ตามดูตามรู้กิเลสน่ะรึ คือ สติปัฎฐานสี่อันบริบูรณ์ ????!!!!!!!!!

กระทู้สนทนา
จากที่ จขกท แสดงความเห็นในบางกระทู้นะครับ

...........................................................................................................


ความคิดเห็นที่ 17
ชาวแก๊งค์อาจารย์สันชัย

มันตอบคำถามชาวบ้านเค้าให้ได้ก่อนนะว่า แค่มันทำ

                  หรือนั่งตามดูตามรู้กิเลส โดยไม่ไปดับหรือละ เพราะเป็นการกดข่มกายใจ ตามดูกิเลสแบบ ไม่เพ่ง ไม่เผลอน่ะ

มันเป็นสติปัฎฐานตรงไหน

อย่าดีแต่ยกสติปัฎฐานมาแสดง หรือเอาคำกล่าวครูบาอาจารย์ท่านอื่นมาแสดง

แล้วพยายามเคลมว่า วลี ดังกล่าวมันเป็นสติปัฎฐาน หรือตามที่ครูบาอาจารย์ท่านกล่าว
ตอบกลับ
0 0   
สมาชิกหมายเลข 3722212  
35 นาทีที่แล้ว

...........................................................

ความคิดเห็นที่ 18
และจำใส่กระโหลก ไว้อีกครั้งนึงนะครับ ว่า

สติปัฏฐานสี่จะบริบูรณ์น่ะ

ต้องประกอบกับมรรคข้ออื่นๆให้บริบูรณ์มาก่อนด้วย

แม้ในสติปัฎฐานสี่ ท่านก้อวางลำดับแห่งการบริบูรณ์ไว้

จะกล่าวๆคร่าวๆอีกทีนะครับ

กาย ท่านให้มาตามระลึกรู้กายก่อน เพื่อละนิวรณ์

เวทนา เมื่อละนิวรณ์แล้วจึงเข้าสู่ปฐมฌาน จนบรรลุฌานสี่คือ อุเบกขา และเอกัคคตา มีปัญญาอันไม่ไหลไปกับอารมณ์อันมากระทบทางอายตนะ

ให้เป็นราคะหรือปฎิฆะ

จิต จิตอันประกอบด้วยปัญญาอันไม่ไหลไปสู่ราคะและปฎิฆะแล้ว จึงมาพิจารณาดู เจตสิก หรือสิ่งที่ประกอบอยู่ในจิต

มีไม่มี ราคะ โทสะ โมหะ ฯลฯ ท้ายๆท่านยังให้ดู จิตตั้งมั่นหรือไม่ตั้งมั่น มีจิตอื่นยิ่งกว่าไหม นั่นแค่ข้อแรกในหมวดจิต

ข้อสอง ทำจิตให้ปราโมทย์

สาม ทำจิตให้ตั้งมั่น

สี่ ปล่อยวางจิต

แล้วจึงเข้าหมวดธรรม

โดยยกธรรมทั้งห้าหมวดมาพิจารณาคือ

นิวรณ์ ขันธ์ห้า อายตนะ โพชฌงค์ อริยสัจ

เพื่อ

หนึ่ง ตามดูความไม่เที่ยง

สอง จางคลาย

สาม ความดับ

สี่ ความสลัดคืน

แห่งธรรมเหล่านั้น

เห็นไหมท่านเริ่มที่กายเพื่อละนิวรณ์ แล้วจึงเข้าสู่สัมมาสมาธิ เพื่อเป็นฐานดูจิต (เจตสิก ) จากนั้นมาพิจารณาธรรมโดยมีฐานแห่งสมาธิ

เพื่อดูความไม่เที่ยง จางคลาย ความดับ สลัดคืน หรือปล่อยวางในสภาวะธรรมทั้งปวงอันเป็นที่สุด

                                       นี่จึงเป็นสติปัฏฐานสี่อันบริบูรณ์

อย่างคร่าวๆ

มิใช่

        ตามดูตามรู้กิเลส ( มิใช่กาย เวทนา จิต ธรรม ) อย่าไปดับหรือละ เพราะเป็นการกดข่มกายใจ บังคับบัญชามิได้

แล้วมาเคลมว่า นั่นคือ สติปัฎฐานสี่อันบริบูรณ์

น่าไม่อาย แอบอ้าง

ไปตามดูกิเลสหรือนิวรณ์

แล้วมาบอกตามดูจิต เป็นสติปัฎฐานสี่ เป็นปัญญานำสมาธิ เป็นทางอันเอก ถึงจุดหมายเหมือนกัน

พวกที่เชื่อ มันก้อล้วนเป็นศิษย์อาจารย์สันชัย ก้อเท่านั้น
ตอบกลับ
0 0   
สมาชิกหมายเลข 3722212  

.........................................................................................


จากกระทู้

https://pantip.com/topic/36594644/comment18
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่