เราเป็นเด็กต่างอำเภอค่ะ มีเงินใช้ดีไม่ขัดสน จนม.ต้นเราต้องย้ายมาเรียนในเมืองเลยมาอยู่หอครูที่เป็นพื่อนสนิทของแม่ ต่าหอ 6000 ต่อเดือน ถ้าจะเปิดแอร์ต้องจ่ายเพิ่มเดือนละ 600 กำหนดเวลาเปิด 1 ทุ่ม - 7 โมงเช้า ถ้าเดือนไหนเปิดเกินเวลาก็เดือนละ 1,000 เลย อยู่ที่บ้านเราแค่นอน อาบน้ำ ไม่ทานข้าวเลยสักมื้อคือสรุปอยู่ที่นี่เพื่อนอนอย่างเดียว เป็นอย่างนี้ตลอด 2 ปีกว่าค่ะ จนตอนนี้เราม.3 เลยต้องเรียนพิเศษหนักเพราะใกล้สอบเข้าเลิกดึกเราเลยโทรให้ครูที่หอ(เราเรียกว่าอาค่ะ)มารับหน่อยเพราะมันดึกบ้านอยู่แถวชานเมืองเราไม่กล้านั่งรถกลับ พอเป็นแบบนี้เขากลับบอกว่าไม่ว่าง ทำไมไม่รู้จักจัดสรรเวลาให้ดีมันเดือดร้อนคนอื่นเงินต่ามารับมาส่งก็ไม่มีสารพัด เราได้แต่คิดว่าเงินค่าหอพักมันไม่พอสำหรับเขาหรอคะเงินเดือนหนึ่งตกประมานเดือนละ 7,000 กับการที่เราแค่นอนบ้านเขา ใช้ห้องน้ำ (นอกนั้นเราไม่ใช้เลยค่ะแค่ปริ้นท์งานเรายังไปปริ้นท์ข้างนอก) มันไม่คุ้นค่าหรอคะ แค่ไปรับเรามันเหลือบ่ากว่าแรงมากหรอ แล้วเขาจะเป็นพวกชอบพูดจาประชดหรือเถียงไม่หยุดคิดว่าตัวเองถูกอยู่ตลอด เวลาเราออกไปทานข้าวข้างนอกก็ชอบพูดประมาณว่าบ้านรวยจังนะ ที่บ้านก็มีกับข้าวไม่ยอมทาน พอเราเปลี่ยนมาทานที่บ้านก็บอกว่าไม่ไปกินข้างนอกแล้วหรือไง (จากนั้นเราก้ตัดสินใจทานร้านมาตลอด) เราเคยปรึกษากับแม่ว่าอยากไปอยู่ข้างนอกแต่แม่ไม่ยอมให้ไป โอเคเราทนอยู่ต่อได้แต่หลังจากนี้เรามีเรื่องอะไรอึดอัดไม่สบายใจจากที่เราปรึกษาแม่ได้กลายเป็นว่าแม่เชื่อเขาหมด เราบอกแม่เรื่องเราเลิกเรียนดึก(ประมาน1-2ทุ่ม) สรุปแม่ต้องจ้างรถรับส่งให้เราเพิ่มอีกเพราะเขาไม่ว่างมารับ เราต้องลงเรียนวิชาใหม่จากที่เคยเรียนที่สาขาก็ต้องเรียน dvd ที่บ้านแทน เรารุ้สึกว่าเราพยายามปรับตัวในหลายๆอย่างแต่เขาไม่คิดจะทำเลย ทุกวันนี้นอกจากจะเครียดเรื่องที่เรียน กดดันจากการเรียนเรายังต้องมาคอยรับปัญหาพวกนี้อีก เราอึดอัดท้อแท้ไปหมดไม่รู้จะเล่าให้ใครฟัง ตอนนี้รู้สึกเหมือนเป็นเด็กเก็บกด นอนร้องไห้ก่อนนอนทุกคืนจนบางครั้งก้แอบคิดว่าอยากตายไปให้พ้นๆ เรากลัวมากว่าตัวเองจะเป็นโรคซึมเศร้าไม่รู้เลยจริงๆว่าต้องยังไงกับสถานการณ์แบบนี้
ความกดดันความอึดอัดความเศร้าของเด็กคนนึง