ครอบครัวแฟนให้สินสอดมากสุด 1 ล้าน คุณพ่อคุณแม่ของเราคิดว่าน้อยเกินไปค่ะ ตกลงกันไม่ได้

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะตอนนี้เราอายุ 30 ปีและแฟนอายุ 35 ปี เราสองคนมีหน้าที่การงานที่มั่นคงจบการศึกษาปริญญาโทและเอกจากต่างประเทศ ไม่มีหนี้และไม่ได้ติดผ่อนอะไรอยู่ รายได้ของเราจากงานประจำปัจจุบัน(ไม่รวมธุรกิจของที่บ้าน) 350K++ ส่วนของแฟน(รวมโบนัส) 500K++ แต่ที่ได้ประมาณนี้เกิดจากการทำงานหนักและความรับผิดชอบสูงมากๆ  เราสองคนวางแผนว่าจะแต่งงานกันปลายปีนี้ ตอนนี้กลุ้มใจมากค่ะเรื่องสินสอด ปัญหาคือทางครอบครัวแฟนเราและครอบครัวเราไม่สามารถตกลงกันได้ค่ะ  

             คุณพ่อคุณแม่คิดว่า 1 ล้านที่บ้านฝ่ายชายเตรียมไว้น้อยเกินไป ถึงเขาให้สินสอด 5 ล้านก็ยังได้กำไร (ไม่อยากให้คิดว่าเป็นกำไรขาดทุนแต่อดคิดไม่ได้จริงๆ หลังจากที่เริ่มต่อรองค่าสินสอดกับครอบครัวของแฟนเรา) ส่วนตัวตอนนี้เรามีบ้านที่คุณแม่ยกให้เป็นชื่อของเรา 2 หลังแถวทองหล่อ สวนผลไม้ที่ต่างจังหวัด และคอนโด 118 ตารางเมตรแถวอโศก มีรถมีบ้านมีงานประจำและมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ถึงตอนนี้ไม่ได้เป็นสาววัยรุ่นแล้วแต่ก็จัดว่าหน้าตารูปร่างดูดีในอายุ30ค่ะ

             แฟนเราบอกเราว่า 1 ล้านก็เยอะแล้ว เขาต้องทำงานและแบ่งเอารายได้ร้อยละ 10 รวม 20 เดือนมาเป็นค่าสินสอดให้เรา(พูดแบบนี้เราก็ไปต่อไม่ถูกเลย เรามีค่าร้อยละ 10 ของเงินเดือน 20 เดือน.....หรอ?) งานหมั้นเราก็จ่ายทั้งหมด งานแต่งแฟนช่วยจ่ายแต่ต้องจัดแบบ package มาตรฐานของโรงแรมรวมชุดแต่งงาน ของชำร่วย การ์ดแต่งงาน และ pre-weddingให้งบมาไม่เกิน 800,000 บาท ถ้าเราอยากเพิ่มอะไร ค่าใช้จ่ายส่วนเกินเราออกทั้งหมด

             ตอนนี้อยู่ในช่วงต่อรองราคาอะไรไม่รู้ ต่อราคากันทุกอย่าง.....กลุ้มใจมากค่ะ มีแต่ตัวเลขเต็มไปหมด แฟนเราบอกว่า
- สินสอด 1 ล้านถ้วน (ไม่เกินจากนี้) คนอื่นได้กัน 2-3แสนยังไม่บ่นอะไร
- เขาอยากได้คนมาช่วยกันสร้างครอบครัว ต้องเริ่มต้นจากการช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายตอนแต่งงาน
- ไม่ได้อยากได้คนมาเป็นภาระ หลังจากแต่งงานเราก็ต้องทำงานเท่าเดิมเพิ่มเติมคือเป็นแม่ของลูกและแม่บ้าน

              ส่วนหนึ่งก็เข้าใจแฟนเรานะเรื่องที่เขาประหยัด แต่เราและครอบครัวเราก็ไม่เห็นด้วยจริงๆ อยากฟังความเห็นว่า
1 จะหาทางออกอย่างไรดี
2 ปกติถ้ารายได้ขนาดแฟนเรา และผู้หญิงก็การศึกษาฐานะดี ให้สินสอดกันเท่าไหร่คะ
3 ควรเลื่อนงานแต่งออกไปดีไหมคะ

             - ไม่ได้ต้องการอวดรวยนะคะ แต่แค่ต้องการชี้แจงว่าทางเราไม่ได้ลำบากหรือประสงค์จะไปดูดเงินจากฝ่ายชายค่ะ ส่วนหลังจากแต่งงาน เมื่อเป็นครอบครัวกันแล้วเราช่วยแบ่งเบาเรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆอยู่แล้วค่ะ
             - ที่จริงคุณแม่เราตั้งใจว่าจะคืนให้เราก่อนการจดทะเบียนสมรสค่ะ(ข้อนี้เรายังไม่ได้บอกแฟน และคิดว่าช่วงนี้คงจะยังไม่บอกค่ะ) โดยที่หลังจากนั้นเราจะเอาไปให้แฟน ให้ลูก(ถ้ามี)หรือเอาไปทำอะไรก็ไม่มีปัญหา แต่ต้องเกิดจากการตัดสินใจของเราค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 7
ก่อนแต่งยังมีปัญหาเรื่องสินสอด  แต่งกันไปแล้วจะขนาดไหน
เงินเดือนฝ่ายชายรวมโบนัส 500K นี่โบนัสเค้าออกทุกเดือนเหรอคะ หรือเฉลี่ยออกมาแล้ว
มองว่าถ้าเงินเดือนเท่านี้  และไม่มีหนี้สิน หรือลงทุนอื่นๆ ก็น้อยไปค่ะ ซัก 5 ล้านกำลังดี
เป็นกำลังใจให้ค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 39
ชีวิตคู่ พูดกันเหมือนซื้อขายของ ตีค่าความสัมพันธ์ ความสุขเป็นตัวเงิน

ไม่ได้เรื่องทั้งสองครอบครัว
ความคิดเห็นที่ 6
ทำไมไม่มองว่าเงินเดือนเค้า5แสนบ้าง  แต่ให้สินสอดแค่นี้

เรียนจบเอก  ทางบ้านคงไม่ธรรมดา

จะวัดใจ  ทำไมไม่วัดด้วยวิธีอื่น  เอางานแต่งมาวัดใจเนี่ยนะ

ถ้าคนเงินเดือน5หมื่น สินสอด5แสน
คนเงินเดือน5แสน  เทียบง่ายๆ 5ล้าน  
อาจจะน้อยกว่านั้น  แต่ไม่ใช่1ล้านแน่ๆ

จขกท ทำถูกแล้ว
แต่งงานไม่ใช่แค่ต้องการตัวลูกสาว  มันต้องรวมถึงการดูแลในอนาคต
ถ้าเลินมาอยุ่กับบ้านเจ้าสาวแล้วกลัวขาดทุน ก็ให้เค้าหาคนใหม่เถอะครับ   พ่อแม่เลี้ยงเรามาจบสูงๆ  เค้าก็เห็นคุณค่าเรา  อาจจะเปนตัวเงินไม่ได้  แต่ถ้าฝ่ายชายไม่ได้นิสัยดีสุดๆ  ซื้อใจพ่อแม่เจ้าสาวไม่ได้ ก็ต้องใช้สินสอดเป็นตัวแทนความจริงใจ

ถ้ามองว่าเงินไม่ได้ไปไหนนะ  มันก็ไปอยู่กับพ่อแม่เจ้าสาว  แค่นั้น
ความคิดเห็นที่ 2
เราเข้าใจผิดมาตลอดเลยเหรอ
คือเราเข้าใจว่า เงินสินสอด พ่อแม่จะคืนให้บ่าวสาวเพื่อให้ไปตั้งตัว
พ่อแม่ไม่ได้เอาตังจริงๆ หรืออาจจะเก็บไว้แค่ส่วนนึง อะไรแบบนั้น

อ่านที่เล่ามาแล้วอารมณ์เหมือนแฟนจขกท ไปซื้อเสื้อ
ถูกใจจะเอาเสื้อตัวนี้ จากราคา 500 ขอต่อเหลือแค่ร้อยเดียว
แพงกว่านี้ไม่เอา จะขายไม่ขาย ดูค่อนข้างไร้เยื่อไย ...
(1 ล้านบาทขาดตัว) แอบเสี้ยมเค้าไปอีก ._.

ไม่ได้ว่าให้โก่งค่าตัวหรือเรียกเอาเงินจากแฟนเยอะๆ
เพราะบางคู่แต่งกันเสียเงินเสียทองไปเยอะแยะ อยู่กันหม้อข้าวไม่ทันดำก็เลิกแล้วก็มี
บางคู่แค่ไปไหว้พ่อไหว้แม่ กินข้าวอบอุ่นในครอบครัว รักกันจนถึงวันสุดท้ายก็มี

แต่ในกรณีที่จขกทเอามาปรึกษา ก็ตามเนื้อผ้าละกัน
ที่จริง 1 ล้านก็พอรับได้ แต่ขอเหอะ แอบขอทองเพิ่มซัก 10 - 20 บาท ได้มั้ย เจอกันครึ่งทาง
เรื่องของเรื่อง แฟนจขกท เค้าสามารถให้ได้มากกว่านี้ เพราะไม่ใช่ว่าเค้าไม่มี เค้าอ่ะมี แต่เค้าไม่ให้

และปัญหาคือ เรามองว่า แฟนจขกท ค่อนข้างเคี่ยวและเค็มนะ
แต่งงานแล้วผญก็ต้องทำงานเหมือนเดิม (จริงๆงานเราก็ต้องทำอยู่แล้ว แต่บางทีอะไรแบบนี้ไม่อยากให้ผชเป็นคนมาสั่งอ่ะ)
ที่เพิ่มเติมคืองานในบ้านและความหมางใจกันเล็กๆเรื่องเงินๆทองๆ
มันฟังเหมือน โอเคชั้นจ่ายค่าตัวเธอแล้วเธอมาอยู่กับชั้น ชั้นจ่ายให้ได้เท่านี้นะ ไม่เกินนี้ ชั้นต้องการประหยัด
แล้วก็มาทำงานบ้านให้ชั้นเป็นเมียด้วย ส่วนหน้าที่เดิมคือทำงานอะไรของเธอก็ทำไป แป่ววว
มันไม่มีอารมณ์เอื้ออาทรกระจายออกมาจากแฟนจขกทเลย หรือจขกทไม่ได้เล่าก็ไม่รู้ ไม่ต้องฟังเรามาก เราขี้มโน

ได้คุยกันมั้ยคะ ว่าแต่งไปแล้วค่าใช้จ่ายในบ้านทั้งหมดใครจ่าย
ถ้าผช บอกว่า จะรับผิดชอบทุกอย่างหมด อาจให้เงินเดือนจขกทเป็นค่าขนมกรุบกริบเพิ่มด้วย
เราว่าพอรับได้นะ โห เค้าเงินเดือนตั้ง 5 แสนอ่ะคุณ ภาระ ค่าใช้จ่ายอะไรก็ไม่มี บ้าน รถก็ไม่ต้องผ่อน
บอกเค้าว่าการให้เงินเมียเป็นอะไรที่น่ารักนะ อันนี้เรื่องจริง
ที่ออกความเห็นแบบนี้ เพราะดูจากฐานะและรายได้ตามที่จขกทเล่ามา
ถ้าเค้าไม่มีเงินต้องกระเสื-อกกระสนดิ้นรนเดือดร้อนลำบากยากเข็ญลำเค็ญมาก เราก็จะแนะนำไปอีกแบบ

เรื่องเงินๆทองๆ สินสอดอะไรนี่ ตกลงกันดีๆให้ถ้วนถี่รอบคอบนะคะ
เห็นทะเลาะจนเลิกกันมาหลายคู่แล้ว ดูอย่างคู่พริตตี้คนนั้นไง งานแต่งอลังการงานสร้าง
สุดท้ายผช สร้างภาพ ส่วนผญ ก็เดินออกมาแต่ตัว ...ไม่ดีเลย

ปล. เราเคยมีคนรู้จักคนนึง พึ่งเร็วๆนี้เอง ลูกสาวเค้าแต่งงาน
เจ้าบ่าวฐานะทางบ้านดีมาก ให้สินสอด 10 ล้าน
แต่สิ่งที่ทึ่งมากขึ้นคือ พ่อแม่ฝ่ายหญิง ยกสินสอดคืนให้ทั้งหมด บอกว่าเอาไปตั้งตัวกัน เป็นทุนชีวิต
บ้าน รถ คืออะไรมีหมดแล้วนะ ฝ่ายชายเลยให้ผญ เก็บไว้ 5 ล้าน เค้าเอาคืนไป 5 ล้าน
เราว่ามันแฟร์ๆอ่ะ

ปล2. หมอวรรษยังค่าตัวตั้ง 60 ล้านอ่ะคุณ อย่ายอม อิอิ
ความคิดเห็นที่ 34
ถ้าเริ่มจาก การคิดว่า สินสอด 1 ล้านบาท
นี่จะขาดทุน เงิน10% ของเงินเดือน 20เดือน

คนที่คิดแบบนี้ แล้วคุณจะฝากอนาคต
ขอให้คิดเยอะๆ อีกหน่อยคุณไม่สบาย

ค่ารักษาแพงเค้าคงมองว่าไม่คุ้มที่จะรักษา
คนจะอยู่ด้วยกัน ต้องปรับเข้าหากัน

ถ้ามีคนขอซื้อแขนคุณ 1 ข้าง
2-3 ล้านบาทคุณคงไม่ขาย
แต่นี้แต่งงานไปได้ทั้งตัวและหัวใจ
มันประเมินค่าไม่ได้.

หาคนอื่นที่ฐานะแน่กว่านี้
แต่จิตใจสูงกกว่านี้ น่าจะเหมาะกว่า

คนเห็นแก่เงิน คบไปหาความสุขยากครับ
อีกหน่อยคงเกี่ยวเรื่องค่าใช้จ่าย

ปล. อนาคตคุณ ความสุขชีวิตคุณ
คิดให้รอบคอบครับ
ความคิดเห็นที่ 11
ยังมีคนคิดแบบนี้อยู่จริงๆหรือนี่ ในเมื่อคุณ2คนรักจะใช้ชีวิตร่วมกัน แต่ต้องจ่ายเงินให้พ่อแม่คุณก่อน  จะว่าทำตามประเพณีก็ว่าไป  แต่ถึงขั้นต่อรองค่าสินสอดอย่างจริงจัง พ่อแม่คุณไม่รู้สึกกระดากปากเหรอ เหมือนขายลูกกินยังไงอยู่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่