น้องไม่ไปโรงเรียนโทษว่าเป็นความผิดแม่ที่ไม่ออกรถมอเตอร์ไซด์ให้

ตอนนี้น้องชายคนกลางเรียนอยู่ม.4 อายุ 15 ปี มีปัญหาเรื่องไปโรงเรียนบ่อยๆคือ ไม่ไปโรงเรียนโดยไม่มีสาเหตุหรือตื่นเช้าแต่ไม่ยอมไปเองรอเพื่อนมารับ สอบถามได้ความว่า ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะนั่งรถเมล์ไม่เป็น ซึ่งก่อนหน้านี้ตอนเรียน ม.ต้น ก็ไปโรงเรียนเองได้ (เรียนต่อ ม.ปลายที่โรงเรียนเดิม) พอบอกว่าให้ไปพร้อมน้อง (น้องชายคนเล็ก ขึ้น ม.2 อยู่โรงเรียนเดียวกัน) น้องชายคนกลางก็บอกว่าอยากไปคนเดียว ซึ่งตัวเราเองก็ไม่ค่อยจะเข้าใจตรรกะอะไรแบบนี้ซักเท่าไหร่ สืบทราบมาทีหลังว่าอยากได้รถมอเตอร์ไซด์เพื่อที่จะได้ขับไปโรงเรียนเองได้ เลยมานั่งคุยกันอีกทีว่าถ้างั้นก็พาน้องไปกลับด้วยกัน จะได้ประหยัดค่ารถ น้องคนกลางก็ใช้คำพูดที่แสดงการบ่ายเบี่ยง สรุปคือมีรถก็จะไปคนเดียวอยู่ดี(ก่อนหน้านี้ตอนน้องคนเล็กเข้าโรงเรียน ม.1 น้องก็เดินทางไปด้วยรถเมล์ตามลำพังตามคำบอกของแม่ เพราะคนกลางไม่อยากให้น้องไปด้วย) เรารู้สึกว่ามันไม่ค่อยโอเค พูดง่ายๆ มันคือการกระทำของคนเห็นแก่ตัว หลังจากนั้นเหตุการณ์ต่อมาคือ น้องคนกลางขอย้ายจาก ม.ปลาย ไปเรียน ปวช. เหตุผลคือจะย้ายไปเรียนภาคค่ำเพราะตื่นเช้าไม่ไหว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้ให้น้องเป็นคนเลือกเอง น้องก็เลือกเรียน ม.ปลาย แล้วตอนนี้เกิดเปลี่ยนใจ ชุดนักเรียน ชุดพละ ซื้อไว้ใหม่หมดแล้ว ค่าเทอมก็เพิ่งไปจ่ายมา ตอนนี้สงสารแม่มากเพราะน้องคนกลางเป็นคนดื้อเงียบ เวลาถามจะไม่พูดไม่คุย หรือถ้าพูดอะไรออกมาแล้วก็จะต้องเอาให้ได้ตอนนั้นเลย จะชอบพูดว่าแค่นั้นเอง แค่นี้เอง เราก็เคยโดน น้องโทรมาขอเงินไปดาวน์รถบอกว่า ขอตังค์หน่อยหมื่นนึงไปดาวน์รถ ซึ่งตอนเราได้ยินตอนนั้นก็ตกใจทำไมมาขอเงินจำนวนเยอะขนาดนี้ แต่ก็ไม่ได้ให้ไปเพราะเราก็ไม่ค่อยมี เรารู้สึกว่าน้องเราใช้อะไรเกินตัวไปทั้งที่ที่บ้านเราไม่ได้มีนิสัยอะไรแบบนี้ เตะบอลก็จะต้องซื้อรองเท้ายี่ห้ออะดีดาสเท่านั้น กางเกงต้องแม็ค และอื่นๆอีก ซึ่งสำหรับเด็กรุ่นนี้กับฐานะที่บ้านพ่อแม่เป็นแม่ค้า เราว่ามันมากเกินไป เราไม่รู้ว่าบ้านอื่นเป็นแบบนี้หรือเปล่า แต่เราสงสารแม่มาก น้องโทษว่าเป็นความผิดแม่ที่ไม่ออกรถให้เรยไม่ยอมไปโรงเรียน โรงเรียนเปิดมา 3 สัปดาห์ ไปโรงเรียน แค่ 4 ครั้ง บางวันก็หยุดอยู่บ้าน บางวันก็ไปนอนบ้านเพื่อนแล้วไม่ยอมกลับ หรือถ้ากลับก็จะมาช่วงประมานเที่ยงคืน และนอนเกือบตีสี่สุดท้ายตื่นไม่ไหวก็เข้าสู่วังวนเดิมไม่ไปโรงเรียน เราอยากได้ข้อเสนอแนะหน่อยว่าเราควรทำยังไง การแก้ไขปัญหาอย่างแรกที่คิดไว้คือ ถ้าเรียน ม.ปลายไม่ไหวก็คงต้องย้าย แต่เรื่องรถยังลังเลว่าจะให้ดีหรือไม่ให้ดี เพราะกลัวเกิดอุบัติเหตุมาก็เป็นภาระแม่อีก น้องรับปากว่าจะส่งผ่อนเอง แต่เราก็ไม่มั่นใจเพราะน้องพูดแล้วทำไม่ค่อยได้ บอกจะกลับบ้านก็ไม่กลับ บอกจะไปโรงเรียนทุกวันก็ไม่ทำ บอกจะเป็นเด็กดีก็ทำไม่ได้ แล้วบ้านเราทุกคนจะมีงานบ้านที่ต้องทำแลเวน้องคนกลางก็จะไม่ทำอะไรเรยเพราะหาเรื่องออกจากบ้านตลอดตอนอยู่ก็จะไม่ทำและบ้านเรามีอาชีพขายของตอนเราเรียนเราก็ไปช่วยพ่อและแม่ขายอยู่ตลอด แต่น้องไม่เคยไปช่วยขายเลยบอกว่าทำไม่เป็น อายคนอื่น พูดง่ายๆคือรับปากไปส่งๆ ได้แต่หวังว่าถ้าน้องได้รถจริงๆจะทำให้น้องคิดได้และปรังปรุงตัวแต่ก็นั่นแหระเราก็ยังลังเลไม่มั่นใจเลยอยากขอคำปรึกสาจากทุกๆคนว่าเราควรจะทำยังไงดี เราอาจพิมวกไปวนมา แต่ก็หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ

สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
ตามใจเกินไป ไหนๆมันก็จะเสียแล้ว ให้หยุดเรียนสักปี แล้วบอกว่าให้ลาออกไปหางานทำเลย ไม่ต้องส่งเสียค่าใช้จ่ายให้ดูแลตัวเอง สอนหน้าที่ให้เขาด้วยประสบการณ์ อย่าใจอ่อน
ความคิดเห็นที่ 1
ไม่สนับสนุนให้พ่อแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์ให้เด็กอายุ 15 ที่ไม่มีใบขับขี่
ถ้าซื้อให้เท่ากับส่งเสริมสถิติอุบัติเหตุบนถนน เพิ่มอีกหนึ่งคนให้กับวัยรุ่นที่อายุไม่ถึงจะทำใบขับขี่ ไม่ได้รับการปลูกฝังที่ดีการขี่รถมอเตอร์ไซค์ เด็กมันอยากมีรถไว้ขี่เล่นด้วย ความคึกคะนอง ขาดการยับยั้งชั่งใจ การตัดสินใจต่ำ จะมีผลทำให้เกิดอุบัติเหตุถึงชีวิตกับคนอื่น ที่เราเป็นห่วงชีวิตของคนอื่นมาส่วนเด็กวัยรุ่นคนนี้ แส่อยากได้รถไว้ขี่ ทั้งๆที่ไม่มีใบขับขี่ จะตายไปจากอุบัติเหตุรถยนต์มันเป็นทางเลือกของเขาเอง ถ้าพ่อแม่ใจอ่อนยอมซื้อรถให้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่