ครั้งแรกที่รู้ว่า....ผมจะได้เป็นพ่อ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับชาวPantip ทุกท่าน ผมได้กลั่นกรองสติปัญญาอันชาญฉลาด ที่มาพร้อมกับความแสบปนความกวนของตัวเองมาเป็นกระทู้แรกในชีวิตผมนะครับ ตอนนี้ผมเป็นคุณพ่อแล้ว ผมมีความทรงจำดีๆ และความรู้สึกครั้งแรกที่ได้รู้ว่าจะเป็นพ่อคนมาเล่าให้ฟัง มันเป็น Moment ที่ผู้ชายเกือบทุกคนต้องได้สัมผัส และมีประสบการณ์หลากหลายกันไป
จำเนียรกาลผ่านมาตั้งแต่ผมยังเด็กจวบจนกระทั่งเติบใหญ่แต่งงานครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต (555) ในที่สุดผมก็ได้คำตอบที่เคยได้คุย
เล่าสู่กันฟังกับเพื่อนสนิทคนนึงว่า “ผมไม่ได้เป็นหมันคร้าบบบบบ” ต้องตะโกนบอกให้รู้ทั้งสามโลกเลยครับในเวลานั้น ไม่รอช้าผมโทร.หา
เพื่อนสนิทคนนั้นทันที ต่อไปนี้เป็นบทสนทนาระหว่างผมกับเพื่อนสนิทครับอาจจะมีถ้อยคำไม่สุภาพบ้าง โปรดใช้วิจารณญาณของคำว่าเพื่อนสนิทในการอ่านนะครับ
ผม : สาด แฟนกูท้องแล้วหว่ะ
เพื่อนผม : ตรวจแล้วหรือไง
ผม : เออ ซื้อที่ตรวจมาไปหาหมอมาด้วยบอกท้องได้จะสองเดือนแหละ ยิ้มแหละลืมไปเลยกูยังไม่ได้แต่งงานเลย สาดเอ๋ยไม่น่าพิสูจน์ตัวเองเลย
เพื่อนผม : พิสูจน์อะไรของ
ผม : กูอยากรู้ไงว่ากูเป็นหมันป่าว กูเลยขอร้องแฟนว่ามาร่วมด้วยช่วยกันพิสูจน์ให้ กูสว่างกระจ่างใจมลหน่อย (น้ำเสียงปราบปลื้มอย่างที่สุด)
เพื่อนผม : เออเก่ง แน่ ใจถึง แต่ทำไมไม่ไปหาหมอให้ตรวจวะ นี่ โคตรลงทุนเลย กูนี่นับถือจริง มีเพื่อนแบบเนี่ย
ผม : (สตั้นไปประมาณ 10 วินาที) แล้วก็ตอบมันกลับไปว่า เออหว่ะกูลืมไปเลย
ผมและเพื่อนต่างก็หัวเราะกันอย่างมีความสุข ซึ่งสำหรับผมแฟนจะท้องก่อนแต่งหรือหลังแต่งงานมันไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับผมเลย
แต่สิ่งที่สำคัญคือ อีกหนึ่งชีวิตที่ผมและแฟนได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา ซึ่งต่อไปนี้ทำให้ผมกับแฟนไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตส่วนตัวและมีอิสระได้เหมือนก่อน แต่มันทำให้ผมมีความรู้สึก “รัก” ทั้งที่ยังไม่เห็นหน้า ความรู้สึก “ผูกผัน” ทั้งที่เพิ่งจะรู้ว่ามีเขาไม่กี่วินาทีที่ผ่าน และความรู้สึก “ลุ้น” ว่าจะเป็นหญิงหรือชาย มันทำให้ผมตระหนักดีว่า “หน้าที่อันยิ่งใหญ่ ย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบที่ใหญ่ยิ่งไม่แพ้กัน” (เหมือนเอามาจากหนังเรื่องไรหว่าจำไม่ได้ 555) ผมยังจำประโยคที่หมอถามในห้องตรวจได้เป็นยังดี “คุณพร้อมที่จะมีบุตรแล้วใช่ไหมครับ” ผมนี่อยากจะตอบดังๆ
แต่เกรงใจหมอมากว่า ไม่พร้อมจะลงทุนทำให้แฟนท้องทำไมล่ะครับ ทั้งๆที่มีวิธีที่ทำให้รู้ว่าตัวเองไม่เป็นหมันนอกจากทำให้แฟนท้อง T_T
ยังมีเรื่องราวของลูกสุดแสบ ที่ได้ DNA ความแสบจากผมมาแทบจะถอดร่างตัวเองในวัยเด็กที่คุณพ่อสุดซ่าอย่างผมอยากเล่าเรื่อง
ของเด็กสุดแสบอีกมากมายให้ทุกท่านได้อ่านกัน หวังว่าเพื่อนๆ โดยเฉพาะคนที่เป็นพ่อแม่คงไม่เบื่อเสียก่อน แล้วเรามาแชร์ประสบการณ์ในการเลี้ยงลูกกันนะครับก่อนจะจบกระทู้ในวันนี้ผมมีคำคมของคนเป็นพ่ออย่างผมมาฝากครับ
เลี้ยงลูกต้องเอาใจใส่ หล่อเลี้ยงหัวใจต้องให้ความรัก เมื่อลูกไม่กินผัก ผมจะทำหน้ายักษ์ใส่ลูกทุกที
กราบสวัสดีมา ณ ทีนี้ครับ 555
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่