สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์การสัมภาษณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวประเทศอเมริกาค่ะ
ขอบอกรายละเอียดตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นนักศึกษาอยู่ปี 3 คุณแม่เป็นสปอนเซอร์ให้ (แม่เรามีเงินในบัญชีแค่ 200,000) เราไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อน มีไปแค่ที่เดียวคืออเมริกาเมื่อปีที่แล้ว (2017) ด้วยวีซ่า J1 โครงการ WAT ค่ะ พาสปอร์ตเราเลยโล่งมากก !!
วิธีการกรอก ds160 หาดูในพันทิพได้เลยค่ะ เราก็หาจากพันทิพ สำคัญคือกรอกเองและตามความจริงนะคะ เราเป็นนักศึกษาช่องใส่รายละเอียดเลยกรอกน้อยมากๆ
เราไปกับแฟนที่มีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้ว และเคยเดินทางเข้า-ออก อเมริกาแล้ว 3 ครั้งค่ะ
เราได้รอบสัมภาษณ์วันที่ 4 มิ.ย. 61 รอบ 08.45 เราไปถึงสถานทูต 08.15 เค้าให้เข้าไปด้านในเลยค่ะ ไปนั่งรอเรียกคิว จนถึงคิวเรา (ขอข้ามขั้นตอนสแกนนิ้วนะคะ) คนสัมภาษณ์ด่านสุดท้ายก่อนหน้าเรา ตกกันหลายคนมากกก
*เราแอบสังเกตว่าคนไหนที่เค้าคุยด้วยนานๆ เค้าจะไม่ให้ผ่าน แต่คนไหนที่คุยแปบเดียวจะผ่าน*
จนถึงคิวเรา วันนี้ที่เราไปมีท่านทูต 3 คน ช่องแรกเป็นฝรั่งผมฟูๆ หนุ่มๆ ใส่แว่น ช่องที่สองผู้หญิงผิวสีผู้เลื่องลือให้คนตกเยอะมากกกก ช่องสุดท้ายคุณลุงหน้าจีนดูใจดี เราได้ช่องแรกนะคะ หนุ่มแว่นผมฟู นี่คือคำถามที่เราโดนนะคะ ขอแทนคนสัมว่า US แทนตัวเองว่า ME ค่า
US : Good morning , How are you ?
ME : Good morning , I'm good. Thank you and you ?
US : I'm good. Why do you want to go to the US ?
ME : I would like to travel in New York , Washington and Boston with my boyfriend. (พูดไปยิ้มไปเยอะๆค่ะ เราต้องมั่นใจ555)
US : (พิมพ์ๆๆๆ แล้วเงยหน้ามองเรา) Oh , Do you study at Thammasat university ?
ME : Yes , I study in Faculty ..... (บลาๆ บอกรายละเอียดคณะที่เรียน สาขา ชั้นปี ตอนนี้เราแอบมองว่าเมื่อไหร่จะเก็บพาสปอร์ตเราไป55) This is the certificate from my university (เรายื่นใบรับรองกับใบเกรดให้เลยค่ะ เค้ายังไม่ทันขอ เรารีบยื่นก่อนเลย555)
US : (ยืนดูใบเกรดเราสักพัก) Your visa has been approved. Have a good trip !
ME : Thank you, Have a good day
แล้วเราก็รีบกรี๊ดออกมาเลยค่ะ5555 คือก่อนไปสัมเราอ่านรีวิวเยอะมากๆๆ แล้วก็กลัวมากก แต่พอได้ไปจริง ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ ถ้าเรามั่นใจ

แนะนำคนที่จะไปสัมนะคะ อย่าอ่านรีวิวเยอะ ไม่งั้นจะจิตตกค่ะ ถ้าเราพูดความจริง กรอก ds เอง ผ่านอยู่แล้วค่ะ สู้ๆ นะคะ ✌🏻
รีวิว สัมภาษณ์วีซ่าอเมริกา ง่ายมากกว่าที่คิด !!
ขอบอกรายละเอียดตัวเองก่อนนะคะ เราเป็นนักศึกษาอยู่ปี 3 คุณแม่เป็นสปอนเซอร์ให้ (แม่เรามีเงินในบัญชีแค่ 200,000) เราไม่เคยไปต่างประเทศมาก่อน มีไปแค่ที่เดียวคืออเมริกาเมื่อปีที่แล้ว (2017) ด้วยวีซ่า J1 โครงการ WAT ค่ะ พาสปอร์ตเราเลยโล่งมากก !!
วิธีการกรอก ds160 หาดูในพันทิพได้เลยค่ะ เราก็หาจากพันทิพ สำคัญคือกรอกเองและตามความจริงนะคะ เราเป็นนักศึกษาช่องใส่รายละเอียดเลยกรอกน้อยมากๆ
เราไปกับแฟนที่มีวีซ่าอเมริกาอยู่แล้ว และเคยเดินทางเข้า-ออก อเมริกาแล้ว 3 ครั้งค่ะ
เราได้รอบสัมภาษณ์วันที่ 4 มิ.ย. 61 รอบ 08.45 เราไปถึงสถานทูต 08.15 เค้าให้เข้าไปด้านในเลยค่ะ ไปนั่งรอเรียกคิว จนถึงคิวเรา (ขอข้ามขั้นตอนสแกนนิ้วนะคะ) คนสัมภาษณ์ด่านสุดท้ายก่อนหน้าเรา ตกกันหลายคนมากกก
*เราแอบสังเกตว่าคนไหนที่เค้าคุยด้วยนานๆ เค้าจะไม่ให้ผ่าน แต่คนไหนที่คุยแปบเดียวจะผ่าน*
จนถึงคิวเรา วันนี้ที่เราไปมีท่านทูต 3 คน ช่องแรกเป็นฝรั่งผมฟูๆ หนุ่มๆ ใส่แว่น ช่องที่สองผู้หญิงผิวสีผู้เลื่องลือให้คนตกเยอะมากกกก ช่องสุดท้ายคุณลุงหน้าจีนดูใจดี เราได้ช่องแรกนะคะ หนุ่มแว่นผมฟู นี่คือคำถามที่เราโดนนะคะ ขอแทนคนสัมว่า US แทนตัวเองว่า ME ค่า
US : Good morning , How are you ?
ME : Good morning , I'm good. Thank you and you ?
US : I'm good. Why do you want to go to the US ?
ME : I would like to travel in New York , Washington and Boston with my boyfriend. (พูดไปยิ้มไปเยอะๆค่ะ เราต้องมั่นใจ555)
US : (พิมพ์ๆๆๆ แล้วเงยหน้ามองเรา) Oh , Do you study at Thammasat university ?
ME : Yes , I study in Faculty ..... (บลาๆ บอกรายละเอียดคณะที่เรียน สาขา ชั้นปี ตอนนี้เราแอบมองว่าเมื่อไหร่จะเก็บพาสปอร์ตเราไป55) This is the certificate from my university (เรายื่นใบรับรองกับใบเกรดให้เลยค่ะ เค้ายังไม่ทันขอ เรารีบยื่นก่อนเลย555)
US : (ยืนดูใบเกรดเราสักพัก) Your visa has been approved. Have a good trip !
ME : Thank you, Have a good day
แล้วเราก็รีบกรี๊ดออกมาเลยค่ะ5555 คือก่อนไปสัมเราอ่านรีวิวเยอะมากๆๆ แล้วก็กลัวมากก แต่พอได้ไปจริง ไม่มีอะไรน่ากลัวเลยค่ะ ถ้าเรามั่นใจ
แนะนำคนที่จะไปสัมนะคะ อย่าอ่านรีวิวเยอะ ไม่งั้นจะจิตตกค่ะ ถ้าเราพูดความจริง กรอก ds เอง ผ่านอยู่แล้วค่ะ สู้ๆ นะคะ ✌🏻