ลาพักร้อนครั้งก่อนๆ พาไปดูบอลที่เยอรมัน ส่วนลาพักร้อนครั้งนี้คงขอเปลี่ยนแนวไปปีนเขากันบ้างค่ะ
สำหรับทริปนี้เป็นเกาะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย อยู่ติดประเทศบรูไน มากที่สุด
นั่นก็คือ "
Kota Kinabalu " รัฐซาบะฮ์ ประเทศมาเลเซีย
แปลเป็นไทยจริงๆ น่าจะเขียนว่า โกตากีนาบาลู แต่ขอเรียกเป็น คินาบาลู ละกันนะคะ
นี่จะเป็นวิธีการต่างๆ แบบฉบับ นักหัดเดินป่า ปีนเขา สำหรับผู้เริ่มต้นแบบมือใหม่เลยนะคะ
จะสรุปให้แบบ ทำตาม เห็นภาพ สั้นๆ แล้วก็ไปได้เลย
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งทริปนี้หมดไป 20,000 บาท โดยประมาณค่ะ
ไปมาวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
หัวข้อที่จะ Review วันนี้
1. การเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างประเทศ
2. การจองโปรแกรมปีนเขารวมถึงที่พัก
3. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
4. สนามบิน , Internet Sim , รถรับส่ง
5. ที่พักในเมือง อาหารการกิน
6. Summit Mt.Kinabalu Project
7. ของที่ละลึก
8. นอกรอบที่ Kuala Lumpur (KL)
1.การเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างประเทศ
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศนั้น ตามแบบของฝนแล้วจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ขาไป
1.1 บินตรงจาก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - โกตา คินาบาลู (Kota Kinabalu)
โดยสายการบิน " Thai Smile " ขึ้นจาก สุวรรณภูมิ
ชอบมีโปรโมชั่น 2,500 - 4,000 บาท
ขากลับ
1.2 บินจาก Kota Kinabalu - Kuala Lumpur (KL) - Bangkok
โดยสายการบิน "Air Asia" ลงจอดที่ดอนเมือง
ชอบมีโปรโมชั่นเช่นกัน ส่วนฝนได้มาน่าจะเป็นราคาปกติคือประมาณ 1,500 บาท (หัวเราะ)
ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับใครที่อยากจะบินตรงกลับเลยก็ได้
หรือใครที่อยากจะต่อเครื่องทั้งขาไปขากลับก็ได้เช่นกันค่ะ
2. การจองโปรแกรมปีนเขารวมถึงที่พัก
ฝนใช้การบริการของเว็บไซต์กลาง >>
http://www.mountkinabalu.com/
ซึ่งจะเป็นคนกลางที่มี contact agency ทั้งหมดเอาไว้
เราสามารถ "
เลือก package" ได้ตามใจต้องการ โดยแต่ละ package จะเขียนรายละเอียดค่อยข้างชัดเจน
รวมถึงราคา , ความยากและระดับความเหนื่อยเอาไว้ด้วย
*****ราคาจะถูกปรับขึ้นในทุกๆปี และจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับจำนวนคนในทริป
ในนั้นจะเขียนไว้ค่ะ ถ้าใครไปมากๆกว่า 30 คนให้ติดต่อไปต่างหาก เพราะจะได้ราคาพิเศษ
ฝนเลือก Package
2D1N MOUNT KINABALU CLIMB MYR 1,880 (เพราะไป 3 คน)
2D1N ย่อมาจาก 2 Days 1 night << หรือ 2 วัน 1 คืน นั่นเองค่ะ
สำหรับ Package รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งรถรับส่ง , ค่าที่พัก , ค่ากิน , ค่าไกด์ , ค่า Permit ,ค่า ID card , ค่าโน้นนี่นั่น...
**ไม่รวมค่าฝากกระเป๋า และ ค่าลูกหาบ
ค่าฝากกระเป๋า ประมาณ 10 ริงกิตประมาณ 80 บาทไทยค่ะ (ราคานี้ฝากไป 2 ใบ)
ค่าแบกของ ขึ้น - ลง กก.ละ 13 - 15 ริงกิต / กก. ค่ะ
ส่วนฝนฝากใบนึงที่เหลือแบกขึ้นไปจ้า !!!!
*** สำหรับใครจะจองแยก สามารถจองได้ แต่ไปๆมาๆแล้ว มันจะใกล้เคียงกับจองรวดเดียว ถ้าไปน้อยคนนะคะ
คำเตือน : อย่าจองตั๋วเครื่องบินก่อน
เมื่อเลือกวันที่จะไปเที่ยวแล้ว ให้เลือก
" Send Enquiry " ผ่านเว็บไซต์ไปก่อน
เพราะว่า
เขาจำกัดจำนวนคนปีนเขาคินาบาลูประมาณ 140 คน / 1 วัน
ที่นี่เลยขึ้นชื่อว่า
จองยาก ยังไงคะ
หลังจากนั้นทางเว็บไซต์จะส่งเรื่องไปยังแต่ละ Agency ว่าบริษัทไหนจะมาดูแล้วเรา
หลังจากนั้น เราจะได้รับ Email ตอบรับมาค่ะ ว่าจะจองได้หรือไม่ได้
ตัวฝนเองได้รับการตอบรับจาก
Amazing Borneo ให้มาเป็นทีมงานดูแลของทริปนี้
Information :
http://www.amazingborneo.com/
ทีมงานค่อนข้างเอาใจใส่ เพราะว่าเราถามคำถามเขาเยอะมาก ตอบ email เร็วดีค่ะ
ทางทีมงานจะส่ง email มาให้เรากรอกข้อมูลคนร่วมทริป
เลือกอาหารการกิน บริการรับที่โรงแรมไปยัง Kinabalu Park HQ - ส่งที่โรงแรมหรือสนามบินในขากลับ
ทั้งนี้เป็นบริการที่รวมอยู่ในราคาทริปหมดแล้วค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ระบบการจ่ายเงิน (Payment) ค่อนข้างดีเยี่ยมค่ะ
ทางบริษัทเขาจะแบ่งการชำระเงินตามระยะเวลาในการจองค่ะ
เช่น ถ้าจองเกิน 1-2 เดือน จ่ายแค่ 50% ก่อน แล้วไปจ่ายอีกทีก่อนไป 7 วัน เป็นต้น
ถือว่าสะดวกสบายและเชื่อถือได้ค่ะ
***คำแนะนำ***
- ให้ไปถึง Kota Kinabalu ก่อนวันปีนเขา ให้นอนในตัวเมืองก่อน 1 วัน (เพราะเครื่องบินที่นี่ Delay บ่อยเนื่องจากสภาพอากาศ)
- ส่วนใครจะบินต่อขากลับ ให้เลือกไฟล์ทดึกๆ 2 ทุ่มขึ้นไป
เพราะระหว่างทางไปสนามบิน รถติด และทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการลงเขาของเราด้วยค่ะ
- รถไปส่งสนามบินหรือโรงแรมหลังบ่ายโมงจาก Kinabalu Park HQ
มีแค่ 2 รอบคือ 15:00 น กับ 17:00 น. ฉะนั้นต้องลงมาให้ทัน ถ้าไม่ทันต้องเหมารถเองค่ะ
3. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
สำหรับเป้าหมายทริปนี้คือ ไปชูธงชาติไทยและพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 ค่ะ
หมายเหตุ : ไม่ได้โฆษณา brand แต่อย่างใดค่ะ เป็นความชอบส่วนตัวของฝนเองค่ะ
- อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอุณหภูมิ (-2) ยอดเขา - 15 องศา บน base camp.
- เสื้อกันฝนซัก 1-2 ตัว (หาซื้อได้จาก 7-11 ในราคาถูก)
- (แนะนำ) ไม้เทรคกิ้ง
- ปลั๊ก universal และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับใครจะเอากล้องไปเยอะ
- ไฟฉายคาดหัว
- รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าสำหรับเดินป่าที่มันไม่ลื่น
- rain cover สำหรับกระเป๋า เพราะโหลดใต้เครื่องบินเจอฝน กระเป๋าเราก็เปียกค่ะ
- (แนะนำ) เป้น้ำที่ใช้ในงานวิ่งเทรล หรือ วิ่งระยะไกล เพราะมันสะดวกกว่าถือขวดน้ำ
สภาพอากาศ ช่วงต้นเดือน พฤษภาคม
ยังมีฝนตกอยู่แต่ไม่หนักมาก มีหมอกลงจัดตลอดเวลา
แต่วันที่ขึ้นยอดฟ้าโปร่งค่ะ
ฉะนั้นอุปกรณ์กันฝนต้องใส่ใว้ในกระเป๋าในส่วนที่พร้อมหยิบใช้ค่ะ
4. สนามบิน , Internet Sim , รถรับส่ง
สำหรับสนามบิน Kota Kinabalu เป็นสนามบินที่คนเยอะเหมือนกันค่ะ
เนื่องจากมีไฟล์ท ดีเล ค่อนข้างบ่อยเนื่องจากสภาพอากาศ ของขายส่วนใหญ่เป็นขนมหวาน
มีของที่ละลึกขายเช่นกัน ถ้าใครพลาดจากในตัวเมืองมาแล้ว
4.1 Internet Sim ฝนใช้ของค่าย Digi (Dtac นั่นแหละ) Internet Only 25 MYR / 10 GB มั้งคะถ้าจำไม่ผิด
(จำ data ไม่ได้ว่าให้เท่าไร แต่เอาเป็นว่าเยอะมากอะค่ะ เล่นกันให้เพลินไปเลย)
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว จะเจอเลยค่ะ
4.2 รถ shuttle bus สนามบิน - ตัวเมือง Kota Kinabalu
โรงแรมส่วนใหญ่จะใกล้ห้าง
Centre Point Sabah ซึ่งรถจะผ่านตรงนี้ แล้วก็เดินเอา
ราคาอยู่ที่ 5 MYR / 1 คน ประมาณ 40 บาท
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว ซื้อซิมเสร็จแล้ว อยู่ซ้ายสุดของสนามบินถ้าหันหน้าออกสนามบิน
5. ที่พักในเมือง อาหารการกิน
" เราต้องมาถึง Kota Kinabalu ก่อนปีนเขา 1 วัน นี่คือคำเตือนจาก Agency "
ที่พักคืนแรกฝนเลือก
Hotel traveller 3 คน / 1 คืน 900 บาท ค่ะ ก็ตกคนละ 300 บาทนั่นเอง
ถือว่าดูดีเลยเชียว สำหรับราคานี้
ข้างๆโรงแรมมีร้านอาหารที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ ชื่อร้าน WONG KOK
อาหารก็รสชาติคนไทยกินได้ค่ะ อร่อยอยู่ ราคาอาหารเริ่มต้นที่จานละ 50 บาทค่ะ
ส่วนตอนเย็นก็สามารถเดินไป Night Market ได้ค่ะ อาหารส่วนใหญ่เป็น "อาหารทะเล" และขนมจำพวกแป้งทั้งหลาย
เพิ่มทั้ง คอเลสเตอรอล , ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ไปในตัว
6. Summit Mt.Kinabalu Project
พูดรายละเอียดมาตั้งนาน หลายๆคนน่าจะรอในส่วนนี้ (หัวเราะ)
อันดับแรก เราจะต้องเดินทางไปยัง "
Kinabalu Park Headquarter. " ก่อน 8.30 น. ค่ะ
ฉะนั้นรถก็จะมารับเราประมาณ 6.00 น. ที่โรงแรม ถ้าเราจอง Agency.
** Kinabalu Park Headquarter. **
เราจะ "ฝากกระเป๋า , จ้างลูกหาบ , รับ ID tag , อาหารกลางวัน " ที่นี่ค่ะ
สำหรับก่อนปีนเขา ทางอุทยานจะให้เราไปเซ็นเอกสารยินยอมจะไม่ฟ้องร้องหากเราเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
เนื่องจากการเดินทางมีความเสี่ยง ประมาณนั้นค่ะ (แค่เริ่มต้นก็น่ากลัวแล้ว)
นั่นไง ยอดเขา คินาบาลู !! อยู่โน้น !!!
หลังกจานั้นเวลา 8:30 ทางอุทยานและไกด์ที่ดูแลเราจะพาเรานั่งรถไปที่ Timpohon Gate เพื่อเริ่มออก start ค่ะ
ก่อนจะเดิน ไกด์ก็จะอธิบาย เส้นทางทั้งหมดที่เราจะต้องเดิน ที่แรกที่เราจะต้องไปให้ถึงคือ
" Panalaban Base Camp ที่ความสูง 3,272 เมตร จากระดับน้ำทะเล "
แต่ที่พักเราจะอยู่ที่ Laban Rata ซึ่งสูง 3,314 เมตรจากระดับน้ำทะเลค่ะ
จาก Timpohon Gate - Panalaban Base Camp เป็นระยะทางทั้งหมด 6 กิโลเมตรค่ะ
(อ่านต่อที่ comment 1)
[CR] ลาพักร้อนไปปีนเขา " Kinabalu (คินาบาลู) " ประเทศมาเลเซีย (ฉบับผู้เริ่มต้น)
ลาพักร้อนครั้งก่อนๆ พาไปดูบอลที่เยอรมัน ส่วนลาพักร้อนครั้งนี้คงขอเปลี่ยนแนวไปปีนเขากันบ้างค่ะ
สำหรับทริปนี้เป็นเกาะอยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย อยู่ติดประเทศบรูไน มากที่สุด
นั่นก็คือ " Kota Kinabalu " รัฐซาบะฮ์ ประเทศมาเลเซีย
แปลเป็นไทยจริงๆ น่าจะเขียนว่า โกตากีนาบาลู แต่ขอเรียกเป็น คินาบาลู ละกันนะคะ
นี่จะเป็นวิธีการต่างๆ แบบฉบับ นักหัดเดินป่า ปีนเขา สำหรับผู้เริ่มต้นแบบมือใหม่เลยนะคะ
จะสรุปให้แบบ ทำตาม เห็นภาพ สั้นๆ แล้วก็ไปได้เลย
ส่วนค่าใช้จ่ายทั้งทริปนี้หมดไป 20,000 บาท โดยประมาณค่ะ
ไปมาวันที่ 5-8 พฤษภาคม 2560 ที่ผ่านมา
หัวข้อที่จะ Review วันนี้
1. การเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างประเทศ
2. การจองโปรแกรมปีนเขารวมถึงที่พัก
3. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
4. สนามบิน , Internet Sim , รถรับส่ง
5. ที่พักในเมือง อาหารการกิน
6. Summit Mt.Kinabalu Project
7. ของที่ละลึก
8. นอกรอบที่ Kuala Lumpur (KL)
1.การเดินทาง ไป-กลับ ระหว่างประเทศ
สำหรับการเดินทางระหว่างประเทศนั้น ตามแบบของฝนแล้วจะเป็นแบบนี้ค่ะ
ขาไป
1.1 บินตรงจาก กรุงเทพฯ (สนามบินสุวรรณภูมิ) - โกตา คินาบาลู (Kota Kinabalu)
โดยสายการบิน " Thai Smile " ขึ้นจาก สุวรรณภูมิ
ชอบมีโปรโมชั่น 2,500 - 4,000 บาท
ขากลับ
1.2 บินจาก Kota Kinabalu - Kuala Lumpur (KL) - Bangkok
โดยสายการบิน "Air Asia" ลงจอดที่ดอนเมือง
ชอบมีโปรโมชั่นเช่นกัน ส่วนฝนได้มาน่าจะเป็นราคาปกติคือประมาณ 1,500 บาท (หัวเราะ)
ทั้งนี้ทั้งนั้นสำหรับใครที่อยากจะบินตรงกลับเลยก็ได้
หรือใครที่อยากจะต่อเครื่องทั้งขาไปขากลับก็ได้เช่นกันค่ะ
2. การจองโปรแกรมปีนเขารวมถึงที่พัก
ฝนใช้การบริการของเว็บไซต์กลาง >> http://www.mountkinabalu.com/
ซึ่งจะเป็นคนกลางที่มี contact agency ทั้งหมดเอาไว้
เราสามารถ "เลือก package" ได้ตามใจต้องการ โดยแต่ละ package จะเขียนรายละเอียดค่อยข้างชัดเจน
รวมถึงราคา , ความยากและระดับความเหนื่อยเอาไว้ด้วย
*****ราคาจะถูกปรับขึ้นในทุกๆปี และจะถูกจะแพงขึ้นอยู่กับจำนวนคนในทริป
ในนั้นจะเขียนไว้ค่ะ ถ้าใครไปมากๆกว่า 30 คนให้ติดต่อไปต่างหาก เพราะจะได้ราคาพิเศษ
ฝนเลือก Package 2D1N MOUNT KINABALU CLIMB MYR 1,880 (เพราะไป 3 คน)
2D1N ย่อมาจาก 2 Days 1 night << หรือ 2 วัน 1 คืน นั่นเองค่ะ
สำหรับ Package รวมทุกอย่างแล้ว ทั้งรถรับส่ง , ค่าที่พัก , ค่ากิน , ค่าไกด์ , ค่า Permit ,ค่า ID card , ค่าโน้นนี่นั่น...
**ไม่รวมค่าฝากกระเป๋า และ ค่าลูกหาบ
ค่าฝากกระเป๋า ประมาณ 10 ริงกิตประมาณ 80 บาทไทยค่ะ (ราคานี้ฝากไป 2 ใบ)
ค่าแบกของ ขึ้น - ลง กก.ละ 13 - 15 ริงกิต / กก. ค่ะ
ส่วนฝนฝากใบนึงที่เหลือแบกขึ้นไปจ้า !!!!
*** สำหรับใครจะจองแยก สามารถจองได้ แต่ไปๆมาๆแล้ว มันจะใกล้เคียงกับจองรวดเดียว ถ้าไปน้อยคนนะคะ
คำเตือน : อย่าจองตั๋วเครื่องบินก่อน
เมื่อเลือกวันที่จะไปเที่ยวแล้ว ให้เลือก " Send Enquiry " ผ่านเว็บไซต์ไปก่อน
เพราะว่า เขาจำกัดจำนวนคนปีนเขาคินาบาลูประมาณ 140 คน / 1 วัน
ที่นี่เลยขึ้นชื่อว่า จองยาก ยังไงคะ
หลังจากนั้นทางเว็บไซต์จะส่งเรื่องไปยังแต่ละ Agency ว่าบริษัทไหนจะมาดูแล้วเรา
หลังจากนั้น เราจะได้รับ Email ตอบรับมาค่ะ ว่าจะจองได้หรือไม่ได้
ตัวฝนเองได้รับการตอบรับจาก Amazing Borneo ให้มาเป็นทีมงานดูแลของทริปนี้
Information : http://www.amazingborneo.com/
ทีมงานค่อนข้างเอาใจใส่ เพราะว่าเราถามคำถามเขาเยอะมาก ตอบ email เร็วดีค่ะ
ทางทีมงานจะส่ง email มาให้เรากรอกข้อมูลคนร่วมทริป
เลือกอาหารการกิน บริการรับที่โรงแรมไปยัง Kinabalu Park HQ - ส่งที่โรงแรมหรือสนามบินในขากลับ
ทั้งนี้เป็นบริการที่รวมอยู่ในราคาทริปหมดแล้วค่ะ ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม
ระบบการจ่ายเงิน (Payment) ค่อนข้างดีเยี่ยมค่ะ
ทางบริษัทเขาจะแบ่งการชำระเงินตามระยะเวลาในการจองค่ะ
เช่น ถ้าจองเกิน 1-2 เดือน จ่ายแค่ 50% ก่อน แล้วไปจ่ายอีกทีก่อนไป 7 วัน เป็นต้น
ถือว่าสะดวกสบายและเชื่อถือได้ค่ะ
***คำแนะนำ***
- ให้ไปถึง Kota Kinabalu ก่อนวันปีนเขา ให้นอนในตัวเมืองก่อน 1 วัน (เพราะเครื่องบินที่นี่ Delay บ่อยเนื่องจากสภาพอากาศ)
- ส่วนใครจะบินต่อขากลับ ให้เลือกไฟล์ทดึกๆ 2 ทุ่มขึ้นไป
เพราะระหว่างทางไปสนามบิน รถติด และทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความเร็วในการลงเขาของเราด้วยค่ะ
- รถไปส่งสนามบินหรือโรงแรมหลังบ่ายโมงจาก Kinabalu Park HQ
มีแค่ 2 รอบคือ 15:00 น กับ 17:00 น. ฉะนั้นต้องลงมาให้ทัน ถ้าไม่ทันต้องเหมารถเองค่ะ
3. การเตรียมตัวก่อนเดินทาง
สำหรับเป้าหมายทริปนี้คือ ไปชูธงชาติไทยและพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 9 ค่ะ
หมายเหตุ : ไม่ได้โฆษณา brand แต่อย่างใดค่ะ เป็นความชอบส่วนตัวของฝนเองค่ะ
- อุปกรณ์กันหนาวสำหรับอุณหภูมิ (-2) ยอดเขา - 15 องศา บน base camp.
- เสื้อกันฝนซัก 1-2 ตัว (หาซื้อได้จาก 7-11 ในราคาถูก)
- (แนะนำ) ไม้เทรคกิ้ง
- ปลั๊ก universal และอุปกรณ์ต่อพ่วงต่างๆ สำหรับใครจะเอากล้องไปเยอะ
- ไฟฉายคาดหัว
- รองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าสำหรับเดินป่าที่มันไม่ลื่น
- rain cover สำหรับกระเป๋า เพราะโหลดใต้เครื่องบินเจอฝน กระเป๋าเราก็เปียกค่ะ
- (แนะนำ) เป้น้ำที่ใช้ในงานวิ่งเทรล หรือ วิ่งระยะไกล เพราะมันสะดวกกว่าถือขวดน้ำ
สภาพอากาศ ช่วงต้นเดือน พฤษภาคม
ยังมีฝนตกอยู่แต่ไม่หนักมาก มีหมอกลงจัดตลอดเวลา
แต่วันที่ขึ้นยอดฟ้าโปร่งค่ะ
ฉะนั้นอุปกรณ์กันฝนต้องใส่ใว้ในกระเป๋าในส่วนที่พร้อมหยิบใช้ค่ะ
4. สนามบิน , Internet Sim , รถรับส่ง
สำหรับสนามบิน Kota Kinabalu เป็นสนามบินที่คนเยอะเหมือนกันค่ะ
เนื่องจากมีไฟล์ท ดีเล ค่อนข้างบ่อยเนื่องจากสภาพอากาศ ของขายส่วนใหญ่เป็นขนมหวาน
มีของที่ละลึกขายเช่นกัน ถ้าใครพลาดจากในตัวเมืองมาแล้ว
4.1 Internet Sim ฝนใช้ของค่าย Digi (Dtac นั่นแหละ) Internet Only 25 MYR / 10 GB มั้งคะถ้าจำไม่ผิด
(จำ data ไม่ได้ว่าให้เท่าไร แต่เอาเป็นว่าเยอะมากอะค่ะ เล่นกันให้เพลินไปเลย)
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว จะเจอเลยค่ะ
4.2 รถ shuttle bus สนามบิน - ตัวเมือง Kota Kinabalu
โรงแรมส่วนใหญ่จะใกล้ห้าง Centre Point Sabah ซึ่งรถจะผ่านตรงนี้ แล้วก็เดินเอา
ราคาอยู่ที่ 5 MYR / 1 คน ประมาณ 40 บาท
ชี้เป้า : เดินออกมาจากจุดรับกระเป๋าแล้ว ซื้อซิมเสร็จแล้ว อยู่ซ้ายสุดของสนามบินถ้าหันหน้าออกสนามบิน
5. ที่พักในเมือง อาหารการกิน
" เราต้องมาถึง Kota Kinabalu ก่อนปีนเขา 1 วัน นี่คือคำเตือนจาก Agency "
ที่พักคืนแรกฝนเลือก Hotel traveller 3 คน / 1 คืน 900 บาท ค่ะ ก็ตกคนละ 300 บาทนั่นเอง
ถือว่าดูดีเลยเชียว สำหรับราคานี้
ข้างๆโรงแรมมีร้านอาหารที่เปิด 24 ชั่วโมงด้วยค่ะ ชื่อร้าน WONG KOK
อาหารก็รสชาติคนไทยกินได้ค่ะ อร่อยอยู่ ราคาอาหารเริ่มต้นที่จานละ 50 บาทค่ะ
ส่วนตอนเย็นก็สามารถเดินไป Night Market ได้ค่ะ อาหารส่วนใหญ่เป็น "อาหารทะเล" และขนมจำพวกแป้งทั้งหลาย
เพิ่มทั้ง คอเลสเตอรอล , ไขมัน และ คาร์โบไฮเดรต ไปในตัว
6. Summit Mt.Kinabalu Project
พูดรายละเอียดมาตั้งนาน หลายๆคนน่าจะรอในส่วนนี้ (หัวเราะ)
อันดับแรก เราจะต้องเดินทางไปยัง " Kinabalu Park Headquarter. " ก่อน 8.30 น. ค่ะ
ฉะนั้นรถก็จะมารับเราประมาณ 6.00 น. ที่โรงแรม ถ้าเราจอง Agency.
** Kinabalu Park Headquarter. **
เราจะ "ฝากกระเป๋า , จ้างลูกหาบ , รับ ID tag , อาหารกลางวัน " ที่นี่ค่ะ
สำหรับก่อนปีนเขา ทางอุทยานจะให้เราไปเซ็นเอกสารยินยอมจะไม่ฟ้องร้องหากเราเสียชีวิตระหว่างเดินทาง
เนื่องจากการเดินทางมีความเสี่ยง ประมาณนั้นค่ะ (แค่เริ่มต้นก็น่ากลัวแล้ว)
นั่นไง ยอดเขา คินาบาลู !! อยู่โน้น !!!
หลังกจานั้นเวลา 8:30 ทางอุทยานและไกด์ที่ดูแลเราจะพาเรานั่งรถไปที่ Timpohon Gate เพื่อเริ่มออก start ค่ะ
ก่อนจะเดิน ไกด์ก็จะอธิบาย เส้นทางทั้งหมดที่เราจะต้องเดิน ที่แรกที่เราจะต้องไปให้ถึงคือ
" Panalaban Base Camp ที่ความสูง 3,272 เมตร จากระดับน้ำทะเล "
แต่ที่พักเราจะอยู่ที่ Laban Rata ซึ่งสูง 3,314 เมตรจากระดับน้ำทะเลค่ะ
จาก Timpohon Gate - Panalaban Base Camp เป็นระยะทางทั้งหมด 6 กิโลเมตรค่ะ
(อ่านต่อที่ comment 1)
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น