จะขอรีวิวเลยแล้วกันครับ
ผมเคยพาพ่อไปสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ผ่าน
ครั้งนี้จะไปคนเดียว (ผมเป็นม้งนะครับ)
จะไปเยี่ยมพี่สาวที่ Wisconsin
สิ่งที่ได้มาจากพี่สาวคือ ใบสัญชาติ แค่นั้นจริง ๆ เพราะพี่สาวเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน
ดูสิ่งที่ผมเตรียม (นอกเหนือจาก แบบฟอร์ม DS-160, ใบคอนเฟิร์มการจ่ายเงินค่าขอวีซ่า และรูปถ่าย ที่ต้องมีอยู่แล้ว)
ใบเสียภาษา ของปีที่แล้ว (ผมออกจากงานตั้งแต่เดือน กุมภา 59) เงินต่อปี 300,000
ใบพาณิชย์ปลูกสตรอเบอร์รี่ และมีใบรับรอง GAP พร้อมรูปถ่ายครับ
ผมนัดไว้ 8.30 น. ครับ
ไปถึง ก็ 8.20 น. ต่อคิวกันไป
ด่านแรก จะตรวจ ใบนัดสัมภาษณ์ ครับ ว่าตรงไหม
จากนั้นจะเข้าไปข้างใน ถ้ามีกระเป๋าไม่ต้องเสียตังค์ฝากที่ไหนครับ เจ้าหน้าที่ จะรับฝากไว้ และมีป้ายไว้ห้อยที่ข้อมือให้เรา
จากนั้นก็เข้าไป ข้างในอีกชั้นหนึ่ง
ชั้นนี้จะมี นศ.ฝึกงาน หนึ่งคน กับ เจ้าหน้าที่ ผญ. อู้กำเมือง อีกหนึ่งคน (สำเนียงนครพิงค์)
สิ่งที่เขาจะเก็บไว้คือ ใบสมัคร DS-160 ใบจ่ายเงิน รูปถ่าย และพาสปอร์ต ของเราครับ
หลังจากนั้น เขาจะให้ หมายเลขมา เราก็จะมานั่งรอเข้าโรงเชือดกัน ฮ่า ๆ ๆ
มีคนมาก่อนผม 13 คน ให้ทายว่าทำไมผมรู้? เพราะว่าผมได้เบอร์ 14 ไง ครับ
จากนั้นก็รอ...... รอ....... เข้าห้องน้ำ......กินน้ำ........รอ........รอ......... จากคิว 5, 6, 7, 8, 9,10, 11, 12, 13, 17.....
ผมนี่แบบ อ้าววววววว งงดิ แต่ก็รอ รอ เรียกไปถึงโน้น คิวที่ 23 จนถึง ผม
อธิบายก่อนว่า ข้างในจะมี สามช่องครับ ช่อง 1 และ 3 เหมือนเป็นการถามทั่ว ๆ ไป จากคนไทย และ สแกน นิ้วมือ ครับ
สุดท้าย หมายเลข 14 ก็ปรากฎบนบอร์ดดดด ช่อง 3
เจ้าหน้าที่คนไทยครับ เป็น ผช ถามว่า อยู่ที่ไหน บ้านเลขที่อะไร ตำบลอะไร จังหวัดอะไร ผมนี่เหวอเลย แทบจะยื่นทะเบียนบ้านให้ไม่ทัน
จนพี่เขาบอกว่า พอดีในใบสมัครไม่ได้ระบุว่า อยู่ที่ไหน
ค่อยโล่งอก
ถามต่อเรื่องอาชีพ เสร็จก็ให้ออกไปรอ คือ ยังไม่ได้การสัมภาษณ์ขอวีซ่า ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไร
ก็รอ.... รอ..... รอ........ มีแต่คนเดินคอตกออกมา คนม้งไปสัมภาษณ์กันเยอะมาก แต่ตกหมดเลย
คุยกับบางคน มีเงินเป็นล้าน ขายเสื้อผ้า มีใบพาณิชย์ ภาษี แต่ก็ไม่ได้
จนถึงคิวผม
ตื่นเต้นมาก
เดินเข้าไปที่ช่อง 2 เป็น ผญ. ฝรั่ง หน้าตาใจดี ฮ่า ๆ ๆ
ผมชิงถามก่อนเลย
"Hi, how are you this morning?"
"Good, thank you." "You are an English teacher?"
"Yes, I am."
"Where are you going?"
"I plan to visit my elder sister; she lives in Wisconsin."
"Who are you going with?"
"Alone."
แล้วเขาก็พิมพ์ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ
"Have you ever applied for the U.S. visa?"
"Yes, last October with my dad in Bangkok."
"You should bring you dad today."
พิมพ์ ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก
"I also have a strawberry's farm call "ไร่สตรอเบอร์รี่อาก๋ง" it is a tourist attraction as people can come and pick up the strawberries themselves. You will be welcome if you come."
พร้อมกับยื่น ใบรับรองการปลูกสตรอเบอร์รี่มาตรฐาน GAP ให้เขา แล้วก็มีรูปประกอบการปลูก คนมาเที่ยว
"Haha. Thank you very much."
"Are you single?"
"Yes, I am."
พิมพ์ ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก
"Your visa has been approved. We will send it to the address given. Thank you."
(ดีใจมากตอนนั้น)
"Thank you."
แล้วรีบเดินมา ก่อนเขาจะเปลี่ยนใจ
รู้สึกว่า จนท.ใจดีมาก (ใจดีกว่า จนท.ผช ค่อนข้างมีอายุ ผิวดำที่ กรุงเทพฯ) แต่แอบสงสัยว่า ทำไมคนม้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยสักคน
เคล็ดลับหนึ่งในขณะสัมภาษณ์คือ เวลาที่เราอธิบายอะไร อย่าลืม เอาเอกสารยื่นให้เขา ขณะอธิบาย เขาจะบ่ายเบี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่การพูดลอย ๆ ครับ
รอลุ้นว่า จะได้กี่ปี
[CR] รีวิว ขอวีซ่า เมกา วันนี้ครับ (สถานทูตเชียงใหม่)
ผมเคยพาพ่อไปสัมภาษณ์ที่กรุงเทพฯ แต่ไม่ผ่าน
ครั้งนี้จะไปคนเดียว (ผมเป็นม้งนะครับ)
จะไปเยี่ยมพี่สาวที่ Wisconsin
สิ่งที่ได้มาจากพี่สาวคือ ใบสัญชาติ แค่นั้นจริง ๆ เพราะพี่สาวเป็นแม่บ้าน ไม่ได้ทำงาน
ดูสิ่งที่ผมเตรียม (นอกเหนือจาก แบบฟอร์ม DS-160, ใบคอนเฟิร์มการจ่ายเงินค่าขอวีซ่า และรูปถ่าย ที่ต้องมีอยู่แล้ว)
ใบเสียภาษา ของปีที่แล้ว (ผมออกจากงานตั้งแต่เดือน กุมภา 59) เงินต่อปี 300,000
ใบพาณิชย์ปลูกสตรอเบอร์รี่ และมีใบรับรอง GAP พร้อมรูปถ่ายครับ
ผมนัดไว้ 8.30 น. ครับ
ไปถึง ก็ 8.20 น. ต่อคิวกันไป
ด่านแรก จะตรวจ ใบนัดสัมภาษณ์ ครับ ว่าตรงไหม
จากนั้นจะเข้าไปข้างใน ถ้ามีกระเป๋าไม่ต้องเสียตังค์ฝากที่ไหนครับ เจ้าหน้าที่ จะรับฝากไว้ และมีป้ายไว้ห้อยที่ข้อมือให้เรา
จากนั้นก็เข้าไป ข้างในอีกชั้นหนึ่ง
ชั้นนี้จะมี นศ.ฝึกงาน หนึ่งคน กับ เจ้าหน้าที่ ผญ. อู้กำเมือง อีกหนึ่งคน (สำเนียงนครพิงค์)
สิ่งที่เขาจะเก็บไว้คือ ใบสมัคร DS-160 ใบจ่ายเงิน รูปถ่าย และพาสปอร์ต ของเราครับ
หลังจากนั้น เขาจะให้ หมายเลขมา เราก็จะมานั่งรอเข้าโรงเชือดกัน ฮ่า ๆ ๆ
มีคนมาก่อนผม 13 คน ให้ทายว่าทำไมผมรู้? เพราะว่าผมได้เบอร์ 14 ไง ครับ
จากนั้นก็รอ...... รอ....... เข้าห้องน้ำ......กินน้ำ........รอ........รอ......... จากคิว 5, 6, 7, 8, 9,10, 11, 12, 13, 17.....
ผมนี่แบบ อ้าววววววว งงดิ แต่ก็รอ รอ เรียกไปถึงโน้น คิวที่ 23 จนถึง ผม
อธิบายก่อนว่า ข้างในจะมี สามช่องครับ ช่อง 1 และ 3 เหมือนเป็นการถามทั่ว ๆ ไป จากคนไทย และ สแกน นิ้วมือ ครับ
สุดท้าย หมายเลข 14 ก็ปรากฎบนบอร์ดดดด ช่อง 3
เจ้าหน้าที่คนไทยครับ เป็น ผช ถามว่า อยู่ที่ไหน บ้านเลขที่อะไร ตำบลอะไร จังหวัดอะไร ผมนี่เหวอเลย แทบจะยื่นทะเบียนบ้านให้ไม่ทัน
จนพี่เขาบอกว่า พอดีในใบสมัครไม่ได้ระบุว่า อยู่ที่ไหน
ค่อยโล่งอก
ถามต่อเรื่องอาชีพ เสร็จก็ให้ออกไปรอ คือ ยังไม่ได้การสัมภาษณ์ขอวีซ่า ไม่ต้องยื่นเอกสารอะไร
ก็รอ.... รอ..... รอ........ มีแต่คนเดินคอตกออกมา คนม้งไปสัมภาษณ์กันเยอะมาก แต่ตกหมดเลย
คุยกับบางคน มีเงินเป็นล้าน ขายเสื้อผ้า มีใบพาณิชย์ ภาษี แต่ก็ไม่ได้
จนถึงคิวผม
ตื่นเต้นมาก
เดินเข้าไปที่ช่อง 2 เป็น ผญ. ฝรั่ง หน้าตาใจดี ฮ่า ๆ ๆ
ผมชิงถามก่อนเลย
"Hi, how are you this morning?"
"Good, thank you." "You are an English teacher?"
"Yes, I am."
"Where are you going?"
"I plan to visit my elder sister; she lives in Wisconsin."
"Who are you going with?"
"Alone."
แล้วเขาก็พิมพ์ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ ต๊อก ๆ ๆ ๆ ๆ
"Have you ever applied for the U.S. visa?"
"Yes, last October with my dad in Bangkok."
"You should bring you dad today."
พิมพ์ ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก
"I also have a strawberry's farm call "ไร่สตรอเบอร์รี่อาก๋ง" it is a tourist attraction as people can come and pick up the strawberries themselves. You will be welcome if you come."
พร้อมกับยื่น ใบรับรองการปลูกสตรอเบอร์รี่มาตรฐาน GAP ให้เขา แล้วก็มีรูปประกอบการปลูก คนมาเที่ยว
"Haha. Thank you very much."
"Are you single?"
"Yes, I am."
พิมพ์ ต๊อก ต๊อก ต๊อก ต๊อก
"Your visa has been approved. We will send it to the address given. Thank you."
(ดีใจมากตอนนั้น)
"Thank you."
แล้วรีบเดินมา ก่อนเขาจะเปลี่ยนใจ
รู้สึกว่า จนท.ใจดีมาก (ใจดีกว่า จนท.ผช ค่อนข้างมีอายุ ผิวดำที่ กรุงเทพฯ) แต่แอบสงสัยว่า ทำไมคนม้งก่อนหน้านี้ไม่ได้เลยสักคน
เคล็ดลับหนึ่งในขณะสัมภาษณ์คือ เวลาที่เราอธิบายอะไร อย่าลืม เอาเอกสารยื่นให้เขา ขณะอธิบาย เขาจะบ่ายเบี่ยงไม่ได้ และไม่ใช่การพูดลอย ๆ ครับ
รอลุ้นว่า จะได้กี่ปี