✿✿แชร์ประสบการณ์ ♥ริรักกับหนุ่มญี่ปุ่น♥ เมื่อความบังเอิญทำให้เราได้มาเจอกัน✿✿ (●^o^●) ตอนที่ 14

สวัสดี อันดามัน ^^


พอมาขึ้นสปีดโบ๊ท พวกเราก็ถูกชาวจีนกลุ่มใหญ่เบียดเสียดแย่งที่นั่งกัน จุดมุ่งหมายของทุกคนคือที่นั่งด้านหลังสุดเพราะเปิดเห็นวิวดีที่สุด (แต่ก็น่าจะโดนแดดเยอะสุดเช่นกัน) เราเลยหันไปมองที่นั่งข้างๆคนขับเรือว่าตรงนี้มันนั่งได้มั้ย? แต่ก็คิดว่ามันไม่ได้เพราะมันดูแบบ Vip เกิน มีเบาะนั่งสบายแถมมีหลังคานั่งแบบในร่ม แต่พี่ไกด์เค้าก็บอกได้ๆ แล้วบอกเราว่านึกว่าเราเป็นคนจีนซะอีก ตกใจเลยที่พูดไทยใส่ 5555 สรุปคือที่นั่งพวกเราได้แบบดีสุดๆเลยค่ะ นักท่องเที่ยวชาวจีนหันมามองคู่เราแบบหมันไส้หน่อยๆ (พวกเค้าคงคิดว่าที่ตรงนี้นั่งไม่ได้เหมือนกัน) ขอกราบขอบพระคุณพี่ๆไกด์ผู้ใจดีด้วยนะคะ บริการแบบ Vip สุดๆเลย (^/\^)





ในกรุ๊ปทัวร์ของเราส่วนใหญ่ 60% เป็นชาวจีน แล้วก็มีฝรั่งและประเทศอื่นปะปนกันไป มีเราเป็นนักท่องเที่ยวคนไทยคนเดียว และแฟนเราก็เป็นคนญี่ปุ่นคนเดียวในทัวร์เหมือนกัน (รู้สึกแปลกไปเลย) พอเรือเริ่มแล่น สายลมและกลิ่นน้ำทะเลปลิวปะทะหน้า พี่ไกด์ก็บอกคงใช้เวลาแล่นเรือประมาณ 1 ชั่วโมง กว่าจะไปถึงตามจุดท่องเที่ยวต่างๆ เราและหนุ่มญี่ปุ่นหันมองหน้ากัน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพวกเราต่างคนต่างเพลียเพราะไม่ค่อยได้นอน เรายิ้มน้อยๆให้พี่เค้าก่อนที่เราจะเอาหัวพิงซบไหล่เค้าหลับ และพี่เค้าก็เอนมาพิงหัวเราหลับเช่นกัน อา... รู้สึกดีจัง (*´꒳`*)

พอไปถึงเกาะ พวกเราก็ถูกตราตรึงด้วยวิวทิวทัศน์ที่สวยเหมือนเกาะสวรรค์ โอ้ววววว! นี่สินะทะเลอันดามัน มันสวยมากมายจริงๆ (*゚▽゚*) ถ้าเทียบกับทะเลอ่าวไทยแล้ว มันสวยคนละแบบ แต่โดยส่วนตัวแล้วเราชอบทะเลอันดามันมากกว่าค่ะ เป็นทะเลที่สวยจนตะลึงมากๆเลย







พวกเราเดินลงสปีดโบ๊ทด้วยเท้าเปล่า (ไกด์ให้เก็บรองเท้าไว้บนเรือ) เท้าของพวกเราได้สัมผัสกับหาดทรายสีขาวนุ่มละมุนราวกับแป้ง หนุ่มญี่ปุ่นชมไม่หยุดปากว่าทะเลไทยสวยมาก! ทำไมทรายมันถึงได้นุ่มขนาดนี้!? รู้สึกดีมากๆเลยค่ะ แต่แดดก็แรงมากๆเช่นกัน 55555
พวกเรายืนถ่ายรูปกันสักพักและขึ้นไปจุดชมวิว ระหว่างทางปีนขึ้นไปจะลำบากหน่อย เพราะไม่มีรองเท้าใส่ เราและคุณแฟนเหยียบหินเล็กๆหลายครั้ง มันเจ็บเท้ามากจริงๆ ต้องค่อยๆพยุงกันขึ้นไป ทั้งร้อน ทั้งเจ็บเท้า ทั้งเหงื่อ แต่พอขึ้นมาเห็นวิวเท่านั้นแหละ โอ้วแม่เจ้า! มันสวยมากกกกกกกกก!!! เกาะสิมิลันนี่สวยสมคำร่ำลือ สวยแบบบรรยายไม่ถูก น้ำใสมาก สวยมาก วิวก็หลักล้าน คุ้มสุดๆที่ได้มา แต่อากาศวันนี้ก็ร้อนนรกมากๆค่ะ! ประมาณ 42c สามารถย่างคนให้สุกได้เลยทีเดียว ร้อนจนแสบผิว ร้อนจนต้องร้องขอชีวิต! มองกันอีกทีก็เหงื่อไหลหยดย้อยทั้งหน้าทั้งตัว อยากถ่ายรูปให้เยอะกว่านี้แต่มันร้อนนนนนนนนน แง T_____T





เรือพาพวกเรามาแวะอีกที่ เป็นจุดที่ให้นักท่องเที่ยวดำน้ำดูปะการัง น้ำใสมากเห็นน้องปลาน้อยน่ารักหลายตัวเลย พวกเราก็ใส่อุปกรณ์ดำน้ำและโดดลงน้ำทันที ตอนนั้นรู้สึกเหมือนกำลังได้อยู่อีกโลกหนึ่ง โลกใต้ทะเล มีปะการังและปลาตัวน้อยแสนสวยว่ายไปมาอยู่ใกล้ๆเรา แทบไม่ต้องคิดถึงเรื่องอื่นๆเลย และวันนี้พวกเราโชคดีมากกกกกค่ะ เจอเต่าทะเลตั้ง 3 ตัว มีแต่ตัวใหญ่ๆทั้งนั้น พวกมันสวยมากจริงๆ แต่ไกด์บอกห้ามจับมันนะคะ เดี๋ยวอาจจะโดนงับเอาได้ (ดูใกล้ๆยิ่งแอบกลัว) ดำน้ำกันไปสักพัก หนุ่มญี่ปุ่นขอขึ้นเรือไปก่อนแล้ว ส่วนเรายังคงดำน้ำมองหาน้องปลาน้อยต่อไป ด้วยความที่เราว่ายไปไกลกว่าเพื่อน อยู่ดีๆเราก็รู้สึกมีอะไรสักอย่างแข็งๆมาเบียดๆตรงไหล่ข้างขวาของเรา พอเราหันไปนี่กรี๊ดแตกทันทีเลยค่ะ (ò[]óˇ)! น้องเต่าทะเล! น้องเต่าทะเลมาเบียดช้านนนนนนน!!! .°(ಗдಗ。)°. เราตกใจมากพยายามตะเกียกตะกายหนี ด้วยความที่ว่ายน้ำไม่เป็นมีแค่เสื้อชูชีพแบกร่างไว้เราเลยลอยแบบเป๋ๆแขนปัดไปทางเท้าเตะไปทาง และที่รู้คือเตะโดนน้องเต่าทะเลไป 2 ที โดยที่ไม่ได้ตั้งใจ (เค้าขอโทษ TT) น้องเต่าเลยว่ายน้ำหนีไป (คงโกรธเราน่าดู) ตอนนี้เราทั้งเหนื่อยทั้งหอบทั้งกลัวเหมือนจะจม ไอโขลกๆ สำลักน้ำไปหลายทีมาก ใจนี่หล่นไปอยู่ใต้เท้า ไม่มีแรงว่ายน้ำต่อ พี่ไกด์เลยว่ายเข้ามาหาเราแล้วถามเราว่าเป็นอะไรรึเปล่า? เราเลยบอกเค้าว่าตะกายกลับไม่ไหวแล้วพี่หมดแรง พี่ไกด์เลยยื่นมือมาให้เราจับแล้วเค้าก็ว่ายลากเรากลับขึ้นเรือ (ขอบพระคุณค่ะ -/\-) หนุ่มญี่ปุ่นผู้อยู่บนเรือและไม่รู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก็เห็นเรากับไกด์จับมือกันว่ายน้ำมา -0- เราจำหน้าตอนนั้นของคุณแฟนได้แม่นเลยค่ะ หน้าพี่แกแบบมองแรงมาที่เรา มีการจ้องด้วยสีหน้าด่าเงียบๆด้วยแววตา นั่นพี่แกหึงใช่ม้ายยยย!? 55555 พอไกด์ส่งเราขึ้นเรือแล้วเราบอกขอบคุณเค้าไป หนุ่มญี่ปุ่นก็เลยเข้าใจ เพราะเราสภาพแบบอิดโรยมาก สักพักไกด์ก็เรียกนักท่องเที่ยวให้ขึ้นและเรือก็แล่นต่อไปยังอีกเกาะเพื่อพักรับประทานอาหารเที่ยง และพักผ่อนตามอัธยาศัย




พวกเรานอนกลิ้งอยู่บนหาดทราย นั่งถ่ายรูป ดูปู เก็บเปลือกหอย เรามองคุณแฟนที่กำลังเล่นน้ำอย่างสนุกสนาน สักพักพี่แกก็มานอนแผ่หล่าอยู่บนหาด เราคิดว่าพี่เค้าคงจะมีความสุขมาก เพราะเค้าดูผ่อนคลายและเอ็นจอยสุดๆ ช่วงประมาณสัก 4 โมงเย็น พี่ไกด์เรียกขึ้นเรืออีกครั้ง เพื่อเดินทางกลับ ก่อนกลับมีการมาถามเราว่ามาฮันนีมูนครั้งนี้สนุกมั้ย? เรานี่หน้าเหวอเลยค่ะ (-[]-!) เลยบอกเค้าว่าพาแฟนมาเที่ยวเฉยๆค่ะ ในใจนี่แอบเคืองนิดหน่อย (นี่หน้าตูดูเหมือนคนแต่งงานแล้วหรอฟะ!?) พอหันไปมองหน้าหนุ่มญี่ปุ่น ฮันนีมูนเร๊อะ!? ม่ายมีทางงงงงงงง!!! อนาคตของเรายังอีกยาวไกล เรายังสาว เรายังติดเที่ยว เรายังมีอะไรๆต้องทำอีกเยอะ เราคิดแบบนั้นจริงๆค่ะคุณผู้อ่านข๋าาาา 5555

เรือกำลังแล่นกลับ พวกเรานั่งพิงกันหลับ ขอบอกตามตรงว่าวันนี้เป็นอีกวันที่เหนื่อยล้ามากๆ เหมือนใช้พลังงานไปเยอะ คงเป็นเพราะอากาศร้อนและว่ายน้ำ พอมาถึงรถตู้ พวกเราก็ซวยอีกรอบเพราะได้นั่งแยกกัน แง~~ พอกลับไปถึงที่พัก พวกเราก็อาบน้ำและพากันไปเที่ยวแสงสียามค่ำคืนของหาดป่าตอง ความรู้สึกคล้ายกับอยู่ Walking Street พัทยายังไงอย่างงั้นเลยค่ะ แต่พวกเราไม่ได้พากันไปดื่มนะคะ คืนนั้นฝนตกด้วย ไปนั่งกินข้าวกันแล้วก็กลับ และนี่ก็เป็นอีกวันที่มีความทรงจำที่ดีมากๆสำหรับพวกเรา ไว้ถ้ามีโอกาสจะกลับมาที่นี่อีกนะ อันดามันที่รัก (^___^)

ไว้มาตามต่อตอนหน้านะคะ (^o^)

อ่านย้อนหลังได้ที่ https://pantip.com/topic/36438136
อ่านตอนถัดไปได้ที่ https://pantip.com/topic/36657236

ฝากเพจของพวกเราด้วยนะคะ https://web.facebook.com/nekocouplestory/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่