สวัสดีเจ้าคะ น้องนี้ชื่อบีนะเจ้าคะ วันนี้อยากมาแบ่งปันประสบการณ์ท่องเที่ยวให้กับเพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคน เผื่อข้อมูลที่น้องนำมาเสนอวันนี้จะเป็นประโยชน์บ้างไม่มาก ก็น้อยนะเจ้าคะ
ปกติน้องบีไม่ใช่คนพูดเพราะจะมาเจ้าคะ เจ้าขา ก็กระไรอยู่ แต่เนื่องด้วยวันนี้น้องจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ จังหวัดที่อุดมไปด้วยทรัพยากรอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ถ้ำ ล่องแพ แวะชมประวัติศาสตร์ ชาติไทย ใครรู้บ้างว่าไหนยกมือขึ้นน น น น \( ◕‿◕ )/ แฮร่!!! หัวกระทู้ก็บอกอยู่เนอะ แน่นวล ว่าต้องเป็น กาญนะจ๊ะ เอ้ย! กาญนะคะ เอ้ย! กาญจน เอ้ย! ถูกแล้ววว (เห้อ อิน้องละเพลีย มุข 5 บาท 10 บาทก็เอา)
เริ่มต้นทริปนี้มาจากน้องได้เล่นเกมส์ทางเฟสบุ๊คจากเพจท่องเที่ยว เพจหนึ่ง แล้ว เห้ยยย อิน้องได้ห้องพักฟรี ความตื่นเต้นพลุ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือด เกิดมาจนอายุอานามจะเข้าเลข 3 ชีวิตไม่เคยได้รางวี่ รางวัล อะไรกับเค้าเลย ได้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว (づ ̄ ³ ̄)づ หลังจากความตื่นเต้นผ่านพ้นไป ก็แจ้งวันและเวลาเพื่อบุ๊คห้องพัก ซึ่งก็คือ ส.-อ. ที่ 10-11 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง พอบุ๊ควันเสร็จก็รอเวลามาเรื่อย จนลืมไปว่า เอ้ยยย ใกล้ถึงแล้วนี่หว่า (เพิ่งรู้สึกตัวว่าต้องแพลนไปเที่ยว) ตอนแรกตัดสินใจว่าจะนั่งรถไฟไป แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า แต่ดันตื่นสาย ไปไม่ทันรถไฟอีก เลยมาจบที่รถตู้
การเดินทาง
บีเลือกที่จะนั่งรถตู้จาก หมอชิต เพราะเดินทางสะดวกกว่า ไปขึ้นที่สายใต้ ด้านหลังบริเวณที่จอดรถ วินรถตู้สายต่างๆ ที่ย้ายมาจากอนุสาวรีย์ ก็มีมาที่นี่นะคะ ที่บีเห็นจะมี สายไปแถบ อยุธยา / สระบุรี / กาญ ประมาณนี้คะ (ขอโทษด้วยน้า ไม่มีรูปมา อิน้องลืมถ่ายยย) ราคาวินที่หมอชิตจะแพงกว่าสายใต้ 20 บาท คือ 120 บาท
นั่งไปได้ซัก 2 ชม. ก็ถึงสถานีขนส่ง กาญจนบุรี พอลงรถก็ก้มหน้า ก้มตา เดินออกมาจากบริเวณนั่นก่อน เนื่องจากอิน้องรู้ตัวว่าเป็นคนจิตอ่อนอย่างแรง แพ้คำพูด คำถาม คำกดดัน ของคนบางกลุ่ม ฮ่าๆ (ไม่ได้ว่าคนท้องถิ่นไม่ดีน้า แต่อิน้องมีประสบการณ์ไม่ค่อยดี ในการไปเยือนเมืองกาญครั้งแรก)
แวะเข้าร้านข้าวกินข้าวก่อนดีกว่าเพราะนี่มันก็เที่ยงแล้ว ระหว่างกินข้าวก็เปิดเน็ตดู รีวิว ดูข้อมูลท่องเที่ยวกาญว่า ไปไหนดี? โจทย์ที่ตั้งไว้ในใจคือ ไม่เที่ยวในเมือง ไม่ไปไกลเกิน 100 กม. จากตัวเมือง มาเจอกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจ.กาญ นั้นก็คือ เมืองมัลลิกา เห้ย!! น่าสนใจอ่ะ เลยเปิดหาข้อมูลซักพัก เออ มีจัดดินเนอร์ให้ด้วย เอาวะ โทรจองดินเนอร์เลยแล้วกัน แต่!!! จะไปยังไง เอาหาข้อมูลสิคะรออะไร สามารถไปรถประจำทางสายไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละ บอกกระเป๋าว่า ลงเมืองมัลลิกา (ห่างจาก บขส.ประมาณ 32 กม.) แต่เราอยากทานดินเนอร์ด้วย โจทย์ยากละ ความคิดที่จะเช่ารถยนต์แว๊บ เข้ามาในหัว เลยเสริซข้อมูลและลองโทรดูปรากฏว่า ไม่มีรถว่างเลย บังเอิ๊ญ บังเอิญ ขณะที่เรากำลังถอดใจ กะว่ายังไงคงไปนอน รร.แล้วกลับละ เสียงสวรรค์ของลูกชายเจ้าของร้านข้าวตะโกนมาว่า เคยเห็นมีร้านตรง 7-11 สุดใจ อยู่ ลองไปดูสิ เราเลยเรียกตุ๊กๆ นั่งไป บอกเค้าว่าไปร้านเช่ารถยนต์ตรง เซเว่น สุดใจ เค้ารู้เลย อะ จ่ายไป 70 บาท ส่งถึงที่ เข้าไปถาม
อิน้อง : พี่คะ พี่มีรถว่างให้เช่าไหมคะ
พี่สาวร้านรถ : มีคะ แขกเพิ่งเอามาส่งเลย แต่ต้องรอหน่อยนะพี่ยังไม่ได้ล้างเลย
อิน้อง : (≧0≦) อ๊ายยย ย ย ดีใจ ไม่ต้องล้างก็ได้คะพี่ หนูไม่ถืออ (หน้ากระเหี้ยน กระหือรือ สุดๆ)
ตกลงกันได้ ค่าเช่า 1,200 บาท เป็นรถยาริส สีขาว

หลังจากได้รถมาเป็นที่เรียบร้อยก็จัดการเปิด google map ทันที และพาตัวเองไปสู่อดีต ว๊าบ บบ บ
(ตำแหน่ง GPS คะ
https://goo.gl/maps/7BtaTAjWe7o )
ถึงแล้ววว อันนี้เป็นแผนที่แสดงภายในเมืองคะ

เราต้องไปซื้อบัตร / เช่าชุด ที่อาคารสีน้ำตาล ฝั่งตรงข้ามกำแพงทางเข้า นี้ได้เลยคะ(ลืมถ่ายรูปอีกล๊ะ)
ราคาค่าบริการต่างๆ
อัตราค่าเข้าชม
บัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 250 บาท
บัตรผ่านประตูเด็ก 120 บาท
ค่าบัตรผ่านประตู+อาหารเย็นพร้อมการแสดง 700 บาท
อัตราค่าเช่าชุด
ผู้หญิง
ชุดสไบ 200 บาท
ชุดทรง 300 บาท
ผู้ชาย
เสื้อกุยเฮง 100 บาท
เสื้อราชปะแตน 300 บาท
ค่ารถลาก จะราคา 50 ต่อ 1 เที่ยว นั่งรถลากเข้าไปในเมืองได้ด้วย

เดินเข้าไปจะเจอกับสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง

(ภาพจาก Google คะ เราถ่ายมามันเบลอไปหน่อย ฮ่าๆๆ)
ซึ่งบนสะพานก็จะมีของขาย เล็กๆน้อยๆ


กุลสตรีไทย ฮ่าๆๆๆ จับลิงมาใส่ชุดไทยแท้ๆ

เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ถูกสร้างและออกแบบในสไตย์ย้อนยุคจำลองวิถีความเป็นอยู่ของชาวสยามลุ่มน้ำเจ้าพระยา สมัยรัชกาลที่ 5หลังจากประกาศเลิกทาส เข้าไปในเมืองจะเจอพ่อค้าแม่ค้า นุ่งกระโจมห่มแถบ ค้าขายด้วยถ้อยคำสุภาพ ขอรับ/เจ้าข้า ดูน่ารักไปอีกแบบ แม่ค้าทุกคนจะยิ้มแย้มแจ่มใส ร้องเรียกลูกค้าให้มาซื้อสินค้าของตัวเอง แต่ตอนเราไปถึง พ่อค้า แม่ค้า คงใกล้กลับกันหมดแล้ว เพราะเย็นมากแล้วเลยไม่ค่อยมีคน






สิ่งที่แปลกไปอีกคือการใช้เงินแลกเปลี่ยนสินค้า จะใช้เป็นเงินรู ซึ่ง 1 สตางค์ = 5 บาท เออ เกร๋อ่ะ 😆


นอกจากจะแสดงให้เห็นย่านการค้าแล้ว ยังจำลองเรือนอยู่อาศัยของคนสมัยก่อนได้อย่างลงตัว


หลังจากที่เดิน เที่ยว ถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ถึงเวลาอาหารเย็น จะบอกว่าอร่อยมากกกก ก ก (ก.ไก่ล้านตัว) เค้าจะเน้นเป็นอาหารชาววัง หาทานยาก รสชาดถูกปากเลยทีเดียวเชียวคะ
โดยเราจะไปรับประทานอาหารกันที่ เรือนหมู่

พอขึ้นเรือนไปจะถูกต้อนรับด้วยช่อกุหลาบ-จำปี หอมๆ ก่อนจะมี อีเย็น ทั้งหลาย มาพาเราไปนั่งที่คะ
อาหารจะ เริ่มต้นด้วยออร์เดิฟเป็นข้าวตังหน้าตั้ง เสริฟพร้อมกับน้ำอัญชัญ

จากนั้นไม่นานสำรับก็จะถูกยกมาวาง ในสำหรับจะมี น้ำพริกขี้กา(รสชาติคล้ายๆน้ำพริกหนุ่ม) กินกับผักเคียง / หมี่กรอบชาววัง / มัสมันไก่ / สายบัวต้มกะทิ /ยำ(ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แต่อร่อยมากกก)

และก็จะมีการแสดงให้ดูระหว่างทานอาหารด้วย เช่น รำสีนวล / ระบำลพบุรี / การแสดงโขน เป็นต้น



ช่วงเวลารับประทานอาหารจะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็น - 2 ทุ่มเลยนะคะ หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจ ตอนเดินกลับจะมีของที่ระลึกให้อีก เป็นน้ำมันหอมกลิ่นมะลิ หอมชื่นใจดีคะ
จบแล้วสำหรับทริปสั้นๆ แนะนำกันไปพอหอมปากหอมคอ หากมีข้อสงสัยตรงไหน ib มาคุยกันได้นะคะ ^_^
ปล. ที่บีไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องของห้องพัก หรือสถานที่อื่นๆที่อิน้องไป ในกระทู้นี้เนื่องจากอิน้องอยากโฟกัสไปที่เมืองมัลลิกา ถ้าเพื่อนๆพี่ๆ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมถามอิน้องมาได้เลยนะคะ ยังไงจะมาแชร์เพิ่มเติมให้ในคอมเม้นอีกทีนะคะ
อิน้องคิดเสมอว่า ความสุขเกิดขึ้นในการเดินทาง คือประสบการณ์ระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
วางแผนการเดินทางดีๆนะคะ แล้วออกไปกันเลยคะ
รักนะ จุบ จุบ :x
[ไกด์บีพาเที่ยว] ร.ศ 124 โอ้ เมืองมัลลิกา เสน่ห์ยวลเย้า ให้มาเยี่ยมชม เสพสมคืนดินถิ่นไทย @กาญ นะ จ๊ะ บุ รี
ปกติน้องบีไม่ใช่คนพูดเพราะจะมาเจ้าคะ เจ้าขา ก็กระไรอยู่ แต่เนื่องด้วยวันนี้น้องจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใกล้กรุงเทพ จังหวัดที่อุดมไปด้วยทรัพยากรอันหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นภูเขา น้ำตก ถ้ำ ล่องแพ แวะชมประวัติศาสตร์ ชาติไทย ใครรู้บ้างว่าไหนยกมือขึ้นน น น น \( ◕‿◕ )/ แฮร่!!! หัวกระทู้ก็บอกอยู่เนอะ แน่นวล ว่าต้องเป็น กาญนะจ๊ะ เอ้ย! กาญนะคะ เอ้ย! กาญจน เอ้ย! ถูกแล้ววว (เห้อ อิน้องละเพลีย มุข 5 บาท 10 บาทก็เอา)
เริ่มต้นทริปนี้มาจากน้องได้เล่นเกมส์ทางเฟสบุ๊คจากเพจท่องเที่ยว เพจหนึ่ง แล้ว เห้ยยย อิน้องได้ห้องพักฟรี ความตื่นเต้นพลุ่งพล่านอยู่ในกระแสเลือด เกิดมาจนอายุอานามจะเข้าเลข 3 ชีวิตไม่เคยได้รางวี่ รางวัล อะไรกับเค้าเลย ได้แค่นี้ก็ดีใจมากแล้ว (づ ̄ ³ ̄)づ หลังจากความตื่นเต้นผ่านพ้นไป ก็แจ้งวันและเวลาเพื่อบุ๊คห้องพัก ซึ่งก็คือ ส.-อ. ที่ 10-11 มิ.ย. ที่ผ่านมานี่เอง พอบุ๊ควันเสร็จก็รอเวลามาเรื่อย จนลืมไปว่า เอ้ยยย ใกล้ถึงแล้วนี่หว่า (เพิ่งรู้สึกตัวว่าต้องแพลนไปเที่ยว) ตอนแรกตัดสินใจว่าจะนั่งรถไฟไป แล้วค่อยไปตายเอาดาบหน้า แต่ดันตื่นสาย ไปไม่ทันรถไฟอีก เลยมาจบที่รถตู้
การเดินทาง
บีเลือกที่จะนั่งรถตู้จาก หมอชิต เพราะเดินทางสะดวกกว่า ไปขึ้นที่สายใต้ ด้านหลังบริเวณที่จอดรถ วินรถตู้สายต่างๆ ที่ย้ายมาจากอนุสาวรีย์ ก็มีมาที่นี่นะคะ ที่บีเห็นจะมี สายไปแถบ อยุธยา / สระบุรี / กาญ ประมาณนี้คะ (ขอโทษด้วยน้า ไม่มีรูปมา อิน้องลืมถ่ายยย) ราคาวินที่หมอชิตจะแพงกว่าสายใต้ 20 บาท คือ 120 บาท
นั่งไปได้ซัก 2 ชม. ก็ถึงสถานีขนส่ง กาญจนบุรี พอลงรถก็ก้มหน้า ก้มตา เดินออกมาจากบริเวณนั่นก่อน เนื่องจากอิน้องรู้ตัวว่าเป็นคนจิตอ่อนอย่างแรง แพ้คำพูด คำถาม คำกดดัน ของคนบางกลุ่ม ฮ่าๆ (ไม่ได้ว่าคนท้องถิ่นไม่ดีน้า แต่อิน้องมีประสบการณ์ไม่ค่อยดี ในการไปเยือนเมืองกาญครั้งแรก)
แวะเข้าร้านข้าวกินข้าวก่อนดีกว่าเพราะนี่มันก็เที่ยงแล้ว ระหว่างกินข้าวก็เปิดเน็ตดู รีวิว ดูข้อมูลท่องเที่ยวกาญว่า ไปไหนดี? โจทย์ที่ตั้งไว้ในใจคือ ไม่เที่ยวในเมือง ไม่ไปไกลเกิน 100 กม. จากตัวเมือง มาเจอกับสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจ.กาญ นั้นก็คือ เมืองมัลลิกา เห้ย!! น่าสนใจอ่ะ เลยเปิดหาข้อมูลซักพัก เออ มีจัดดินเนอร์ให้ด้วย เอาวะ โทรจองดินเนอร์เลยแล้วกัน แต่!!! จะไปยังไง เอาหาข้อมูลสิคะรออะไร สามารถไปรถประจำทางสายไทรโยค ทองผาภูมิ สังขละ บอกกระเป๋าว่า ลงเมืองมัลลิกา (ห่างจาก บขส.ประมาณ 32 กม.) แต่เราอยากทานดินเนอร์ด้วย โจทย์ยากละ ความคิดที่จะเช่ารถยนต์แว๊บ เข้ามาในหัว เลยเสริซข้อมูลและลองโทรดูปรากฏว่า ไม่มีรถว่างเลย บังเอิ๊ญ บังเอิญ ขณะที่เรากำลังถอดใจ กะว่ายังไงคงไปนอน รร.แล้วกลับละ เสียงสวรรค์ของลูกชายเจ้าของร้านข้าวตะโกนมาว่า เคยเห็นมีร้านตรง 7-11 สุดใจ อยู่ ลองไปดูสิ เราเลยเรียกตุ๊กๆ นั่งไป บอกเค้าว่าไปร้านเช่ารถยนต์ตรง เซเว่น สุดใจ เค้ารู้เลย อะ จ่ายไป 70 บาท ส่งถึงที่ เข้าไปถาม
อิน้อง : พี่คะ พี่มีรถว่างให้เช่าไหมคะ
พี่สาวร้านรถ : มีคะ แขกเพิ่งเอามาส่งเลย แต่ต้องรอหน่อยนะพี่ยังไม่ได้ล้างเลย
อิน้อง : (≧0≦) อ๊ายยย ย ย ดีใจ ไม่ต้องล้างก็ได้คะพี่ หนูไม่ถืออ (หน้ากระเหี้ยน กระหือรือ สุดๆ)
ตกลงกันได้ ค่าเช่า 1,200 บาท เป็นรถยาริส สีขาว
หลังจากได้รถมาเป็นที่เรียบร้อยก็จัดการเปิด google map ทันที และพาตัวเองไปสู่อดีต ว๊าบ บบ บ
(ตำแหน่ง GPS คะ https://goo.gl/maps/7BtaTAjWe7o )
ถึงแล้ววว อันนี้เป็นแผนที่แสดงภายในเมืองคะ
เราต้องไปซื้อบัตร / เช่าชุด ที่อาคารสีน้ำตาล ฝั่งตรงข้ามกำแพงทางเข้า นี้ได้เลยคะ(ลืมถ่ายรูปอีกล๊ะ)
ราคาค่าบริการต่างๆ
อัตราค่าเข้าชม
บัตรผ่านประตูผู้ใหญ่ 250 บาท
บัตรผ่านประตูเด็ก 120 บาท
ค่าบัตรผ่านประตู+อาหารเย็นพร้อมการแสดง 700 บาท
อัตราค่าเช่าชุด
ผู้หญิง
ชุดสไบ 200 บาท
ชุดทรง 300 บาท
ผู้ชาย
เสื้อกุยเฮง 100 บาท
เสื้อราชปะแตน 300 บาท
ค่ารถลาก จะราคา 50 ต่อ 1 เที่ยว นั่งรถลากเข้าไปในเมืองได้ด้วย
เดินเข้าไปจะเจอกับสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง
(ภาพจาก Google คะ เราถ่ายมามันเบลอไปหน่อย ฮ่าๆๆ)
ซึ่งบนสะพานก็จะมีของขาย เล็กๆน้อยๆ
กุลสตรีไทย ฮ่าๆๆๆ จับลิงมาใส่ชุดไทยแท้ๆ
เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ถูกสร้างและออกแบบในสไตย์ย้อนยุคจำลองวิถีความเป็นอยู่ของชาวสยามลุ่มน้ำเจ้าพระยา สมัยรัชกาลที่ 5หลังจากประกาศเลิกทาส เข้าไปในเมืองจะเจอพ่อค้าแม่ค้า นุ่งกระโจมห่มแถบ ค้าขายด้วยถ้อยคำสุภาพ ขอรับ/เจ้าข้า ดูน่ารักไปอีกแบบ แม่ค้าทุกคนจะยิ้มแย้มแจ่มใส ร้องเรียกลูกค้าให้มาซื้อสินค้าของตัวเอง แต่ตอนเราไปถึง พ่อค้า แม่ค้า คงใกล้กลับกันหมดแล้ว เพราะเย็นมากแล้วเลยไม่ค่อยมีคน
สิ่งที่แปลกไปอีกคือการใช้เงินแลกเปลี่ยนสินค้า จะใช้เป็นเงินรู ซึ่ง 1 สตางค์ = 5 บาท เออ เกร๋อ่ะ 😆
นอกจากจะแสดงให้เห็นย่านการค้าแล้ว ยังจำลองเรือนอยู่อาศัยของคนสมัยก่อนได้อย่างลงตัว
หลังจากที่เดิน เที่ยว ถ่ายรูปจนหนำใจ ก็ถึงเวลาอาหารเย็น จะบอกว่าอร่อยมากกกก ก ก (ก.ไก่ล้านตัว) เค้าจะเน้นเป็นอาหารชาววัง หาทานยาก รสชาดถูกปากเลยทีเดียวเชียวคะ
โดยเราจะไปรับประทานอาหารกันที่ เรือนหมู่
พอขึ้นเรือนไปจะถูกต้อนรับด้วยช่อกุหลาบ-จำปี หอมๆ ก่อนจะมี อีเย็น ทั้งหลาย มาพาเราไปนั่งที่คะ
อาหารจะ เริ่มต้นด้วยออร์เดิฟเป็นข้าวตังหน้าตั้ง เสริฟพร้อมกับน้ำอัญชัญ
จากนั้นไม่นานสำรับก็จะถูกยกมาวาง ในสำหรับจะมี น้ำพริกขี้กา(รสชาติคล้ายๆน้ำพริกหนุ่ม) กินกับผักเคียง / หมี่กรอบชาววัง / มัสมันไก่ / สายบัวต้มกะทิ /ยำ(ชื่ออะไรจำไม่ได้แล้ว แต่อร่อยมากกก)
และก็จะมีการแสดงให้ดูระหว่างทานอาหารด้วย เช่น รำสีนวล / ระบำลพบุรี / การแสดงโขน เป็นต้น
ช่วงเวลารับประทานอาหารจะเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเย็น - 2 ทุ่มเลยนะคะ หลังจากเสร็จสิ้นภาระกิจ ตอนเดินกลับจะมีของที่ระลึกให้อีก เป็นน้ำมันหอมกลิ่นมะลิ หอมชื่นใจดีคะ
จบแล้วสำหรับทริปสั้นๆ แนะนำกันไปพอหอมปากหอมคอ หากมีข้อสงสัยตรงไหน ib มาคุยกันได้นะคะ ^_^
ปล. ที่บีไม่ได้ลงรายละเอียดเรื่องของห้องพัก หรือสถานที่อื่นๆที่อิน้องไป ในกระทู้นี้เนื่องจากอิน้องอยากโฟกัสไปที่เมืองมัลลิกา ถ้าเพื่อนๆพี่ๆ อยากรู้อะไรเพิ่มเติมถามอิน้องมาได้เลยนะคะ ยังไงจะมาแชร์เพิ่มเติมให้ในคอมเม้นอีกทีนะคะ
อิน้องคิดเสมอว่า ความสุขเกิดขึ้นในการเดินทาง คือประสบการณ์ระหว่างการเดินทาง ไม่ใช่จุดหมายปลายทาง
วางแผนการเดินทางดีๆนะคะ แล้วออกไปกันเลยคะ
รักนะ จุบ จุบ :x