เห็นช่วงนี้มีกระทู้ถามเรื่อง ชีวิตเด็กฝึก ในเกาหลี เยอะมาก
บังเอิญวันก่อนเจอคลิปสารคดีของช่อง MBC ในยูทูปเลยเปิดดู เกี่ยวกับเรื่องนี้พอดีเลยเก็บมาฝาก
ดูแล้วชีวิตเด็กฝึกเกาหลี ลำบากมาก
คลิปนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2016 จะเล่าสรุปคร่าวๆ ให้ฟังเพราะคลิปไม่มีซับ
ปล.ไม่รู้ว่ามีคนเคยโพสต์ไปหรือยังนะ เพราะหาคร่าวๆ ไม่เจอ ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยค่า
160419 PD수첩 아이돌, 연습생의 눈물
cr. ช่อง 모두다큐
ช่วงแรก เปิดรายการ produce101 ซีซั่น1 ไปสัมภาษณ์คนที่เชียร์คิมโซเฮ พวกแฟนผู้ชายบอกว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นไปถึงเบื้องหลังชีวิตเด็กฝึกที่ทำอย่างตั้งใจจริงเลยประทับใจ
ต่อมารายการไปสัมภาษณ์วงที่เตรียมเดบิวท์ ตอนชั่งน้ำหนัก เมเนเจอร์บอกเด็กฝึกว่าต้องลดอีก 600กรัม ถ้าลดไม่ได้ก็ไม่ได้เดบิวท์
ช่วงเวลาฝึกของเทรนนีอย่างน้อย 2 ปี - 7ปี
เด็กฝึกบอกว่า ทุกคนจะตั้งเป้าไว้ที่การเดบิวท์ แต่พอเดบิวท์ไม่ได้อารมณ์ก็จะเหมือนโดนทิ้งอยู่ในทะเลทราย มองไปรอบข้างไม่มีใคร
ในรายการจะสัมภาษณ์อดีตไอดอล "เมดานี" เด็กฝึกที่ได้เดบิวท์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เด็กผู้หญิงคนแรก เมดานี เต้นเก่ง ร้องเพลงเก่ง ได้รางวัลเยอะแยะ เริ่มเป็นเด็กฝึกในค่ายใหญ่ตั้งแต่อายุ11 ได้ฉายาทั้ง โบอาคนที่2, เซเว่นคนที่2 (ฉายานี้คนที่ดูคลิปคอมเม้นบอกไว้ หลายๆ คนยังจำเพลงกับตัวนักร้องได้อยู่เลย)
ฝึกอยู่ 4 ปี ต่อมามีหัวหน้าทีมคนใหม่เข้ามาและวิจารณ์ว่าเธอร้องเพลงผิด ให้เริ่มเรียนร้องใหม่หมดตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน
ตอนนั้นเธอยังเด็กแค่ประมาณ 13 ก็บอกว่ารู้สึกช็อกไปเลย แถมเพื่อนคนอื่นก็เริ่มมีจับกลุ่ม บางคนก็จะส่งไปทางสายจีนก็มีให้เรียนภาษาจีน
มีคนไปอเมริกาไปฝึก ส่วนตัวเองแค่ฝึกร้องและเต้น พอมองดูว่าไม่มีวี่แววว่าจะได้เดบิวท์เลยออกจากค่ายนั้น มาออดิชั่นเข้าที่ค่ายที่ 2 ตอนอายุ 15ปี ค่ายที่2 ฝึกๆ ไปค่ายมีแผนจะตีตลาดต่างประเทศเลยบอกจะส่งไปเมืองนอก แต่พ่อแม่เห็นว่าแค่16 เลยยังไม่ให้ไปเมืองนอกคนเดียว
ตกลงสรุปกันไม่ได้เลยออกมาเข้าค่ายที่3 ก็ฝึกไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็บอกอีกปีได้เด ต่อมาก็บอกต้องไปไดเอตก่อนก็ผลัดไปอีก 1 ปี
สุดท้ายก็เธอก็ต้องออกมาอยู่ค่ายที่ 4 ถึงได้เดบิวท์ตอนอายุ 19 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
มีไปออกซิงเกิลที่ญี่ปุ่นด้วย แต่ก็ได้แค่ไปร้องเพลงในผับ แบบที่มีผู้ชายวัยกลางคนมากินเหล้า กับมีผู้หญิงนั่งรินเหล้า
มันไม่ใช่ภาพชีวิตนักร้องที่เธอฝันไว้เลย เธอก็เลยยกเลิกสัญญาและกลับเกาหลี
พอจะมาเข้าค่ายใหม่ ค่ายใหม่ก็ติว่าฝึกมา 8 ปีได้แค่นี้เหรอ
เธอก็เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เล็กมาเธอฝึกแต่ร้องกับเต้นมาตลอด
จนมีอยู่วันนึงจู่ๆ มือก็ชาจนแบมือไม่ได้ จนเรียกพี่ทีมงานให้ช่วยแกะมือออกจากไมค์ให้ที เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
อยากอาเจียน คล้ายจะเป็นบ้าไปเลย จากนั้นก็ต้องกินยาเพื่อลดความเครียด
ที่เป็นแบบนั้น เป็นเพราะเธอรู้สึกเครียดและวิตกกังวลจากการกดดันของค่ายมาก
ที่บ้านแม่ก็เล่าให้ฟังว่า เมดานีมีพี่สาวอีกคนมุ่งหวังจะเป็นไอดอลเหมือนกัน
ได้เป็นเด็กฝึกแต่สุดท้ายไม่ได้เดบิวท์ และกลายเป็นโรคเครียด จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องกินยา
แม่ยังฝากเตือนพ่อแม่คนอื่นว่าอย่าให้ลูกเข้าฝึกตั้งแต่ยังเด็กไป
เพราะต้องเจอกับคนหลายระดับซึ่งคนพวกนั้นก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเด็กแบบละมุ่นละม่อมแต่อย่างไร และมันทิ้งแผลในใจให้กับเด็ก
หมอเองก็ออกมาพูดแบบนั้น
เด็กฝึกผู้หญิงอีกคนมาเล่าว่า แค่เข้าห้องเทสไปก็โดนบอกให้ทำศัลยกรรม พวกเขาจะตำหนิแทบทุกจุดเลย
บอกว่าตรงตาต้องไปทำแบบนี้ หน้าผากตรงแบบนี้ ต้องทำจมูก น้ำหนักก็ต้องลด ทั้งที่ตอนนั้นเธอหนักแค่ 45กกเอง
เด็กฝึกผู้ชาย ทั้งที่หน้าตาดีอยู่แล้วแต่ก็จะโดนติเรื่องสันกราม บอกให้ควบคุมน้ำหนัก จะโดนเมเนเจอร์เรียกชั่งน้ำหนัก เช็คให้หนักไม่เกินที่กำหนด สูง 170 กว่า แต่ต้องคุมน้ำหนักให้ไม่เกิน 57 กก. เขาโดนติเรื่องหน้าบ่อยๆ โดนให้ไปฉีดโบท๊อกที่หน้าด้วย จนเขายังคิดจะไปเหลากรามด้วยซ้ำ ...
คนนี้โดนติโน่นตินี่ตลอดจนรู้สึกเครียด หมดความมั่นใจ จนสุดท้ายเขาก็ไม่เอาชีวิตเด็กฝึกแล้วและตัดสินใจไปเกณฑ์ทหารตอน24
เรื่องการเรียน เด็กฝึกเล่าว่า ส่วนใหญ่ค่ายก็จะมีปล่อยให้ไปเรียน แต่เด็กฝึกจะเลือกลาออกหรือพักการเรียนมาฝึกเอง
เฉพาะค่ายใหญ่ถึงจะมีเงินใช้ ส่วนค่ายเล็ก เด็กฝึกต้องทำงานพิเศษหาเงินเอง
สุดท้ายเลยมาถึงเรื่องสปอนเซอร์ เด็กฝึกผู้หญิงเล่าว่า ทางค่ายจะมาถามชวนเด็กฝึกว่าจะเอาสปอนเซอร์มั้ย ถ้าปฏิเสธก็บอกไม่ต้องฝึกต่อแล้ว
พวกนายทุนเห็นเด็กฝึกตอนไหน ก็คือพวกนี้จะมาเยี่ยมที่ค่ายฝึก ดูตอนซ้อมเต้น ถ้าดูว่าถูกใจคนไหน ก็จะให้ครูฝึกมาชักชวน ครูฝึกจะโน้มน้าวว่าเดือนนึงเจอแค่ครั้งสองครั้งได้ 5 ล้านวอน(คิดคร่าวๆ ประมาณ แสนห้า) เด็กฝึกก็ยังบอกว่า ตัวเองแม้จะเป็นคนหัวโบราณตอนนั้นก็ยังรู้สึกหวั่นไหวอยากจะไปลองเลย ต่อมาเด็กฝึกผู้ชายคนนึงเล่าว่า เขาฝึกเต้นอยู่ ครูสอนก็จะเรียกเขาไปเจอสปอนเซอร์ที่เป็นผู้หญิง พอไปเจอผู้หญิงก็ให้เงิน ให้ของ พอต่อมาก็โทรมาชวนให้ไปนอน พอเด็กฝึกปฏิเสธไปว่าเธอมีสามีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็บอกสามีไม่อยู่ เหงา ถ้าเด็กฝึกไม่ไปเจอ สุดท้ายผู้หญิงก็จะเอารายการของกับเงินที่ให้ทั้งหมดขึ้นมาพูดถึงพร้อมจะทวงของคืน เด็กฝึกคนนี้ก็เลยบอกว่าถ้าได้เดบิวท์สำเร็จจะหาเงินคืนให้
เด็กฝึกคนนี้สุดท้ายรับเงินกับของมาเกือบ20ล้านวอน(ประมาณหกแสน) เพราะตอนแรกคนรอบข้างก็เชียร์ให้รับๆ ไว้
เรื่องค่าใช้จ่ายของเด็กฝึก
จุดประสงค์อย่างนึงที่ทำให้วัยรุ่นอยากเป็นไอดอล คือ ได้เงินเยอะ
แต่ความเป็นจริงก็อย่างที่มีข่าวของวง AOA เดบิวท์มา 3 ปีเพิ่งมีรายได้, วงสเตลล่า กายอง ชิวตหลังเดบิวท์ 5ปีก็ยังลำบาก, โจควอน ช่วงแรกเดบิวท์แล้วก็ยังไม่มีเงิน วงตาฮิติ เดบิวท์มานานแล้วยังไม่มีรายได้เลย
ทางรายการสอบถามไปตามค่ายต่างๆ ว่าคิดหนี้สินของเด็กฝึกยังไง แต่ค่ายที่เปิดเผยสุดท้ายมีแค่คิวป์ ที่อื่นอ้างเป็นความลับทางธุรกิจ
คิวป์บอกค่าใช้จ่ายเด็กฝึก เดือนนึงประมาณ 1-3ล้านวอน ถ้ามีรายได้จะหักหนี้ที่มีก่อน
เด็กฝึกบอกว่าอยู่หอ ก็คือการสร้างหนี้ เพราะงั้นเขาเลยไม่อยู่หอของบริษัท
เด็กฝึกหมวกแดงเล่าว่า เขาก็แค่ไปซ้อมเต้นกับเด็กฝึกคนอื่น ไม่มีครู ไม่มีอะไรพิเศษเลย พอบอกจะยกเลิกสัญญาเด็กฝึก ก็เจอบิลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย เป็นพวกค่าใช้ห้องซ้อมเต้น เพราะยกเลิกสัญญาจึงโดนเรียกเก็บ ถ้ายังฝึกต่อก็จะได้สิทธิพิเศษนี้ไป (แต่จริงๆ ก็เป็นหนี้ตอนหลังอยู่ดี)
ช่วงหลังของรายการจะพูดถึงคนที่อยากเข้าวงการจนโดนหลอกเก็บเงินจนเป็นข่าว
มีพูดถึงเรื่องบริษัทที่หลอกเก็บเงินแลกกับโอกาสเข้าแคสติ้งในงานแสดง บางคนเสียไปตั้ง5 ล้านวอนก็ไม่ได้เรียกไปแคสติ้ง
โฆษณาหลอกให้จ่ายเงิน 5 ล้านวอนแลกกับการเดบิวท์ในเกิรล์กรุ๊ป สัญญาว่าว่าฝึกแค่ 5-6เดือนเท่านั้น
ต่อมาก็เป็นเรื่องของค่ายเพลงที่ตั้งปลอมๆ ไม่มีอยู่จริง จนเป็นข่าวช่วงปี 2014
สุดท้าย อดีตเด็กฝึก ก็ออกมาบอกว่า รู้ไว้ละกันว่าเดบิวท์มันยากแค่ไหน แต่บอกไปแล้วก็พวกคุณก็ยังคงไปลองอยู่ดี
ส่วนอีกคน พอโดนถามก็บอกว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เข้าไปเป็นเด็กฝึก
[Kpop] ชวนดูสารดดีเปิดชีวิตเคล้าน้ำตาของเด็กฝึกไอดอล
บังเอิญวันก่อนเจอคลิปสารคดีของช่อง MBC ในยูทูปเลยเปิดดู เกี่ยวกับเรื่องนี้พอดีเลยเก็บมาฝาก
ดูแล้วชีวิตเด็กฝึกเกาหลี ลำบากมาก
คลิปนี้ออกมาตั้งแต่ปี 2016 จะเล่าสรุปคร่าวๆ ให้ฟังเพราะคลิปไม่มีซับ
ปล.ไม่รู้ว่ามีคนเคยโพสต์ไปหรือยังนะ เพราะหาคร่าวๆ ไม่เจอ ถ้าซ้ำก็ขออภัยด้วยค่า
160419 PD수첩 아이돌, 연습생의 눈물
cr. ช่อง 모두다큐
ช่วงแรก เปิดรายการ produce101 ซีซั่น1 ไปสัมภาษณ์คนที่เชียร์คิมโซเฮ พวกแฟนผู้ชายบอกว่าเป็นครั้งแรกที่เห็นไปถึงเบื้องหลังชีวิตเด็กฝึกที่ทำอย่างตั้งใจจริงเลยประทับใจ
ต่อมารายการไปสัมภาษณ์วงที่เตรียมเดบิวท์ ตอนชั่งน้ำหนัก เมเนเจอร์บอกเด็กฝึกว่าต้องลดอีก 600กรัม ถ้าลดไม่ได้ก็ไม่ได้เดบิวท์
ช่วงเวลาฝึกของเทรนนีอย่างน้อย 2 ปี - 7ปี
เด็กฝึกบอกว่า ทุกคนจะตั้งเป้าไว้ที่การเดบิวท์ แต่พอเดบิวท์ไม่ได้อารมณ์ก็จะเหมือนโดนทิ้งอยู่ในทะเลทราย มองไปรอบข้างไม่มีใคร
ในรายการจะสัมภาษณ์อดีตไอดอล "เมดานี" เด็กฝึกที่ได้เดบิวท์แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
เด็กผู้หญิงคนแรก เมดานี เต้นเก่ง ร้องเพลงเก่ง ได้รางวัลเยอะแยะ เริ่มเป็นเด็กฝึกในค่ายใหญ่ตั้งแต่อายุ11 ได้ฉายาทั้ง โบอาคนที่2, เซเว่นคนที่2 (ฉายานี้คนที่ดูคลิปคอมเม้นบอกไว้ หลายๆ คนยังจำเพลงกับตัวนักร้องได้อยู่เลย)
ฝึกอยู่ 4 ปี ต่อมามีหัวหน้าทีมคนใหม่เข้ามาและวิจารณ์ว่าเธอร้องเพลงผิด ให้เริ่มเรียนร้องใหม่หมดตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน
ตอนนั้นเธอยังเด็กแค่ประมาณ 13 ก็บอกว่ารู้สึกช็อกไปเลย แถมเพื่อนคนอื่นก็เริ่มมีจับกลุ่ม บางคนก็จะส่งไปทางสายจีนก็มีให้เรียนภาษาจีน
มีคนไปอเมริกาไปฝึก ส่วนตัวเองแค่ฝึกร้องและเต้น พอมองดูว่าไม่มีวี่แววว่าจะได้เดบิวท์เลยออกจากค่ายนั้น มาออดิชั่นเข้าที่ค่ายที่ 2 ตอนอายุ 15ปี ค่ายที่2 ฝึกๆ ไปค่ายมีแผนจะตีตลาดต่างประเทศเลยบอกจะส่งไปเมืองนอก แต่พ่อแม่เห็นว่าแค่16 เลยยังไม่ให้ไปเมืองนอกคนเดียว
ตกลงสรุปกันไม่ได้เลยออกมาเข้าค่ายที่3 ก็ฝึกไปเรื่อยๆ ตอนแรกก็บอกอีกปีได้เด ต่อมาก็บอกต้องไปไดเอตก่อนก็ผลัดไปอีก 1 ปี
สุดท้ายก็เธอก็ต้องออกมาอยู่ค่ายที่ 4 ถึงได้เดบิวท์ตอนอายุ 19 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ
มีไปออกซิงเกิลที่ญี่ปุ่นด้วย แต่ก็ได้แค่ไปร้องเพลงในผับ แบบที่มีผู้ชายวัยกลางคนมากินเหล้า กับมีผู้หญิงนั่งรินเหล้า
มันไม่ใช่ภาพชีวิตนักร้องที่เธอฝันไว้เลย เธอก็เลยยกเลิกสัญญาและกลับเกาหลี
พอจะมาเข้าค่ายใหม่ ค่ายใหม่ก็ติว่าฝึกมา 8 ปีได้แค่นี้เหรอ
เธอก็เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่เล็กมาเธอฝึกแต่ร้องกับเต้นมาตลอด
จนมีอยู่วันนึงจู่ๆ มือก็ชาจนแบมือไม่ได้ จนเรียกพี่ทีมงานให้ช่วยแกะมือออกจากไมค์ให้ที เธอรู้สึกหายใจไม่ออก
อยากอาเจียน คล้ายจะเป็นบ้าไปเลย จากนั้นก็ต้องกินยาเพื่อลดความเครียด
ที่เป็นแบบนั้น เป็นเพราะเธอรู้สึกเครียดและวิตกกังวลจากการกดดันของค่ายมาก
ที่บ้านแม่ก็เล่าให้ฟังว่า เมดานีมีพี่สาวอีกคนมุ่งหวังจะเป็นไอดอลเหมือนกัน
ได้เป็นเด็กฝึกแต่สุดท้ายไม่ได้เดบิวท์ และกลายเป็นโรคเครียด จนถึงตอนนี้ก็ยังต้องกินยา
แม่ยังฝากเตือนพ่อแม่คนอื่นว่าอย่าให้ลูกเข้าฝึกตั้งแต่ยังเด็กไป
เพราะต้องเจอกับคนหลายระดับซึ่งคนพวกนั้นก็ไม่ได้ปฏิบัติกับเด็กแบบละมุ่นละม่อมแต่อย่างไร และมันทิ้งแผลในใจให้กับเด็ก
หมอเองก็ออกมาพูดแบบนั้น
เด็กฝึกผู้หญิงอีกคนมาเล่าว่า แค่เข้าห้องเทสไปก็โดนบอกให้ทำศัลยกรรม พวกเขาจะตำหนิแทบทุกจุดเลย
บอกว่าตรงตาต้องไปทำแบบนี้ หน้าผากตรงแบบนี้ ต้องทำจมูก น้ำหนักก็ต้องลด ทั้งที่ตอนนั้นเธอหนักแค่ 45กกเอง
เด็กฝึกผู้ชาย ทั้งที่หน้าตาดีอยู่แล้วแต่ก็จะโดนติเรื่องสันกราม บอกให้ควบคุมน้ำหนัก จะโดนเมเนเจอร์เรียกชั่งน้ำหนัก เช็คให้หนักไม่เกินที่กำหนด สูง 170 กว่า แต่ต้องคุมน้ำหนักให้ไม่เกิน 57 กก. เขาโดนติเรื่องหน้าบ่อยๆ โดนให้ไปฉีดโบท๊อกที่หน้าด้วย จนเขายังคิดจะไปเหลากรามด้วยซ้ำ ...
คนนี้โดนติโน่นตินี่ตลอดจนรู้สึกเครียด หมดความมั่นใจ จนสุดท้ายเขาก็ไม่เอาชีวิตเด็กฝึกแล้วและตัดสินใจไปเกณฑ์ทหารตอน24
เรื่องการเรียน เด็กฝึกเล่าว่า ส่วนใหญ่ค่ายก็จะมีปล่อยให้ไปเรียน แต่เด็กฝึกจะเลือกลาออกหรือพักการเรียนมาฝึกเอง
เฉพาะค่ายใหญ่ถึงจะมีเงินใช้ ส่วนค่ายเล็ก เด็กฝึกต้องทำงานพิเศษหาเงินเอง
สุดท้ายเลยมาถึงเรื่องสปอนเซอร์ เด็กฝึกผู้หญิงเล่าว่า ทางค่ายจะมาถามชวนเด็กฝึกว่าจะเอาสปอนเซอร์มั้ย ถ้าปฏิเสธก็บอกไม่ต้องฝึกต่อแล้ว
พวกนายทุนเห็นเด็กฝึกตอนไหน ก็คือพวกนี้จะมาเยี่ยมที่ค่ายฝึก ดูตอนซ้อมเต้น ถ้าดูว่าถูกใจคนไหน ก็จะให้ครูฝึกมาชักชวน ครูฝึกจะโน้มน้าวว่าเดือนนึงเจอแค่ครั้งสองครั้งได้ 5 ล้านวอน(คิดคร่าวๆ ประมาณ แสนห้า) เด็กฝึกก็ยังบอกว่า ตัวเองแม้จะเป็นคนหัวโบราณตอนนั้นก็ยังรู้สึกหวั่นไหวอยากจะไปลองเลย ต่อมาเด็กฝึกผู้ชายคนนึงเล่าว่า เขาฝึกเต้นอยู่ ครูสอนก็จะเรียกเขาไปเจอสปอนเซอร์ที่เป็นผู้หญิง พอไปเจอผู้หญิงก็ให้เงิน ให้ของ พอต่อมาก็โทรมาชวนให้ไปนอน พอเด็กฝึกปฏิเสธไปว่าเธอมีสามีแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็บอกสามีไม่อยู่ เหงา ถ้าเด็กฝึกไม่ไปเจอ สุดท้ายผู้หญิงก็จะเอารายการของกับเงินที่ให้ทั้งหมดขึ้นมาพูดถึงพร้อมจะทวงของคืน เด็กฝึกคนนี้ก็เลยบอกว่าถ้าได้เดบิวท์สำเร็จจะหาเงินคืนให้
เด็กฝึกคนนี้สุดท้ายรับเงินกับของมาเกือบ20ล้านวอน(ประมาณหกแสน) เพราะตอนแรกคนรอบข้างก็เชียร์ให้รับๆ ไว้
เรื่องค่าใช้จ่ายของเด็กฝึก
จุดประสงค์อย่างนึงที่ทำให้วัยรุ่นอยากเป็นไอดอล คือ ได้เงินเยอะ
แต่ความเป็นจริงก็อย่างที่มีข่าวของวง AOA เดบิวท์มา 3 ปีเพิ่งมีรายได้, วงสเตลล่า กายอง ชิวตหลังเดบิวท์ 5ปีก็ยังลำบาก, โจควอน ช่วงแรกเดบิวท์แล้วก็ยังไม่มีเงิน วงตาฮิติ เดบิวท์มานานแล้วยังไม่มีรายได้เลย
ทางรายการสอบถามไปตามค่ายต่างๆ ว่าคิดหนี้สินของเด็กฝึกยังไง แต่ค่ายที่เปิดเผยสุดท้ายมีแค่คิวป์ ที่อื่นอ้างเป็นความลับทางธุรกิจ
คิวป์บอกค่าใช้จ่ายเด็กฝึก เดือนนึงประมาณ 1-3ล้านวอน ถ้ามีรายได้จะหักหนี้ที่มีก่อน
เด็กฝึกบอกว่าอยู่หอ ก็คือการสร้างหนี้ เพราะงั้นเขาเลยไม่อยู่หอของบริษัท
เด็กฝึกหมวกแดงเล่าว่า เขาก็แค่ไปซ้อมเต้นกับเด็กฝึกคนอื่น ไม่มีครู ไม่มีอะไรพิเศษเลย พอบอกจะยกเลิกสัญญาเด็กฝึก ก็เจอบิลเรียกเก็บค่าใช้จ่าย เป็นพวกค่าใช้ห้องซ้อมเต้น เพราะยกเลิกสัญญาจึงโดนเรียกเก็บ ถ้ายังฝึกต่อก็จะได้สิทธิพิเศษนี้ไป (แต่จริงๆ ก็เป็นหนี้ตอนหลังอยู่ดี)
ช่วงหลังของรายการจะพูดถึงคนที่อยากเข้าวงการจนโดนหลอกเก็บเงินจนเป็นข่าว
มีพูดถึงเรื่องบริษัทที่หลอกเก็บเงินแลกกับโอกาสเข้าแคสติ้งในงานแสดง บางคนเสียไปตั้ง5 ล้านวอนก็ไม่ได้เรียกไปแคสติ้ง
โฆษณาหลอกให้จ่ายเงิน 5 ล้านวอนแลกกับการเดบิวท์ในเกิรล์กรุ๊ป สัญญาว่าว่าฝึกแค่ 5-6เดือนเท่านั้น
ต่อมาก็เป็นเรื่องของค่ายเพลงที่ตั้งปลอมๆ ไม่มีอยู่จริง จนเป็นข่าวช่วงปี 2014
สุดท้าย อดีตเด็กฝึก ก็ออกมาบอกว่า รู้ไว้ละกันว่าเดบิวท์มันยากแค่ไหน แต่บอกไปแล้วก็พวกคุณก็ยังคงไปลองอยู่ดี
ส่วนอีกคน พอโดนถามก็บอกว่าถ้าย้อนเวลากลับไปได้จะไม่เข้าไปเป็นเด็กฝึก