[CR] วังเวียง-หลวงพระบาง ทุกก้าวย่างคือความเซ็กซี่



มาแล้วววววว
กระทู้แรกของชั้นสำหรับพันทิป
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
แนะนำตัวก่อน ชั้นชื่อตุ๊ดแบกกล้อง
ชั้นชอบการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว
ชั้นคิดว่าชั้นรัก South East Asia เอ๊ะหรือว่าชั้นจนแล้วไปไกลกว่านี้ไม่ได้ก็ไม่รู้
ชั้นชอบนอนโฮสเทลราคาถูก
ชั้นชอบการพบปะเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
ชั้นชอบถ่ายรูปมาก และชั้นหวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับรูปของชั้น
ชั้นใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายภาพ แต่เนื่องจากกล้องชั้นพัง บางภาพจึงหยิบมาจากมือถือ
ทั้งนี้ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของชั้น ห้ามนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาตินะคะ
ขั้นไม่ใช่ตุ๊ดสายกิจกรรม ไม่ใช่ตุ๊ดสายจดบันทึก
อาจจะมีข้อผิดพลาดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
แต่ก็พยายามจะถ่ายทอดการเดินทางให้ดีที่สุดนะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบสามารถเข้าไปดูรูปถ่ายของชั้นได้ที่
https://www.facebook.com/toodbagkong


ว่าแล้วเริ่มต้นการเดินทางกันเลยดีกว่า
ทริปนี้สตาร์ทที่อุดรธานี แต่ตอนที่ลงรถทัวร์มา
เอ๊ะ ใช่อุดรรึป่าวทำไมสายไฟระโยงระยางขนาดนี้
อ่อ ที่แท้พายุเพิ่งเข้า เลยแอบเก็บภาพน้องเป็ดนอนหงายมาฝากกัน



DAY : 1

ทริปนี้เป็นทริป 5 วัน 4 คืน
ด้วย budget 5000 บาท บอกเลยว่าพังมากๆ
แนะนำเอาไปซัก 6-7 พันเถอะนะ กำลังดี
ครั้งนี้มีเพื่อนสาวไปด้วยหนึ่งนาง
นานมากแล้วที่ชั้นไม่ได้ไปเที่ยวกับเพื่อน นี่จึงเป็นความหายนะของชั้น 555
และแล้วมันก็หายนะจริงๆ เมื่อเราทำการนัดที่อุดรธานี เวลา 8 นาฬิกา
ด้วยความที่รักเพื่อนมากและเหมือนนางจะมาไม่ทัน
ชั้นเลยชิงซื้อตั๋วก่อนราคาก็ 320 บาท (1คนต่อ1ใบ ใช้พาสปอตซื้อให้กันไม่ได้)
โดยคาดว่าถ้านางมาไม่ทันชั้นก็ไป เดชะบุญนางมาทัน
ผ่านไปซักพักระหว่างที่ชั้นกำลังเดินไปซื้อน้ำที่เซเว่นฯ
นางโทรมาหาชั้นว่า “พาสปอตกูกำลังหมดอายุ เค้าไม่ให้กูซื้อตั๋ว”
คือตอนนั้นชั้นขำนางนะ เพราะนางเป็นเพื่อนที่แบบมีเรื่องหายนะเกิดขึ้นได้เสมอ
ตั้งแต่เชียงใหม่ที่นางจองตั๋วไปกลับสลับกัน
ตอนนางอยากไปญี่ปุ่นชั้นไม่มีตังค์ไป สุดท้ายก็บังเอิญได้บินไฟท์เดียวกัน
วันนี้จะไปหลวงพระบาง พาสปอตนางก็มาหมดอายุ
นางก็นอยแบบนอยเบอร์สิบ เพราะนางแหกขี้ตาตื่นมาตั้งแต่ตีห้า
และยังไงคนขายตั๋วก็ไม่ยอมขาย บอกว่ายังไงก็ไปไม่ได้อยู่ดี
แต่คนรถบอกว่าไปได้ไปได้ เดี๋ยวจะพาทำ ความพีคคือนางต้องรถตู้ไปด่านที่หนองคายก่อนชั้น
พร้อมกับกระเป๋านางที่โหลดอยู่ใต้รถที่ชั้นนั่ง
นางไปผ่านกระบวนการไรไม่รู้คุณแม่ชาวลาวพาข้ามไปอย่างสวยงาม
แต่โอเคได้ไป สรุปคือไปได้แต่เสียตังค์เท่าๆกับค่าทำพาสปอตใหม่
เพราะฉะนั้นก็แนะนำให้ทำพาสปอตใหม่ให้พร้อมดีกว่านะคะ ทั้งนี้จงแลกเงินตรงที่แสตมป์พาสปอตให้เรียบร้อย
กระบวนการตอนนี้ไม่มีไรมาก เดินๆตามเค้าไป
แล้วก็เสียเงินค่าผ่านแดน 55 บาท จะได้การ์ดมา 1 ใบ
ก็สอดเข้าเครื่องเหมือนบัตร BTS จากนั้นก็ Welcome to สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว



จากนั้นเราก็เริ่มการเดินทางมุ่งหน้าสู่วังเวียง
โดยรถจะใช้เวลาประมาณ 7-8 ชั่วโมง คือขึ้นตอน 8.30 ถึงตอน 16.30
จอดแวะพักให้ทานข้าวเที่ยงประมาณครึ่งชั่วโมง



ด้วยความตื่นเช้าบอกได้คำเดียวว่าหลับตลอดทาง
พอมาถึงวังเวียง โอ้โห ร้อนนนนนนนนนนนนนนน
ร้อนอะไรเบอร์นั้น นี่นึกว่าเปิดประตูสู่กระทะทองแดง
เราถูกต้อนขึ้นรถสองแถวและไปทิ้งเราไว้บริเวณโรงแรมแห่งนึง
ซึ่งก็จะมีพนักงานแต่งตัวสวยมาแจกโบรชัวร์ พร้อมกับเด็กสาวชาวลาวมาแจกรอยยิ้ม



เทคนิคเล็กๆจากตุ๊ดแบกกล้องคือ ถ้าอยากได้ที่พักถูก ให้ไปที่ใจกลางความวุ่ยวาย
จากนั้นเราเดินมุ่งหน้าไปสู่ใจกลางเมืองถนนเรียบแม่น้ำซอง
ราคาโรงแรมก็ไม่ถูกไม่แพงอยู่ที่ประมาณ 100,000 - 250,000 กีบ
หรือราวๆ 400 -1000 บาท
เดินไปตั้งแต่ต้นจนสุดซอยก็ไม่มีราคาถูกใจ แล้วก็มาจบที่เฮือนพักสุขสมบูรณ์
ที่เคยมาพักเมื่อปีที่แล้ว ต่อราคาไปต่อราคามาได้อยู่ที่ 90000 กีบ
โอเคมากๆ ห้องแอร์ เห็นวิวภูเขา ก็ตกคนละ 190 บาท/คืน วิวจากหน้าต่างประมาณนี้



ทั้งนี้ Wi-FI ที่ลาวคือความหายนะมาก จงอย่าคาดหวังว่ามันจะเร็ว
แพลนวันนี้คือเล่นน้ำที่แม่น้ำซองและนั่งจิบเบียร์ดูพระอาทิตย์ตก
ตุ๊ดถือถังน้ำแข็งใส่เบียร์ กล้องคล้องคอ ถ่ายรูปอย่างเก๋ไก๋
พร้อมเพื่อนสาวที่กินน้ำเปล่าเป็นอาหาร บรรยากาศรอบข้าง และความแซ่บของนักท่องเที่ยว
อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก






พอแอลกอฮอร์ได้ที่แล้ว เราก็กลับห้องอาบน้ำพร้อมดินเนอร์
โอ้โห ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน ฝน
จะตกหนักอะไรเบอร์นั้น
ตกเหมือนเพิ่งเสร็จพิธีแห่นางแมว
กะว่าจะพาเพื่อนสาวไปโฉบซากุระบาร์ในตำนานซักหน่อย
คือฝนตกหนักจนตุ๊ดเริ่มท้อ เลยซื้อบาบีคิวหน้าโรงแรมกิน
ไม่รู้เค้าใส่ยานอนหลับรึป่าว
แต่ชั้นหลับตั้งแต่ทุ่มนึงจ้า หลับแบบว่าลืมตื่น
ลืมอาบน้ำ ภาพของวันแรกเลยถูกตัดจบที่ตรงนี้


DAY : 2

ชั้นตื่นขึ้นมาประมาณตี 4 ก็เล่นหลับยาวขนาดนั้น
ความเก๋คือมันเป็นช่วงเวลาของการกลับจากซากุระบาร์
ชั้นแบบเห็นดวงตาธรรมมาก ฝรั่งลากไป สาวลาวลากมา
นี่ชั้นพลาดอะไรไป 5555
ประมาณตีห้าครึ่งชั้นเลยเดินเล่นดูบรรยากาศยามเช้าของวังเวียง
และทิ้งให้อิเพื่อนนอนอยู่ตรงนั้นแหละ


บรรยากาศยามเช้าของแม่น้ำซองในฤดูร้อน
ถือว่ากำลังดี มีหมอกจางๆ
เหมือนธรรมชาติก็ค่อยๆตื่นมาต้อนรับผู้คนในยามเช้า
ชั้นถ่ายรูปเล่นและนั่งจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ





ชั้นชอบเดินมากๆๆลัดเลาะไปตามซอกซอยต่างๆ มันมีอะไรแปลกๆเสมอ เช่น แก๊งค์เป็ดนี้



ตอนเช้าที่วังเวียงจะมีตลาดเล็กๆริมถนนให้ชาวบ้านได้จับจ่ายซื้อของ




ชั้นเดินอวดความงามให้เป็นที่ประจักษ์แก่ชาวเมือง
แล้วก็พบว่าไม่มีใครสนใจชั้น ชั้นเลยเดินกลับห้อง ไปปลุกเพื่อนสาว


แพลนวันนี้คือ สะพานแดง , ถ้ำจัง , และ บลูลากูน ตั้งใจไว้แค่นี้
เพราะอย่างที่บอกชั้นไม่ใช่ตุ๊ดสายกิจกรรม
พายเรือคายัค ล่องห่วงยางลอดถ้ำ มันเหนื่อย กลัวกล้องเปียกด้วย
ส่วนบอลลูนอะ ไม่มีตังค์ เค้าบอกว่าขึ้นบอลลูนที่นี่ถูกสุดแล้วนะใน South East Asia
ราคาก็ 80 US ประมาณ 2800 บาท บายยย นั่นมันครึ่งเงินที่พกมาเลย




ระหว่างที่กำลังอาบน้ำชั้นก็คิดได้ว่า เอ๊ะ ถ้าไปนี่ต้อง Check out ออกจากโรงแรมแล้วนะ
เพราะกว่าจะกลับมาก็คงบ่าย ไม่งั้นก็ต้องเช่าต่ออีกคืน
อีกทั้งยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะไปหลวงพระบางตอนเช้าวันรุ่งขึ้น หรือดึกของวันนี้
เพราะรถในตารางมัน 3 ทุ่ม ไปถึงหลวงพระบางก็ตีสาม จะไปสิงอยู่ไหนหละทีนี้
ไม่รู้ข้อมูลเลย ลุงเจ้าของโรงแรมเลยบอกว่า ลองถามเจ้าอื่นดู เผื่อเค้ามีดึกกว่านี้แล้วไปถึงเช้า
เราเลยไปเดินหาตั๋วรถและไปเช่ามอเตอร์ไซด์
สรุปคือเราได้รถรอบ 5 ทุ่มจะไปถึง หลวงพระบางประมาณ ตีห้า
และเราได้มอไซด์มาในราคา 70000 กีบ เกียร์ออโต้
จากนั้นเราไปเจรจาเรื่องเช็คเอ้ากับคุยลุง และลุงน่ารักมาก แบบว่าน่ารักจริงๆ
บอกว่าเอาของฝากไว้นี่แหละ เที่ยวเสร็จก็กลับมาเอา เราก็กังวลเรื่องอาบน้ำลุงบอกว่า
อาบได้มีห้องให้อาบ สรุปคือ ประหยัดเงินค่าที่พักไป 1 คืน


เราทำการสตาร์ทมอเตอร์ไซด์ไปที่ปั้มน้ำมัน
เดิมไป 20000 กีบ จากนั้นมุ่งหน้าที่สะพานแดงก่อน
แน่นอนแมนๆอย่างชั้น ให้เพื่อนผู้หญิงขับจ้า
และนางก็บอกให้ชั้นลงเดินเพราะกลัวรถตกสะพาน 5555


ระหว่างทางไปเราก็พบกับต้นมะพร้าวแฝดสัญลักษณ์ของวังเวียง



สะพานแดงไม่ไกลมากนัก เสียค่าเข้า 2 คน เป็นเงิน 7000 กีบ
สะพานแดงมีอะไร คำตอบคือมีสะพาน
เหมือนการเสียเงินมาถ่ายรูปกับสะพาน


จากนั้นเราก็เดินไปถ้ำจัง ซึ่งไม่ไกลมาก
แล้วก็พบว่าเสียเงินอีกละ บางทีก็เสียเงินบ่อยไป
จนรู้สึกว่าเก็บทีเดียวตั้งแต่หน้าประตูได้มั้ย จะได้ไม่ต้องล้วงหากระเป๋าตังค์หลายรอบ
ก่อนถึงถ้ำจัง เราก็พบกับธารน้ำซึ่งใสมากๆ


ระหว่างยื่นตั๋วให้คุณลุง ชั้นก็เอื้อนเอ่ยว่า ขอคืนได้มั้ยคะ จะเก็บไว้เป็นที่ระลึก
ลุงมองต่ำ แล้วก็เก็บตั๋วไว้กับตัวเอง
จากนั้นเราก็เดินขึ้นไป และก็พบว่าประตูล็อค
ก็งงๆว่า เอ๊ะ ให้ขึ้นมาดูแค่นี้หรอ? ให้ตายเถอะ คุณหลอกดาว
แต่ลมในถ้ำที่พัดออกมาคือเย็นมาก เหมือนติดแอร์
เราตัดสินใจยืนพักอยู่หน้าประตูนั้น
จากนั้นเราก็พบว่า อ๋อ ลุงไหวใจร้ายต้องมาเปิดประตูให้
นางก็เปิดประตูเปิดสวิซต์ไฟ และบรรยากาศก็ตามภาพค่ะ




จริงๆแล้วเกิดมาไปเคยไปดูถ้ำอะไรแบบนี้เลย หินงอกหินย้อยนี่ลาก่อน
แต่พอได้มาดูจริงๆก็แปลกดีนะ เย็นๆดี ดูน่ากลัว ดูลึกลับ
ใช้เวลาอยู่ในนั้นประมาณครึ่งชั่วโมง เราก็มุ่งหน้าสู่บลูลากูน
สำหรับคนที่อ่านอยู่ตอนนี้แล้วคิดว่าทุกที่ที่กล่าวมาไปยังไง
ชั้นบอกเลยว่าอย่ากังวล ตุ๊ดแรมต่ำ หลงทางในทุกประเทศ
และเพิ่งแยกซ้ายขวาได้ตอน ป.4
ยังไปถูก คุณก็ต้องไปถูก (ร้านมอเตอไซด์มีแผนที่แจก)


เส้นทางสู่บลูลากูน ถูกปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นถนนลาดยางแล้ว
สำหรับผู้หญิง ท่านจะไม่ประสบเหตุการณ์สะเทือนขวัญเขย่ามดลูกท่านอีกต่อไป
คือปีที่แล้วที่ตุ๊ดไปสภาพเป็นดังนี้




ฝุ่นเอย แดดเลย แล้วถนนมันไม่ใช่ลูกรังนะ
มันก้อนหิน หินก้อนเท่ากำปั้น กลัวรถเหยียบแล้วกระเด็นโดนหน้ามาก
ตอนนั้นเรียกได้ว่าแก๊งค์ อาจุมม่า ขับรถวิบากสนุกกันเลย
กว่าจะไปถึงตอนนั้นเกือบครึ่งชั่วโมง ระหว่างทางเลยแวะเก็บภาพเด็กน้อย
ตามประสานางงาม




บิดไปบิดมาประมาณ 15 นาทีเราก็มาถึง บลูลากูน แต่ขอตัวไปว่ายน้ำก่อน
เดี๋ยวจะมาเขียนต่อนะคะ
ชื่อสินค้า:   วังเวียง + หลวงพระบาง + เวียงจันทน์
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่