น่าจะให้เลื่อนการส่งตัวออกไป สักพัก ไม่ใช่สัปดาห์หน้า วันที่ 11-12 พฤศจิกายน ตามข่าวหรือ…
จากเดิมที่เคยแจ้งว่าหลังจากวันที่ 21 พฤศจิกายน ตามขั้นตอนเฟสที่ 1 การถอนอาวุธ แล้วค่อยพิจารณา ก็ให้ทำตามนั้น จะส่งตัวให้เร็วขึ้นทำไม? ตรวจสอบให้ข้อตกลง 4 ข้อ มีความคืบหน้าก่อน
1. รู้สึกว่าช่วงเวลาแปลกๆ ที่หนองจาน หนองหญ้าแก้ว สำรวจแนวเขตที่ดิน วันที่ 17 พฤศจิกายน สำหรับกัมพูชาไม่มีความน่าเชื่อถือเหลืออีกแล้ว สำรวจแนวเขตที่ดินแล้วอาจจะไม่ย้ายออกก็ได้ หรืออาจจะไม่มาสำรวจเลย (เดี๋ยวหน้างานจริงจะมีเรื่องทุ่นระเบิดอีกหรือเปล่า หาข้ออ้างได้เป็นร้อยเป็นพัน?) ทำไมต้องเร่งส่งตัวกลับด้วย ให้ AOT เช็ค การถอนอาวุธหลายๆ รอบ ในทุกมิติ ย้ำว่าเว้นระยะเวลาไว้ให้มีการตรวจสอบ มีการปกปิดหรือไม่? หนองจาน หนองหญ้าแก้ว แสดงให้เห็นว่าเริ่มมีการเคลียร์ปัญหาเรื่องการจัดการพื้นที่ชายแดนก่อน เป็น 1 ใน 4 ข้อตกลงอยู่แล้ว
2. ให้ข้อบังคับเรื่อง เก็บกู้ทุ่นระเบิด ต้องทำจริงในทุกพื้นที่ ถ้าจะปักปันเขตแดนต้องเคลียร์ทุ่นระเบิดออกให้หมด จะไปเดินสำรวจได้อย่างไร??? มองตามตรรกะ-ขั้นตอนการทำงาน โดยไม่มีข้อแม้ เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น ไทยยื่นเก็บกู้ไปกี่จุด ก็ต้องทำตามนั้น เป็นเรื่องที่ต้องทำอยู่แล้ว จะไปลด-ผ่อนผันทำไม??? สนธิสัญญา Ottawa ก็มี บอกไปกับทาง ASEAN AOT มาเลเซีย อเมริกา เจรจาทางการฑูตตกลงไปก็ทำตามนั้น (สังเกตว่ากัมพูชาไม่มาเก็บกู้ ไม่มีงบมาเก็บกู้ทุ่นระเบิดหรืออย่างไร รอขอเงินบริจาคอีกรอบหรือ??? ที่ได้งบบริจาคมาก็เอามาเก็บกู้ น่าจะถามหน่วยงาน Ottawa ว่า ตั้งแต่กัมพูชาได้เงินบริจาคไป ยอดรวมทั้งหมด ลองคิดเฉลี่ยดูว่าเก็บกู้ทุ่นระเบิดต่อทุ่นเป็นเงินเท่าไหร่? กัมพูชาเป็นประเทศที่มีประสิทธิภาพแย่หรือดี? ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดหรือเปล่า? ถ้าประเทศที่เคยทำการเก็บกู้ทุ่นระเบิดมานาน น่าต้องมีความเชี่ยวชาญหรือเทคโนโลยีที่ทำงานได้มีประสิทธิภาพ แต่กัมพูชากลับเป็นเรื่องที่กลับกันทั้งหมด? มีแต่ขอเงินบริจาคเพิ่ม เก็บกู้เท่าไหร่ก็ไม่มีวันหมด วางทุ่นระเบิดใหม่อีก)
ถอนทุ่นระเบิดที่ปราสาทตาควาย ปราสาท…. ออกหมดทั้งสองฝั่ง ก่อนเลยในระยะกี่ร้อยเมตรว่ากันไป ก่อนส่งคืนเชลยศึก รวมทั้งจุดที่มีปัญหาทั้งหมดเป็นเฟสต่อไป
3. Line of actual control แบบที่จีน-อินเดียใช้ ลดกำลังพลกัมพูชา ห้ามพกพาอาวุธ ไม่มีฐานทหาร ไม่มีการพยายามตั้งถิ่นฐาน ถอยลงไปให้หมด ห้ามขึ้นมาแนวเขาเลยเส้นที่กำหนดมาอีกเลย ลองศึกษา จีน-อินเดีย เป็นตัวอย่าง มีแนวเส้นถอยออกไปชัดเจนว่าจะไม่เกินที่จุดไหน กี่ร้อยเมตร กี่กิโลเมตร??? การข้ามเส้น แค่การพยายามปีนขึ้นมาก็ถือเป็นการรุกล้ำแล้ว ไทยอยู่ข้างบนที่สูงด้วยภูมิศาสตร์เป็นแนวป้องกัน มีแนวหน้าผา ไม่ได้คิดที่จะลงไป มองเห็นเข้าใจได้ง่าย บนพื้นฐานของ watershed principle แนวสันปันน้ำ ทหารไทยก็ไม่ได้พยายามลงไปที่หน้าผา (แผนที่ 1:50000 ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด ทำร่วมกับอเมริกา ประเทศที่คุณกัมพูชา บูชาว่ามาไกล่เกลี่ยให้ คุณไม่เคยทำแผนที่ ไม่เคยมีการสำรวจเพิ่ม จะมาอ้างสิทธิ์ ปีนขึ้นมาทำไม???)
ในขณะเดียวกัน การที่กัมพูชาไม่ขึ้นมาบนยอดเขาอีก เป็นแนวทางที่นับเป็นการแสดงออกว่ามี good faith
จีน-อินเดีย มีข้อตกลงถอยกัน ไม่มีการใช้อาวุธ ไม่ทำฐาน ในระยะ 2 กิโลเมตร และไม่มีกำลังพล ในบางกรณีไม่ให้มีแม้แต่การเดินลาดตระเวนในระยะ 3-6 กิโลเมตรด้วย
ถ้าจะนำมาปรับใช้ในกรณี ของไทย-กัมพูชา อาจจะไม่ได้เหมือนจีน-อินเดีย ไปทุกข้อ
มองตามภูมิศาสตร์ ไทยอยู่บนที่สูง ฝ่ายไทยเป็นพื้นที่ป่าสงวนอยู่แล้ว คุณกัมพูชาจะปีนขึ้นมาทำไม? ปีนขึ้นมาขโมยตัดไม้ ขยายพื้นที่??? ห้ามกัมพูชาปีนขึ้นมาเลยที่ระยะ … ร้อยเมตร กิโลเมตร ถอยลงไปจากแนวยอดเขาสูง แนวสันปันน้ำ (ทางทหารน่าจะไปลงรายละเอียดได้???)
พิจารณาข้อปฎิบัติของจีนกับอินเดียดู สองประเทศนี้เค้ามีกลไกป้องกันการล้ำเส้น ไม่ให้มีการพกพา-การใช้อาวุธในระยะ 2 กิโลเมตร สู้กันด้วยมือเปล่า (หรืออาจจะไม่มือเปล่า? แต่ไม่มีปืน ไม่มีระเบิด) ตกเขาตาย เพราะถ้าความขัดแย้งขยาย สองประเทศนี้ มีอาวุธซัดกันหนักมาก

กรณีศึกษาจีน-อินเดีย
หรือถ้าในกรณีที่งี่เง่า ตกลงปักปันเขตแดนไม่ได้ ทำได้ช้าหรืออย่างไร ศึกษาแนวทางของจีน-อินเดีย นำมาปฎิบัติ ท่านฑูตไทยจะไปศึกษาขอคำแนะนำกับทางจีน-อินเดียก็ได้ คุณกัมพูชาที่อ้างจีน-อเมริกาก็ควรยอมรับแนวทางที่ประเทศอื่นเค้าใช้กัน
การใช้ LiDAR สำรวจเขตแดน ดำเนินการไป บนหลักการ watershed principle ตามสนธิสัญญา ครอบคลุมตลอดแนวเขาพนมดงรัก ตลอดจนถึงเขาพระวิหารด้วย ไทยมีสิทธิ์ทวงคืนปราสาทเขาพระวิหาร เพราะเป็นการยกเลิกแผนที่ 1:200000 และ 1:50000 เป็นการทำแผนที่ฉบับใหม่ (ถ้าจะคืนความสัมพันธ์กัน เปิดด่าน แก้ปัญหาที่ค้างคามานาน เป็นการเรียกร้องค่าเสียหาย)
ให้มีเส้นแนวเขตถอยร่นไป ที่จะไม่รุกล้ำ ไม่มีฐานทหาร กัมพูชาไม่มีความพยายามปีนขึ้นมา ไม่มีอาวุธพกขึ้นมา ปัญหาก็ลดไปได้เยอะแล้ว???
4. ปิดด่านไป ไม่มีส่วนเป็นทางผ่านให้กับ scammer จนกว่าจะทำการปักปันเขตแดนเรียบร้อย ทำประชามติ ‘ปรับ-ลดความสัมพันธ์ไทย-กัมพูชาจนกว่าจะปักปันเขตแดนเรียบร้อย‘ จะยกเลิก-ไม่ยกเลิก mou อย่างไรก็ได้ ปักหมุด-ทำรั้วให้เรียบร้อย ไม่ต้องมาทะเลาะกันเรื่องนี้อีก เป็นเจตจำนงที่แสดงออกมา เป็นข้อบังคับไปเลย จะสำรวจปักปันเขตแดนกันกี่ปี 1-3 ปีอย่างเร็ว ประชาชนจะได้เตรียมตัว หรือจะช้านานไป ในระยะยาว ค้าขายได้สบายใจ รัฐบาล นักการเมืองจะไปหาเสียง ทำนโยบายพัฒนาในพื้นที่อย่างไรก็ทำไป ทำประชามติ บีบนักการเมืองไทย-ฝ่ายกัมพูชา
ถ้าปิดด่านต่อไป รอดูว่ากัมพูชาจะเป็นอย่างไร??? สังเกตข่าว scammer หนักมาก หลังจากไทยปิดด่านไปตั้งแต่เดือนมิถุนา ชาวเกาหลีโดนจับตัวช่วงเดือนสิงหา-กันยา มาโดนไล่บี้ช่วงเดือนตุลาคม พอไม่มีอะไรปกปิด ไม่มีธุรกิจ บ่อนก็กลายเป็นรัง scammer อย่างชัดเจน จะมีอะไรให้เห็นจากประเทศนี้อีก??? เหมือนกับคาดการณ์ได้เลยว่าจะต้องมี …… ตามมาอีกแน่ๆ
ส่งคืนเชลย-สังเกตว่าช่วงเวลาแปลกๆ น่าจะศึกษาจีน-อินเดีย เรื่อง line of actual control