมจนเป็นอาจิณกรรม อันจะส่งผลเป็นอกุศลกรรมนิมิตในจุติจิต
ส่งผลอันได้รับวิบากให้ไป ปฎิสนธิจิตในอบายภูมิ
รากเหง้าแห่งอาชญากรรมความรุนแรงทั้งหลาย ล้วนมาจากกิเลส
เมื่อเกิดขึ้น พระพุทธองค์จึงทรงให้มีสติระลึกรู้และละซะด้วยสัมมาวายามะ แล้วมีสติกลับมาเจริญกุศลคือสัมมาสติให้ระลึกรู้ในกาย เวทนา จิต ธรรม
มิใช่ไปตามระลึกรู้กิเลส ให้เกิดการสั่งสมจนเป็นอนุสัย จนกระทั่งไปก่ออาชญากรรมเบียดเบียนทั้งตนเองและผู้อื่น
แล้วกล้าบังอาจมาแอบอ้างว่า พระองค์ไม่ได้สอนให้ไปดับหรือละกิเลสได้อย่างไร
แอบอ้าง บิดเบือน ว่าอย่าไปดับหรือละกิเลส เพราะเป็นการกดข่มกายใจ ว่านั่นคือวิปัสสนา คือปัญญานำสมาธิ คือมรรคทั้งแปด คือทั้ง 84000
คือทางอันเอก ง่าย ลัด สั้น ตรง
แอบอ้าง บิดเบือนธรรมเพื่อหวังเจาะกลุ่มลูกค้า กล่าวโจมตีธรรมที่พระองค์ทรงบัญญัติ แล้วมานั่งแก้ต่างในภายหลัง อย่างไม่มีความละอายและเกรงกลัว
ต่อบาป
เผยแพร่ ส่งเสริม บิดเบือนธรรมแห่งพระพุทธองค์เพียงเพื่อลาภ สักการะ โดยไม่นึกถึงความสับสน เสียหาย หากมีผู้เชื่อทิฎฐิอันผิดๆและวิปริตเหล่านั้น
มีวัตรปฎิบัติอันเป็นที่กังขา อันอาจจะทำให้บวรพระพุทธศาสนาต้องเศร้าหมอง
จะรับผิดชอบ พิจารณาทบทวนแก้ไข ธรรมอันบิดเบือนนั้นไหม
กล้าดียังไงครับ มาบังอาจแอบอ้างว่า
พระพุทธเจ้าไม่ได้สอนให้ไปละหรือดับกิเลส เพราะเป็นการกดข่มกายใจ
ไปหาพุทธพจน์มาครับ ว่าพระองค์ตรัสเช่นนั้น !!!!!!!!!