ความคิดที่จะปีนผา สำหรับผมแล้ว ผมเองเคยมีความฝันอยากจะทำอะไรแนวๆนี้มาโดยตลอด แต่ด้วยจังหวะ โอกาส หรือในบางครั้งอาจจะเป็นเพียงข้ออ้าง ที่มันทำให้ผมไม่ได้ลองลงมือทำตามความฝันนี้ของผมได้เลยในสักครั้ง
น้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก ทำให้กีฬาที่ผมชอบที่จะเล่นในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือ กีฬาเวทเทรนนิ่ง ควบคู่ไปกับการวิ่งเพื่อสุขภาพประมาณวันละ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เป้าหมายของผม ผมอยากจะลดน้ำหนักให้ตัวเองมีความคล่องแคล่วมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงกลายเป็นว่าผมได้พับเอาความฝันที่จะได้ปีนผาเก็บเข้าใส่กล่อง และโยนกุญแจทิ้งไป ในแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
การพัฒนาตัวเองในแบบที่ผมขอใช้คำว่า "การพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด" ของผมนั้นมันเริ่มจากการที่ผมได้เข้ารับการคัดเลือกในโปรเจ็คยิ่งใหญ่โปรเจ็คหนึ่ง โปรเจ็คที่มีขึ้นเพื่อจะเฟ้นหาคนไทยสิบคนไปเป็นทีมสำรวจ โดยคนที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ จะต้องผ่านด่านทดสอบสุดโหดอย่างมากมาย เพื่อวัดทั้ง IQ EQ ความแข็งแกร่ง ความทนทานของสภาพร่างกาย และทักษะต่างๆในอีกหลายด้าน
TJ's True South Adventure to Antarctica คือชื่อของโครงการ กับเป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ ที่จะพาทีมสำรวจคนไทย 10 ชีวิต เดินทางไปปักธงไตรรงค์ ณ จุดใต้สุดของโลกใบนี้ที่ "ขั้วโลกใต้" กับการเตรียมตัวก่อนเดินทางเป็นระยะเวลาทั้วสิ้นประมาณ 2 ปี

ด่านทดสอบด่านแรก คือ ด่านทดสอบการเอาตัวรอดในป่า กับภารกิจที่มีชื่อว่า "100K 24-hour Survival Challenge" ซึ่งก็คือการวิ่งเทรลระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ที่ผมเคยรีวิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ในกระทู้ เรื่องเล่าจากเทรลแรก ตอนมือใหม่ถอดด้าม อาสาขอซ่า กับอัลตร้ามาราธอน
https://pantip.com/topic/36282981/desktop
ภาพบางส่วนจากด่านทดสอบด่านแรก ด่านเอาตัวรอดในป่าโดยกำหนดระยะเวลา ไว้ที่ 24 ชั่วโมงครับ

(ณ จุดปล่อยตัว R U READY!!!)

(นำตั้งแต่ออกสตาร์ทเลยครับ สำหรับ พี่กิ๊ฟ Elite ของกลุ่มเรา)

(คนข้างหน้ากำลังเข้าเส้นชัย ขณะที่คนข้างหลังเหลือระยะอีก 26 กิโลเมตรโดยประมาณครับ 55 5)

(พี่หมอนกกับพี่ซี สาวแกร่งประจำแก๊งค์ VERY FORTY แก๊งค์ 40 แล้วยังฟิตปั๋งครับ)

(หนึ่งในด่านทดสอบที่พวกเราได้มาร่วมสนุกกันครับ ตื่นเต้นเร้าใจดีมากๆ กับการข้ามแม่น้ำด้วยสะพานเชือกสองเส้น แอคชั่นรูปนี้ พี่กอล์ฟฟี่ชนะเลิศครับ^^)

(พี่เอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ที่เป็นแรงบันดาลใจและผู้ก่อตั้งโครงการ ได้มาเข้าร่วมกับพวกเราในภารกิจสุดโหดนี้ด้วยครับ พี่เอกเฟรนลี่มากๆเลยครับ)

(ให้ภาพเล่าเรื่องครับ อารมณ์มาเต็มจริงๆภาพนี้^^)

(ลุยน้ำตั้งแต่เช้ายันค่ำครับ ><!)

(หมดแล้วจริงๆสำหรับผมในภารกิจนี้ เจ็บเข่าข้างด้านซ้ายแบบสุดๆ ถึงกับต้องสไลด์ไปแบบนี้เลยครับ)
หากท่านสนใจอยากชมภาพบรรยากาศการแข่งขันในงาน 100K 24-hour Survival Challenge
ท่านสามารถเข้าไปชมได้ใน Facebook Fan Page : True South Thailand
https://web.facebook.com/truesouththailand/?fref=ts
และ ใน Facebook ของพี่ กาญจณี ชัยศิลป์ ขอบคุณพี่มากๆครับที่มาช่วยถ่ายรูปให้ในงาน รูปของพี่สวยมากๆเลยครับ
https://web.facebook.com/tuelekza.eiei/media_set?set=a.1299972543429441.1073741950.100002501226371&type=3
ต่อครับ หลังจากที่มือใหม่อย่างผมผ่านด่านทดสอบแรกและขั้นตอนการสัมภาษณ์ไปได้แล้ว รอบต่อมาคือรอบ 48 คน โดยรอบนี้จะมีการสอนและมีการทดสอบกับทักษะหลักๆอยู่ราว 4 ทักษะ อันได้แก่ ทักษะทางด้านความแข็งแรงและการทำงานเป็นทีมจากบูทแคมป์ ทักษะการดำรงชีวิตในป่า ทักษะการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง และทักษะสุดท้ายก็คือ ทักษะในการปีนหน้าผาครับ
หลังจากบูทแคมป์ในช่วงวันที่ 28-30เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ทำให้ผมได้รู้จักกับสมาชิกคนอื่น ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบที่แล้ว แปลกที่พวกเราสามารถจะสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะว่า พวกเราเป็นคนพันธุ์เดียวกัน ชอบทำอะไรลุยๆเหมือนกัน และความยากลำบากในการฝึกบูทแคมป์ มันกลับมีข้อดีที่นอกจากจะทำให้ร่างกายของพวกเราแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว มันยังช่วยทำให้พวกเราได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน มีความสนิทสนมกันจากการผ่านด่านทดสอบที่ยากลำบากมาพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์
ภาพบางส่วนจากภารกิจ บูทแคมป์ครับ
**ผมกำลังอยู่ระหว่างการเขียนรีวิว บูทแคมป์ครับ หากท่านสนใจอยากเข้าไปดูภาพการฝึก ท่านสามารถเข้าไปชมภาพสวยๆได้ใน ลิงค์นี้ครับ
https://web.facebook.com/pg/truesouththailand/photos/?tab=album&album_id=543770679346375**
หลังจากบูทแคมป์พวกเราได้มีการนัดแนะกันไปซ้อมทักษะอื่นๆที่จะใช้ในการทดสอบครั้งต่อๆไป โดยในวันพฤหัสที่ 4 พฤษภาคมผ่านมา ผมได้รับการชักชวนจาก "พี่ดาว" หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมในโครงการTJ's True South โดยพี่ดาวเป็นผู้มีประสบการณ์ในการปีนผามากที่สุดแล้วในกลุ่มของพวกเราทั้ง 46 คน โดยในวันนี้มีเพียงผมกับพี่ซี เท่านั้นที่ว่างและตกปากรับคำชวนจากพี่ดาว ว่าจะไปปีนผาด้วยกัน โดยพี่ดาวได้พาราเชล เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันผ่านเว็บไซค์หาเพื่อนปีนผามาด้วย

(พวกเรานัดเจอกันที่ ครัวคุณเชิญ สาขางามวงศ์วาน ร้านอาหารบุฟเฟ่สไตล์มังสวิรัติของพี่ซี ครับ)

(อาหารที่นี่มีให้เลือกหลากหลายเปลี่ยนเมนูอาหารทุกวัน รสชาติอร่อยถูกปากผมอย่างมาก ทั้งๆที่ผมไม่ได้เป็นคนทานมังสวิรัติ แต่ผมก็ติดใจกับอาหารในสไตล์แบบนี้ สไตล์ของคนรักษาสุขภาพครับ)
ราเชลเป็นสาวสวยอายุ 20 ปีชาวอเมริกัน โดยเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเรียนด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยราว 7 เดือน ความเฟรนลี่ของเธอทำให้พวกเราชอบเธอมากตั้งแต่แรกเห็น การสนทนาของพวกเราส่วนใหญ่จึงเป็นภาษาอังกฤษ เพราะพวกเราอยากจะให้ราเชลเข้าใจในเรื่องที่เรากำลังคุยกันอยู่ในตอนนั้นด้วย
บ่ายสามโมงตรง พวกเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาราวสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึงอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี ทันทีที่มาถึง พวกเราก็ได้มองเห็นหน้าผาหินสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากถนนใหญ่ พี่ๆบนรถต่างก็เฮฮากันยกใหญ่ พวกเราตื่นเต้นที่ได้เดินทางมาถึงที่นี่ก่อนเวลา ทำให้เราสามารถจะปีนผาได้ทันก่อนมืดในวันนี้เลยครับ

พี่ซีขับรถมาจอดที่ วัดเขาย้อย สถานที่ตั้งต้นในการปีนผาของพวกเราในวันนี้ โดยขั้นแรกพวกเราเริ่มจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อที่ใส่สบายสามารถยกแข้งยกขาได้อย่างอิสระ ก่อนที่พวกเราทั้งสี่คนจะเริ่มเดินสำรวจหาจุดที่จะทำการปีนผา
จากตีนเขา พวกเราเดินขึ้นบันไดวัดขึ้นมาเรื่อยๆ เดินตามทางมาจนถึงโพรงถ้ำที่ภายในมีพระพุทธรูปมีลักษณะคล้ายศิลปะแบบพม่าตั้งอยู่หนึ่งองค์ จากนั้นพวกเราก็เดินทะลุถ้ำไปอีกฝากหนึ่งของภูเขาหินเพื่อหาจุดปีนผาที่เหมาะ ตามที่พี่ดาวอาจารย์ของพวกเราในวันนี้เห็นควรว่าหน้าผาบริเวณไหนมีความเหมาะสมสำหรับการนำมาซ้อมปีนผาสำหรับผมกับพี่ซี ผู้ที่เป็น Beginner ในวันนี้

เราทั้งสี่คน มองไปยังหน้าผาหิน มองหาโบล์ทหรือห่วงเหล็กที่เป็นของคนที่เคยมาปีนก่อนหน้านี้ทำไว้ โดยพี่ดาวได้ทำการบ้านโดยการโหลดแผนที่การปีนผาของที่นี่จากอินเตอร์เน็ตมาแล้ว

พวกเราใช้เวลาเดินสำรวจกันอยู่ราว 1 ชั่วโมง ก็พบจุดที่เหมาะแก่การปีนผาในวันนี้ ซึ่งนี่คือครั้งแรกของผมกับพี่ซีที่จะได้ลองปีนผา โดยเราค่อนข้างจะข้ามขั้นกันไปพอสมควร เพราะพวกเราได้มาฝึกกับพี่ดาวผู้ที่ชื่นชอบและมีทักษะในการเล่นกีฬาปีนผาเป็นอย่างดี โดยพี่ดาวเคยปีนผาได้ถึงในระดับ 7b เลยทีเดียว

ผมกับพี่ซีเราไม่เคยปีนแม้กระทั่งผาจำลองตามห้าง แต่ในครั้งนี้ผมอยากจะลองพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า "อยากจะพัฒนาทักษะแบบก้าวกระโดด ต้องมาฝึกโหดกับมือโปร" งานนี้สนุกแน่ๆกับเส้นทางปีนผาที่พี่ดาวกับราเชลเลือก ที่มีความสูงจากพื้นจนถึงแองเคอร์ราว 30 เมตร พี่ดาวบอกว่าปีนเลยไม่ยาก อันนี้ 5a
[CR] เกินกว่าความประทับใจ กับการปีนผาครั้งแรกในชีวิตกับเพื่อนใหม่ ณ วัดเขาย้อย จังหวัดเพชรบุรี ครับ
น้ำหนักตัวที่ค่อนข้างมาก ทำให้กีฬาที่ผมชอบที่จะเล่นในช่วงเวลาที่ผ่านมาคือ กีฬาเวทเทรนนิ่ง ควบคู่ไปกับการวิ่งเพื่อสุขภาพประมาณวันละ 45 นาทีถึงหนึ่งชั่วโมง เป้าหมายของผม ผมอยากจะลดน้ำหนักให้ตัวเองมีความคล่องแคล่วมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน จึงกลายเป็นว่าผมได้พับเอาความฝันที่จะได้ปีนผาเก็บเข้าใส่กล่อง และโยนกุญแจทิ้งไป ในแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
การพัฒนาตัวเองในแบบที่ผมขอใช้คำว่า "การพัฒนาตัวเองแบบก้าวกระโดด" ของผมนั้นมันเริ่มจากการที่ผมได้เข้ารับการคัดเลือกในโปรเจ็คยิ่งใหญ่โปรเจ็คหนึ่ง โปรเจ็คที่มีขึ้นเพื่อจะเฟ้นหาคนไทยสิบคนไปเป็นทีมสำรวจ โดยคนที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ จะต้องผ่านด่านทดสอบสุดโหดอย่างมากมาย เพื่อวัดทั้ง IQ EQ ความแข็งแกร่ง ความทนทานของสภาพร่างกาย และทักษะต่างๆในอีกหลายด้าน
TJ's True South Adventure to Antarctica คือชื่อของโครงการ กับเป้าหมายสุดยิ่งใหญ่ ที่จะพาทีมสำรวจคนไทย 10 ชีวิต เดินทางไปปักธงไตรรงค์ ณ จุดใต้สุดของโลกใบนี้ที่ "ขั้วโลกใต้" กับการเตรียมตัวก่อนเดินทางเป็นระยะเวลาทั้วสิ้นประมาณ 2 ปี
ด่านทดสอบด่านแรก คือ ด่านทดสอบการเอาตัวรอดในป่า กับภารกิจที่มีชื่อว่า "100K 24-hour Survival Challenge" ซึ่งก็คือการวิ่งเทรลระยะทางกว่า 100 กิโลเมตร ภายในระยะเวลา 24 ชั่วโมง ที่ผมเคยรีวิวเอาไว้ก่อนหน้านี้ในกระทู้ เรื่องเล่าจากเทรลแรก ตอนมือใหม่ถอดด้าม อาสาขอซ่า กับอัลตร้ามาราธอน https://pantip.com/topic/36282981/desktop
ภาพบางส่วนจากด่านทดสอบด่านแรก ด่านเอาตัวรอดในป่าโดยกำหนดระยะเวลา ไว้ที่ 24 ชั่วโมงครับ
(ให้ภาพเล่าเรื่องครับ อารมณ์มาเต็มจริงๆภาพนี้^^)
(ลุยน้ำตั้งแต่เช้ายันค่ำครับ ><!)
(หมดแล้วจริงๆสำหรับผมในภารกิจนี้ เจ็บเข่าข้างด้านซ้ายแบบสุดๆ ถึงกับต้องสไลด์ไปแบบนี้เลยครับ)
หากท่านสนใจอยากชมภาพบรรยากาศการแข่งขันในงาน 100K 24-hour Survival Challenge
ท่านสามารถเข้าไปชมได้ใน Facebook Fan Page : True South Thailand https://web.facebook.com/truesouththailand/?fref=ts
และ ใน Facebook ของพี่ กาญจณี ชัยศิลป์ ขอบคุณพี่มากๆครับที่มาช่วยถ่ายรูปให้ในงาน รูปของพี่สวยมากๆเลยครับ https://web.facebook.com/tuelekza.eiei/media_set?set=a.1299972543429441.1073741950.100002501226371&type=3
ต่อครับ หลังจากที่มือใหม่อย่างผมผ่านด่านทดสอบแรกและขั้นตอนการสัมภาษณ์ไปได้แล้ว รอบต่อมาคือรอบ 48 คน โดยรอบนี้จะมีการสอนและมีการทดสอบกับทักษะหลักๆอยู่ราว 4 ทักษะ อันได้แก่ ทักษะทางด้านความแข็งแรงและการทำงานเป็นทีมจากบูทแคมป์ ทักษะการดำรงชีวิตในป่า ทักษะการเล่นสเก็ตน้ำแข็ง และทักษะสุดท้ายก็คือ ทักษะในการปีนหน้าผาครับ
หลังจากบูทแคมป์ในช่วงวันที่ 28-30เมษายน 2560 ที่ผ่านมา ทำให้ผมได้รู้จักกับสมาชิกคนอื่น ผู้ที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบที่แล้ว แปลกที่พวกเราสามารถจะสนิทสนมกันได้อย่างรวดเร็วแบบไม่น่าเชื่อ อาจเป็นเพราะว่า พวกเราเป็นคนพันธุ์เดียวกัน ชอบทำอะไรลุยๆเหมือนกัน และความยากลำบากในการฝึกบูทแคมป์ มันกลับมีข้อดีที่นอกจากจะทำให้ร่างกายของพวกเราแข็งแกร่งมากขึ้นแล้ว มันยังช่วยทำให้พวกเราได้หลอมรวมเข้าด้วยกัน มีความสนิทสนมกันจากการผ่านด่านทดสอบที่ยากลำบากมาพร้อมกันอย่างน่าอัศจรรย์
ภาพบางส่วนจากภารกิจ บูทแคมป์ครับ
**ผมกำลังอยู่ระหว่างการเขียนรีวิว บูทแคมป์ครับ หากท่านสนใจอยากเข้าไปดูภาพการฝึก ท่านสามารถเข้าไปชมภาพสวยๆได้ใน ลิงค์นี้ครับ https://web.facebook.com/pg/truesouththailand/photos/?tab=album&album_id=543770679346375**
หลังจากบูทแคมป์พวกเราได้มีการนัดแนะกันไปซ้อมทักษะอื่นๆที่จะใช้ในการทดสอบครั้งต่อๆไป โดยในวันพฤหัสที่ 4 พฤษภาคมผ่านมา ผมได้รับการชักชวนจาก "พี่ดาว" หนึ่งในผู้ที่เข้าร่วมในโครงการTJ's True South โดยพี่ดาวเป็นผู้มีประสบการณ์ในการปีนผามากที่สุดแล้วในกลุ่มของพวกเราทั้ง 46 คน โดยในวันนี้มีเพียงผมกับพี่ซี เท่านั้นที่ว่างและตกปากรับคำชวนจากพี่ดาว ว่าจะไปปีนผาด้วยกัน โดยพี่ดาวได้พาราเชล เพื่อนใหม่ที่เพิ่งรู้จักกันผ่านเว็บไซค์หาเพื่อนปีนผามาด้วย
ราเชลเป็นสาวสวยอายุ 20 ปีชาวอเมริกัน โดยเธอเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนมาเรียนด้านวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อมที่ประเทศไทยราว 7 เดือน ความเฟรนลี่ของเธอทำให้พวกเราชอบเธอมากตั้งแต่แรกเห็น การสนทนาของพวกเราส่วนใหญ่จึงเป็นภาษาอังกฤษ เพราะพวกเราอยากจะให้ราเชลเข้าใจในเรื่องที่เรากำลังคุยกันอยู่ในตอนนั้นด้วย
บ่ายสามโมงตรง พวกเราเริ่มออกเดินทางจากกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาราวสองชั่วโมงก็เดินทางมาถึงอำเภอเขาย้อยจังหวัดเพชรบุรี ทันทีที่มาถึง พวกเราก็ได้มองเห็นหน้าผาหินสูงตระหง่านที่ตั้งอยู่ห่างออกไปไม่ไกลจากถนนใหญ่ พี่ๆบนรถต่างก็เฮฮากันยกใหญ่ พวกเราตื่นเต้นที่ได้เดินทางมาถึงที่นี่ก่อนเวลา ทำให้เราสามารถจะปีนผาได้ทันก่อนมืดในวันนี้เลยครับ
พี่ซีขับรถมาจอดที่ วัดเขาย้อย สถานที่ตั้งต้นในการปีนผาของพวกเราในวันนี้ โดยขั้นแรกพวกเราเริ่มจากการเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อที่ใส่สบายสามารถยกแข้งยกขาได้อย่างอิสระ ก่อนที่พวกเราทั้งสี่คนจะเริ่มเดินสำรวจหาจุดที่จะทำการปีนผา
จากตีนเขา พวกเราเดินขึ้นบันไดวัดขึ้นมาเรื่อยๆ เดินตามทางมาจนถึงโพรงถ้ำที่ภายในมีพระพุทธรูปมีลักษณะคล้ายศิลปะแบบพม่าตั้งอยู่หนึ่งองค์ จากนั้นพวกเราก็เดินทะลุถ้ำไปอีกฝากหนึ่งของภูเขาหินเพื่อหาจุดปีนผาที่เหมาะ ตามที่พี่ดาวอาจารย์ของพวกเราในวันนี้เห็นควรว่าหน้าผาบริเวณไหนมีความเหมาะสมสำหรับการนำมาซ้อมปีนผาสำหรับผมกับพี่ซี ผู้ที่เป็น Beginner ในวันนี้
เราทั้งสี่คน มองไปยังหน้าผาหิน มองหาโบล์ทหรือห่วงเหล็กที่เป็นของคนที่เคยมาปีนก่อนหน้านี้ทำไว้ โดยพี่ดาวได้ทำการบ้านโดยการโหลดแผนที่การปีนผาของที่นี่จากอินเตอร์เน็ตมาแล้ว
พวกเราใช้เวลาเดินสำรวจกันอยู่ราว 1 ชั่วโมง ก็พบจุดที่เหมาะแก่การปีนผาในวันนี้ ซึ่งนี่คือครั้งแรกของผมกับพี่ซีที่จะได้ลองปีนผา โดยเราค่อนข้างจะข้ามขั้นกันไปพอสมควร เพราะพวกเราได้มาฝึกกับพี่ดาวผู้ที่ชื่นชอบและมีทักษะในการเล่นกีฬาปีนผาเป็นอย่างดี โดยพี่ดาวเคยปีนผาได้ถึงในระดับ 7b เลยทีเดียว
ผมกับพี่ซีเราไม่เคยปีนแม้กระทั่งผาจำลองตามห้าง แต่ในครั้งนี้ผมอยากจะลองพิสูจน์ความเชื่อที่ว่า "อยากจะพัฒนาทักษะแบบก้าวกระโดด ต้องมาฝึกโหดกับมือโปร" งานนี้สนุกแน่ๆกับเส้นทางปีนผาที่พี่ดาวกับราเชลเลือก ที่มีความสูงจากพื้นจนถึงแองเคอร์ราว 30 เมตร พี่ดาวบอกว่าปีนเลยไม่ยาก อันนี้ 5a