สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
หากว่ากันตามหลักอิสลามแล้วคุณสามารถเปลี่ยนศาสนาได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ อัลลอฮทรงรับรองการตัดสินใจของคุณ เพราะอัลลอฮนั้นทรงให้อิสระแก่มนุษย์ทุกผู้ในการเลือกศรัทธา และเมื่อคุณเลือกแล้วอัลลอฮก็จะเคารพในการตัดสินใจของคุณไม่เข้ามาก้าวก่าย เจ้าตัวออกจากอิสลามได้นั่นหมายถึงอัลลอฮยอมรับและเคารพต่อการตัดสินใจของมนุษย์ผู้นั่นแล้ว
ตรงข้ามมุสลิมคนไหนที่ด่าว่ารังเกียจประณามคนที่ออกจากอิสลามนี่ผิดหนักเลยเพราะนั่นคือการล่วงเกินไม่ให้เกียรติต่อประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า คนที่กระทำเช่นนั้นถือว่าเขาตกจากอิสลามแล้วเพราะไม่ยอมรับและล่วงละเมิดต่อประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ขนาดพระผู้เป็นเจ้ายังไม่เข้าไปยุ่งแล้วคนอื่นเอาอำนาจอะไรมายุ่งเกี่ยว เทียบได้กับการทำตัวเหนือพระเจ้าเชียว
ตรงข้ามมุสลิมคนไหนที่ด่าว่ารังเกียจประณามคนที่ออกจากอิสลามนี่ผิดหนักเลยเพราะนั่นคือการล่วงเกินไม่ให้เกียรติต่อประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า คนที่กระทำเช่นนั้นถือว่าเขาตกจากอิสลามแล้วเพราะไม่ยอมรับและล่วงละเมิดต่อประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า ขนาดพระผู้เป็นเจ้ายังไม่เข้าไปยุ่งแล้วคนอื่นเอาอำนาจอะไรมายุ่งเกี่ยว เทียบได้กับการทำตัวเหนือพระเจ้าเชียว
ความคิดเห็นที่ 4
เรียนคุณ จขกท. ครับ
การที่คุณหรือคนเรา จะศรัทธาเลือกนับถือศาสนาใด มันไม่มีทั้งความผิดและไม่มีความถูกต้องครับ เพราะการนับถือศาสนาเป็นเรื่องที่เกิดจากภายในใจของแต่ละคน มันคือความจริงในใจ ..คนละเรื่องกับความผิดหรือความถูก อย่าไปติดค้างในใจว่าทำสิ่งผิดเลยครับ อยากจะนับถือศาสนาไหนมันเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ใครจะมาชี้หน้าว่าทำผิด มันเป็นการกล่าวหาว่าร้ายกัน
ในเมื่อทุกศาสนาต่างสอนให้คนทำดี ช่วยเหลือกันและกัน ให้มีเมตตาต่อกัน ถ้าคนในศาสนาอื่นมาต่อว่าคุณว่า คุณกำลังทำผิดที่เกิดในครอบครัวของศาสนาหนึ่ง แล้วยอมรับนับถืออีกศาสนานั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้ที่กำลังว่าคุณ ยังไม่เข้าใจคำสอนของศาสนาที่เขานับถือยู่เพียงพอ ไม่ว่ากฎเกณฑ์ของศาสนานั้นจะบังคับไม่ให้ใครที่นับถืออยู่แล้ว ห้ามไปนับถือศาสนาอื่นก็ตาม
เพราะว่าตัวตนของคุณเองนั้น มีความสำคัญกว่าศาสนาครับ หากไม่มีตัวคุณบนโลก ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเลือกนับถือศาสนานี้ เกิดขึ้นแน่นอน จงระลึกไว้ให้ได้ว่า ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใด ตัวตนของคุณสำคัญกว่าสิ่งอื่นทุกสิ่งในโลก จงปฎิบัติตัวในสิ่งที่คุณเลือกแล้วว่าดี และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน (ส่วนใครจะมาเดือดร้อนในเรื่องที่คุณทำ นั่นคือเรื่องเดือดร้อนที่เขาสร้างเอง) นั่นเพียงพอแล้ว
การที่คุณหรือคนเรา จะศรัทธาเลือกนับถือศาสนาใด มันไม่มีทั้งความผิดและไม่มีความถูกต้องครับ เพราะการนับถือศาสนาเป็นเรื่องที่เกิดจากภายในใจของแต่ละคน มันคือความจริงในใจ ..คนละเรื่องกับความผิดหรือความถูก อย่าไปติดค้างในใจว่าทำสิ่งผิดเลยครับ อยากจะนับถือศาสนาไหนมันเรื่องเฉพาะตัวของแต่ละบุคคล ใครจะมาชี้หน้าว่าทำผิด มันเป็นการกล่าวหาว่าร้ายกัน
ในเมื่อทุกศาสนาต่างสอนให้คนทำดี ช่วยเหลือกันและกัน ให้มีเมตตาต่อกัน ถ้าคนในศาสนาอื่นมาต่อว่าคุณว่า คุณกำลังทำผิดที่เกิดในครอบครัวของศาสนาหนึ่ง แล้วยอมรับนับถืออีกศาสนานั้น แสดงให้เห็นชัดเจนว่า ผู้ที่กำลังว่าคุณ ยังไม่เข้าใจคำสอนของศาสนาที่เขานับถือยู่เพียงพอ ไม่ว่ากฎเกณฑ์ของศาสนานั้นจะบังคับไม่ให้ใครที่นับถืออยู่แล้ว ห้ามไปนับถือศาสนาอื่นก็ตาม
เพราะว่าตัวตนของคุณเองนั้น มีความสำคัญกว่าศาสนาครับ หากไม่มีตัวคุณบนโลก ก็จะไม่มีปัญหาเรื่องเลือกนับถือศาสนานี้ เกิดขึ้นแน่นอน จงระลึกไว้ให้ได้ว่า ไม่ว่าคุณจะนับถือศาสนาใด ตัวตนของคุณสำคัญกว่าสิ่งอื่นทุกสิ่งในโลก จงปฎิบัติตัวในสิ่งที่คุณเลือกแล้วว่าดี และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน (ส่วนใครจะมาเดือดร้อนในเรื่องที่คุณทำ นั่นคือเรื่องเดือดร้อนที่เขาสร้างเอง) นั่นเพียงพอแล้ว
ความคิดเห็นที่ 9
ผมเองอดีตทำงานตะวันออกกลาง มีเพื่อนๆมาชวนเข้าศาสนามุสลิมเสมอๆ อีกทั้งยังหาหนังสือเอกสารต่างๆมาให้อ่าน ผมอ่านนะครับอยากรู้ แต่อ่านแล้วก็ว่ามันขัดกันสุดๆกับวิถีคนพุทธอย่างผม ผมเองเห็นตามสื่ออีกทั้งสัมผัสจากคนรอบข้างในช่วงทำงาน สังคมเขาชอบยกยอปอปั้นสุดๆ พุทธจะไปวัดจะทำบุญหรือไม่ทำบุญไม่มีใครมาชี้หน้าด่าประนามครับ แต่สำหรับศาสนาที่คุณเอ่ยถึงหากพลาดไปละหมาด จะถามพร้อมตำหนิทันทีอิสระตรงไหน เหมือนบังคับในที
ผมพุทธสายกลางไม่ทำบุญกับวัดที่ร่ำรวยเวลาจะพบเจ้าอาะวาด ยากเย็นต้องรอไม่ไปครับ ผมทำบุญไม่เคยเขียนชื่อติดสิ่งที่ถวายวัด ผมจะไปวัดที่เจ้าอาวาสสมถะ ทำบุญเพราะอยากทำอยากให้พุทธศาสนารุ่งเรือง ทำแล้วรู้สึกดี ทำครับ
กรณีของคุณ เดี๋ยวจะมีสายคลั่งเอ๊ยสายเคร่ง มาชี้แนวพร้อมตำหนิไม่เชื่อคอยดูหรือไม่ก็ว่าคุณคือเข้ามาเขียนกระทู้ล่อเป้า ต้องทำใจนะครับ ในห้องนี้ผู้รู้มากมายทั้งๆที่ ไม่เคยไปเหยียบแผ่นทรายที่ประเทศที่ตนนับถือศาสนานั้นเลย มาเขียนราวกับเคยไปอยู่ที่นั่นก็มีครับ
สำหรับสิ่งที่คุณเกรงกลัว มันอยู่ที่คุณหากคุณไม่ใส่ใจซะอย่างคุณจะมีชีวิตแบบสบายๆในโลกนี้ครับ
ผมพุทธสายกลางไม่ทำบุญกับวัดที่ร่ำรวยเวลาจะพบเจ้าอาะวาด ยากเย็นต้องรอไม่ไปครับ ผมทำบุญไม่เคยเขียนชื่อติดสิ่งที่ถวายวัด ผมจะไปวัดที่เจ้าอาวาสสมถะ ทำบุญเพราะอยากทำอยากให้พุทธศาสนารุ่งเรือง ทำแล้วรู้สึกดี ทำครับ
กรณีของคุณ เดี๋ยวจะมีสายคลั่งเอ๊ยสายเคร่ง มาชี้แนวพร้อมตำหนิไม่เชื่อคอยดูหรือไม่ก็ว่าคุณคือเข้ามาเขียนกระทู้ล่อเป้า ต้องทำใจนะครับ ในห้องนี้ผู้รู้มากมายทั้งๆที่ ไม่เคยไปเหยียบแผ่นทรายที่ประเทศที่ตนนับถือศาสนานั้นเลย มาเขียนราวกับเคยไปอยู่ที่นั่นก็มีครับ
สำหรับสิ่งที่คุณเกรงกลัว มันอยู่ที่คุณหากคุณไม่ใส่ใจซะอย่างคุณจะมีชีวิตแบบสบายๆในโลกนี้ครับ
ความคิดเห็นที่ 54
เราเป็นพุทธ แต่งงานกับสามีอิสลาม แต่ในใจเราบอกเลย ไม่มีความนับถือศรัทธาใดๆทั้งสิ้นในศาสนานี้
เราแต่งเพราะเรารักผู้ชายคนนี้เท่านั้น ไม่ได้รักศาสนาของเค้า (ทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกันมีความสุขดี)
และเราก็ไม่มีลูกเพราะไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วมีปัญหาในลักษณะเดียวกับ จขกท นี่ละค่ะ
บอกตามตรง เรื่องความรักความศรัทธาในศาสนาเนี่ย มันบังคับกันไม่ได้หรอก
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่เยอะสิ่ง มีกฎระเบียบข้อบังคับอะไรมากมาย บอกคนอื่นว่าไม่มีการบังคับแต่จริงๆก็บังคับนั่นแหละ
แปลกดีนะ คนอื่นต้องยอมตัวเอง แต่ตัวเองไม่เคยยอมใคร ใจเขาใจเราเนอะ
ถามว่าผิดมั้ยที่คุณอยากนับถือพุทธ ถ้าถามคนพุทธก็จะตอบว่าไม่ผิดแน่นอน เพราะศาสนาพุทธใจกว้างเสมอ
จะนับถืออะไรก็ได้ ออกจากศาสนาพุทธไปเข้าศาสนาอื่นก็ยังได้ ไม่มีการประนามหยามเหยียด ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
ให้อิสระเต็มที่ ขอให้คุณเป็นคนดีจริงๆก็แล้วกัน นี่แหละเราถึงรักในศาสนาพุทธของเรา เพราะมุ่งเน้นให้ทำความดี ละความชั่ว เท่านั้นเอง
ไม่ได้เน้นสะสมจำนวนคน ไม่ต้องสะสมแต้มหาสาวกเข้าศาสนาตัวเอง
แต่ถ้าถามทางอิสลาม ปกติเค้าไม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ประมาณว่าจะตกศาสนา ทั้งตระกูลจะเสียใจมาก บลาๆๆ
ที่บอกว่าอัลเลาะห์ไม่ทรงบังคับอะไรนั่น มันก็เป็นเพียงคำพูดที่สวยหรูเท่านั้นแหละ เอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่หรอก
นอกจากว่าคุณจะโชคดีแบบสุดๆ คุณแม่ไม่เคร่งมากและยอมปล่อยให้คุณไปตามทางที่คุณศรัทธา
แต่เราเองก็ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลยนะ เคสที่ทางบ้านเต็มใจ ส่วนใหญ่จะแอบๆออกจากศาสนาไปเอง และแอบๆไปปฏิบัติทางพุทธมากกว่า
เราแต่งเพราะเรารักผู้ชายคนนี้เท่านั้น ไม่ได้รักศาสนาของเค้า (ทุกวันนี้ยังอยู่ด้วยกันมีความสุขดี)
และเราก็ไม่มีลูกเพราะไม่อยากให้ลูกเกิดมาแล้วมีปัญหาในลักษณะเดียวกับ จขกท นี่ละค่ะ
บอกตามตรง เรื่องความรักความศรัทธาในศาสนาเนี่ย มันบังคับกันไม่ได้หรอก
ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาที่เยอะสิ่ง มีกฎระเบียบข้อบังคับอะไรมากมาย บอกคนอื่นว่าไม่มีการบังคับแต่จริงๆก็บังคับนั่นแหละ
แปลกดีนะ คนอื่นต้องยอมตัวเอง แต่ตัวเองไม่เคยยอมใคร ใจเขาใจเราเนอะ
ถามว่าผิดมั้ยที่คุณอยากนับถือพุทธ ถ้าถามคนพุทธก็จะตอบว่าไม่ผิดแน่นอน เพราะศาสนาพุทธใจกว้างเสมอ
จะนับถืออะไรก็ได้ ออกจากศาสนาพุทธไปเข้าศาสนาอื่นก็ยังได้ ไม่มีการประนามหยามเหยียด ไม่เห็นมีใครว่าอะไร
ให้อิสระเต็มที่ ขอให้คุณเป็นคนดีจริงๆก็แล้วกัน นี่แหละเราถึงรักในศาสนาพุทธของเรา เพราะมุ่งเน้นให้ทำความดี ละความชั่ว เท่านั้นเอง
ไม่ได้เน้นสะสมจำนวนคน ไม่ต้องสะสมแต้มหาสาวกเข้าศาสนาตัวเอง
แต่ถ้าถามทางอิสลาม ปกติเค้าไม่โอเคอยู่แล้วค่ะ ประมาณว่าจะตกศาสนา ทั้งตระกูลจะเสียใจมาก บลาๆๆ
ที่บอกว่าอัลเลาะห์ไม่ทรงบังคับอะไรนั่น มันก็เป็นเพียงคำพูดที่สวยหรูเท่านั้นแหละ เอาเข้าจริงๆมันไม่ใช่หรอก
นอกจากว่าคุณจะโชคดีแบบสุดๆ คุณแม่ไม่เคร่งมากและยอมปล่อยให้คุณไปตามทางที่คุณศรัทธา
แต่เราเองก็ยังไม่เคยเจอเคสแบบนี้เลยนะ เคสที่ทางบ้านเต็มใจ ส่วนใหญ่จะแอบๆออกจากศาสนาไปเอง และแอบๆไปปฏิบัติทางพุทธมากกว่า
แสดงความคิดเห็น
พ่อเป็นพุทธ แม่เป็นอิสลาม ส่วนตัวลูก(ดิฉัน) อยากนับถือพุทธ ดิฉันผิดด้วยเหรอ ?
พ่อของดิฉันเป็นคนพุทธค่ะ และมาแต่งงานกับแม่ที่เป็นอิสลาม และต้องเข้าอิสลาม ตามที่ได้ยินมา ถ้าแต่งกับคนอิสลามต้องเข้าอิสลามใช่ไหม และพ่อก็อยู่กับแม่มาจนมีลูก
ดังนั้นพอมีลูก ก็คือ ดิฉัน เลยถูกปลูกฝังให้เข้าอิสลาม โดนให้ไปเรียนอ่านหนังสืออิสลาม ให้ละหมาด ซึ่งตอนเด็กๆดิฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมต้องให้บังคับ แต่ก็ทำตามมาเสมอ เพราะกลัวจะบาปถ้าไม่ทำตาม แต่ดิฉันสนิทกับญาติฝั่งพ่อมาก และไปมาหาสู่บ่อย ฝั่งนั้นเขาไม่ค่อยชอบอิสลาม แต่ก็ไม่ได้รังเกียจดิฉันที่เป็นหลาน ดิจนอยู่กับพ่อแม่จนดิฉันจบชั้น ประถม (พ่อดิฉันแต่งมาอยู่ฝั่งบ้านแม่ค่ะ) และได้ไปเรียนต่อมัธยมที่โรงเรียนแถวบ้านย่า พ่อเลยให้ดิฉันไปอยู่กับย่าค่ะ ดิฉันอยู่บ้านย่า กินหมูไหว้พระทำทุกอย่างเลยค่ะ ที่เขาห้าม และวันนึงดิฉันก็อยากเลือกทางของตัวเอง
**เนื่องจากยาว ขอพิมพ์ต่อในความคิดเห็นค่ะ