สวีดัส สวัสดี กระทู้ที่ 3 ของตุ๊ดแบกกล้องได้คลอดอีกแล้ว
รอบนี้ พราวลี่ พรีเซ้นต์มากเว่อร์ เพราะมันสนุกและข้อมูลครบมาก
สำหรับใครที่ยัง งงๆอยู่ว่านี่คือใคร
ขออนุญาติแนะนำตัวก่อน ชั้นชื่อตุ๊ดแบกกล้อง
ชั้นชอบการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว
ชั้นคิดว่าชั้นรัก South East Asia เอ๊ะหรือว่าชั้นจนแล้วไปไกลกว่านี้ไม่ได้ก็ไม่รู้
ชั้นชอบนอนโฮสเทลราคาถูก
ชั้นชอบการพบปะเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
ชั้นชอบถ่ายรูปมาก และชั้นหวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับรูปของชั้น
ชั้นใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายภาพ แต่เนื่องจากกล้องชั้นพัง บางภาพจึงหยิบมาจากมือถือ
ทั้งนี้ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของชั้น ห้ามนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาตินะคะ
ขั้นไม่ใช่ตุ๊ดสายกิจกรรม ไม่ใช่ตุ๊ดสายจดบันทึก
อาจจะมีข้อผิดพลาดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
แต่ก็พยายามจะถ่ายทอดการเดินทางให้ดีที่สุดนะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบสามารถเข้าไปดูรูปถ่ายของชั้นได้ที่
เริ่มต้นด้วยเรื่องตลกก่อน
ทริปนี้เกือบล่มละ เพราะความเข้าใจผิดในชื่อสถานที่
ทริปนี้คือทริปวันเกิด แล้วชั้นก็มีความดีดดิ้นอยากไปเที่ยวที่นี่มาโดยตลอด
เห็นคนถ่ายรูปมาแล้วสวยยยย ทำไมสวยยยแบบนี้
ก็เห็นเค้าเรียกว่า เขาสก เขาสก ลองเสริชใน google ดูก็จะพบว่าก็นี่แหละเขาสกที่อยากไป
เลยพิมพ์ไปบอกแฟนว่า I wanna go to Khao Sok National Park
แล้วจากนั้นก็ไปตั้งสเตตัสถามเพื่อนๆในเฟสบุ๊คว่า
จะไปเขาสก ควรไปพักที่ไหนดี
แล้วก็มีเพื่อนพิมพ์มาบอกว่า เฮ้ย แก เขาสกคือเขาสกนะ
เขื่อนเชี่ยวหลานคือเขื่อนเชี่ยวหลานนะ
จากนั้นก็ได้ edited status ใน Facebook
เราก็ได้คำแนะนำที่ดีมากๆๆดังนี้

รวบรวมข้อมูลเสร็จก็เอาไปเสนอแฟน
หาในเน็ตที่ไหนก็บอกว่าเต็มหมดแล้ว (พวกเว็ปบุ๊คกิ้งต่างๆ)
เลยบอกแฟนว่า ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ชั้นโทรถามเอง
พอแบกของไปทำงาน กางคอมขึ้นมาก็เจอเซอไพรส์เลยจ้าาาาา
อีเมลล์เข้า Happy birthday
จองโรงแรมให้แล้ว 2 คืน Non-refund บอกว่าให้เป็นของขวัญวันเกิดนะ
โอ้ยยยยย จังหวะนั้นน้ำตาไหลเลย คือนิ่งไปเลย
ไม่ใช่ซึ้งนะ
มันผิดที่ค่ะคุณขา นางไปจองที่นู่นนน อุทยานแห่งชาติเขาสกนู่น
ตรงนั้นมันไกลจากเขื่อนเชี่ยวหลานประมาณ 60 กิโล
คือจะโกรธด้วย เสียใจด้วย เข้าใจเค้าด้วย เพราะเราเองที่บอกว่าจะไปเที่ยว เขาสก
ถึงแม้จะถูกบิ้วด้วยภาพโรงแรมที่ถูกล้อมด้วยภูเขา แต่เราก็อยากไปเขื่อนป่าวว๊า
สรุปคือต้องทำใจ พับเก็บความตั้งใจทั้งหมดแล้วก็คิดในใจว่ามันคงมีทางแหละ
เพราะฉะนั้น จำไว้นะคะ
เดินป่าดูดอกบัวผุด ให้ไปอุทยานแห่งชาติเขาสก
อยากนอนแพ กระโดดน้ำตู้มๆ ให้ไปเขื่อนเชี่ยวหลานนะคะ สวัสดี
การเดินทาง
อันนี้คืองงมากก งงมากว่าทำไมโรงแรมหรือใครก็ตามบอกว่ามันเดินทางลำบากและแพง
เราเลย panic ไปด้วย อันนี้ขอบ่นโรงแรมนิดนึงเพราะเราโทรไป 3 รอบ
แล้วคำตอบคือทำให้เรารู้สึกว่า เราจะไปถึงโรงแรมรึป่าว
พร้อมเสนอบริการแท็กซี่รับส่งในราคาเที่ยวละ 1900 ไปกลับ 3800 จองโรงแรมไป 3500
ค่าเครื่อง 2 คนก็เกือบ 5000 เบ็ดเสร็จยังไม่ทำอะไร ก็หมดเงิน 13,000 ละ
คือมีหลายครั้งมากที่ใจถอด แล้วคิดว่าไม่ไปดีกว่า รู้สึกเปลืองเงิน รู้สึกว่าจะไม่ได้นอนแพแล้ว
จนกระทั่งวันเดินทาง อยู่ดีดีก็ฮึดขึ้นมาว่า
เฮ้ย!! นี่มันวันเกิดนะเว่ย จะมาลีลาอะไรให้มากมาย
ตื่นค่ะ!!!
ตั๋วก็มีแล้ว โรงแรมก็มีแล้ว จะไม่ลองดูหน่อยหรอ เป็นไงเป็นกัน
ว่าแล้วก็แหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเพราะไฟท์เช้า
นี่เป็นการเดินทางไปภาคใต้แบบใต้จริงๆเป็นครั้งแรก
ใต้แบบไม่ใช่ประจวบฯ เลยค่อนข้างตื่นเต้น
ครั้งนี้บินกับแอร์เอเชีย ออกตรงเวลา แต่ตุ๊ดได้วนบนฟ้าอยู่ 30 นาที
เพราะสภาพอากาศไม่ค่อยเป็นใจนัก หมอกหนาจัด เครื่องแลนด์ไม่ได้
ก็แลนดิ้ง ณ สนามบินสุราษธานี ราวๆ 8.45 น .
จากนั้นก็มุ่งหน้าไปที่เค้าท์เตอร์ของบริษัทลมพระยา ปรากฏว่าไม่มีตั๋วไปเขาสก
โดนชี้มาที่เค้าเตอร์ข้างกัน “Phantip" พอชะโงกดูพนักงานถึงกับตกใจ
อ๋อ ผิดเค้าท์เตอร์ 55555
พนักงานพยายามติดต่อรถตู้ให้
ปรากฎว่าไม่มีคนรับ เลยถูกแนะนำว่าให้ไปขึ้นในตัวเมืองดีกว่าค่ารถเข้าเมืองคนละ 100 บาท
ด้วยความเป็นคนชิวไง ก็อะเข้าเมืองก็เข้าเมือง
พอรถเริ่มออกแฟนนี่ก็ผี GPS เข้าสิง บอกว่ามันไปคนละทางกับเขาสกเลย
สรุปคือว่า ก็ย้อนไปขึ้นในเมือง แล้วก็กลับมาผ่านสนามบินอีกครั้ง งงมั้ย?
พูดง่ายๆคือเสียเงินฟรีๆ และเสียเวลา แต่ด้วยความมองโลกในแง่ดีก็แบบ
เผื่อพนักงานเค้าติดต่อให้รถตู้มารับไม่ได้หละ ก็จะนั่งรอไปเรื่อยๆหรอ
สรุปก็ตัดสินใจนั่งรถเข้าเมืองก่อน
พอไปถึงตัวเมืองก็ซื้อตั๋วไปเขาสก 2 ที่ คนละ 250 บาท
มีเวลาให้ทานข้าวประมาณ 30 นาที เลยไปลองทานร้าน ลัคกี้ ใกล้ บขส คือดีมากกก ราคาถูก อาหารอร่อยแนะนำเลย
รถตู้ออกไปได้ประมาณ 45 นาที ก็ทำการ เลี้ยวซ้ายเข้าสนามบิน 55555
ถ้าเป็นเกมส์เศรษฐีก็อารมณ์ กลับมาสู่จุดเริ่มต้น ชั้นได้แต่ยิ้มกรุบกริบกลบเกลื่อน
ไม่กล้าสบตาคนข้างๆเลยทีเดียว
จากนั้นหลับอย่างเดียวเลยค่า ตื่นขึ้นมาอีกทีคือถึงปากทางเข้าอุทยาน ป้ายบอกว่า 2 กิโลเมตร
ทุกคนถูกไล่ลงจากรถ ยกเว้นชั้นที่ยิ้มสวยใส่คนขับ แล้วคนขับไปส่งถึงโรงแรมเลย
สรุปให้นะคะ สำหรับรถไปที่เขื่อน หรือ ไปเขาสก มีแน่นอนไม่ต้องกังวลเลย
ราคาก็ราวๆ 200-250 บาท ไม่ถึงขนาดต้องเหมารถไปหรอก ถ้ามากันแค่ 2-3 คน
นั่งรถตู้น่าจะประหยัดกว่า ตุ๊ดได้ทำทางเลือกในการเดินทางให้ดังนี้
ทั้งนี้เรือ 1 วันราคา 1500 บาท ค้างคืนก็ราว 2500 บาท นั่งได้ราว 10 คน
ถ้าไป 5 คนขึ้นไปก็หารกันชิวๆ
ที่พัก
ถ้าจะสรุปคร่าวๆคือ มี2แบบ กรมอุทยานVSเอกชน
เท่าที่ sound เสียงจากเพื่อนๆ เราได้ Top 5 ดังนี้
ภูผาวารีย์
แพภูตะวัน
แพพันวารีย์
คีรึวารินทร์
แพรนางไพร
*** ในส่วนของแพ500ไร่ ไม่ติดท็อป 5 เนื่องจากเพื่อนไม่มีใครมีเงินไปพักค่ะ 555 แต่เค้าเริดสุดละ
DAY : 1 ชั้นเซอไพรส์
โรงแรมไม่ไกลจากปากทางเข้าอุทยานมากนัก พอมาถึงพนักงานก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
พร้อมบรรยากาศความร้อนที่ ระอุมากเว่อร์ ภูเขาด้านหลังโรงแรม ให้ความรู้สึกราวภูเขาไฟ
ถึงแม้ทุกอย่างจะสวยงามแต่มิอาจห้ามความนอยของเราได้
แต่คือแบบ Hello วันเกิด เขื่อนอยู่ไหน น้ำอยู่ไหน ไม่เห็นมี ใจคืออยากเจอแบบนี้

ตอนนั้นยอมรับว่า negative สุดๆ
อารมณ์แบบจ่ายเงินมานอนตากแดดแล้วมีภูเขานี่นะ อะไรประมาณนี้
ผ่านไปซักพัก ไม่รู้ว่าใครส่งฮอลคลูมา จิตเริ่มนิ่งขึ้น เริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้น
สอบถามพนักงานว่าที่นี่มีอะไรให้ไปบ้าง
ได้ความว่า เลี้ยวซ้ายเป็นวัดมีลิง เลี้ยวขวาเป็นอุทยาน
แต่ตอนนี้ลิงน่าจะเข้าป่าแล้ว ไปอุทยานจะดีกว่าแถมตั๋วถ้าซื้อหลัง 4 โมงเย็นจะใช้วันต่อมาได้ด้วย
ระหว่างนั้นก็รอให้แดดร่มลมตกและความงก
แฟนก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะพาไปเขื่อน
เพราะนางรู้สึกผิดที่นางจองมาผิดที่ แต่คือดูโปรแกรมทัวร์แล้วก็แอบแพง
ที่เล็งๆไว้ก็มี 2500 กับ 4000 ต่างกันแค่เรื่องที่นอน
ราคาทัวร์เราว่าเท่ากันแทบทุกที่ อย่าเดินหาให้เหนื่อยเลย
ยอมรับว่าเกิดมาไม่เคย join ทัวร์เลย และไม่คิดอยาก join
ด้วยเพราะว่าเวลาถ่ายรูปเราชอบใช้เวลากับสิ่งที่อยู่ข้างหน้านานๆ
แต่ดูจากสถานการณ์แล้วทัวร์คงเป็นแค่ตัวเลือกเดียวที่จะทำให้เราไปเขื่อนได้
เลยตัดสินใจจอง 2 Days 1 night tour ราคา 2500 ต่อคน
รวมที่พัก รถรับส่ง และ อาหาร 6 มื้อ แต่เราต้องเทโรงแรม 1 วัน แอบเสียดายตังค์
แต่ก็ได้มาแล้ว เอาให้สุดไปเลย
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมีแพลนแล้ว
นั่นคือไปเดินอุทยาน กลับมาทานข้าว นอนตื่นเช้าไปทัวร์
ทัวร์จะเสร็จบ่ายโมงของวันต่อมา นั่งรถไปสนามบิน จากนั้นบินกลับกรุงเทพ easy beezy beautiful covergirl มากๆ

เราเดินมุ่งหน้าไปอุทยาน ซึ่งห่างจากโรงแรมไปประมาณกิโลเดียว
ซื้อตั๋วคนไทย 40 ชาวต่างชาติ 300 บาท
ตั๋วสามารถใช้พรุ่งนี้ได้เพราะซื้อหลังสี่โมงเย็น ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วอีกถ้าจะไปเขื่อนพรุ่งนี้
เดินเข้ามาก็มีลำธารเล็กๆ กับใบไม้ที่ไหวติงตามแรงลม
อยากบอกว่า เขาสก ไม่มีนักท่องเที่ยวไทยเลย แม้แต่ 1 คน
ไม่มีเลยจริงๆ ยกเว้นเจ้าของกิจการกับพ่อค้าแม่ค้า
แบบเซอร์ไพรส์มากๆว่า เฮ้ย แปลกๆ ที่เที่ยวแห่งนี้แปลก แปลกจนโลกไม่ลืม
เราไม่ได้ทำการหาข้อมูลใดๆทั้งสิ้น เห็นแต่ป้ายบอกว่ามีน้ำตก ก็จะเดินไปดูน้ำตก
โอ้โห โอ้โห เดินไปเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีน้ำตกเลย
แต่ป่าอุดมสมบูรณ์มาก
เสียงนก เสียงจิ้งหรีด นี่แบบก้องเข้าไปในแก้วหู และมีลิงโผล่มาให้ทักทายเบาๆ
ที่แซ่บกว่าคือ ทุกคนถอดเสื้อเดิน six pack นี่แบบ หื้มมมมมม
เดินไปจนแบบคิดว่า นี่มันภูกระดึงป่าววะ เพราะยังไม่มีทีท่าของน้ำตกเลย
ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วยังไม่ได้เห็นน้ำตกเลย
เสียงจั๊กจั่นและกบดังขึ้นพอๆกับความลังเลในใจว่าจะกลับไม่กลับ
แต่ก็เดินมาเกือบ 5 กิโลแล้ว สู้ต่อซักตั้งละกัน
สรุปคือมีฝรั่งเดินสวนมา
เลยถามว่าน้ำตกเป็นไงบ้าง
ได้คำตอบมาว่า The first one it’s not really waterfall.
but I think it’s too far for you for the second one.
พอได้ฟังแล้วแบบ ชั้นเดินมาทำม๊ายย
แต่ก็ยังทนเดินต่อนะ
ถึงแม้จะไม่ใช่น้ำตกแต่ก็ถือว่าโอเคแหละ
ได้แก้ผ้าโชว์พุงพุ้ยถ่ายรูป จากนั้นก็ speed turbo วิ่งกลับเพราะเดินมาไกลมากกก
สรุประยะทางการเดินวันนี้ก็เดินไปทั้งสิ้น 12 กิโลเมตร
จากนั้นไม่นานก็เดินกลับ เพราะฟ้าจวนจะมืดแล้ว
พอถึงที่พักก็แบบโอยยย ง่วงนอน ใจจริงอยากไปเดินดูเมืองดูร้านอาหารเก๋ๆ
แต่ขามันไม่ทำงานละ เลยตัดสินใจทานข้าวที่โรงแรม เพราะโรงแรมนี้ขึ้นชื่อว่าอาหารไทยอร่อยที่สุด
แต่เหตุการณ์ไม่ค่อยน่าประทับใจก็ได้เกิดขึ้น
[CR] เชี่ยวหลานไม่ได้ไปกับหลาน : 3 วัน 2 คืน เงินหมื่นปลิวเฉย
รอบนี้ พราวลี่ พรีเซ้นต์มากเว่อร์ เพราะมันสนุกและข้อมูลครบมาก
สำหรับใครที่ยัง งงๆอยู่ว่านี่คือใคร
ขออนุญาติแนะนำตัวก่อน ชั้นชื่อตุ๊ดแบกกล้อง
ชั้นชอบการเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว
ชั้นคิดว่าชั้นรัก South East Asia เอ๊ะหรือว่าชั้นจนแล้วไปไกลกว่านี้ไม่ได้ก็ไม่รู้
ชั้นชอบนอนโฮสเทลราคาถูก
ชั้นชอบการพบปะเพื่อนใหม่ระหว่างทาง
ชั้นชอบถ่ายรูปมาก และชั้นหวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับรูปของชั้น
ชั้นใช้กล้องฟิล์มในการถ่ายภาพ แต่เนื่องจากกล้องชั้นพัง บางภาพจึงหยิบมาจากมือถือ
ทั้งนี้ภาพถ่ายทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของชั้น ห้ามนำไปใช้โดยไม่ขออนุญาตินะคะ
ขั้นไม่ใช่ตุ๊ดสายกิจกรรม ไม่ใช่ตุ๊ดสายจดบันทึก
อาจจะมีข้อผิดพลาดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย
แต่ก็พยายามจะถ่ายทอดการเดินทางให้ดีที่สุดนะ
สำหรับคนที่ชื่นชอบสามารถเข้าไปดูรูปถ่ายของชั้นได้ที่
วังเวียง-หลวงพระบาง ทุกก้าวย่างคือความเซ็กซี่
https://pantip.com/topic/35212896
ตุ๊ดแบกกล้องท่อง"บางปู" จับพลัดจับผลูถึง "คลองตาก๊ก"
https://pantip.com/topic/36184727
ทริปนี้เกือบล่มละ เพราะความเข้าใจผิดในชื่อสถานที่
ทริปนี้คือทริปวันเกิด แล้วชั้นก็มีความดีดดิ้นอยากไปเที่ยวที่นี่มาโดยตลอด
เห็นคนถ่ายรูปมาแล้วสวยยยย ทำไมสวยยยแบบนี้
ก็เห็นเค้าเรียกว่า เขาสก เขาสก ลองเสริชใน google ดูก็จะพบว่าก็นี่แหละเขาสกที่อยากไป
เลยพิมพ์ไปบอกแฟนว่า I wanna go to Khao Sok National Park
แล้วจากนั้นก็ไปตั้งสเตตัสถามเพื่อนๆในเฟสบุ๊คว่า
จะไปเขาสก ควรไปพักที่ไหนดี
แล้วก็มีเพื่อนพิมพ์มาบอกว่า เฮ้ย แก เขาสกคือเขาสกนะ
เขื่อนเชี่ยวหลานคือเขื่อนเชี่ยวหลานนะ
จากนั้นก็ได้ edited status ใน Facebook
เราก็ได้คำแนะนำที่ดีมากๆๆดังนี้
หาในเน็ตที่ไหนก็บอกว่าเต็มหมดแล้ว (พวกเว็ปบุ๊คกิ้งต่างๆ)
เลยบอกแฟนว่า ไม่เป็นไรพรุ่งนี้ชั้นโทรถามเอง
พอแบกของไปทำงาน กางคอมขึ้นมาก็เจอเซอไพรส์เลยจ้าาาาา
อีเมลล์เข้า Happy birthday
จองโรงแรมให้แล้ว 2 คืน Non-refund บอกว่าให้เป็นของขวัญวันเกิดนะ
โอ้ยยยยย จังหวะนั้นน้ำตาไหลเลย คือนิ่งไปเลย
ไม่ใช่ซึ้งนะ
มันผิดที่ค่ะคุณขา นางไปจองที่นู่นนน อุทยานแห่งชาติเขาสกนู่น
ตรงนั้นมันไกลจากเขื่อนเชี่ยวหลานประมาณ 60 กิโล
คือจะโกรธด้วย เสียใจด้วย เข้าใจเค้าด้วย เพราะเราเองที่บอกว่าจะไปเที่ยว เขาสก
ถึงแม้จะถูกบิ้วด้วยภาพโรงแรมที่ถูกล้อมด้วยภูเขา แต่เราก็อยากไปเขื่อนป่าวว๊า
สรุปคือต้องทำใจ พับเก็บความตั้งใจทั้งหมดแล้วก็คิดในใจว่ามันคงมีทางแหละ
เพราะฉะนั้น จำไว้นะคะ
เดินป่าดูดอกบัวผุด ให้ไปอุทยานแห่งชาติเขาสก
อยากนอนแพ กระโดดน้ำตู้มๆ ให้ไปเขื่อนเชี่ยวหลานนะคะ สวัสดี
เราเลย panic ไปด้วย อันนี้ขอบ่นโรงแรมนิดนึงเพราะเราโทรไป 3 รอบ
แล้วคำตอบคือทำให้เรารู้สึกว่า เราจะไปถึงโรงแรมรึป่าว
พร้อมเสนอบริการแท็กซี่รับส่งในราคาเที่ยวละ 1900 ไปกลับ 3800 จองโรงแรมไป 3500
ค่าเครื่อง 2 คนก็เกือบ 5000 เบ็ดเสร็จยังไม่ทำอะไร ก็หมดเงิน 13,000 ละ
คือมีหลายครั้งมากที่ใจถอด แล้วคิดว่าไม่ไปดีกว่า รู้สึกเปลืองเงิน รู้สึกว่าจะไม่ได้นอนแพแล้ว
จนกระทั่งวันเดินทาง อยู่ดีดีก็ฮึดขึ้นมาว่า
เฮ้ย!! นี่มันวันเกิดนะเว่ย จะมาลีลาอะไรให้มากมาย
ตื่นค่ะ!!!
ตั๋วก็มีแล้ว โรงแรมก็มีแล้ว จะไม่ลองดูหน่อยหรอ เป็นไงเป็นกัน
ว่าแล้วก็แหกขี้ตาตื่นตั้งแต่ตีสี่ครึ่งเพราะไฟท์เช้า
นี่เป็นการเดินทางไปภาคใต้แบบใต้จริงๆเป็นครั้งแรก
ครั้งนี้บินกับแอร์เอเชีย ออกตรงเวลา แต่ตุ๊ดได้วนบนฟ้าอยู่ 30 นาที
ก็แลนดิ้ง ณ สนามบินสุราษธานี ราวๆ 8.45 น .
โดนชี้มาที่เค้าเตอร์ข้างกัน “Phantip" พอชะโงกดูพนักงานถึงกับตกใจ
อ๋อ ผิดเค้าท์เตอร์ 55555
พนักงานพยายามติดต่อรถตู้ให้
ปรากฎว่าไม่มีคนรับ เลยถูกแนะนำว่าให้ไปขึ้นในตัวเมืองดีกว่าค่ารถเข้าเมืองคนละ 100 บาท
ด้วยความเป็นคนชิวไง ก็อะเข้าเมืองก็เข้าเมือง
พอรถเริ่มออกแฟนนี่ก็ผี GPS เข้าสิง บอกว่ามันไปคนละทางกับเขาสกเลย
สรุปคือว่า ก็ย้อนไปขึ้นในเมือง แล้วก็กลับมาผ่านสนามบินอีกครั้ง งงมั้ย?
พูดง่ายๆคือเสียเงินฟรีๆ และเสียเวลา แต่ด้วยความมองโลกในแง่ดีก็แบบ
เผื่อพนักงานเค้าติดต่อให้รถตู้มารับไม่ได้หละ ก็จะนั่งรอไปเรื่อยๆหรอ
สรุปก็ตัดสินใจนั่งรถเข้าเมืองก่อน
พอไปถึงตัวเมืองก็ซื้อตั๋วไปเขาสก 2 ที่ คนละ 250 บาท
ถ้าเป็นเกมส์เศรษฐีก็อารมณ์ กลับมาสู่จุดเริ่มต้น ชั้นได้แต่ยิ้มกรุบกริบกลบเกลื่อน
ไม่กล้าสบตาคนข้างๆเลยทีเดียว
จากนั้นหลับอย่างเดียวเลยค่า ตื่นขึ้นมาอีกทีคือถึงปากทางเข้าอุทยาน ป้ายบอกว่า 2 กิโลเมตร
ทุกคนถูกไล่ลงจากรถ ยกเว้นชั้นที่ยิ้มสวยใส่คนขับ แล้วคนขับไปส่งถึงโรงแรมเลย
สรุปให้นะคะ สำหรับรถไปที่เขื่อน หรือ ไปเขาสก มีแน่นอนไม่ต้องกังวลเลย
ราคาก็ราวๆ 200-250 บาท ไม่ถึงขนาดต้องเหมารถไปหรอก ถ้ามากันแค่ 2-3 คน
นั่งรถตู้น่าจะประหยัดกว่า ตุ๊ดได้ทำทางเลือกในการเดินทางให้ดังนี้
ถ้าไป 5 คนขึ้นไปก็หารกันชิวๆ
ที่พัก
เท่าที่ sound เสียงจากเพื่อนๆ เราได้ Top 5 ดังนี้
ภูผาวารีย์
แพภูตะวัน
แพพันวารีย์
คีรึวารินทร์
แพรนางไพร
*** ในส่วนของแพ500ไร่ ไม่ติดท็อป 5 เนื่องจากเพื่อนไม่มีใครมีเงินไปพักค่ะ 555 แต่เค้าเริดสุดละ
DAY : 1 ชั้นเซอไพรส์
พร้อมบรรยากาศความร้อนที่ ระอุมากเว่อร์ ภูเขาด้านหลังโรงแรม ให้ความรู้สึกราวภูเขาไฟ
ถึงแม้ทุกอย่างจะสวยงามแต่มิอาจห้ามความนอยของเราได้
อารมณ์แบบจ่ายเงินมานอนตากแดดแล้วมีภูเขานี่นะ อะไรประมาณนี้
ผ่านไปซักพัก ไม่รู้ว่าใครส่งฮอลคลูมา จิตเริ่มนิ่งขึ้น เริ่มมองโลกในแง่ดีขึ้น
สอบถามพนักงานว่าที่นี่มีอะไรให้ไปบ้าง
ได้ความว่า เลี้ยวซ้ายเป็นวัดมีลิง เลี้ยวขวาเป็นอุทยาน
แต่ตอนนี้ลิงน่าจะเข้าป่าแล้ว ไปอุทยานจะดีกว่าแถมตั๋วถ้าซื้อหลัง 4 โมงเย็นจะใช้วันต่อมาได้ด้วย
ระหว่างนั้นก็รอให้แดดร่มลมตกและความงก
แฟนก็ยังไม่ลดละความพยายามที่จะพาไปเขื่อน
เพราะนางรู้สึกผิดที่นางจองมาผิดที่ แต่คือดูโปรแกรมทัวร์แล้วก็แอบแพง
ที่เล็งๆไว้ก็มี 2500 กับ 4000 ต่างกันแค่เรื่องที่นอน
ราคาทัวร์เราว่าเท่ากันแทบทุกที่ อย่าเดินหาให้เหนื่อยเลย
ยอมรับว่าเกิดมาไม่เคย join ทัวร์เลย และไม่คิดอยาก join
ด้วยเพราะว่าเวลาถ่ายรูปเราชอบใช้เวลากับสิ่งที่อยู่ข้างหน้านานๆ
แต่ดูจากสถานการณ์แล้วทัวร์คงเป็นแค่ตัวเลือกเดียวที่จะทำให้เราไปเขื่อนได้
เลยตัดสินใจจอง 2 Days 1 night tour ราคา 2500 ต่อคน
รวมที่พัก รถรับส่ง และ อาหาร 6 มื้อ แต่เราต้องเทโรงแรม 1 วัน แอบเสียดายตังค์
แต่ก็ได้มาแล้ว เอาให้สุดไปเลย
หลังจากนั้น ทุกอย่างก็เริ่มเข้ารูปเข้ารอยมีแพลนแล้ว
นั่นคือไปเดินอุทยาน กลับมาทานข้าว นอนตื่นเช้าไปทัวร์
ทัวร์จะเสร็จบ่ายโมงของวันต่อมา นั่งรถไปสนามบิน จากนั้นบินกลับกรุงเทพ easy beezy beautiful covergirl มากๆ
ซื้อตั๋วคนไทย 40 ชาวต่างชาติ 300 บาท
ตั๋วสามารถใช้พรุ่งนี้ได้เพราะซื้อหลังสี่โมงเย็น ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินซื้อตั๋วอีกถ้าจะไปเขื่อนพรุ่งนี้
ไม่มีเลยจริงๆ ยกเว้นเจ้าของกิจการกับพ่อค้าแม่ค้า
แบบเซอร์ไพรส์มากๆว่า เฮ้ย แปลกๆ ที่เที่ยวแห่งนี้แปลก แปลกจนโลกไม่ลืม
เราไม่ได้ทำการหาข้อมูลใดๆทั้งสิ้น เห็นแต่ป้ายบอกว่ามีน้ำตก ก็จะเดินไปดูน้ำตก
โอ้โห โอ้โห เดินไปเกือบครึ่งชั่วโมง ไม่มีน้ำตกเลย
แต่ป่าอุดมสมบูรณ์มาก
เสียงนก เสียงจิ้งหรีด นี่แบบก้องเข้าไปในแก้วหู และมีลิงโผล่มาให้ทักทายเบาๆ
เดินไปจนแบบคิดว่า นี่มันภูกระดึงป่าววะ เพราะยังไม่มีทีท่าของน้ำตกเลย
ฟ้าก็เริ่มมืดแล้วยังไม่ได้เห็นน้ำตกเลย
แต่ก็เดินมาเกือบ 5 กิโลแล้ว สู้ต่อซักตั้งละกัน
สรุปคือมีฝรั่งเดินสวนมา
เลยถามว่าน้ำตกเป็นไงบ้าง
ได้คำตอบมาว่า The first one it’s not really waterfall.
but I think it’s too far for you for the second one.
พอได้ฟังแล้วแบบ ชั้นเดินมาทำม๊ายย
แต่ก็ยังทนเดินต่อนะ
ถึงแม้จะไม่ใช่น้ำตกแต่ก็ถือว่าโอเคแหละ
ได้แก้ผ้าโชว์พุงพุ้ยถ่ายรูป จากนั้นก็ speed turbo วิ่งกลับเพราะเดินมาไกลมากกก
สรุประยะทางการเดินวันนี้ก็เดินไปทั้งสิ้น 12 กิโลเมตร
พอถึงที่พักก็แบบโอยยย ง่วงนอน ใจจริงอยากไปเดินดูเมืองดูร้านอาหารเก๋ๆ
แต่ขามันไม่ทำงานละ เลยตัดสินใจทานข้าวที่โรงแรม เพราะโรงแรมนี้ขึ้นชื่อว่าอาหารไทยอร่อยที่สุด
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น