ชนแล้วชิ่ง!! ไม่เกี่ยวกับดวงซวย ก็เป็นความป่วยของจิตสำนึกคน!

สวัสดีค่ะ เราขอเข้าเรื่องแบบเร็วๆ เลยนะคะ

เพี้ยนลุย

เสาร์ที่ผ่านมา (3 มิ.ย.) เราพาเพื่อนไปเที่ยวสวนจตุจักร โดยจอดรถไว้ที่ลานจอดตึก DD-mall ตรงข้าม MRT-กำแพงเพชร ด้านหลังจตุจักร หลังจากเดินดูของไปได้สักพัก ก็พากันกลับมาที่รถ ตอนแรกนึกว่าตาฝาด พอเข้าไปดูใกล้ๆ ถึงได้เห็นว่ากันชนรถด้านหน้าโดนเฉี่ยวชน มีรอยถลอกยาว และป้ายทะเบียนรถได้รับความเสียหายอย่างเห็นได้ชัดเจน เม่าตกใจ

... ได้แต่อุทานในใจ Ship หายแระ!  ยาวเลยสิทีนี้ แล้วคู่กรณีอยู่ไหนล่ะนี่...  เต่าเอือม

เมื่อสำรวจแล้วว่าไม่มีเบอร์โทรหรือเอกสารอะไรทิ้งไว้ เลยตัดสินใจถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน และลงมาสอบถามเจ้าหน้าที่รปภ. ที่อยู่ชั้นถัดมา ซึ่งรปภ.ไม่ทราบเรื่องเลย เราจึงลงมาติดต่อเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารที่จุดจ่ายเงินค่าจอด เพื่อแจ้งปัญหาให้ทราบและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

จริงๆ แล้วเย็นนั้นเรามีธุระไปที่อื่นต่อ เนื่องจากเพื่อนร่วมงานชาวดัตช์ที่เราพามาด้วย ต้องเดินทางกลับในเช้ามืดวันถัดไป แต่เมื่อเจอเหตุการณ์ที่ไร้ความรับผิดชอบแบบนี้ เพื่อนและเราเห็นตรงกันว่า แม้ความเสียหายจะไม่ได้มาก (แต่ก็หลายพัน) แต่ไม่ควรปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปเฉยๆ โดยไม่ได้ทำอะไร (เพื่อนเราบอกว่า ... ตอนนี้เค้าเข้าใจแล้ว ว่าทำไมคนที่นี่ต้องติดกล้องไว้ในรถตลอด.... เจ็บสิคุณ! เม่าเหม่อ)

เป็นความโชคดี ที่ทางเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารช่วยอำนวยความสะดวกให้ค่อนข้างมาก และดูแลเราเป็นอย่างดี จนกระทั่งไปภาพวงจรปิด พร้อมทั้งป้ายทะเบียนและเวลาเข้า-ออกของรถคู่กรณีมา อยากบอกว่า ตอนเห็นรถครั้งแรกว่าปรี๊ดแล้ว

ตอนเห็นภาพจากกล้องวงจรปิดยิ่งปรี๊ดกว่าค่ะคุณขา..... วีไอกับเทคนิค



เนื่องจากเราจอดที่ชั้น 3C ตรงบริเวณที่เลยช่องทางขึ้นมาหน่อยนึง ซึ่งเราเองเห็นว่าที่นี่จัดทางเดินรถให้เป็นการเดินรถทางเดียว และช่องทางค่อนข้างกว้าง เราจึงพยายามจอดเข้าช่องให้ลึกที่สุดเท่าที่จะทำได้ (ถ้าดูจากกล้อง จะเห็นได้ว่ารถเราจอดลึกกว่ารถข้างๆ ค่อนข้างมาก) เพื่อไม่ให้ไปกีดขวางช่องทางเดินรถคนอื่น ตอนแรกเรากับเพื่อน เลยเข้าใจว่ารถที่มาชน คงเป็นรถกระบะ หรือรถโฟร์วิลล์ ที่ต้องใช้วงเลี้ยวกว้าง ...

แต่สิ่งที่เห็น.... รถคู่กรณี คือ....." Nissan March "  เม่าแพนด้า... ค่ะ คุณอ่านไม่ผิดแต่อย่างใด รถเล็กกระทัดรัด ที่คนขับขับขึ้นมาด้วยความเร็วต่ำ แต่!! ไม่มีการหักเลี้ยวตามเลนที่เค้าจัดไว้ให้ ดันพุ่งมาพักที่กันชนเราซะอย่างนั้น! เรา เพื่อน และเจ้าหน้าที่ เห็นภาพครั้งแรกถึงกับสตั๊นท์ เดี๋ยวสิคุณ! ทำไมมาเห็นกันชนรถคนอื่นเป็นจุดหยุดพักไปได้ละคะ... จากนั้นก็อย่างที่เห็นตามภาพล่ะค่ะ

ขออนุญาตสรุปเหตุการณ์ เพื่อความรวดเร็วดังนี้

1. เวลาประมาณ 12:20 น. เราขับรถเข้ามาจอดที่ช่องจอด ชั้น 3C และลงไปเดินเล่น
2. เวลาประมาณ 13:53 น. คู่กรณีขับรถเข้ามาจอด และชนรถเรา
3. เวลาประมาณ 14:59 น. คู่กรณีขับรถกลับออกไปจากอาคาร
4. เวลาประมาณ 15:49 น. เรากลับมาที่รถ และพบว่ารถได้รับความเสียหาย
5. เวลาประมาณ 16:15 น. เราได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ติดต่อประกัน
6. เวลาประมาณ 17:30 น. ได้รับใบเคลมและหลักฐานทั้งหมด และต้องเดินทางไปสน.นพวงศ์ ซึ่งอยู่หัวลำโพงในภายหลัง

ความพีคของเรา อยู่ตรงนี้ค่ะ
- จริงๆ แล้วภาพจากกล้องฯ มีความยาวมากกว่านี้ และเห็นหน้าคู่กรณีชัดมาก แต่เนื่องจากเราไม่มีเจตนาที่ต้องการจะประจานหรือสร้างความเสียหายแก่คู่กรณีแต่อย่างใด จึงตัดมาเพียงเท่านี้ สิ่งที่เราได้เห็นคือ หลังจากชน คุณผู้ชายคนนั่งข้าง ลงมาดูรถเราห่างๆ แล้วก็ทำหน้าไม่รู้สึกรู้สาอะไร จากนั้นเดินกลับไปขึ้นรถ ขับรถเข้าไปจอดในช่องจอดที่ไม่ห่างกันมากนัก ขนาดคนขับรถคันอื่นเค้ายังเดินมาดูรถเราเลย เดาว่าก็คงเห็นเหตุการณ์ตอนนั้น
- หลังจากเอารถเข้าจอด คุณผู้หญิงคนขับ และผู้ชายคนนั่งข้าง เค้าเดินย้อนกลับมาขึ้นลิฟต์ โดยเดินผ่านรถเรา เค้าไม่ได้มีความพยายามใดๆ ที่จะเข้ามาดูความเสียหายอย่างจริงจัง มิหนำซ้ำ กลับเดินผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และหัวเราะ!
เม่าโกรธเม่าโกรธเม่าโกรธ หยอกเย้า

- ไม่มีความพยายามที่จะแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย เราคาดหวังว่า เค้าน่าจะทิ้งเบอร์โทร ใบเคลม หรืออย่างน้อยควรแจ้งเจ้าหน้าที่รปภ. หรือเจ้าหน้าที่อาคารให้รับทราบ ไม่นี่ไม่มีเลย! ทั้งๆ ที่ระหว่างเดินมาขึ้นลิฟต์ เค้าเดินสวนกับเจ้าหน้าที่อาคารที่เพิ่งเดินขึ้นมาด้วยซ้ำ

- พีคสุดท้าย .... ก่อนหน้านี้เมื่อสามเดือนที่แล้ว เราเพิ่งจะโดนชนแล้วเกือบชิ่งมาก่อน คือไปจอดรถที่ลานจอด แล้วมี Toyota Camry มาเบียดท้ายแล้วทำท่าจะขับหนี แต่เพราะด้วยคนขับเมา จนกลับรถยักแย่ยักยันอยู่อย่างนั้น จนเราเดินมาเจอพอดี ... บัดซบแมนมาก คือ อ้างว่าไม่ได้จะหนี แต่จะเอารถไปจอดที่อื่น (เดาว่าคงกลัวประกันจะรู้ว่าเมาแล้วขับ... นี่ก็เพิ่งรู้ว่า นอกจากเหล้าจะทำให้ขาดสติแล้ว ยังทำให้จมูกใช้การไม่ได้ด้วย เจ้าตัวเลยไม่ได้กลิ่นเหล้าจากตัวเอง) เราต้องเอารถไปทำสี เพิ่งจะออกจากอู่มาได้ไม่ถึงสองเดือน ปัจจุบันกันชนยังแอบห้อยอยู่เลย เม่าโศก


เราจึงอยากขออนุญาตแชร์ สำหรับท่านที่อาจจะต้องประสบพบเจอปัญหาคล้ายๆ กัน
เราจัดการกับปัญหาอย่างไร ?
1. ใจเย็น ตั้งสติ ไม่อารมณ์เสีย (สำคัญมาก)
2. เราถ่ายภาพหลักฐานเก็บไว้ และรีบติดต่อเจ้าหน้าที่ให้เร็วที่สุด เพื่อรวบรวมหลักฐานที่จำเป็น
3. เมื่อได้ภาพจากกล้องวงจรปิด ป้ายทะเบียนรถ และหลักฐานอื่น ก็ติดต่อประกันให้มารับทราบเหตุ
4. กรณีของเรา ประกันถ่ายหลักฐานกลับไป แล้วเขียนใบเคลมให้เราไปแจ้งความที่สน.ในพื้นที่รับผิดชอบ

ขอฝากถึงท่านที่อาจบังเอิญขับรถไปชนคนอื่น...

- คนที่ได้รับกรรมจากการกระทำของท่าน ซึ่งอาจจะมาจากความซวยของเขา หรือความห่วย/ประมาทของตัวท่านเอง จริงอยู่ "อุบัติเหตุ" ไม่มีใครอยากให้เกิด ไม่ว่ามันจะควบคุมได้หรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อย เค้าเหล่านั้นเป็นผู้รับเคราะห์ ที่ต้องเสียทั้งอารมณ์ เวลา ความรู้สึก และเงินทอง ดังนั้น ขอร้องเถอะค่ะ เสียเวลาสักนิด เพื่อแสดงความมีน้ำใจ และสำนึกรับผิดชอบของการอยู่ร่วมในสังคมเดียวกัน สังคมของเราจะดีหรือไม่ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับคนอื่น แต่อยู่ที่ตัวเราเอง
- เมื่อคุณขับรถชน สิ่งที่คุณทำได้ คือ ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน - ติดต่อเจ้าหน้าที่รปภ. หรือ เจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร หรืออย่างน้อยที่สุดทิ้งเบอร์ไว้ให้รถคู่กรณีติดต่อกลับ เพื่อแสดงความรับผิดชอบ เท่านี้ก็ช่วยบรรเทาความแย่ของเหตุการณ์ไปได้เยอะแล้วกัน และยังดูน่ารักอีกด้วย

เราเอง ก็ขอขอบคุณทีมงานเจ้าหน้าที่ดูแลอาคาร DD-Mall มากๆ ที่ช่วยเหลือเป็นอย่างดี อมยิ้ม17อมยิ้ม36

และสุดท้ายนี้

ขอฝากถึง คุณผู้หญิงเสื้อเชิ้ตสีฟ้า กางเกงขาสั้นสีขาว และคุณผู้ชายเสื้อกล้ามแขนกุด, เจ้าของรถ Nissan march สีขาว ป้ายทะเบียน 1กค 354x


- "รถ" เป็นพาหนะที่นำพาความสะดวกมาให้ท่านก็จริง แต่เป็นเหมือนขีปนาวุธที่พร้อมจะทำร้ายผู้ร่วมทางของท่านได้เช่นกัน ... ถนน จึงไม่ใช่ที่สำหรับคนไร้ความรับผิดชอบ ไร้จิตสำนึก และไม่พร้อมรับผลของการกระทำของตัวเอง ...

เราไม่แน่ใจว่าคุณถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน แต่เราไม่อาจปล่อยผ่าน ให้คนที่เห็นแก่ตัวและมักง่าย เข้ามาสร้างความเสียหายและผ่านออกไปเฉยๆ ได้ เพราะหากเรานิ่งเฉย เท่ากับเราปลูกฝังนิสัยที่ไร้ความรับผิดชอบให้แก่สังคม และชาชินไปกับมัน

มันคงเป็นเรื่องตลก หากในอนาคต เราต้องคิดค้นนวัตกรรมเฝ้าระวัง หรือพกพากล้อง CCTV ติดตัวตลอดเวลา เพราะไม่อาจเชื่อใจคนในสังคมเดียวกัน หรือไม่อาจปลูกฝังจิตสำนึกรับผิดชอบต่อการอยู่ร่วมกันได้อีกต่อไป ...

เราคิดว่า ไม่นาน เอกสารทางกฎหมายคงส่งไปที่บ้านคุณ อย่าลืมรอรับนะคะ

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ฝากช่วยแชร์ด้วยนะคะ หากคุณคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ ....

เรามาช่วยสร้างวัฒนธรรมที่ดีในการอยู่ร่วมกันในสังคมกันนะคะ


ขอบคุณมากค่ะ อมยิ้ม17


-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

13 มิ.ย. 60 [Update]

สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกๆ ความเห็นมากๆ นะคะ วันนี้เราขออนุญาตมาอัพเดทความคืบหน้าดังนี้ค่ะ

1. เราได้ไปแจ้งความที่สน.นพวงศ์มาเรียบร้อยแล้ว พี่ตำรวจเห็นคลิปแล้วยังอึ้งเลย อมยิ้ม07 พี่ตำรวจบอกว่า เนื่องจากเหตุขึ้นในพื้นที่เอกชน จึงไม่ถือเป็นคดีอาญา ทำได้แค่รับเรื่องไว้ ลงบันทึกประจำวัน และเป็นหน้าที่ของเจ้าของอาคาร หรือประกันของฝั่งเรา ต้องไปไล่เบี้ยฟ้องทางแพ่งเอาเองเนื่องจากเป็นเหตุละเมิด ทำให้เสียทรัพย์ค่ะ

2. ทางประกันของเราติดต่อมาแล้ว ว่าจะขอมารับสำเนาบันทึกประจำวัน เอกสารหลักฐานเพิ่มเติม และจะให้เราดำเนินการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์ต่อไป ในเบื้องต้นนี่ถือว่าดูแลดีประมาณนึงเลยค่ะ

3. ยังแอบเจ็บใจคนขับอยู่ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ ฮ่าาา เม่าติดดอย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่