หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ เมืองไทย ๆ ที่คนไทยไม่ควรพลาด!
กระทู้รีวิว
ภาพถ่าย
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
One Day Trip
สวัสดีครับ เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสไปเที่ยวที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ไปแบบไม่ได้แพลนอะไรมาก บังเอิญเห็นใน Facebook ว่ามีสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งเพิ่งเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 ต.ค. ที่ผ่านมา ตอนแรกก็ไม่ได้กะจะเข้าไปดูหรอกครับ เพราะก็คิดว่าคงเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวที่จังหวัดอื่น ๆ ที่มี Concept ไทยย้อนยุคแค่นั้นเอง แต่ผะเอิ๊ญญญญญ!! ขับรถผ่านพอดี เลยตัดสินใจเลี้ยวเข้าไปลองดูครับว่าเป็นยังไง สถานที่นี้มีชื่อว่า เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ ครับ
เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญฯ 32 กม.
ขับรถเข้าไปก็เจอประตูโอ่อ่า ใหญ่โตอลังการ พร้อมกำแพงเมืองที่ใหญ่โตราวกับหลุดมาจากในหนังไทยที่เคย ๆ ดูกันมา แถมยังมีรถลากไว้คอยบริการอยู่ทางหน้าเมืองอีกด้วย โอ้วว! คนลากรถก็แต่งตัวชุดไทยชาวบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศ ตั้งแต่ก่อนที่จะได้เข้าไปดูข้างในดีจริง ๆ
หลังจากนั้น ก็เดินไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปข้างในครับ อัตราค่าเข้า ณ ตอนนี้ (พฤศจิกายน 2559) คือ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท ต่อคน
คราวนี้ก็เซอร์ไพรส์ไปอีก เมื่อเค้าให้แลกเหรียญสตางค์เพื่อเอาไว้ใช้ในการจับจ่ายใช้สอยภายในเมือง โอ้โหวววว!!! เกิดมาไม่คิดว่าจะได้ใช้เงินสตางค์ที่มีรูตรงกลางเหมือนกันแหละครับ ฮ่าๆๆๆ อัตราการแลกเงินก็อยู่ที่ 5 บาท ต่อ 1 สตางค์ มีให้ตั้งแต่เหรียญ 1, 2, 5 และ 10 สตางค์ครับ
ตรงทางช่องทางเดินที่ซื้อตั๋วและแลกเหรียญ สวยดี เลยหันไปแชะ พร้อมได้นางแบบมา 1 นาง (ถ้ากลางคืนผมวิ่งแน่ ฮ่าๆ)
หลังจากซื้อตั๋ว แลกเหรียญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปข้างในครับ เข้าไปก็ร้อง เชรดดด!! ดัง ๆ ยาว ๆ เลยครับ เพราะว่าสวยมาก ราวกับหลุดไปอยู่อีกเมืองจริง ๆ
เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ นี้ถือเป็น Landmark แห่งใหม่ของอำเภอไทรโยค ครับ เค้าบอกว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชนแห่งแรกในไทย และแห่งเดียวในโลกอีกด้วย!! โอ้ววว ก็ไม่ผิดแปลกมากมายจากที่เค้านิยามตัวเองไว้เท่าไหร่นะครับ เพราะข้างในก็จะแสดงวิถีชีวิตแบบไทยให้ได้เห็นจริง ๆ
เข้าไปจุดแรกที่เจอก็จะเป็นสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง
ในสะพานก็จะขายผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ตลอดสะพานเลยครับ
เดินผ่านสะพานมา ก็จะเจอชาวบ้านกำลังทำแป้งข้าวเหนียวกันอยู่ ตอกกันใหญ่ ดูจากสีหน้าแล้ว สนุกสนานน่าดูเลยนะครับ
ในส่วนข้างในก็จะเป็นร้านค้าต่าง ๆ ครับ ทั้งของกิน ร้านขายของต่าง ๆ ซึ่งบางร้านก็จะทำกันแบบสด ๆ ให้เห็นวิธีการทำตรงนั้นกันเลย เพลินดีนะครับ เพราะเราเกิดมาในยุคนี้ สิ่งที่เป็นวิถีดั้งเดิม เราก็ไม่มีโอกาสได้เห็นมากนักหรอกครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่อย่างผม ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ถ่ายรูปเพลินมากกกก ตึก อาคาร บ้านเรือนทรงไทยต่าง ๆ ก็ทำให้บรรยากาศที่นี่สงบดีนะครับ
หอคอยนี้สามารถขึ้นไปได้นะครับ แต่เสียดาย กลัวเวลาไม่พอ เลยไม่ได้ขึ้นไป อดเห็นภาพมุมสูงเลย
มีการสาธิตการดำนาและสีข้าวแบบโบราณให้ดูด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ นั่นก็คือ ชาวบ้าน (หรือเจ้าหน้าที่) จะพูด ขอรับ/เจ้าค่ะ ทุกคนจริง ๆ ย้ำว่าทุกคนจริง ขอรับ!!
อ้อ! ที่นี่มีชุดไทยโบราณให้เช่าด้วยนะครับ ราคาเช่าชุดไทย ผู้หญิง 200 บาท ผู้ชาย 100 บาท เด็ก 50 บาท ครับผม ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบนี้ก็แนะนำเลยครับ เช่าเถอะ ฮ่า ๆ ๆ
สำหรับใครที่อยากจะทานข้าวที่นี่ ก็มีให้เหมือนกันครับ อยู่บริเวณเรือนไทยใหญ่ ๆ ตรงโน้นน เห็นว่ามีการแสดงด้วยนะ แต่ผมไม่ได้เข้าไป (แอบเห็นคนที่ไปโพสต์แล้วรู้สึกเสียดายมากมาย เพราะอาหารน่ากินมากๆ ฮ่าๆ)
เอาเป็นว่าครั้งแรกที่มา เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ แบบไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมาก ก็ถือว่าน่าประทับใจมาก ๆ โดยเฉพาะคนชอบถ่ายภาพแบบผม เพราะเป็นการเที่ยวที่ถ่ายรูปเพลินมาก ๆ สถานที่สวยไปหมดทุกพื้นที่จริง ๆ ครับ
สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของทางเมืองมัลลิกา ก็สามารถเข้าไปได้ที่
https://www.facebook.com/MalikaR.E.124/
ได้นะครับ สำหรับกระทู้นี้ของผมก็ขอลาไปด้วยบุรุษผู้นี้ละกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน สวัสดีครับ
ชื่อสินค้า:
แหล่งท่องเที่ยว อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
หนีกรุง ไปนุ่งผ้าย้อนยุค ณ เมืองมัลลิกา ร.ศ.124
ทริปนี้เริ่มจากที่เราและเพื่อนอยากหาที่เที่ยวแบบใกล้ๆกรุงเทพ ขับรถแค่ 2-3 ชั่วโมงถึง เลยมาลงตัวที่กาญจนบุรี และโปรแกรมของทริปกาญนี้ ก็มี เมืองมัลลิกา รวมอยู่ในลิสต์สถานที่ท่องเที่ยวของเราในครั้งนี้ด้ว
Somewhere Someone
เมืองมัลลิการ์ ร.ศ. 124 จังหวัดกาญจนบุรี ที่เที่ยวเปิดใหม่ย้อนยุครัชกาลที่ 5: ตกลงมันน่าไปจริงรึเปล่า??
รีวิวนี้ จะบอกว่าเมืองมัลลิการ์ที่เห็นรูปสวยๆ ตกลงมีอะไร น่าไปจริงมั้ย . เราจะสรุปให้คร่าวๆ ว่าเมืองมัลลิการ์ มันคืออะไร ทำไมต้องมา มีอะไรให้ทำ เหมาะกับใคร ใช้เงินเท่าไหร่ ยุ่งยากมั้ย ข้างในมีอะไรเที
chanyal
ย้อนเวลาที่เมืองมัลลิกา ไป-กลับวันเดียวก็เที่ยวได้ แม้ไม่มีรถส่วนตัว
ปลอมตัวเป็นแม่หญิงดาวเรือง นุ่งโจงกระเบน ห่มสไบ รอขุนไกรกลับเรือน ที่เมืองมัลลิกา ร.ศ.124 เอิ่มมม...คนละยุคกันมั้ยแก!! อินจากละครสายโลหิต เห็นรูปเมืองมัลลิกา ร.ศ.124 อยู่เนืองๆ จากหน้าเฟส ชวนเพือนได้น
ชมพูพิงค์
One day : หาของกินตลาดท่าเรือ เดินเล่นไม่เบื่อที่เมืองมัลลิกา
สวัสดีครับ One day Trip กันอีกแล้ว สำหรับใครเวลามีน้อยๆ อะโน๊ะ กาญจนบุรี ก็ยังเป็นจังหวัดที่มีที่เที่ยวเยอะ จนเที่ยวไม่เคยเบื่อ ซึ่งจะว่าไกลก็ไกล อย่างสังขละ ปิล็อค จะว่าใกล้ก็ใกล้ วันนี้จะพาไปใกล
DarkcutiE Travel
ใส่ชุดไทยย้อนเวลา เที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔
ใส่ชุดไทยย้อนเวลา เที่ยวเมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ การได้ทำอะไรใหม่ๆ มักจะทำให้เราตื่นเต้นได้เสมอ และนี่เป็นอีกหนึ่งสิ่งใหม่ที่เราจะได้ทำ นั่นคือ การใส่ชุดไทยเที่ยว!!! แถมนี่ไม่ใช่แค่การใส่ชุดไทยเที่ยวแบบ
24 กันยา
[TripNote] ทริปกาญจนบุรี 4 วัน 3 คืน
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568 - GMT+07:00 🕒 08:30 น. 📌 สกายวอล์คเมืองกาญจนบุรี 💵 120 บาท เห็นว่ามอเตอร์เวย์ M81 เปิดให้บริการทั้้งเส้นแล้ว เลยมาลองไปกาญสักหน่อย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้
ภูตบูรพาน้อย
[TripNote] ทริปกาญจนบุรี 4 วัน 3 คืน
วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568 - GMT+07:00 🕒 08:30 น. 📌 สกายวอล์คเมืองกาญจนบุรี 💵 120 บาท เห็นว่ามอเตอร์เวย์ M81 เปิดให้บริการทั้้งเส้นแล้ว เลยมาลองไปกาญสักหน่อย ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึงแล้
ภูตบูรพาน้อย
สามารถเอาเหรียญสตางค์ ไปแลกเป็นเงินที่ธนาคารออมสินได้ไหม
ถ้าได้ต้องทำยังไงบ้าง
สมาชิกหมายเลข 7639555
ขี่แมงกะไซค์ไปสะพานมอญ สังขละบุรี กาญจนบุรี (Version ไร้ผู้คน) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568
จัดไป!! กับทริปท่องเที่ยวกาญจนบุรี ในช่วงวันหยุด เสาร์-อาทิตย์ ของเดือนกุมภาพันธ์ 2568 นำโดยผมกับเพื่อน ที่นัดกันแหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ตี 4.00 น. เพื่อหลีกหนีจากการจราจรอันคับคั่งและอาศัยความเย็นกาย
tuannajaa
@@ สังขละบุรี 2 วัน 1 คืน....สัมผัสวัฒนธรรม ไทย กะเหรี่ยง รามัญ @@
"สะพานไม้ ด่านเจดีย์ นทีสามประสบ มรดกทุ่งใหญ่ ไทยกะเหรี่ยงรามัญ สารพันธรรมชาติ อภิวาทหลวงพ่ออุตตมะ เมืองสังขละชายแดน สุดแคว้นตะวันตก" สวัสดีครับ นานๆจะได้ทำกระทู้ท่องเที่ยวยาวๆแบบนี้ซักที
เซเว่นหน้าหอใน
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่าย
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวไทย
จังหวัดกาญจนบุรี
One Day Trip
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 3.2 พัน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] เมืองมัลลิกา ร.ศ.๑๒๔ เมืองไทย ๆ ที่คนไทยไม่ควรพลาด!
เมืองมัลลิกาตั้งอยู่ตรงทางเข้าปราสาทเมืองสิงห์ ติดปั๊มบางจาก ต.สิงห์ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ห่างจากตัวเมืองกาญฯ 32 กม.
ขับรถเข้าไปก็เจอประตูโอ่อ่า ใหญ่โตอลังการ พร้อมกำแพงเมืองที่ใหญ่โตราวกับหลุดมาจากในหนังไทยที่เคย ๆ ดูกันมา แถมยังมีรถลากไว้คอยบริการอยู่ทางหน้าเมืองอีกด้วย โอ้วว! คนลากรถก็แต่งตัวชุดไทยชาวบ้าน ทำให้ได้บรรยากาศ ตั้งแต่ก่อนที่จะได้เข้าไปดูข้างในดีจริง ๆ
หลังจากนั้น ก็เดินไปซื้อตั๋วเพื่อเข้าไปข้างในครับ อัตราค่าเข้า ณ ตอนนี้ (พฤศจิกายน 2559) คือ ผู้ใหญ่ 150 บาท เด็ก 75 บาท ต่อคน
คราวนี้ก็เซอร์ไพรส์ไปอีก เมื่อเค้าให้แลกเหรียญสตางค์เพื่อเอาไว้ใช้ในการจับจ่ายใช้สอยภายในเมือง โอ้โหวววว!!! เกิดมาไม่คิดว่าจะได้ใช้เงินสตางค์ที่มีรูตรงกลางเหมือนกันแหละครับ ฮ่าๆๆๆ อัตราการแลกเงินก็อยู่ที่ 5 บาท ต่อ 1 สตางค์ มีให้ตั้งแต่เหรียญ 1, 2, 5 และ 10 สตางค์ครับ
ตรงทางช่องทางเดินที่ซื้อตั๋วและแลกเหรียญ สวยดี เลยหันไปแชะ พร้อมได้นางแบบมา 1 นาง (ถ้ากลางคืนผมวิ่งแน่ ฮ่าๆ)
หลังจากซื้อตั๋ว แลกเหรียญเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เดินเข้าไปข้างในครับ เข้าไปก็ร้อง เชรดดด!! ดัง ๆ ยาว ๆ เลยครับ เพราะว่าสวยมาก ราวกับหลุดไปอยู่อีกเมืองจริง ๆ
เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ นี้ถือเป็น Landmark แห่งใหม่ของอำเภอไทรโยค ครับ เค้าบอกว่าเป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมและวิถีชนแห่งแรกในไทย และแห่งเดียวในโลกอีกด้วย!! โอ้ววว ก็ไม่ผิดแปลกมากมายจากที่เค้านิยามตัวเองไว้เท่าไหร่นะครับ เพราะข้างในก็จะแสดงวิถีชีวิตแบบไทยให้ได้เห็นจริง ๆ
เข้าไปจุดแรกที่เจอก็จะเป็นสะพานหัน เพื่อข้ามไปยังในเมือง
ในสะพานก็จะขายผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง ตลอดสะพานเลยครับ
เดินผ่านสะพานมา ก็จะเจอชาวบ้านกำลังทำแป้งข้าวเหนียวกันอยู่ ตอกกันใหญ่ ดูจากสีหน้าแล้ว สนุกสนานน่าดูเลยนะครับ
ในส่วนข้างในก็จะเป็นร้านค้าต่าง ๆ ครับ ทั้งของกิน ร้านขายของต่าง ๆ ซึ่งบางร้านก็จะทำกันแบบสด ๆ ให้เห็นวิธีการทำตรงนั้นกันเลย เพลินดีนะครับ เพราะเราเกิดมาในยุคนี้ สิ่งที่เป็นวิถีดั้งเดิม เราก็ไม่มีโอกาสได้เห็นมากนักหรอกครับ ถือว่าเป็นสิ่งที่ทำให้คนรุ่นใหม่อย่างผม ตื่นตาตื่นใจไม่น้อยเลยทีเดียว
ถ่ายรูปเพลินมากกกก ตึก อาคาร บ้านเรือนทรงไทยต่าง ๆ ก็ทำให้บรรยากาศที่นี่สงบดีนะครับ
หอคอยนี้สามารถขึ้นไปได้นะครับ แต่เสียดาย กลัวเวลาไม่พอ เลยไม่ได้ขึ้นไป อดเห็นภาพมุมสูงเลย
มีการสาธิตการดำนาและสีข้าวแบบโบราณให้ดูด้วย
อีกหนึ่งสิ่งที่ผมประทับใจมาก ๆ นั่นก็คือ ชาวบ้าน (หรือเจ้าหน้าที่) จะพูด ขอรับ/เจ้าค่ะ ทุกคนจริง ๆ ย้ำว่าทุกคนจริง ขอรับ!!
อ้อ! ที่นี่มีชุดไทยโบราณให้เช่าด้วยนะครับ ราคาเช่าชุดไทย ผู้หญิง 200 บาท ผู้ชาย 100 บาท เด็ก 50 บาท ครับผม ใครที่อยากได้บรรยากาศแบบนี้ก็แนะนำเลยครับ เช่าเถอะ ฮ่า ๆ ๆ
สำหรับใครที่อยากจะทานข้าวที่นี่ ก็มีให้เหมือนกันครับ อยู่บริเวณเรือนไทยใหญ่ ๆ ตรงโน้นน เห็นว่ามีการแสดงด้วยนะ แต่ผมไม่ได้เข้าไป (แอบเห็นคนที่ไปโพสต์แล้วรู้สึกเสียดายมากมาย เพราะอาหารน่ากินมากๆ ฮ่าๆ)
เอาเป็นว่าครั้งแรกที่มา เมืองมัลลิกา ร.ศ. ๑๒๔ แบบไม่ได้รู้ข้อมูลอะไรมาก ก็ถือว่าน่าประทับใจมาก ๆ โดยเฉพาะคนชอบถ่ายภาพแบบผม เพราะเป็นการเที่ยวที่ถ่ายรูปเพลินมาก ๆ สถานที่สวยไปหมดทุกพื้นที่จริง ๆ ครับ
สำหรับใครที่อยากทราบข้อมูลเพิ่มเติม หรือกิจกรรมต่าง ๆ ของทางเมืองมัลลิกา ก็สามารถเข้าไปได้ที่ https://www.facebook.com/MalikaR.E.124/
ได้นะครับ สำหรับกระทู้นี้ของผมก็ขอลาไปด้วยบุรุษผู้นี้ละกัน ขอบคุณที่เข้ามาอ่าน สวัสดีครับ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น