สวัสดีครับชาวPantip ทุกท่าน หลังจากที่ผมได้เล่าถึงเรื่องราวตื่นเต้นในชีวิตไปแล้วกับกระทู้แรก
https://pantip.com/topic/36393849
จากนั้นผมได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยในฐานะลูกผู้ชาย
https://pantip.com/topic/36448875
ตอนนี้ผมกลายมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้วครับ หลังจากที่ห่างหายไปพักหนึ่งก็คันปากอยากเล่าเรื่องสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า“ลูก” ขึ้นมาครับ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจากการแต่งงานเรียบร้อยแล้ว สถานะผมก็เริ่มเปลี่ยนไปครับ จากเจ้าบ่าวต้องกลายมาเป็นสามีตีตรวน คำอาจจะดูรุนแรงไปซะหน่อยครับแต่มันมีความหมายของมันจริงๆ ที่ต้องตีตรวนนั้นเพราะผมตั้งใจว่าจะเป็นสามีที่ดีและพ่อที่ดีของลูกยังไงล่ะครับ อะไรที่นอกลู่นอกทางก็ดันๆมันออกไป มาโฟกัสที่ครอบครัวดีกว่า
ภารกิจสามีและคุณพ่อที่ดีก็เริ่มต้นจากการพาภรรยาไปฝากท้องทันทีครับ เพราะจะทำให้สบายใจว่าแม่และเด็กจะปลอดภัย และมีสุขภาพที่ดี เวลาเกิดอะไรผิดปกติกับแฟน ผมก็จะได้ปรึกษาคุณหมอได้ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะสงสัยว่าฝากท้องตอนไหนดี คุณหมอแนะนำว่าเมื่อทราบว่าท้องก็ฝากได้เลยทันทีครับ ผมเลือกเดินทางไปฝากท้องที่โรงพยาบาลแม่และเด็กแพทย์รังสิตครับเนื่องจาก
1.ใกล้บ้าน
2.เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางครับ
เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ให้กรอกข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดครับ เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลที่แท้จริง เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ได้พาไปพบคุณหมอครับ ที่แผนกสูติ-นรีเวชกรรม ผมและภรรยาได้คุณหมอสิริวรรณ มาดูแลตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์และการทำคลอด ซึ่งคุณหมอน่ารักมากครับ เป็นกันเองและให้คำแนะนำกับผมและแฟนเป็นอย่างดีว่าต้องทำอะไรบ้าง บำรุงครรภ์ยังไงบ้าง ทำตามโปรแกรมและมีการนัดการตรวจครรภ์ทุกๆเดือนครับ
ถ้าถามว่าเวลาฝากท้องสามีต้องไปด้วยไหม ผมว่าไปเถอะครับ เพราะคุณหมอจำเป็นต้องตรวจเลือดคุณพ่อด้วย และที่สำคัญไปเป็นกำลังใจให้กับแฟนไงครับ ผมว่าช่วงเวลานี้ผุ้หญิงทุกคนคงอยากให้สามีอยู่เคียงข้าง ใช่ไหมครับคุณผุ้หญิง
ในที่สุดการตรวจครั้งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากครับก็มาถึง ในสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ คุณหมอนัดมาทำการอัลตร้าซาวน์เพื่อจะได้รู้ว่าทารกในครรภ์นั้นเป็นเพศอะไร ผมนี่ระทึกเลยครับเพื่อนๆญาติๆเคยถามผมว่าอยากได้เพศไหน ผมนี่เพศไหนก็ได้ เพราะยังไงก็คือลูกของผมกับแฟน ขอแค่เด็กในท้องแข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 ก็พอครับ พ่อแม่ทุกคนคงจะคิดเหมือนผมใช่ไหมครับ
ด้วยความลดอาการตื่นเต้นผมเลยชวนคุณหมอกับแฟนมาทายกันว่าเป็นเพศไหน สองสาวทายเป็นเพศหญิงครับ ผมก็เอ้า...เพศชายละกัน ใครทายผิดต้องเลี้ยงข้าวนะ ในขณะที่คุณหมอได้ทำการอัลตร้าซาวน์ครับ ผมนี่ตื่นเต้นมากๆครับ มากกว่าแฟนอีก ภาพแรกที่เห็นนี่ทำผมน้ำตาคลอเบ้าเลย ความผูกผันที่เกิดขึ้นตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้องกลายมาเป็นความตื้นตันใจที่ได้เห็นทารกน้อยที่อยู่ในจอที่คุณหมอกำลังทำการซาวน์ให้ดู
คุณหมออธิบายไปเรื่อยๆครับตรงนี้เป็นอะไร ตรงนั้นคืออะไร จำได้บ้างไม่ได้บ้างครับ เพราะผมจ้องที่จอพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข เหมือนคนที่ตกอยู่ในภวังค์ครับ ได้ยินหมอทักอีกทีว่า
“คุณพ่อสงสัยคุณพ่อจะแพ้นะ” ทันใดนั้นทารกในจออ้าขาครับ ผมนี่ไม่ต้องรอให้หมอบอกเลยครับ ชัดมากๆแจ่มแจ้งขนาดนั้น
ผู้หญิง 100% คุณหมอหยุดภาพพร้อมวงให้ดูเลยครับพร้อมเขียนตอกย้ำตัวโตๆว่า
“Female” แฟนผมนี่หัวเราะเยาะผมด้วยความสะใจ คุณหมอหันมาพูดกับผมว่า “เด็กสมบูรณ์แข็งแรงนะ แถมดูหน้าตามีแววว่าจะสวย” ผมนี่คิดเลยอีกหน่อยต้องไว้หนวดหรอเนี่ย(ไม่ใช่แหละ) ออกจากห้อง
อัลตร้าซาวน์ คณหมอก็นัดมาตรวจครรภ์ในครั้งต่อไปพร้อมกับจ่ายยาบำรุงครรภ์มาให้แฟนผม
ในระหว่างที่คุณหมอนัดในแต่ละเดือน ผมกับแฟนก็เตรียมตัวจะเป็นว่าที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ เริ่มจัดหาชุดสำหรับเด็ก ขวดนม และอื่นๆที่ต้องมีให้สำหรับทารกแรกเกิด แต่ผมนี่หนักไปทางคิดชื่อครับ จะชื่ออะไรดี เอาพยางค์เดียว หรือสองพยางค์ดี คิดไปหลายชื่อมากครับ ในที่สุดได้ชื่อว่า
“น้องต้นข้าว” ครับ ไม่ได้มาจากผมหรอกครับ คนตั้งชื่อคุณพ่อผมเองและทุกๆคนชื่นชอบกับชื่อนี้ครับ
และแล้วก็มาถึงวันที่สำคัญอีกหนึ่งวันในชีวิตครับ วันที่ 11 มกราคม วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใส พาใจสุขสันต์(ไม่ใช่หล่ะ) ระหว่างนั่งทำงานอยู่ประมาณบ่ายสี่โมง แฟนโทรมาครับ “พี่เหมือนน้ำเดินเลย” ผมรีบบอกให้แฟนนั่งแท็กซี่ไปรพ.โดยด่วน สัญญาณมาแล้วครับ มาก่อนหมอนัดคลอดประมาณ 2 สัปดาห์ ผมรีบวิ่งไปหาเจ้านายเพื่อขอกลับไปดูแฟน เป็นห่วงและตื่นเต้นมาก ส่วนแฟนออกจากที่ทำงานแถวเซนทรัลแจ้งวัฒนะ โดยมากับเพื่อนที่แผนกคนนึง
ผมขับรถและ โทรหาแฟนเป็นระยะๆ เป็นไงมั่ง ถึงไหนแล้ว ตื่นเต้นและเป็นห่วงมากๆ ผมขับรถด้วยความเร็ว เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ จากที่ทำงานแถวบางกะปิเพื่อมารังสิต ประหนึ่งสมมติตัวเองเป็นนักแสดงในภาพยนต์ Fast and the Furiouss แฟนโทรมาบอกถึงรพ.แล้ว ผมหมดห่วงและกังวลเลยครับ เพราะอยู่ในมือคุณหมอแน่นอน แต่ยังไงผมก็จะไม่ยอมพลาดที่จะเข้าห้องคลอดเพื่อไปอยู่ข้างๆแฟน พร้อมรอต้อนรับน้องต้นข้าว สมาชิกคนใหม่ในครอบครัว
เมื่อมาถึงที่รพ. ผมรีบวิ่งตรงขึ้นลิฟท์เพื่อจะได้ทันเข้าไปในห้องคลอดพร้อมกับภรรยา เจอเพื่อนของแฟนบอกกับผมว่าแฟนเข้าไปสักพักแล้ว ผมนี่หาทางจะติดต่อคุณหมอหรือเจ้าหน้าที่คนไหนก็ได้ที่สามารถพาผมเข้าไปได้ ไม่นานนักคุณแม่แฟนกับที่บ้านก็มาถึง บอกให้ผมใจเย็นๆไม่ต้องตื่นเต้น ผมว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกท่านคงจะรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไหร่
พลันสายตาอันแหลมคมดุจพญาเหยี่ยวก็เหลือบไปเห็นคุณหมอสิริวรรณ ผมเดินไปหาคุณหมอ ยังไม่ทันเอ่ยปากถามคุณหมอบอกว่า “คลอดแล้วนะ คลอดง่ายมาก ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก” แถมแซวผมอีกว่า “รู้งี้ให้ไปคลอดเองที่บ้านดีกว่า” โชคดีครับที่แฟนผมคลอดเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าคลอด
ส่วนนึงที่คลอดง่ายอาจจะมาจากที่ผมชอบพาแฟนเดินออกกำลังกายครับ พาไปเดินทุกอาทิตย์ครับ สวนสาธารณะบ้าง เดินช้อปปิ้งบ้าง เพื่อให้กระดูกอุ้งเชิงกรานขยายเยอะๆครับ จะได้คลอดง่ายขึ้น ผมขอบคุณคุณหมอเสร็จก็รีบเดินเข้าไปในห้องคลอดได้คุยกับแฟนแต่ก็ไม่ได้เจอลูกเพราะพยาบาลได้พาเด็กไปทำความสะอาดเพื่อที่จะนำ
“น้องต้นข้าว” ไปรวมกับเด็กทุกคนที่เกิดในวันนี้ในห้องเด็กแรกเกิด
วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนแรกของผม ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงดีครับ ความรู้สึกมันดีใจจนบอกไม่ถูกจริงๆ เด็กหญิงตัวเล็ก ผิวแดงๆ ในห้องเด็กแรกเกิดคนนั้น ผมรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือลูกสาวของผมโดยที่ไม่ได้มองชื่อที่บอกว่าใครเป็นลูกใคร
ความผูกพัน ความรัก การดูแลเอาใจใส่ ตลอดระยะเวลา 9 เดือน คุ้มค่ากับการที่รอคอยที่จะมีวันนี้จริงๆครับ เพราะ 9 เดือนที่รอคอย คือ จุดเริ่มต้นที่พ่อแม่ทุกคนจะดูแลลูกให้เติบใหญ่ พร้อมเผชิญกับโลกกว้างต่อไปในวันข้างหน้าครับ ผมเดินไปที่หน้ากระจกห้องเด็กแรกเกิดมองไปที่ลูกสาว และพูดไปว่า
“ขอต้อนรับน้องต้นข้าวสู่ครอบครัวและโลกใบกว้างนะลูก” เพื่อนๆที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ทั้งมือใหม่และไม่ใหม่คงจะมีความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากผมเท่าไหร่นะครับ
นี่ล่ะครับ
สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่หนึ่งในชีวิตผม “ลูก” แต่เรื่องราวความมหัศจรรย์ของลูกผมไม่ได้จบแค่นี้แน่นอนครับ ความซ่าแสบ ซนปนน่ารักของต้นข้าว ทำให้คนเห่อลูกอย่างผมอยากเล่าอีกยาวเหยียด แต่เอาไว้มาต่อคราวหน้านะครับ
ก่อนจบผมมีคำถามครับว่า สิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า“ลูก” ของคุณเป็นยังไงกันบ้างครับ??
สิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า“ลูก”
สวัสดีครับชาวPantip ทุกท่าน หลังจากที่ผมได้เล่าถึงเรื่องราวตื่นเต้นในชีวิตไปแล้วกับกระทู้แรก https://pantip.com/topic/36393849
จากนั้นผมได้จัดการทุกอย่างเรียบร้อยในฐานะลูกผู้ชาย https://pantip.com/topic/36448875
ตอนนี้ผมกลายมาเป็นพ่อบ้านเต็มตัวแล้วครับ หลังจากที่ห่างหายไปพักหนึ่งก็คันปากอยากเล่าเรื่องสิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า“ลูก” ขึ้นมาครับ
หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจจากการแต่งงานเรียบร้อยแล้ว สถานะผมก็เริ่มเปลี่ยนไปครับ จากเจ้าบ่าวต้องกลายมาเป็นสามีตีตรวน คำอาจจะดูรุนแรงไปซะหน่อยครับแต่มันมีความหมายของมันจริงๆ ที่ต้องตีตรวนนั้นเพราะผมตั้งใจว่าจะเป็นสามีที่ดีและพ่อที่ดีของลูกยังไงล่ะครับ อะไรที่นอกลู่นอกทางก็ดันๆมันออกไป มาโฟกัสที่ครอบครัวดีกว่า
ภารกิจสามีและคุณพ่อที่ดีก็เริ่มต้นจากการพาภรรยาไปฝากท้องทันทีครับ เพราะจะทำให้สบายใจว่าแม่และเด็กจะปลอดภัย และมีสุขภาพที่ดี เวลาเกิดอะไรผิดปกติกับแฟน ผมก็จะได้ปรึกษาคุณหมอได้ คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะสงสัยว่าฝากท้องตอนไหนดี คุณหมอแนะนำว่าเมื่อทราบว่าท้องก็ฝากได้เลยทันทีครับ ผมเลือกเดินทางไปฝากท้องที่โรงพยาบาลแม่และเด็กแพทย์รังสิตครับเนื่องจาก
1.ใกล้บ้าน
2.เป็นโรงพยาบาลเฉพาะทางครับ
เมื่อเดินทางมาถึงเจ้าหน้าที่ให้กรอกข้อมูลต่างๆที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดครับ เพื่อที่จะได้ทราบข้อมูลที่แท้จริง เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จแล้วเจ้าหน้าที่ได้พาไปพบคุณหมอครับ ที่แผนกสูติ-นรีเวชกรรม ผมและภรรยาได้คุณหมอสิริวรรณ มาดูแลตลอดระยะเวลาตั้งครรภ์และการทำคลอด ซึ่งคุณหมอน่ารักมากครับ เป็นกันเองและให้คำแนะนำกับผมและแฟนเป็นอย่างดีว่าต้องทำอะไรบ้าง บำรุงครรภ์ยังไงบ้าง ทำตามโปรแกรมและมีการนัดการตรวจครรภ์ทุกๆเดือนครับ
ถ้าถามว่าเวลาฝากท้องสามีต้องไปด้วยไหม ผมว่าไปเถอะครับ เพราะคุณหมอจำเป็นต้องตรวจเลือดคุณพ่อด้วย และที่สำคัญไปเป็นกำลังใจให้กับแฟนไงครับ ผมว่าช่วงเวลานี้ผุ้หญิงทุกคนคงอยากให้สามีอยู่เคียงข้าง ใช่ไหมครับคุณผุ้หญิง
ในที่สุดการตรวจครั้งที่ทำให้ผมตื่นเต้นมากครับก็มาถึง ในสัปดาห์ที่ 12 ของการตั้งครรภ์ คุณหมอนัดมาทำการอัลตร้าซาวน์เพื่อจะได้รู้ว่าทารกในครรภ์นั้นเป็นเพศอะไร ผมนี่ระทึกเลยครับเพื่อนๆญาติๆเคยถามผมว่าอยากได้เพศไหน ผมนี่เพศไหนก็ได้ เพราะยังไงก็คือลูกของผมกับแฟน ขอแค่เด็กในท้องแข็งแรงสมบูรณ์ครบ 32 ก็พอครับ พ่อแม่ทุกคนคงจะคิดเหมือนผมใช่ไหมครับ
ด้วยความลดอาการตื่นเต้นผมเลยชวนคุณหมอกับแฟนมาทายกันว่าเป็นเพศไหน สองสาวทายเป็นเพศหญิงครับ ผมก็เอ้า...เพศชายละกัน ใครทายผิดต้องเลี้ยงข้าวนะ ในขณะที่คุณหมอได้ทำการอัลตร้าซาวน์ครับ ผมนี่ตื่นเต้นมากๆครับ มากกว่าแฟนอีก ภาพแรกที่เห็นนี่ทำผมน้ำตาคลอเบ้าเลย ความผูกผันที่เกิดขึ้นตั้งแต่รู้ว่าตั้งท้องกลายมาเป็นความตื้นตันใจที่ได้เห็นทารกน้อยที่อยู่ในจอที่คุณหมอกำลังทำการซาวน์ให้ดู
คุณหมออธิบายไปเรื่อยๆครับตรงนี้เป็นอะไร ตรงนั้นคืออะไร จำได้บ้างไม่ได้บ้างครับ เพราะผมจ้องที่จอพร้อมกับยิ้มอย่างมีความสุข เหมือนคนที่ตกอยู่ในภวังค์ครับ ได้ยินหมอทักอีกทีว่า “คุณพ่อสงสัยคุณพ่อจะแพ้นะ” ทันใดนั้นทารกในจออ้าขาครับ ผมนี่ไม่ต้องรอให้หมอบอกเลยครับ ชัดมากๆแจ่มแจ้งขนาดนั้น ผู้หญิง 100% คุณหมอหยุดภาพพร้อมวงให้ดูเลยครับพร้อมเขียนตอกย้ำตัวโตๆว่า “Female” แฟนผมนี่หัวเราะเยาะผมด้วยความสะใจ คุณหมอหันมาพูดกับผมว่า “เด็กสมบูรณ์แข็งแรงนะ แถมดูหน้าตามีแววว่าจะสวย” ผมนี่คิดเลยอีกหน่อยต้องไว้หนวดหรอเนี่ย(ไม่ใช่แหละ) ออกจากห้อง
อัลตร้าซาวน์ คณหมอก็นัดมาตรวจครรภ์ในครั้งต่อไปพร้อมกับจ่ายยาบำรุงครรภ์มาให้แฟนผม
ในระหว่างที่คุณหมอนัดในแต่ละเดือน ผมกับแฟนก็เตรียมตัวจะเป็นว่าที่คุณพ่อและคุณแม่มือใหม่ เริ่มจัดหาชุดสำหรับเด็ก ขวดนม และอื่นๆที่ต้องมีให้สำหรับทารกแรกเกิด แต่ผมนี่หนักไปทางคิดชื่อครับ จะชื่ออะไรดี เอาพยางค์เดียว หรือสองพยางค์ดี คิดไปหลายชื่อมากครับ ในที่สุดได้ชื่อว่า
“น้องต้นข้าว” ครับ ไม่ได้มาจากผมหรอกครับ คนตั้งชื่อคุณพ่อผมเองและทุกๆคนชื่นชอบกับชื่อนี้ครับ
และแล้วก็มาถึงวันที่สำคัญอีกหนึ่งวันในชีวิตครับ วันที่ 11 มกราคม วันนี้วันดีปีใหม่ ท้องฟ้าแจ่มใส พาใจสุขสันต์(ไม่ใช่หล่ะ) ระหว่างนั่งทำงานอยู่ประมาณบ่ายสี่โมง แฟนโทรมาครับ “พี่เหมือนน้ำเดินเลย” ผมรีบบอกให้แฟนนั่งแท็กซี่ไปรพ.โดยด่วน สัญญาณมาแล้วครับ มาก่อนหมอนัดคลอดประมาณ 2 สัปดาห์ ผมรีบวิ่งไปหาเจ้านายเพื่อขอกลับไปดูแฟน เป็นห่วงและตื่นเต้นมาก ส่วนแฟนออกจากที่ทำงานแถวเซนทรัลแจ้งวัฒนะ โดยมากับเพื่อนที่แผนกคนนึง
ผมขับรถและ โทรหาแฟนเป็นระยะๆ เป็นไงมั่ง ถึงไหนแล้ว ตื่นเต้นและเป็นห่วงมากๆ ผมขับรถด้วยความเร็ว เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ จากที่ทำงานแถวบางกะปิเพื่อมารังสิต ประหนึ่งสมมติตัวเองเป็นนักแสดงในภาพยนต์ Fast and the Furiouss แฟนโทรมาบอกถึงรพ.แล้ว ผมหมดห่วงและกังวลเลยครับ เพราะอยู่ในมือคุณหมอแน่นอน แต่ยังไงผมก็จะไม่ยอมพลาดที่จะเข้าห้องคลอดเพื่อไปอยู่ข้างๆแฟน พร้อมรอต้อนรับน้องต้นข้าว สมาชิกคนใหม่ในครอบครัว
เมื่อมาถึงที่รพ. ผมรีบวิ่งตรงขึ้นลิฟท์เพื่อจะได้ทันเข้าไปในห้องคลอดพร้อมกับภรรยา เจอเพื่อนของแฟนบอกกับผมว่าแฟนเข้าไปสักพักแล้ว ผมนี่หาทางจะติดต่อคุณหมอหรือเจ้าหน้าที่คนไหนก็ได้ที่สามารถพาผมเข้าไปได้ ไม่นานนักคุณแม่แฟนกับที่บ้านก็มาถึง บอกให้ผมใจเย็นๆไม่ต้องตื่นเต้น ผมว่าคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ทุกท่านคงจะรู้สึกไม่ต่างจากผมเท่าไหร่
พลันสายตาอันแหลมคมดุจพญาเหยี่ยวก็เหลือบไปเห็นคุณหมอสิริวรรณ ผมเดินไปหาคุณหมอ ยังไม่ทันเอ่ยปากถามคุณหมอบอกว่า “คลอดแล้วนะ คลอดง่ายมาก ปลอดภัยทั้งแม่และเด็ก” แถมแซวผมอีกว่า “รู้งี้ให้ไปคลอดเองที่บ้านดีกว่า” โชคดีครับที่แฟนผมคลอดเองตามธรรมชาติ ไม่ต้องผ่าคลอด
ส่วนนึงที่คลอดง่ายอาจจะมาจากที่ผมชอบพาแฟนเดินออกกำลังกายครับ พาไปเดินทุกอาทิตย์ครับ สวนสาธารณะบ้าง เดินช้อปปิ้งบ้าง เพื่อให้กระดูกอุ้งเชิงกรานขยายเยอะๆครับ จะได้คลอดง่ายขึ้น ผมขอบคุณคุณหมอเสร็จก็รีบเดินเข้าไปในห้องคลอดได้คุยกับแฟนแต่ก็ไม่ได้เจอลูกเพราะพยาบาลได้พาเด็กไปทำความสะอาดเพื่อที่จะนำ “น้องต้นข้าว” ไปรวมกับเด็กทุกคนที่เกิดในวันนี้ในห้องเด็กแรกเกิด
วินาทีแรกที่ได้เห็นหน้าลูกสาวคนแรกของผม ผมไม่รู้จะบรรยายยังไงดีครับ ความรู้สึกมันดีใจจนบอกไม่ถูกจริงๆ เด็กหญิงตัวเล็ก ผิวแดงๆ ในห้องเด็กแรกเกิดคนนั้น ผมรับรู้ได้ทันทีว่านี่คือลูกสาวของผมโดยที่ไม่ได้มองชื่อที่บอกว่าใครเป็นลูกใคร
ความผูกพัน ความรัก การดูแลเอาใจใส่ ตลอดระยะเวลา 9 เดือน คุ้มค่ากับการที่รอคอยที่จะมีวันนี้จริงๆครับ เพราะ 9 เดือนที่รอคอย คือ จุดเริ่มต้นที่พ่อแม่ทุกคนจะดูแลลูกให้เติบใหญ่ พร้อมเผชิญกับโลกกว้างต่อไปในวันข้างหน้าครับ ผมเดินไปที่หน้ากระจกห้องเด็กแรกเกิดมองไปที่ลูกสาว และพูดไปว่า
“ขอต้อนรับน้องต้นข้าวสู่ครอบครัวและโลกใบกว้างนะลูก” เพื่อนๆที่เป็นคุณพ่อคุณแม่ทั้งมือใหม่และไม่ใหม่คงจะมีความรู้สึกที่ไม่ต่างไปจากผมเท่าไหร่นะครับ
นี่ล่ะครับ สิ่งมหัศจรรย์อันดับที่หนึ่งในชีวิตผม “ลูก” แต่เรื่องราวความมหัศจรรย์ของลูกผมไม่ได้จบแค่นี้แน่นอนครับ ความซ่าแสบ ซนปนน่ารักของต้นข้าว ทำให้คนเห่อลูกอย่างผมอยากเล่าอีกยาวเหยียด แต่เอาไว้มาต่อคราวหน้านะครับ
ก่อนจบผมมีคำถามครับว่า สิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า“ลูก” ของคุณเป็นยังไงกันบ้างครับ??