เมื่อผมพร้อมเป็น....เจ้าบ่าว

         สวัสดีครับชาวPantip ทุกท่าน จากกระทู้แรกในเรื่อง ครั้งแรกที่รู้ว่า....ผมจะได้เป็นพ่อ https://pantip.com/topic/36393849
         
         วันนี้ผมกลับมาเล่าเรื่องต่อจากที่ผมรู้ว่าแฟนผมท้องครับ...หวังว่าคงเป็นประโยชน์กับคนที่กำลังเตรียมตัวจะแต่งงานบ้างนะครับ
         
เมื่อรับรู้ว่าแฟนได้ตั้งท้องความดีใจมันก็มีมามากจนลืมอะไรไปหลายอย่าง มันคือสภาวะที่เรียกว่าตื้นตันใจครับ จนแฟนถามว่าจะทำไงต่อไปดี ไอ้กระผมนั้นก็ลูกผู้ชายอกไม่ถึงสามศอกก็ตอบไปแบบง่ายๆไม่ทันคิดเลยครับว่า ก็จัด งานแต่งซิ รออะไรล่ะ อ้าวเฮ.....
แต่ก่อนอื่นใด ผมต้องไปขอขมาพ่อแม่แฟนก่อนครับที่ข้ามขั้นตอนไป
           
สิ่งที่ผมทำอาจจะไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม แต่ผมก็มั่นใจในตัวแฟนผมมานานแล้วว่าเธอสามารถเป็นภรรยาที่ดีของผม และเป็นแม่ที่ดีของลูกได้ ไม่รอช้าครับนัดหมายพ่อแม่แฟนและพ่อแม่ผม มาเพื่อทำการขอขมาและขอแต่งงานให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ สำหรับว่าที่เจ้าบ่าวมือใหม่อย่างผมก็วุ่นๆ น่าดูครับ แค่ลองวางแผนคร่าวๆ โอ้โห! อะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้
           
ผมขอเล่าจากประสบการณ์ที่เจอมาแชร์ให้ทุกท่านได้ทราบดังนี้เลยครับ เริ่มจากผมไปดูฤกษ์แต่งงานจากพระอาจารย์ ท่านนึง ก็ได้วันดีมาครับ วันที่ 7 เดือน 7 โอ้วเลขเบิ้ล มี 7 อีกตัวนี่ *777 โปร AIS เลย แต่โปรของผมรักเธอ ไม่มีวันหมดอายุ (ฮิ้ววววว) เมื่อได้วันฤกษ์ดี (หรือว่าเลิกดี ผมว่าอ่านแบบนี้ก็ได้นะ อิอิ) ขั้นตอนต่อไปผมก็จัดหาสถานที่ครับ
         
ตอนแรกกะว่าจะปิดร้านอาหาร บรรยากาศชิลๆ แต่ก็แต่งงานครั้งเดียว ให้เป็นเกียรติแก่ทางครอบครัวทั้งคู่ เลยเลือกจัดที่สโมสรกอล์ฟกองทัพบก รามอินทราครับ บรรยากาศดีมาก ที่จอดรถกว้างขวาง อาหารอร่อยครับ ซึ่งก็รวมกับค่าซุ้มถ่ายรูปหน้างาน ดอกไม้ตกแต่ง และอื่นๆจิปาถะ มาที่เดียวครบเลยครับ
         
สถานที่ได้แล้วก็ต้องหล่อต้องสวยครับ ผมก็เริ่มหาพรีเว้ดดิ้งครับ เลยชวนแฟนไปเดินงานที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โอ้ว..มีให้เลือกเป็นร้อยเจ้า งงเด้ๆๆๆ เอาไงดีเนี่ย เจ้าไหนดี แข่งกันน่าดู เดินไปเดินมาคิดมาได้เออเลิกกันทำไมไม่มีจัดงานฉลองความเป็นโสดอีกครั้งหว่า สะกิดบอกแฟนโดนด่าเลย T_T ข้อแนะนำครับเลือกตามความชอบและกำลังของตัวเองครับ เพราะแต่ละเจ้ามีโปรโมชั่น มานำเสนอซึ่งราคาค่อนข้างใกล้เคียงกัน อยู่ที่ความพึ่งพอใจครับ ผมเดินวนไปพลันสายตาไปสะดุดเจอพี่คนนึงหน้าตาคุ้นๆ เป็นเจ้าของร้าน Wedding Castle Studio ที่ทองหล่อครับ (ซึ่งทางร้านนั้นมีชุดให้เลือกมากมายครับ ถ่ายทำได้ทั้งในแนะนอกสถานที่ครับ ถ่ายสวยเจ้าของเป็นกันเอง ซึ่งวันที่ไปถ่ายพรีเวดดิ้ง พี่เจ้าของถึงกับมาแต่งหน้าตัดผมด้วยตัวเองเลยครับ พนักงานทุกคนบริการดีเยี่ยมครับ ค่าถ่ายพรีเวดดิ้งประมาณ 25,000 บาท)  และแล้วมันก็ทำให้ผมโดนดูดเข้าไปที่บูธพี่เขาทันทีครับ ตกลงวันนัดถ่ายทำ ชำระมัดจำ เดินตัวเบาออกมาเลยครับ (ค่าสถานที่นั้น 10,000 บาท ครับ ค่าอาหารรวมเครื่องดื่มไม่รวมแอลกอฮอล์ โต๊ะละ 2,500 บาท ผมเลือกโต๊ะจีน 40 โต๊ะ เท่ากับ 100,000 บาท)
        
และอีกขั้นตอนสำคัญครับการ์ดงานแต่ง แฟนชวนไปเดินสาเพ็งครับ ย่านนั้นมีให้เลือกเยอะครับทั้งการ์ดและของชำร่วย เดินเข้าออกหลายร้านผมก็เลยบอกแฟนว่าเดี๋ยวการ์ดขอออกแบบเอง มันต้องเป็นสไตล์ผมซิ การ์ดสำเร็จรูปไม่เอา (อันนี้แล้วแต่ความถนัดและความชอบครับ) ผมเลือกออกแบบการ์ดเป็นการ์ตูนน่ารักๆของผมและแฟน เมื่อการ์ดเสร็จได้ของชำร่วย มาแล้ว ถึงเวลาลิสต์รายชื่อแขกที่จะเชิญมาร่วมงานครับ
        
ผมเริ่มจากระดับความสำคัญก่อนนะครับ เริ่มจากญาติทั้ง 2 ฝ่ายผู้ใหญ่ที่เคารพและนับถือทั้งฝ่ายเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เพื่อนร่วมงาน และเพื่อนๆครับ ส่วนตอนทำการ์ดผมแอบทำ Presentation ไว้เซอร์ไพร์สเจ้าสาวแล้วครับ พยายามช่วยกันคิดว่ามีอะไรขาดบ้าง อะไรยังไม่มีบ้างก็ค่อยๆหากันมาครับส่วนตอนแจกการ์ดนี่ไม่อยากพูดถึงเลยครับ มีแต่คนถามว่าแต่งจริงๆหรือป่าว คิดว่าผมลงทุนทาการ์ดมาแกล้งกันหรือไงเนี่ย  
      
ถึงวันที่ 7 เดือน 7 งานตอนเช้าตื่นแต่ตี 4 ครับ มาแต่งหน้าทำผมเจ้าสาว มีงานตอนเช้าครับมาจัดงานที่บ้านผม ช่วงเช้าบรรยากาศอบอุ่นครับเต็มไปด้วยญาติๆที่เคารพรัก เพื่อนสนิท ตื่นเต้นแหะ เริ่มต้นด้วยการแห่ขันหมากก่อนเลยครับ โห่ ฮี้ โห่ ฮี้ โห่.......ฮิ้วววววว เดินเจอประตูเงิน ประตูทองครับ ตามธรรมเนียม จ่ายค่าผ่านทางเรียบร้อย ถึงเวลาที่จะถอดรองเท้า พลันสายตาเหลือบไปเห็นเหล่าผู้ที่จะมาหยิบรองเท้าผมไปเป็นค่าไถ่ ผมได้แต่ถอนหายใจ เฮ้อออออ เอาไปเหอะ เพราะผมใส่รองเท้าแตะเพราะอันนี้มันบ้านผมเอง 5555 เข้าบ้านได้ทำการนิมนต์พระมาทำพิธีสงฆ์ให้คู่บ่าวสาวครับ

ตอนตักบาตรนี่เคยรู้มาก่อนว่าให้จับบนมืออีกฝ่ายจะได้ข่มได้ 5555 ผมนี่รอโอกาสนี้มานานแหละ แต่บังเอิญเจ้าสาวฉลาด กว่าผมครับ จับมือผมไปจับทัพพี จบเลยครับชีวิตนี้ T_T หลังจากนั้นมาเริ่มพิธีรดน้ำสังข์ ซึ่งเป็นพิธีแบบไทย ญาติผู้ใหญ่ ต่างอวยพรแต่สิ่งดี ให้ข้อคิดที่ดีในการครองเรือน บรรยากาศอบอุ่นมากจนลืมเหนื่อยเลยครับ งานช่วงเช้าเสร็จขอตัวนอนก่อนครับ มีงานตอนเย็นให้เหนื่อยอีกรอบ
      
หลังจากพักเหนื่อยตื่นไปสถานที่จัดงานครับเพื่อตรวจดูความพร้อมในขั้นสุดท้ายก่อนเริ่มงาน ทุกอย่างออกมาค่อนข้างน่าพอใจครับ เมื่อใกล้ถึงเวลางานปรากฏว่าฝนตกหนักมากครับ ทำให้อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าแขกที่มาร่วมงานจะมากันทันไหม ฝนจะตกอีกนานไหม จะให้แฟนไปปักตะไคร้ก็กลัวโดนฟ้าผ่า 555 แต่ทางญาติผู้ใหญ่บอกว่าเป็นฤกษ์ดีนะฝนตกก่อนแต่ง จะทำให้ชีวิตคู่อยู่ดีราบรื่น ได้ยินแบบนี้ก็ใจชื้นครับ ฝนตกมาได้เกือบชั่วโมงก็เริ่มหยุดครับ แขกทยอยมากันในงานเรื่อยๆครับ ผมไหว้แสดงความขอบคุณแขกทุกคนจากใจจริง ที่ทุกคนมาร่วมแสดงความยินดีในงานพิธีมงคลสมรสครั้งนี้บรรยากาศมีแต่ความสุขครับ มีความสนุก มีความเป็นกันเอง ถ่ายรูปกันสนุกสนาน
      
เมื่อถึงเวลาที่ต้องขึ้นไปบนเวทีให้ประธานในงานคล้องมาลัยเจ้าบ่าวเจ้าสาว พร้อมกับกล่าวขอบคุณแขกทุกๆท่านแล้ว ที่ผมจำได้ดี คือผมพูดด้วยความสุขว่า
      
“ที่ผมจะพูดต่อไปนี้ มันคือสิ่งที่ออกมาจากใจผมเลย ขอขอบคุณแขกทุกๆท่าน ที่มาร่วมงานและเป็นสักขีพยานในวันนี้” ทันใดนั้นผมชี้ไปทางเจ้าสาว และตะโกนออกไปสุดเสียง “ผมมีเมียแล้วคร้าบบบบบบ” เมื่อพูดจบแขกทุกท่านต่างปรบมือและก็หัวเราะไปกับผมด้วย เจ้าสาวผมนี่อายเลยครับ
        
แต่สิ่งที่ก้องอยู่ในหูและความคิดผมนั้นแท้จริงแล้ว คือคำสอนของประธานที่ให้โอวาทในการใช้ชีวิตคู่ครับ คำว่าภรรยานั้นมาจากคำว่าภาระ บวกกับคาว่า ยา คือหญิงสาวที่จะเป็นคนที่เรามีหน้าที่ดูแล เอาใจใส่ ครองคู่ไปด้วยตลอดชีวิต โดยมีคาว่า ยา ที่มาจากคาว่า ยาใจมาประกอบให้ชีวิตของสามีให้มีความสุขกาย สบายใจ และไม่ใช่แค่ภรรยาที่ผมต้องดูแล แต่ยังมีอีกหนึ่งชีวิตน้อยๆที่อยู่ในท้อง ที่คอยให้ผมดูแล ปกป้อง เอาใจใส่อีกคนนึงด้วยครับ ซึ่งเป็นบทเริ่มต้นของชีวิตคู่ที่กำลังมีชีวิตน้อยๆเป็นขวัญและกำลังใจในการ ดำเนินชีวิตต่อไป ซึ่งผมพร้อมที่จะเป็นทั้งสามี และพ่อที่ดีให้กับครอบครัวไปตลอดครับ ฝากเอาใจช่วยและติดตามเรื่องราวของตัวน้อย ขวัญใจของผมไปด้วยกันนะครับ อ้อ! อย่าลืมมาแชร์ประสบการณ์เจ้าบ่าวเจ้าสาวกันนะครับ จะเหมือนของผมมั้ยนะ

CR. รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ตครับ แฟนผมขี้อายไม่กล้าออกสื่อ อิอิ