เมื่อความรักเปลี่ยนแปลงไปโดยไม่ทันได้ตั้งตัว เราควรรับมือกับเหตุการณ์นี้อย่างไร

เรื่องมีอยู่ว่าเรากับแฟนแต่งงานกันมาได้ 6 ปีกว่าแล้วคะ แต่ ณ ตอนนี้มีเหตุให้เรา 2 คนต้องแยกกันอยู่ เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นเร็วและไม่ทันได้เตรียมตัวหรือเตรียมใจอะไรเลยคะ นานาเสียใจ
เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะคะ คือตามหัวข้อเลยคะ เมื่อความรักเปลี่ยนแปลงไป โดยไม่ทันได้ตั้งตัว เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่เจ้าของกระทู้ตัดสินใจให้แฟนไปทำงานคนละที่คะ เจ้าของกระทู้กับแฟน เรา2คนแต่งงานกันได้ 6 ปีกว่าแล้วคะ ครอบครัวอบอุ่นดี แฟนของเจ้าของกระทู้เป็นคนรักครอบครัว ทำงานไปกลับตรงเวลา จะไปไหนจะซื้ออะไรก็จะถามตลอด เป็นห่วงเป็นใยกัน ตอนเย็นก็จะถามว่าวันนี้มีอะไรกินใหม หรืออยากกินอะไรไหม วันหยุดถ้าเขาอยู่บ้านจะทำงานบ้าน ช่วยเราตลอด และ พาเราไปกินข้าวนอกบ้าน แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตครอบครัวของเรา 2 คน เมื่อมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกกลางระหว่างชิวิตคู่ของเรา (มือที่ 3 มารู้ที่หลังว่า มีสามีแล้วและรู้ว่าแฟนเราแต่งงานแล้ว ) โดยเขาทั้งคู่ติดต่อกันเพราะต้องดิวงานกันทุกวันคะ จากการทำงานปกติ กลายเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่เกินเลยกว่าเพื่อนร่วมงาน จนในที่สุด เรื่องราวต่างๆได้เปิดเผยขึ้นเพราะว่าเราแอบไปเห็นเขาทั้งคู่แอบคุยแชทกันผ่าน Skype คุยผ่าน Email (หลายคนอาจสงสัยว่าเรารู้หรือเห็นได้อย่างไร เรารู้เพราะว่าแฟนเราจะเปิดโปรแกรมที่ทำงานไว้ที่บ้านคะ )
ยังไม่จบแค่นั้น เราจับได้ผู้หญิงพยายามทุกวิถีทางเพื่อให้เรารู้ว่าเขากำลังคบกับแฟนเราตลอด เราอดทนเห็นเขา 2 คนคุยกัน อย่างนี้มาสักพักแล้ว พยายามคุยด้วยเหตุผล ถามว่าทำไม่ถึงเป็นแบบนี้แต่คำตอบที่ได้ จากเขาทั้งคู่คือ ไม่มีอะไรเกินเลยกว่าเพื่อนร่วมงาน แต่ ณ วันนี้ ที่เราจับได้คือ ผู้หญิงพยายามโทรหาแฟนเรา สร้างเฟสให้แฟนเรา พร้อมรหัสผ่าน เพื่อที่จะได้เอาไว้คุยกันที่ทำงาน ส่งรูปภาพข้อความเชิงชู้สาว ผ่าน Emailบริษัท ต่างๆนาๆ
แต่ตบมือข้างเดียวมันไม่ดังแน่ๆ คนที่ผิดก็คือแฟนเราด้วย ไม่ใช่ผู้หญิงอย่างเดียว พฤติกรรมที่เขา 2 คนนี้กระทำมันเป็นเรื่องที่ผิดศิลธรรมมากๆ ซึ่ง หลังจากที่จับได้ว่าทั้งคู่คบกันเกินเลยมากกว่าเพื่อนร่วมงาน เขาทั้งคู่ก็ไม่หยุด เราหมดความอดทน ที่จะใช้ชีวิตคู่ จึงตัดสินใจขอแยกกันอยู่สักพัก ( แต่นั้นก็ไม่ใช่ทางออกที่ดีที่สุดมันกลับเลวร้ายมากกว่าเดิม )
เมื่อเราแยกกันอยู่ ได้ 2 วัน ไม่มีการติดต่อหรือการโทรมาเลยจากคนที่เคยรักกัน กลับกลายเป็นเฉยชา ห่างเหิน ขาดการติดต่อกันไป แต่จุดที่สุดๆๆในชีวิตยังไม่จบแค่นั้น!!!
เมื่อเราขอแยกกันอยู่ เราพบว่าเราตั้งครรภ์ได้ 1 เดือน ( ณ เวลานั้น มีทั้งความดีใจ และเสียใจ ปนกันคะ )
เมื่อแฟนเราไม่ได้ติดต่อมา เราก็ไม่ได้บอกเขาว่าเราท้องคะ กลายเป็นเงียบๆกันไป เพราะใจจริงๆ คือไม่อยากมีเขาอยู่ในชีวิตเราแล้วคะ แต่มาคิดอีกที เด็กที่กำลังจะเกิดเขาไม่ได้ผิดอะไร เขาสมควรมีพ่อ แต่ทางญาติเขาติดต่อเขาเพื่อจะบอกเรื่องเราท้อง เขารู้ว่าเราท้อง แต่เขาไม่มีการติดต่อมาหรือโทรมาให้กำลังใจเราเลยคะ ยอมรับนะว่า เวลานั้น มันเป็นช่วงที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตจริง มารู้อีกทีตอนหลังคะว่าเขาติดต่อกันสะดวกมากขึ้น นัดเจอกัน แต่เขาก็ไม่ได้ติดต่อเราและลูกเลยคะ อย่างนี้แล้วเราควรจะปล่อยให้เขาไปมีความสุขในแบบที่เขาเลือกดีกว่าที่เราต้องทนอยู่ในสภาพที่เราไม่อยากจะทนอีกต่อไป...
สุดท้ายแล้ว อะไรๆ มันไม่แน่นอนเลยคะ ถ้าวันนี้ยังมีครอบครัวที่รักกันดีอยู่จงใช้เวลาดีๆด้วยกันทุกๆวันให้ดี เพราะเราไม่รู้หรอกว่าอนาคตข้างหน้าที่มีทั้งเรื่องดี และเรื่องแย่ๆ จะผ่านเข้ามาในรูปแบบไหน..กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกในชีวิต หากมีอะไรผิดพลาดหรือใช้คำไม่ถูกต้องต้องขออภัยด้วยนะคะ
อยากขอเตือนนะคะว่า การแยกกันอยู่เมื่อมีมือที่ 3 เข้ามาแทรกมันไม่ใช่หนทางที่ดีคะ เม่าเหม่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่