จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขายของแพงๆแล้วโมเมว่าของชั้นดีของชั้นเทพ หลายคนตั้งคำถาม ว่าเศรษฐกิจยุคนี้ดีหรือไม่ดี รัฐบาลบอกว่าดีแต่ถ้าไปถามพ่อค้าแม่ค้า หลายคนส่ายหัว แต่ก็แปลกใจทำไมบอกเศรษฐกิจไม่ดีแต่กลับมีธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นตลอดเวลา ร้านกาแฟ ขายของตามเน็ต มีแต่คนอยากทำธุรกิจเต็มไปหมดเพราะอะไร การที่คนหันมาขายของกันมากขึ้นจะเกิดอะไรขึ้นตามมา
ยุคนี้คือยุคของโลกโซเชียลคับ มีอะไรต้องแชร์ต้องโชว์กัน ยุคของการบริโภคนิยมมีรายการพาชิมเกือบทั้งวัน ทุกวัน มีร้านใหม่ๆเปิดตลอดเวลา แถมราคาก็สูงด้วย ซึ่งเพราะกระแสการแชร์โชว์นี้เองทำให้ เกิดร้านใหม่ๆจำนวนมาก แต่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ร้านใหม่ๆหรือสินค้าใหม่ๆมักจะยึดติดกับความคิดแบบนี้
1.ของชั้นคือของดี?
2.ของดีต้องราคาแพง
ร้านใหม่ๆส่วนใหญ่ตั้งขึ้นโดยคนชนชั้นกลาง ไม่ว่าจากคนที่ทำงานมาก่อนแล้วออกจากงานมาเปิดร้าน หรือเด็กจบใหม่ที่เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง มาเปิดร้าน โดยแอบยึดหลักมาจากพวกอายุน้อยร้อยล้านหรือพวกคอสสอนรวย รวมถึงลัทธิชีวิตสโลไลฟ ที่สร้างฝันขายวิมารว่าทำธุรกิจแล้วรวย มีการสร้างภาพสตาทอัพ มีแต่คนคิดว่าตัวเองจะเป็นยูนิคอน มีการขายฝันด้วยรถหรู บ้านหรู เครื่องบินส่วนตัว เงินเป็นฟ้อนๆ ซึ่งจริงๆแล้วหลายคนรวยเพราะคอสสอนรวย รวยเพราะทำธุรกิจผิดกฎหมายแล้วสร้างภาพมายาบังหน้ามากกว่า
ซึ่งสอดครองกับงานสมัยนี้หายาก เงินเดือนก็น้อยแถมไม่มั่นคงสุดๆ ทำให้มีแต่คนออกมาทำธุรกิจมากขึ้นมากขึ้น
แต่รายรับดันสวนทางกับรายจ่าย เงินเดือนปริญญาตรีมีแต่ลดลง ไปเรื่อยๆ จาก15000เหลือ 12000 เหลือ9000 แถมบริษัทสมัยนี้ก็เลย์ออฟพนักงานง่ายเป้นว่าเล่น เพราะระบบงานเปลี่ยนไปลดต้นทุนลง จ้างคนน้อยลงป้อนงานมากขึ้น เพิ่มเวลาการทำงานมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรมาแทนแรงงานคน การจ้างงานก็จะไปเน้นที่บริษัทแม่มากขึ้นตัดพนักงานบริษัทลูกให้ลดลง มีการใช้ระบบออนไลย์มากขึ้น ทำให้จ้างงานน้อยลงเช่น แบงค์หลายแห่งปรับลดพนักงงานTellerลงและหันไปใช้ระบบธุรกรรมออนไลย์แทน
ทำให้เราเผชิญกับปัญหารายรับไม่สอดครองกับรายจ่าย การขึ้นสู่ชนชั้นกลางสมัยนี้ง่ายมากแค่คุณเรียนจบปริญญาแต่การกลับไปเป็นคนจนนั้นยาก เงินเดือนไม่พอกินทำยังไงก็ทำธุรกิจอะสิ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกากราคาน้ำมันที่สูงมากก่อนหน้านี้แม้ว่าราคาน้ำมันจะลงมาแล้ว ราคาวัตถุดิบต่างๆก็ลงมาหมดแล้ว แต่ร้านค้าต่างๆขึ้นแล้วก็ไม่ยอมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ค้ารายย่อย
แถมค่าใช้จ่ายในไทยเองก็สูงมาก ไม่ใช่มีแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่อยู่อาศัยหรือค่าอุปโภคบริโภคอย่างเดียว ค่าใช้จ่ายหลายอย่างเพิ่มขึ้นมา
-ค่าอินเตอร์เน็ต
-ค่าโทรศัพท์มือถือ
-ค่าใช้จ่ายทางสังคมที่เพื่มขึ้น สมัยก่อนแค่มีเสื้อผ้าสวยๆใส่ไปทำงงานก็พอแต่สมัยนี้ต้องมีมือถือ รุ่นท๊อป แอปเปิลแหว่ง ต้องมีรูปที่ไปถ่ายตามร้านหรู ในไทยอาจไม่พอต้องไปถ่ายที่ญี่ปุ่นเกาหลี หรือยุโรป ต้องกินกาแฟแก้วละ100กินอาหารจานละ 300 กินขนมชิ้นหละ80
ทำให้ค่าครองชีพในไทยสูงมาก แต่รายรับต่ำมาก คนส่วนใหญ่ต้องทำจ๊อบเสริมซึ่งส่วนใหญ่ก็คือขายของ หรือทำธุรกิจ1อย่างก็ต้องมีรายรับหลายๆทางเพื่อให้พอกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น นั้นก็คือต้องค้าขาย
แต่การทำธุรกิจ นี้หลายคนมองว่าทำๆไปเหอะ เดียวมันขายไม่ได้ก็เจ๊งเอง มันจะกระทบต่อเศรษฐกิจตรงไหนกระทบคับ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขายของแพงๆแล้วโมเมว่าของชั้นดีของชั้นเทพ ก็กลายเป็นว่าไปที่ไหน มีแต่คนขายไง แถมมีแต่ของราคาสูงทั้งๆที่ส่วนใหญ่มันก็รับมาจากแหล่งเดียวกัน ประตูน้ำโรงเกลือ อาศัยแต่จะเอาการตลาดปั่นราคาอย่างเดียว คิดแต่ว่าจะขายก้อนหินให้เหมือนขายทอง ซึ่งเราก็เข้าใจเราขายแข่งสู้กับพวกสินค้าอุสาหกรรมไม่ได้เข้าผลิตจำนวนมาก ทำให้สินค้ามันราคาถูก เราเป็นแค่รายย่อย สินค้าหลายอย่างก็ทำมือด้วยซ้ำ จะขายตลาดล่างถูกๆก็ไม่ไหว แต่ก้อนหินก็คือก้อนหิน ตอนนี้มีแต่คนขายก้อนหินราคาเท่าทองเต็มไปหมด เงินมันก็เลยเกิดอาการเฟ้อหนักจนเกินจริงไป มีแต่คนขายของ ขายแต่แพงๆแต่ไม่มีคนซื้อ ชั้นจะขายแต่ชั้นไม่ซื้อ ชั้นจะเก็บเงินไว้ใช้เท่าที่จำเป็นแต่ชั้นขายของฟุ่มเฟื่อยและหวังว่าคนมันจะซื้อ
ซึ่งมันจะเกิดปัญหาคือ ค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วก็สูงไปอีก เพราะมีแต่สินค้าราคาสูงๆเต็มตลาด ระบบการตลาดก็จะพัง เพราะมันไม่มีการปรับราคาลงตามกลไกตลาด เพราะปรับไปก็แข่งกะเจ้าใหญ่ไม่ไหวนี้หละคือปัญหาของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน
แต่อย่าลืมในตลาดไม่ได้มีแค่ชนชั้นกลางแต่มีนายทุนขนาดใหญ่ที่พร้อมจะฆ่าเหล่ามดอย่างไร้ความปรานี
หลายธุรกิจจากที่เคยแค่ค้าส่งก็หันมาจับธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น เช่น JIBที่สมัยก่อนเน้นค้าส่งเป็นหลักแต่ตอนหลังหันมาจับค้าปลีก ทำให้ราคาสินค้าไอทีต่างๆถูกลงมาก และถูกกว่าร้านซ่อมประกอบคอมหลายเท่า แถมไม่โดนวางยา ไม่โดนฟันราคาด้วย นอกจากนี้ด้วยความที่ค้าปลีกSMEต่างๆต้องรับมาจากเจ้าอื่นอีกเจ้าหนึ่งทำให้เริ่มสู้ราคาไม่ไหว ชัดๆคือธุรกิจ ร้านโชว์ห่วยต่างๆที่โดนเซเว่นตีตลาดตายเรียบ ขายสินค้าราคาเท่ากันหรือถูกกว่าแต่เซเว่นของดีกว่าถูกกว่าใครจะเข้าร้านโชว์ห่วย แถมโชว์ห่วยซื้อของจากที่ไหนมาขาย แมคโควซึ่งเป็นของCPเจ้าของเดียวกับเซเว่น สุดท้ายCPก็กินรวบไปทั้งค้าส่งทั้งค้าปลีก
ธุรกิจอื่นๆก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน ธุรกิจสินค้าก่อสร้างต่างๆที่โดนโฮมโปร ไทยวัศดุ ตีหัวแตก
และจากที่พูดไปข้างต้นเรื่องทำไมคนออกมาขายของมากขึ้น ช่องทางไหนที่คนมาขายของกันช่องทางออนไลย์ไง ไม่ต้องมีหน้าร้าน ก็ขายของได้ แต่ถ้าคุณเคยซื้อสินค้าออนไลย์จะรู้คับ ว่ายังไงก็สู้แบบพวกมีหน้าร้านไม่ได้หรอก เพราะเราไม่เห็นของ จะมีตำหนิหรือเปล่า จะเหมือนของที่ขายจริงๆหรือเปล่า จะได้สินค้าหรือเปล่า แต่อาลีบาบาและลาซาด้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้เจ้าใหญ่ไว้วางใจได้ หลายเจ้าก็คืนของได้ แถมถูกกว่าพวกที่ขายแพงๆเพราะคิดว่าของตัวเองดีเยอะ
ยุคนี้มันยุคอุสาหกรรม สินค้าทำมือที่หละชิ้นไหนจะสู้ mass product
ไหนจะเจอสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดอีก สินค้าไทยต่างๆยิ่งขายยาก ซึ่งสินค้าจีนนี้ขึ้นชื่อว่าไปที่ไหนสินค้าเจ้าถิ่นตายหมด ถูกกว่าคุณภาพไม่แย่แล้วด้วย แถมนายทุนจีนต่างๆเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นแต่ ไม่ได้สร้างงานสร้างเงินอะไรให้คนไทยเลย เอาสินค้าจีนมาปล่อย จ้างก็จ้างคนจีนขาย รายได้ก็ส่งกลับเข้าจีนไป เหมือนมาถลุงเงินเราเล่นฟรีๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวทัวร์จีนเข้ามา พักโรงแรมจีน นั่งเครื่องบินจีน เข้าร้านของคนจีน ธรรมชาติก็เสียหาย คนไทยไม่ได้ซักหยวน
คนไทยแข่งกะคนไทยก็จะไหวหละเจอคนจีนอีก
ของเหมือนแต่ถูกกว่า หรือแพงกว่าแต่ดูดีกว่า คนจึงเลือกเจ้าใหญ่เสมอ จะกินกาแฟไม่เข้าร้านกาแฟอินนดี้ที่เปิดกันแทบจะขี่คอเปิดแต่เข้ากาแฟเงือกแทน กินอาหารก็ไปกินร้านญี่ปุ่นร้านดังตามห้างดีกว่า แม้แต่ส้มตำ ก็ไปกินแต่ร้านสมตำตามห้างไม่กินหรอกข้างทางหรือร้านอินดี้
แต่กินแค่รอบเดียวนะ เดือนหน้าค่อยว่ากันใหม่
จากที่กล่าวมาทั้งหมด มันจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าการล้นตลาดของSupple คับ ในตลาดมีแต่สินค้า มีแต่คนขาย แต่ไม่มีคนซื้อ คนซื้อเก็บเงินไว้ใช้จำเป็นแถมตั้งราคาไว้สูดปรีด แล้วใครหละที่จะชนะ ก็ใครที่ขายถูกไง เจ้าใหญ่ทั้งหลายทั้งไทยทั้งจีน รวมไปถึงสินค้าที่มีแบรนทั้งหลาย ร้านอินดี้ทั้งหลายก็เข้ารอบเดียวอย่างมากสุด คนอาจจะแน่นอาทิตยฅอาทิตย์ต่อมาก็ตยยุงและปิดไปตอนสิ้นเดือน
บางคนถามผมมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่าคนที่ประสบความสำเร็จมันก็มี
ถามก่อนเลยคับเขาขายอะไร บางคนโม้ว่าประสบความสำเร็จแต่ตอบไม่ได้ว่าขายอะไร แล้วก็ไปเปิดคอสสอนรวยเขียนหนังสือสอนรวย มีแต่คำคมโง่ๆตัวโตๆเต็มเล่ม มันรวยก็รวยมาจากการขายคอสกะขายหนังสือนี้หละนี้หละ หรือไม่อีกทีก็รวยเพราะธุรกิจผิดกฎหมายคับ เบื้องหน้าเปิดอู่แต่งรถ เบื้องหลังค้ายางี้ เบื้องหน้ามีร้านอาหารข้างหลังเป็นซ่องงี้ รวมถึงข้าราชการต่างๆ และนักการเมืองที่โกงเขามาแล้วก็เปิดธุรกิจฟอกเงินกันสนุกสนานแต่ไปดูบัญชีจริงๆรายรับแถบไม่มี
อีกอันหนึ่งจริงๆ มันก็ขายได้อยู่นะ จริงๆคนสมัยใหม่ที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ก็มาจากธุรกิจนี้ คือธุรกิจขายครีมตัวขาวนั้นเอง ธุรกิจนี้ขายของดีมาก คนใช้เยอะ จะขายสินค้าตัวนี้ก็ไม่ยาก แค่ไปทำนม กับใช้แอปช่วยก็ขายของได้ ไม่ต้องจบเคมี ไม่ต้องจบหมอ ไม่ต้องเรียนจบอะไรเลยก็ได้ก็ขายได้ นมโตๆก็พอปลอมไม่ว่ากันส่วนใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ก็มีหน้าพังบ้าง ตายบ้างอะไรก็ว่าไป ลูกค้าส่วนใหญ่ก็พวกสก้อย ซึ่งตายไปเยอะๆก็ไม่เป็นไร แต่ทำรายได้ดีมากจริงๆธุรกิจนี้เป็นเศรษฐี100ล้านก็มี ต้นทุนก็ถูกมากกิโลละไม่กี่10บาทแต่บรรจุลงกระปุกขายเป็น100 ข้างในก็มีแต่สารต้องห้ามทั้งนั้น พอขายได้จำนวนมากก็เปลี่ยนชื่อแล้วก็ขายใหม่ ตามการตลาดแบบตั๊กแตนที่คนแห่ซื้อสินค้าแล้วหายไป อีกพวกที่น่าจะรวยคือพวกโรงงานพวกนี้ กวนขายกันเป็นว่าเล่น
และธุรกิจอีกอันที่บูมมากๆบูมมาทั่วโลกก็คือ money game MLM แชร์ลูกโซ่ หรือแล้วแต่คนจะเรียก มีรายได้จากค่าสมาชิก การหาลูกข่าย มีสินค้าพวกอาหารเสริมบังหน้า คนอยู่บนยอดนี้รวยก็รวยจริงๆแต่มันก็ผิดกฎหมายมีการจับกุมและกวาดล้างเยอะ แต่ปิดมาก็เปิดใหม่สร้างปิรมิตรใหม่
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่าตอนนี้เราอยู่ในสภาวะ Supple ล้นตลาดมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อหรือซื้อก็จะซื้อแต่เจ้าใหญ่ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ภาวะกลไกตลาดพัง suppleล้น แต่ของแพง สินค้าต่างๆถูกตั้งราคาไว้สูงเกินไป คิดว่าของคุณดี ของต้องแพง แต่ยิ่งแพงคนก็จะไม่มีปัญญาซื้อสินค้าก็ขายไม่ได้ แต่แน่นอนเขาทำใช้ว่าจะอยากทำทำก็เพื่อความอยู่รอด ทำเพราะมันไม่พอจะกินจริงๆ และเกิดจากค่านิยม แต่สุดท้ายคุณก็จะสูญเงินของคุณฟรีๆ ไม่ว่ามันจะเป็นเงินเก็บคุณ เงินพ่อแม่คุณ เงินที่ไปกู้แบงค์มา การสร้างภาพและการกระตุ้นการใช้จ่ายมากเกินไป ใช่ว่าคนทุกคนเป็นยูนิคอนได้ บางที่แค่ขี้ม้าโพนี้เทลยังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่คุณกำลังทำให้เศรษฐกิจประเทศพัง ค่าครองชีพที่สูงมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าในตลาดมีแต่คนตั้งไว้สูงๆ
ส่วนทางรับมือแก้ไข คือต้องปรับราคาตามกลไกตลาด ราคาอาหารต้องไปตามราคากลไกตลาดต้องไม่ตาย ตัวเหมือนๆที่ผ่านมา ต้นทุนลดราคาสินค้าทุกอย่างก็ต้องลด และภาครัฐก็ต้องกระตุ้นการจ้างงาน อย่างจริงๆจัง โดยใช้เครือข่ายของกรมการจัดหางาน และควรจะให้คนตกงานทุกคนมาลงทะเบียนและควรหางานให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด และควรปรับเวลาการทำงานต่างๆให้ลดลง ลดวันทำงานลง เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการพักผ่อนและบริโภคมากขึ้น และสร้างแรงจูงใจให้คนกลับเข้ามาในระบบการจ้างงาน รวมถึงต้องรับประกันความมั่นคงในหน้าที่การงานด้วย และเป็นไปได้ควรปรับฐานเงินเดือนให้มากขิ้นแต่ต้องไม่กระทบกับต้นทุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อย รวมถึงวางมาตรการกีดกันทางการค้าสินค้านอกให้ได้มากที่สุด เน้นการบริโภคสินค้าในไทยโดยเฉพาะกับรายย่อย SME พวกนายทุนใหญ่ๆ ก็เพลาๆลงไปบ้าง กินอิ่มแล้วก็ควรปล่อยให้คนอื่นลืมตาอ้าปากได้บ้าง ไม่มีรายย่อยรายใหญ่ก็อยู่ไม่ได้ คนไม่มีเงินสุดท้ายก็จะไม่มีคนซื้อของท่านอยู่ดี ในทะเลถ้ามีแต่ปลาใหญ่ มีแต่ผู้ล่าสุดท้าย ห่วงโซ่อาหารก็พัง
ส่วนประชาชนทั่วไป ก็ทำอะไรไม่ได้คับ ใครไปต่างโลกได้ก็ไปเลย คุณพยายามเต็มที่แล้ว ลองหาไซยาไนดูคับจะช่วยท่านได้ เรื่องนี้เราพึ่งตัวเองไม่ไหวหรอก ต้องให้ภาครัฐช่วย ถ้าภาครัฐปิดหูปิดตา บอกปัดและหลอกตัวเอง เราไปต่างโลกกันดีกว่าคับเพื่อเราจะเจอโลกที่ดีกว่าโลกใบนี้
บทความโดย ชนชั้นกลาง คนตกงาน นีต และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลก
เศรษฐกิจไทยยุค2560 ซี้ จุดสูญ
ยุคนี้คือยุคของโลกโซเชียลคับ มีอะไรต้องแชร์ต้องโชว์กัน ยุคของการบริโภคนิยมมีรายการพาชิมเกือบทั้งวัน ทุกวัน มีร้านใหม่ๆเปิดตลอดเวลา แถมราคาก็สูงด้วย ซึ่งเพราะกระแสการแชร์โชว์นี้เองทำให้ เกิดร้านใหม่ๆจำนวนมาก แต่ใช่ว่าจะดีเสมอไป ร้านใหม่ๆหรือสินค้าใหม่ๆมักจะยึดติดกับความคิดแบบนี้
1.ของชั้นคือของดี?
2.ของดีต้องราคาแพง
ร้านใหม่ๆส่วนใหญ่ตั้งขึ้นโดยคนชนชั้นกลาง ไม่ว่าจากคนที่ทำงานมาก่อนแล้วออกจากงานมาเปิดร้าน หรือเด็กจบใหม่ที่เกิดในครอบครัวชนชั้นกลาง มาเปิดร้าน โดยแอบยึดหลักมาจากพวกอายุน้อยร้อยล้านหรือพวกคอสสอนรวย รวมถึงลัทธิชีวิตสโลไลฟ ที่สร้างฝันขายวิมารว่าทำธุรกิจแล้วรวย มีการสร้างภาพสตาทอัพ มีแต่คนคิดว่าตัวเองจะเป็นยูนิคอน มีการขายฝันด้วยรถหรู บ้านหรู เครื่องบินส่วนตัว เงินเป็นฟ้อนๆ ซึ่งจริงๆแล้วหลายคนรวยเพราะคอสสอนรวย รวยเพราะทำธุรกิจผิดกฎหมายแล้วสร้างภาพมายาบังหน้ามากกว่า
ซึ่งสอดครองกับงานสมัยนี้หายาก เงินเดือนก็น้อยแถมไม่มั่นคงสุดๆ ทำให้มีแต่คนออกมาทำธุรกิจมากขึ้นมากขึ้น
แต่รายรับดันสวนทางกับรายจ่าย เงินเดือนปริญญาตรีมีแต่ลดลง ไปเรื่อยๆ จาก15000เหลือ 12000 เหลือ9000 แถมบริษัทสมัยนี้ก็เลย์ออฟพนักงานง่ายเป้นว่าเล่น เพราะระบบงานเปลี่ยนไปลดต้นทุนลง จ้างคนน้อยลงป้อนงานมากขึ้น เพิ่มเวลาการทำงานมากขึ้น ใช้เทคโนโลยีและเครื่องจักรมาแทนแรงงานคน การจ้างงานก็จะไปเน้นที่บริษัทแม่มากขึ้นตัดพนักงานบริษัทลูกให้ลดลง มีการใช้ระบบออนไลย์มากขึ้น ทำให้จ้างงานน้อยลงเช่น แบงค์หลายแห่งปรับลดพนักงงานTellerลงและหันไปใช้ระบบธุรกรรมออนไลย์แทน
ทำให้เราเผชิญกับปัญหารายรับไม่สอดครองกับรายจ่าย การขึ้นสู่ชนชั้นกลางสมัยนี้ง่ายมากแค่คุณเรียนจบปริญญาแต่การกลับไปเป็นคนจนนั้นยาก เงินเดือนไม่พอกินทำยังไงก็ทำธุรกิจอะสิ
นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกากราคาน้ำมันที่สูงมากก่อนหน้านี้แม้ว่าราคาน้ำมันจะลงมาแล้ว ราคาวัตถุดิบต่างๆก็ลงมาหมดแล้ว แต่ร้านค้าต่างๆขึ้นแล้วก็ไม่ยอมลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งแม่ค้ารายย่อย
แถมค่าใช้จ่ายในไทยเองก็สูงมาก ไม่ใช่มีแค่ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าที่อยู่อาศัยหรือค่าอุปโภคบริโภคอย่างเดียว ค่าใช้จ่ายหลายอย่างเพิ่มขึ้นมา
-ค่าอินเตอร์เน็ต
-ค่าโทรศัพท์มือถือ
-ค่าใช้จ่ายทางสังคมที่เพื่มขึ้น สมัยก่อนแค่มีเสื้อผ้าสวยๆใส่ไปทำงงานก็พอแต่สมัยนี้ต้องมีมือถือ รุ่นท๊อป แอปเปิลแหว่ง ต้องมีรูปที่ไปถ่ายตามร้านหรู ในไทยอาจไม่พอต้องไปถ่ายที่ญี่ปุ่นเกาหลี หรือยุโรป ต้องกินกาแฟแก้วละ100กินอาหารจานละ 300 กินขนมชิ้นหละ80
ทำให้ค่าครองชีพในไทยสูงมาก แต่รายรับต่ำมาก คนส่วนใหญ่ต้องทำจ๊อบเสริมซึ่งส่วนใหญ่ก็คือขายของ หรือทำธุรกิจ1อย่างก็ต้องมีรายรับหลายๆทางเพื่อให้พอกับรายจ่ายที่เพิ่มขึ้น นั้นก็คือต้องค้าขาย
แต่การทำธุรกิจ นี้หลายคนมองว่าทำๆไปเหอะ เดียวมันขายไม่ได้ก็เจ๊งเอง มันจะกระทบต่อเศรษฐกิจตรงไหนกระทบคับ จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อมีแต่คนขายของแพงๆแล้วโมเมว่าของชั้นดีของชั้นเทพ ก็กลายเป็นว่าไปที่ไหน มีแต่คนขายไง แถมมีแต่ของราคาสูงทั้งๆที่ส่วนใหญ่มันก็รับมาจากแหล่งเดียวกัน ประตูน้ำโรงเกลือ อาศัยแต่จะเอาการตลาดปั่นราคาอย่างเดียว คิดแต่ว่าจะขายก้อนหินให้เหมือนขายทอง ซึ่งเราก็เข้าใจเราขายแข่งสู้กับพวกสินค้าอุสาหกรรมไม่ได้เข้าผลิตจำนวนมาก ทำให้สินค้ามันราคาถูก เราเป็นแค่รายย่อย สินค้าหลายอย่างก็ทำมือด้วยซ้ำ จะขายตลาดล่างถูกๆก็ไม่ไหว แต่ก้อนหินก็คือก้อนหิน ตอนนี้มีแต่คนขายก้อนหินราคาเท่าทองเต็มไปหมด เงินมันก็เลยเกิดอาการเฟ้อหนักจนเกินจริงไป มีแต่คนขายของ ขายแต่แพงๆแต่ไม่มีคนซื้อ ชั้นจะขายแต่ชั้นไม่ซื้อ ชั้นจะเก็บเงินไว้ใช้เท่าที่จำเป็นแต่ชั้นขายของฟุ่มเฟื่อยและหวังว่าคนมันจะซื้อ
ซึ่งมันจะเกิดปัญหาคือ ค่าครองชีพที่สูงอยู่แล้วก็สูงไปอีก เพราะมีแต่สินค้าราคาสูงๆเต็มตลาด ระบบการตลาดก็จะพัง เพราะมันไม่มีการปรับราคาลงตามกลไกตลาด เพราะปรับไปก็แข่งกะเจ้าใหญ่ไม่ไหวนี้หละคือปัญหาของระบบเศรษฐกิจในปัจจุบัน
แต่อย่าลืมในตลาดไม่ได้มีแค่ชนชั้นกลางแต่มีนายทุนขนาดใหญ่ที่พร้อมจะฆ่าเหล่ามดอย่างไร้ความปรานี
หลายธุรกิจจากที่เคยแค่ค้าส่งก็หันมาจับธุรกิจค้าปลีกมากขึ้น เช่น JIBที่สมัยก่อนเน้นค้าส่งเป็นหลักแต่ตอนหลังหันมาจับค้าปลีก ทำให้ราคาสินค้าไอทีต่างๆถูกลงมาก และถูกกว่าร้านซ่อมประกอบคอมหลายเท่า แถมไม่โดนวางยา ไม่โดนฟันราคาด้วย นอกจากนี้ด้วยความที่ค้าปลีกSMEต่างๆต้องรับมาจากเจ้าอื่นอีกเจ้าหนึ่งทำให้เริ่มสู้ราคาไม่ไหว ชัดๆคือธุรกิจ ร้านโชว์ห่วยต่างๆที่โดนเซเว่นตีตลาดตายเรียบ ขายสินค้าราคาเท่ากันหรือถูกกว่าแต่เซเว่นของดีกว่าถูกกว่าใครจะเข้าร้านโชว์ห่วย แถมโชว์ห่วยซื้อของจากที่ไหนมาขาย แมคโควซึ่งเป็นของCPเจ้าของเดียวกับเซเว่น สุดท้ายCPก็กินรวบไปทั้งค้าส่งทั้งค้าปลีก
ธุรกิจอื่นๆก็เจอปัญหาแบบเดียวกัน ธุรกิจสินค้าก่อสร้างต่างๆที่โดนโฮมโปร ไทยวัศดุ ตีหัวแตก
และจากที่พูดไปข้างต้นเรื่องทำไมคนออกมาขายของมากขึ้น ช่องทางไหนที่คนมาขายของกันช่องทางออนไลย์ไง ไม่ต้องมีหน้าร้าน ก็ขายของได้ แต่ถ้าคุณเคยซื้อสินค้าออนไลย์จะรู้คับ ว่ายังไงก็สู้แบบพวกมีหน้าร้านไม่ได้หรอก เพราะเราไม่เห็นของ จะมีตำหนิหรือเปล่า จะเหมือนของที่ขายจริงๆหรือเปล่า จะได้สินค้าหรือเปล่า แต่อาลีบาบาและลาซาด้าแก้ปัญหาตรงนี้ได้เจ้าใหญ่ไว้วางใจได้ หลายเจ้าก็คืนของได้ แถมถูกกว่าพวกที่ขายแพงๆเพราะคิดว่าของตัวเองดีเยอะ
ยุคนี้มันยุคอุสาหกรรม สินค้าทำมือที่หละชิ้นไหนจะสู้ mass product
ไหนจะเจอสินค้าจีนเข้ามาตีตลาดอีก สินค้าไทยต่างๆยิ่งขายยาก ซึ่งสินค้าจีนนี้ขึ้นชื่อว่าไปที่ไหนสินค้าเจ้าถิ่นตายหมด ถูกกว่าคุณภาพไม่แย่แล้วด้วย แถมนายทุนจีนต่างๆเข้ามาลงทุนในไทยมากขึ้นแต่ ไม่ได้สร้างงานสร้างเงินอะไรให้คนไทยเลย เอาสินค้าจีนมาปล่อย จ้างก็จ้างคนจีนขาย รายได้ก็ส่งกลับเข้าจีนไป เหมือนมาถลุงเงินเราเล่นฟรีๆ โดยเฉพาะธุรกิจท่องเที่ยวทัวร์จีนเข้ามา พักโรงแรมจีน นั่งเครื่องบินจีน เข้าร้านของคนจีน ธรรมชาติก็เสียหาย คนไทยไม่ได้ซักหยวน
คนไทยแข่งกะคนไทยก็จะไหวหละเจอคนจีนอีก
ของเหมือนแต่ถูกกว่า หรือแพงกว่าแต่ดูดีกว่า คนจึงเลือกเจ้าใหญ่เสมอ จะกินกาแฟไม่เข้าร้านกาแฟอินนดี้ที่เปิดกันแทบจะขี่คอเปิดแต่เข้ากาแฟเงือกแทน กินอาหารก็ไปกินร้านญี่ปุ่นร้านดังตามห้างดีกว่า แม้แต่ส้มตำ ก็ไปกินแต่ร้านสมตำตามห้างไม่กินหรอกข้างทางหรือร้านอินดี้
แต่กินแค่รอบเดียวนะ เดือนหน้าค่อยว่ากันใหม่
จากที่กล่าวมาทั้งหมด มันจึงเกิดสิ่งที่เรียกว่าการล้นตลาดของSupple คับ ในตลาดมีแต่สินค้า มีแต่คนขาย แต่ไม่มีคนซื้อ คนซื้อเก็บเงินไว้ใช้จำเป็นแถมตั้งราคาไว้สูดปรีด แล้วใครหละที่จะชนะ ก็ใครที่ขายถูกไง เจ้าใหญ่ทั้งหลายทั้งไทยทั้งจีน รวมไปถึงสินค้าที่มีแบรนทั้งหลาย ร้านอินดี้ทั้งหลายก็เข้ารอบเดียวอย่างมากสุด คนอาจจะแน่นอาทิตยฅอาทิตย์ต่อมาก็ตยยุงและปิดไปตอนสิ้นเดือน
บางคนถามผมมองโลกในแง่ร้ายไปหรือเปล่าคนที่ประสบความสำเร็จมันก็มี
ถามก่อนเลยคับเขาขายอะไร บางคนโม้ว่าประสบความสำเร็จแต่ตอบไม่ได้ว่าขายอะไร แล้วก็ไปเปิดคอสสอนรวยเขียนหนังสือสอนรวย มีแต่คำคมโง่ๆตัวโตๆเต็มเล่ม มันรวยก็รวยมาจากการขายคอสกะขายหนังสือนี้หละนี้หละ หรือไม่อีกทีก็รวยเพราะธุรกิจผิดกฎหมายคับ เบื้องหน้าเปิดอู่แต่งรถ เบื้องหลังค้ายางี้ เบื้องหน้ามีร้านอาหารข้างหลังเป็นซ่องงี้ รวมถึงข้าราชการต่างๆ และนักการเมืองที่โกงเขามาแล้วก็เปิดธุรกิจฟอกเงินกันสนุกสนานแต่ไปดูบัญชีจริงๆรายรับแถบไม่มี
อีกอันหนึ่งจริงๆ มันก็ขายได้อยู่นะ จริงๆคนสมัยใหม่ที่ประสบความสำเร็จจริงๆ ก็มาจากธุรกิจนี้ คือธุรกิจขายครีมตัวขาวนั้นเอง ธุรกิจนี้ขายของดีมาก คนใช้เยอะ จะขายสินค้าตัวนี้ก็ไม่ยาก แค่ไปทำนม กับใช้แอปช่วยก็ขายของได้ ไม่ต้องจบเคมี ไม่ต้องจบหมอ ไม่ต้องเรียนจบอะไรเลยก็ได้ก็ขายได้ นมโตๆก็พอปลอมไม่ว่ากันส่วนใช้แล้วเป็นยังไงบ้าง ก็มีหน้าพังบ้าง ตายบ้างอะไรก็ว่าไป ลูกค้าส่วนใหญ่ก็พวกสก้อย ซึ่งตายไปเยอะๆก็ไม่เป็นไร แต่ทำรายได้ดีมากจริงๆธุรกิจนี้เป็นเศรษฐี100ล้านก็มี ต้นทุนก็ถูกมากกิโลละไม่กี่10บาทแต่บรรจุลงกระปุกขายเป็น100 ข้างในก็มีแต่สารต้องห้ามทั้งนั้น พอขายได้จำนวนมากก็เปลี่ยนชื่อแล้วก็ขายใหม่ ตามการตลาดแบบตั๊กแตนที่คนแห่ซื้อสินค้าแล้วหายไป อีกพวกที่น่าจะรวยคือพวกโรงงานพวกนี้ กวนขายกันเป็นว่าเล่น
และธุรกิจอีกอันที่บูมมากๆบูมมาทั่วโลกก็คือ money game MLM แชร์ลูกโซ่ หรือแล้วแต่คนจะเรียก มีรายได้จากค่าสมาชิก การหาลูกข่าย มีสินค้าพวกอาหารเสริมบังหน้า คนอยู่บนยอดนี้รวยก็รวยจริงๆแต่มันก็ผิดกฎหมายมีการจับกุมและกวาดล้างเยอะ แต่ปิดมาก็เปิดใหม่สร้างปิรมิตรใหม่
จากที่กล่าวมาทั้งหมด จะเห็นว่าตอนนี้เราอยู่ในสภาวะ Supple ล้นตลาดมีแต่คนขายไม่มีคนซื้อหรือซื้อก็จะซื้อแต่เจ้าใหญ่ ทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า ภาวะกลไกตลาดพัง suppleล้น แต่ของแพง สินค้าต่างๆถูกตั้งราคาไว้สูงเกินไป คิดว่าของคุณดี ของต้องแพง แต่ยิ่งแพงคนก็จะไม่มีปัญญาซื้อสินค้าก็ขายไม่ได้ แต่แน่นอนเขาทำใช้ว่าจะอยากทำทำก็เพื่อความอยู่รอด ทำเพราะมันไม่พอจะกินจริงๆ และเกิดจากค่านิยม แต่สุดท้ายคุณก็จะสูญเงินของคุณฟรีๆ ไม่ว่ามันจะเป็นเงินเก็บคุณ เงินพ่อแม่คุณ เงินที่ไปกู้แบงค์มา การสร้างภาพและการกระตุ้นการใช้จ่ายมากเกินไป ใช่ว่าคนทุกคนเป็นยูนิคอนได้ บางที่แค่ขี้ม้าโพนี้เทลยังเป็นไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่คุณกำลังทำให้เศรษฐกิจประเทศพัง ค่าครองชีพที่สูงมันก็จะยิ่งสูงขึ้นเพราะราคาสินค้าในตลาดมีแต่คนตั้งไว้สูงๆ
ส่วนทางรับมือแก้ไข คือต้องปรับราคาตามกลไกตลาด ราคาอาหารต้องไปตามราคากลไกตลาดต้องไม่ตาย ตัวเหมือนๆที่ผ่านมา ต้นทุนลดราคาสินค้าทุกอย่างก็ต้องลด และภาครัฐก็ต้องกระตุ้นการจ้างงาน อย่างจริงๆจัง โดยใช้เครือข่ายของกรมการจัดหางาน และควรจะให้คนตกงานทุกคนมาลงทะเบียนและควรหางานให้กับประชาชนให้ได้มากที่สุด และควรปรับเวลาการทำงานต่างๆให้ลดลง ลดวันทำงานลง เพื่อให้ประชาชนมีเวลาในการพักผ่อนและบริโภคมากขึ้น และสร้างแรงจูงใจให้คนกลับเข้ามาในระบบการจ้างงาน รวมถึงต้องรับประกันความมั่นคงในหน้าที่การงานด้วย และเป็นไปได้ควรปรับฐานเงินเดือนให้มากขิ้นแต่ต้องไม่กระทบกับต้นทุนผู้ประกอบการโดยเฉพาะรายย่อย รวมถึงวางมาตรการกีดกันทางการค้าสินค้านอกให้ได้มากที่สุด เน้นการบริโภคสินค้าในไทยโดยเฉพาะกับรายย่อย SME พวกนายทุนใหญ่ๆ ก็เพลาๆลงไปบ้าง กินอิ่มแล้วก็ควรปล่อยให้คนอื่นลืมตาอ้าปากได้บ้าง ไม่มีรายย่อยรายใหญ่ก็อยู่ไม่ได้ คนไม่มีเงินสุดท้ายก็จะไม่มีคนซื้อของท่านอยู่ดี ในทะเลถ้ามีแต่ปลาใหญ่ มีแต่ผู้ล่าสุดท้าย ห่วงโซ่อาหารก็พัง
ส่วนประชาชนทั่วไป ก็ทำอะไรไม่ได้คับ ใครไปต่างโลกได้ก็ไปเลย คุณพยายามเต็มที่แล้ว ลองหาไซยาไนดูคับจะช่วยท่านได้ เรื่องนี้เราพึ่งตัวเองไม่ไหวหรอก ต้องให้ภาครัฐช่วย ถ้าภาครัฐปิดหูปิดตา บอกปัดและหลอกตัวเอง เราไปต่างโลกกันดีกว่าคับเพื่อเราจะเจอโลกที่ดีกว่าโลกใบนี้
บทความโดย ชนชั้นกลาง คนตกงาน นีต และผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงโลก