นี่อาจจะเป็นกระทู้แรกที่เขียนในทางที่ดี เพราะปกติเป็นสายบ่น 555
แต่ทริปนี้ต้องขอโทษทุกคนก่อน เพราะเจ้าของกระทู้ไปหลายวันมาก(เนื่องจากว่าง)
แต่แนะนำว่าถ้าใครอยากไปแบบสั้นๆมีเวลาจำกัด
เดี๋ยวทำสรุปวันและสถานที่ที่เหมาะแก่การเที่ยวในแต่ละเมืองไว้ตรงวันสุดท้ายของแต่ละเมืองนะคะ
ภาพรวมของทั้งทริปประมาณนี้
ว่าแล้วก็เริ่มกันเลย รอบนี้ตุ๊ดอาสาพาทุกคนมุ่งลงใต้
ใต้แบบใต้เบตงไปอีก เพราะเราจะนั่งรถไฟไปที่ ปึนัง
เท้าความกลับไป ถึงแรงบันดาลใจ คือ ไม่เคยนั่งรถไฟข้ามประเทศ
เลยอยากรู้ว่ากระบวนการมันเหมือนนั่งรถทัวร์หรือนั่งเครื่องบินมั้ย
เราใช้เวลาตัดสินใจน้อยมาก คิดปุ๊ปไปปั๊ป
ก็เลยเสนอแฟนว่า ชั้นอยากไป ปีนัง จงไปเจอชั้นที่นั่น (นางอยู่สิงคโปร์)
จากนั้นเราก็แหกขี้ตามุ่งหน้าไป “หัวลำโพง"
เราเดินทางวันอังคารที่ 25 เมษายน ไปจองตั๋ววันอาทิตย์
บอกเจ้าหน้าที่ว่า ไปบัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) ค่ะ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีแล้วค่ะ มีแต่ไป ปาดังเบซาร์ อุ๊ปส์
เราก็แบบ เอ๋า อ่านมา เค้าบอกว่าให้ไปที่นี่เอาไงต่อทีนี้
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ก็นั่งรถต่อไปเอาง่ายๆ No problem จ่ะหนู จะไปมั้ย ที่สุดท้ายละ
ใต้ความกดดันและคนต่อคิวยาว เลยบอกว่า โอเคค่ะ ตีตั๋ว ณ บัดนาว
ค่าเสียหาย 870 บาท ได้เตียงบน
DAY : 1 ชั้นเตรียมพร้อม
อย่างที่บอกรอบนี้เตรียมตัวดี ไม่ผีไม่พังแน่ๆ แผนของเราคือ ไปสามวัน
เลยแลกเงินไป 5000 บาท เราแลกที่ Super rich เรทก็ราวๆ เกือบ 8 บาท (7.85) ต่อ 1 ริงกิต
พอถึงวันเราก็ไปรอก่อนรถไฟออกเกือบครึ่งชั่วโมง
ถึงแม้รถไฟไทยจะขึ้นชื่อเรื่องถึงช้า แต่ออกจากหัวลำโพงตรงเวลานะจ๊ะ ออกเป็นออก!!

ความหรรษาเกิดขึ้น เมื่อถึงเวลา เราก็ไปขึ้นผิด โบกี้ คือ แต่ละโบกี้ก็จะต่างกัน
เพราะเป็นแบบ First class แบบ Second class และ ชั้นสาม
ตอนแรกขึ้นไป หูยย ดี สมราคาที่จ่ายมา แต่ปิ้ว!! ผิดกระบวนจ้า อันนั้นมัน First class
เจ้าหน้าที่บอกว่านู่น ของพ่อหนุ่มอยู่ท้ายๆนู่น หูยยย พ่อหนุ่ม 5555
พอลงมาแล้วเดินพา โบกี้ รถไปตัวเองก็แบบ ใจแป้ว เพราะมันเป็นแบบ Open air
เราก็แบบ ฮือออ นั่งแบบพัดลมนี่นะ ถึง มาเล
เพราะในใจคิดว่า มันต้องเรียงชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3
แต่ยังหาขบวนตัวเองไม่เจอ รถไฟออกแล้วจ้า 5555555
แบบ โว๊ยยยยยย อะไรเนี่ย เราก็รีบวิ่งสุดชีวิต
ผีบ่าววว รอน้องนุ้ย ด้วยยยยยยยยยยย
เจ้าหน้าที่ผู้ชาย บอกว่า เดี๋ยวกลับมา เดี๋ยวกลับมา ไปเปลี่ยนโบกี้
พอเราหันหลังกลับไป โอ๊ยยยย นึ่งว่าหนัง Zombie Train to Busan
ไทยเอย ฝรั่งเอย วิ่งตาเหลือก อารมณ์แบบ อะไรวะเนี่ย ตกรถไฟหรอเนี่ย!!
ทุกคนมีใบหน้ามึนงง ประมาณนี้
เราก็ได้ทำการ อาสา เดินบอกทุกคนว่า ไม่ต้องตกใจ เค้าไปเปลี่ยนโบกี้ อีก 15 นาทีกลับมา
Lady and Gentleman don’t worry , they just go and change the bogie. ค่ะ
จากนั้นก็นั่งตากแดด รอวนไป ไม่นานรถไฟก็กลับมารับ และออกจากสถานีภายใน 5 นาที
เรานั่งตรงข้ามกับคุณยาย ซึ่งคุณยายจะลงพัทลุง สภาพก็เป็นเช่นนี้
การเดินทางได้เริ่มต้นแล้ว รถไฟไทยเป็นไปอย่างเชื่องช้า
การเดินทางเหมือนงานทัวร์เทศกาลอาหารนานาชาติ
มีขายทุกอย่าง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หมูย่าง หมูทอด ไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยว
แต่ที่เก๋สุดอะไรสุดคือ มี อาหารตามสั่งด้วย มีแพกเกจอาหารตามสั่ง แบบ ผัด1 แกง 1 ข้าว 1 ในราคา 120 บาท
เสริฟให้ท่านในมื้อเย็น ตอนหกโมงเย็น เราแบบ เฮ้ยยย เก๋!!! ไปผัดที่ไหนวะ
แต่เราไม่ได้สั่งหรอก ฝรั่งที่นั่งข้างๆสั่ง แล้วก็มาเสริฟตามเวลา พนักงานกางโต๊ะให้กินข้าวอย่างดี
ด้วยความสะเหร่อของเรา คิดว่าเทศกาลอาหารจะมีตลอด
แต่ไม่นะคะ ซักทุ่มนึงก็ไม่ค่อยมีคนขึ้นมาขายแล้ว เพราะฉะนั้น กรุณาดูแลปากท้องของท่านให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน
เนื่องด้วยเรานอนติดห้องน้ำ เตียงเราเลยถูกกางเป็นเตียงแรก
พี่เจ้าหน้าที่คนปูเตียงในรถไฟคือตัวอย่างของแรงงานมีทักษะ พี่แกทำเร็วมาก มากจนอย่างเปลี่ยนให้พี่แกเป็นรถไฟ
จากนั้นเราก็ขึ้นไปยังเตียงตัวเอง ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะหกโมงครึ่ง
ถึงแม้จะเป็น Miss sleeping beauty แต่จะนอนยังไงตั้งแต่ทุ่มนึง
พยายามเดินเล่นในโบกี้ก็ไม่มีอะไร เลยกลับมานอน ซักพักสามทุ่ม โอ้ยยย หิวข้าว
มีคุณเจ่ที่ไหนก็ไม่รู้ขึ้นมาขายหม้อแกง เลยได้กินข้าวกับขนมหม้อแกง
ซึ่งตอนนี้คนก็นอนเกือบหมดทั้งขบวนแล้ว
การนอนไม่ค่อยราบรื่นนัก อาจเพราะตำแหน่งเตียงที่มันอยู่ใกล้ข้อต่อ
ผนวกกับผู้คนที่เดินผ่านเราไปเข้าห้องน้ำ
ทำให้การนอนเหมือนการนอนในสถานที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว
ตามด้วย after shock 48 ครั้งติดกัน
แต่เราก็พยายามข่มตานอน สุดท้ายก็หลับไป
[CR] นั่งรถไฟคนเดียวเที่ยวปีนัง ไม่พัง แต่ปังเว่อร์!!!
กลับมาอีกแล้ว สำหรับกระทู้ท่องเที่ยว ของตุ๊ดแบกกล้องคนเดิม
เพิ่มเติมคือไม่พังแล้ว 55555
หลังจากได้คลอดกระทู้การท่องเที่ยวให้ทุกคนได้อ่านมา4 กระทู้แล้ว
ก็ขอขอบคุณมาก สำหรับเสียงตอบรับที่ดีมาโดยตลอดนะคะ สำหรับใครที่ยังไม่เคยอ่านสามารถติดตามได้ดังนี้
วังเวียง-หลวงพระบาง ทุกก้าวย่างคือความเซ็กซี่ : https://pantip.com/topic/35212896
ตุ๊ดแบกกล้องท่อง"บางปู" จับพลัดจับผลูถึง "คลองตาก๊ก" : https://pantip.com/topic/36184727
เชี่ยวหลานไม่ได้ไปกับหลาน : 3 วัน 2 คืน เงินหมื่นปลิวเฉย : https://pantip.com/topic/36373989
บาหลีผีหลอก 7 วัน 7 โกง งงเว่อร์!!! : https://pantip.com/topic/36476344
และเราก็มีเพจตุ๊ดแบกกล้องด้วยนะ 555 Tie in สุดไรสุด : https://www.facebook.com/toodbagkong/
ใครชื่นชอบก็กดไลค์กดแชร์เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ เพราะนั่งเขียนจนกระดูกสันหลังคดแล้ว 555
แต่ทริปนี้ต้องขอโทษทุกคนก่อน เพราะเจ้าของกระทู้ไปหลายวันมาก(เนื่องจากว่าง)
แต่แนะนำว่าถ้าใครอยากไปแบบสั้นๆมีเวลาจำกัด
เดี๋ยวทำสรุปวันและสถานที่ที่เหมาะแก่การเที่ยวในแต่ละเมืองไว้ตรงวันสุดท้ายของแต่ละเมืองนะคะ
ภาพรวมของทั้งทริปประมาณนี้
ใต้แบบใต้เบตงไปอีก เพราะเราจะนั่งรถไฟไปที่ ปึนัง
เท้าความกลับไป ถึงแรงบันดาลใจ คือ ไม่เคยนั่งรถไฟข้ามประเทศ
เลยอยากรู้ว่ากระบวนการมันเหมือนนั่งรถทัวร์หรือนั่งเครื่องบินมั้ย
เราใช้เวลาตัดสินใจน้อยมาก คิดปุ๊ปไปปั๊ป
ก็เลยเสนอแฟนว่า ชั้นอยากไป ปีนัง จงไปเจอชั้นที่นั่น (นางอยู่สิงคโปร์)
เราเดินทางวันอังคารที่ 25 เมษายน ไปจองตั๋ววันอาทิตย์
บอกเจ้าหน้าที่ว่า ไปบัตเตอร์เวอร์ธ (Butterworth) ค่ะ
เจ้าหน้าที่บอกว่า ไม่มีแล้วค่ะ มีแต่ไป ปาดังเบซาร์ อุ๊ปส์
เราก็แบบ เอ๋า อ่านมา เค้าบอกว่าให้ไปที่นี่เอาไงต่อทีนี้
แต่เจ้าหน้าที่บอกว่า ก็นั่งรถต่อไปเอาง่ายๆ No problem จ่ะหนู จะไปมั้ย ที่สุดท้ายละ
ใต้ความกดดันและคนต่อคิวยาว เลยบอกว่า โอเคค่ะ ตีตั๋ว ณ บัดนาว
ค่าเสียหาย 870 บาท ได้เตียงบน
อย่างที่บอกรอบนี้เตรียมตัวดี ไม่ผีไม่พังแน่ๆ แผนของเราคือ ไปสามวัน
เลยแลกเงินไป 5000 บาท เราแลกที่ Super rich เรทก็ราวๆ เกือบ 8 บาท (7.85) ต่อ 1 ริงกิต
พอถึงวันเราก็ไปรอก่อนรถไฟออกเกือบครึ่งชั่วโมง
ถึงแม้รถไฟไทยจะขึ้นชื่อเรื่องถึงช้า แต่ออกจากหัวลำโพงตรงเวลานะจ๊ะ ออกเป็นออก!!
เพราะเป็นแบบ First class แบบ Second class และ ชั้นสาม
ตอนแรกขึ้นไป หูยย ดี สมราคาที่จ่ายมา แต่ปิ้ว!! ผิดกระบวนจ้า อันนั้นมัน First class
เจ้าหน้าที่บอกว่านู่น ของพ่อหนุ่มอยู่ท้ายๆนู่น หูยยย พ่อหนุ่ม 5555
พอลงมาแล้วเดินพา โบกี้ รถไปตัวเองก็แบบ ใจแป้ว เพราะมันเป็นแบบ Open air
เราก็แบบ ฮือออ นั่งแบบพัดลมนี่นะ ถึง มาเล
เพราะในใจคิดว่า มันต้องเรียงชั้น 1 ชั้น 2 ชั้น 3
แต่ยังหาขบวนตัวเองไม่เจอ รถไฟออกแล้วจ้า 5555555
แบบ โว๊ยยยยยย อะไรเนี่ย เราก็รีบวิ่งสุดชีวิต
ผีบ่าววว รอน้องนุ้ย ด้วยยยยยยยยยยย
เจ้าหน้าที่ผู้ชาย บอกว่า เดี๋ยวกลับมา เดี๋ยวกลับมา ไปเปลี่ยนโบกี้
พอเราหันหลังกลับไป โอ๊ยยยย นึ่งว่าหนัง Zombie Train to Busan
ไทยเอย ฝรั่งเอย วิ่งตาเหลือก อารมณ์แบบ อะไรวะเนี่ย ตกรถไฟหรอเนี่ย!!
ทุกคนมีใบหน้ามึนงง ประมาณนี้
Lady and Gentleman don’t worry , they just go and change the bogie. ค่ะ
เรานั่งตรงข้ามกับคุณยาย ซึ่งคุณยายจะลงพัทลุง สภาพก็เป็นเช่นนี้
การเดินทางเหมือนงานทัวร์เทศกาลอาหารนานาชาติ
มีขายทุกอย่าง ทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง หมูย่าง หมูทอด ไก่ย่าง ก๋วยเตี๋ยว
แต่ที่เก๋สุดอะไรสุดคือ มี อาหารตามสั่งด้วย มีแพกเกจอาหารตามสั่ง แบบ ผัด1 แกง 1 ข้าว 1 ในราคา 120 บาท
เสริฟให้ท่านในมื้อเย็น ตอนหกโมงเย็น เราแบบ เฮ้ยยย เก๋!!! ไปผัดที่ไหนวะ
แต่เราไม่ได้สั่งหรอก ฝรั่งที่นั่งข้างๆสั่ง แล้วก็มาเสริฟตามเวลา พนักงานกางโต๊ะให้กินข้าวอย่างดี
แต่ไม่นะคะ ซักทุ่มนึงก็ไม่ค่อยมีคนขึ้นมาขายแล้ว เพราะฉะนั้น กรุณาดูแลปากท้องของท่านให้เรียบร้อยก่อนเข้านอน
พี่เจ้าหน้าที่คนปูเตียงในรถไฟคือตัวอย่างของแรงงานมีทักษะ พี่แกทำเร็วมาก มากจนอย่างเปลี่ยนให้พี่แกเป็นรถไฟ
จากนั้นเราก็ขึ้นไปยังเตียงตัวเอง ซึ่งตอนนั้นเพิ่งจะหกโมงครึ่ง
ถึงแม้จะเป็น Miss sleeping beauty แต่จะนอนยังไงตั้งแต่ทุ่มนึง
พยายามเดินเล่นในโบกี้ก็ไม่มีอะไร เลยกลับมานอน ซักพักสามทุ่ม โอ้ยยย หิวข้าว
มีคุณเจ่ที่ไหนก็ไม่รู้ขึ้นมาขายหม้อแกง เลยได้กินข้าวกับขนมหม้อแกง
ซึ่งตอนนี้คนก็นอนเกือบหมดทั้งขบวนแล้ว
ผนวกกับผู้คนที่เดินผ่านเราไปเข้าห้องน้ำ
ทำให้การนอนเหมือนการนอนในสถานที่ประสบเหตุแผ่นดินไหว
ตามด้วย after shock 48 ครั้งติดกัน
แต่เราก็พยายามข่มตานอน สุดท้ายก็หลับไป
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น