ปกติ 2 ทุ่ม จะทำวัตรเย็นพร้อมวิทยุหลวงตามหาบัว และนั่งสมาธิพร้อมฟังวิทยุหลวงตา 1 กันฑ์ เริ่มทำได้ประมาณ 2 เดือนกว่า มีความเบาสะบายไม่ฟุ้งซ่าน อะไร เพราะรู้สึกว่านั่งแล้วเวลาไปทำงานไม่ง่วง ความจำก็ดีขึ้น และได้พบอาการนึงขึ้นมา
วันที่ 1 ได้เจอปัญหารบกวนจิตใจอย่างมากจิตก็คิดฟุ้งซ่านแต่จดจ่ออยู่ในเรื่องเดียว จึงบอกกับตัวเองว่า จะคิดมากทำไมตอนนี้มาสวดมนต์ไหว้พระ "วาง" เมื่อบอกตัวเองว่าวาง จิตได้รวมตัวกันเข้ามา แล้ววูปไป ร่างกาย หายไป ความรู้ตัวหายไป ลมหายใจหายไป ไม่มีเสียงใดๆเข้ามากระทบ จนเกือบ 1 ชม. จิตจึงคลายตัวออกมา เมื่อออกมาแล้วมีแต่ความสุข ร่างกายไม่ปวดเมื่อย มีกำลังเต็มที่ สิ่งที่เคยคิดกังวล กลับหายเบาบางไป ปิติเอิบอิ่มเต็มที่
วันที่ 2,3,4 เมื่อสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ ทำท่านั่งสมาธิแค่วางขาเข้าท่านั่ง จิตก็สามารถรวมวูปไป จนประมาณ 1 ชม. เหมือนเดิม จึงถอนออกมารับรู้สิ่งภายนอก เมื่อวันที่ 3 ก็เกิดความสงสัยจิตลองตั้งสติดูว่าทำไมมันรวมเร็วจัง นั่งปุ๊บก็ลองนับดู นับได้ถึง 3 มันก็รวมเข้า จึงมั่นใจว่าไม่ใช่หลับใน และเกิดความสงสัยว่า เรายังหายใจอยู่รึปล่าว ขณะที่หายไป (ทุกวันจะได้รับความอิ่มเอิบใจ มีความสุขเต็มที่เหมือนอยู่อีกโลกนึง )
วันที่ 5 เมื่อสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ เข้าท่านั่งแล้วจิตก็รวมก็วูปไปอีก แล้วเกิดเหมือนจิตถอยออกมา เห็นสภาพโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระหน้าที่เรานั่งอยู่ช้ดเจน และเหมือนมีอีกร่างนึง ออกมากจากตัวแต่ออกมาเพียงครึ่งเดียว เอี้ยวตัวมาดูเห็นตัวเองนั่งอยู่และนั่งหายใจอยู่ เมื่อรับรู้ว่าหายใจอยู่ ก็กลับเข้าไปและรวมสงบเหมือนเดิม ไม่ได้ตกใจอะไร เหมือนรู้แล้วก็กลับเข้าไป จนครบเวลา จิตก็ถอนตัวออกมาเช่นเดิม แต่เกิดอาการปวดเอวปวดหลังเพิ่มขึ้นมา (ขณะนั้นไม่ได้มีครูบาอาจารย์ให้สอบถามหาในอินเตอร์เนตก็ไม่มี จึงคิดเอาเองว่าคงไม่ถูกทางเพราะไม่รู้อะไรเลย จึงหยุดนั่ง ไป 1 สัปดาห์) กลับมานั่งใหม่ ก็ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว
ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่าคืออะไร
ร่างกายหาย ลมหายใจหาย
วันที่ 1 ได้เจอปัญหารบกวนจิตใจอย่างมากจิตก็คิดฟุ้งซ่านแต่จดจ่ออยู่ในเรื่องเดียว จึงบอกกับตัวเองว่า จะคิดมากทำไมตอนนี้มาสวดมนต์ไหว้พระ "วาง" เมื่อบอกตัวเองว่าวาง จิตได้รวมตัวกันเข้ามา แล้ววูปไป ร่างกาย หายไป ความรู้ตัวหายไป ลมหายใจหายไป ไม่มีเสียงใดๆเข้ามากระทบ จนเกือบ 1 ชม. จิตจึงคลายตัวออกมา เมื่อออกมาแล้วมีแต่ความสุข ร่างกายไม่ปวดเมื่อย มีกำลังเต็มที่ สิ่งที่เคยคิดกังวล กลับหายเบาบางไป ปิติเอิบอิ่มเต็มที่
วันที่ 2,3,4 เมื่อสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ ทำท่านั่งสมาธิแค่วางขาเข้าท่านั่ง จิตก็สามารถรวมวูปไป จนประมาณ 1 ชม. เหมือนเดิม จึงถอนออกมารับรู้สิ่งภายนอก เมื่อวันที่ 3 ก็เกิดความสงสัยจิตลองตั้งสติดูว่าทำไมมันรวมเร็วจัง นั่งปุ๊บก็ลองนับดู นับได้ถึง 3 มันก็รวมเข้า จึงมั่นใจว่าไม่ใช่หลับใน และเกิดความสงสัยว่า เรายังหายใจอยู่รึปล่าว ขณะที่หายไป (ทุกวันจะได้รับความอิ่มเอิบใจ มีความสุขเต็มที่เหมือนอยู่อีกโลกนึง )
วันที่ 5 เมื่อสวดมนต์ แผ่เมตตาเสร็จ เข้าท่านั่งแล้วจิตก็รวมก็วูปไปอีก แล้วเกิดเหมือนจิตถอยออกมา เห็นสภาพโต๊ะหมู่บูชาในห้องพระหน้าที่เรานั่งอยู่ช้ดเจน และเหมือนมีอีกร่างนึง ออกมากจากตัวแต่ออกมาเพียงครึ่งเดียว เอี้ยวตัวมาดูเห็นตัวเองนั่งอยู่และนั่งหายใจอยู่ เมื่อรับรู้ว่าหายใจอยู่ ก็กลับเข้าไปและรวมสงบเหมือนเดิม ไม่ได้ตกใจอะไร เหมือนรู้แล้วก็กลับเข้าไป จนครบเวลา จิตก็ถอนตัวออกมาเช่นเดิม แต่เกิดอาการปวดเอวปวดหลังเพิ่มขึ้นมา (ขณะนั้นไม่ได้มีครูบาอาจารย์ให้สอบถามหาในอินเตอร์เนตก็ไม่มี จึงคิดเอาเองว่าคงไม่ถูกทางเพราะไม่รู้อะไรเลย จึงหยุดนั่ง ไป 1 สัปดาห์) กลับมานั่งใหม่ ก็ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว
ทุกวันนี้ก็ยังสงสัยว่าคืออะไร