หากเกิดไฟฟ้าเกิดดับตลอด 2 วันเต็มๆ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...?
ผมว่านี่เป็นคำถามที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว จึงได้ลองค้นหาข้อมูลจนไปพบกับบทความหนึ่ง
ซึ่งเขียนออกมาได้ดีและอธิบายได้อย่างเห็นภาพมากเลยทีเดียว
จึงนำแปลเพื่อให้ทุกคนลองอ่านกันครับ
ต้นฉบับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://www.quora.com/What-will-happen-if-there-will-no-electricity-on-earth-for-48-hours
"หากไฟฟ้าดับ 48 ชั่วโมงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
ไฟฟ้าในที่นี้ผมจะหมายความรวมถึงไฟฟ้าทุกชนิดที่เราใช้กันอยู่
นั่น
รวมถึงแบตเตอรี่และเครื่องปั่นไฟทุกชนิด
แต่จะ
ไม่รวมถึงระบบไฟฟ้าในระบบชีววิทยาที่หมายถึงการทำงานของเซลล์หรือกล้ามเนื้อ
เพราะหากจะเหมารวมระบบไฟฟ้าในส่วนนี้ด้วยแล้วนั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหมดคงเสียชีวิตลงทันที
และคงไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจนักที่จะพูดถึง
ในส่วนแรก ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่พลังงานไฟฟ้าหายไป
ยานพาหนะทุกชนิดจะหยุดการทำงานทันที ในส่วนของรถที่ใช้แก๊สก็จะไม่สามารถทำงานได้
หากขาดไฟฟ้าในการสตาร์ทเครื่อง เครื่องยนต์ดีเซลบางชนิดอาจทำงานได้อยู่
แต่ในปัจจุบันเครื่องยนต์ส่วนมากต้องทำงานร่วมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนั่นหมายความว่า
เครื่องยนต์เหล่านี้จะดับลงเช่นกัน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก
อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนขึ้นบ้าง แต่ผลกระทบสำคัญที่จะเกิดขึ้นนั้นคือ
เครื่องบินจะตกทั่วโลก
เครื่องยนต์บางชนิดอาจทำงานได้ แต่ระบบควบคุม ระบบการนำทาง
และระบบการสื่อสารจะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งสิ้น
และนั่นหมายถึง
เครื่องบินเหล่านี้จะตกลงด้วยความรวดเร็ว และจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่
โดยเฉพาะที่สนามบินและตามหัวเมืองที่มีการเดินทางหนาแน่น
แต่สถานที่ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ
โรงพยาบาลจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ทุกคนที่อยู่ในช่วงการผ่าตัดจะตกอยู่ในความมืด เครื่องมือทางการแพทย์ทั้งหมดจะใช้งานไม่ได้
และนั่นหมายถึงการเสียชีวิตของคนไข้จำนวนมาก เครื่องกระตุ้นหัวใจที่ฝังอยู่ในผู้ป่วยโรคหัวใจจะหยุดทำงาน
และทำให้เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลว ยังไม่นับรวมถึงผู้ป่วยที่ต้องอาศัยเครื่องช่วยชีวิต
แพทย์ทั้งโรงพยาบาลจะวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อช่วยเหลือคนไข้ แต่ก็จะไม่สามารถทำอะไรเนื่องจากไม่มีเครื่องมือในการช่วยเหลือ
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือทางการแพทย์จะไม่ได้รับการช่วยเหลือได้เลย
เนื่องจากโทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ และรถพยาบาลก็ไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน
และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในเวลา 24 ชั่วโมง
แต่สำหรับคนปกติอย่างเราๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่ได้กำลังนั่งเครื่องบิน และไม่ได้ขับรถ
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราตื่นมา เราจะพบว่าแอร์ในห้องของเราดับลงไฟในห้องอาจเปิดไม่ได้และอาจคิดว่าไฟตก
แต่เราจะเริ่มเกิดความสงสัยมากขึ้นเมื่อมือถือของเราก็ไม่ทำงาน ไม่สามารถไปทำงานได้เพราะรถดับ
แต่เราก็จะไม่สามารถหาคำตอบได้อยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเครื่องมือสื่อสาร วิทยุ ทีวี นั้นไม่ทำงานแล้ว
และเมื่อไม่มีรถ รถไฟ และเรือทำงาน ทุกคนจะเหลือทางเลือกเดียวคือการเดินและจะติดอยู่ในบริเวณที่
พวกเขาอยู่ในเวลาที่เกิดไฟดับขึ้น
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร
ปัญหาที่แท้จริงคือการที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
คนเราปัจจุบันนี้เคยชินกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จะทำให้เกิดความรู้สึกวิตก หวาดกลัว
ต่อกันที่เรื่องน้ำ
น้ำจะหมดไปอย่างรวดเร็วจากแท้งค์น้ำต่างๆ
เนื่องจากไม่มีเครื่องปั้มน้ำที่คอยเติมและเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้คนจะไม่มีน้ำใช้ แต่ที่สำคัญคือน้ำกิน
ผู้คนจะเริ่มออกไปหาซื้อน้ำแต่จะพบว่า ร้านต่าง ๆ ก็ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากเครื่องคิดเงินไม่ทำงาน
ส่วนผลกระทบของผู้คนที่อยู่ในสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่นอากาศที่ร้อนจัด
พวกเขาจะต้องรู้สึกทรมาณกับความร้อนเพราะเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน
แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวจัดจะอันตรายมาก
เนื่องจากเครื่องฮิตเตอร์ไม่ทำงานและอาจทำให้ถึงตายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก คนชรา
และคนป่วย
ผู้คนที่ตกอยู่ในความหวาดกลัว ความเครียด ตกอยู่ในสภาวะกดดันนานๆ เข้าในไม่ช้า
พวกเขาจะทนไม่ไหวและก่อการจราจล อาจเริ่มขึ้นที่ร้านสะดวกซื้อด้วยความโกรธและความหิวจะรวมตัวกัน
จะเริ่มใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เกิดการแย่งชิงและการต่อสู้ขึ้นและนำไปสู่ความโกลาหล
และจะไม่มีตำรวจหรือหน่วยงานไหน ๆ สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้เลย
ความโกลาหลจะก่อตัวขึ้นทั่วทุกที่ คนอีกกลุ่มจะเกิดความกลัวและกลัวมากขึ้นเมื่อเห็นความโกลาหลจากผู้คนที่ต่อสู่กัน
บางคนอาจเริ่มหาอาวุธเพื่อปกป้องตนเองและเมื่อปะทะเข้ากับกลุ่มคนที่กำลังคลั่งอาจเกิดการยิงกัน
และทำให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก บางคนอาจตายเพราะแผลเล็กน้อยเพราะไม่มีการช่วยเหลือทางแพทย์เข้าถึง
และกว่าไฟฟ้าจะกลับมา
ความสูญเสียก็เกิดขึ้นในวงกว้างเสียแล้ว
บางคนอาจอยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัย บางคนอาจเสียชีวิต แต่บางคนก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
พลังงานไฟฟ้าหายไป 48 ชั่วโมง อาจไม่ทำให้มนุษยชาติต้องสูญพันธุ์แต่มันจะเกิดความสูญเสียขึ้นมากมายอย่างแน่นอน"
แม้ว่าบทความนี้จะเป็นเพียงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น แต่เราก็ควรหาทางรับมือกับวิกฤตเหล่านี้
ซึ่งทางหนึ่งออกหนึ่งอาจเป็นการสร้างแหล่งพลังงานใหม่ เพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรครับ ?
หากไฟฟ้าดับ 48 ชั่วโมงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
ผมว่านี่เป็นคำถามที่มีความน่าสนใจมากทีเดียว จึงได้ลองค้นหาข้อมูลจนไปพบกับบทความหนึ่ง
ซึ่งเขียนออกมาได้ดีและอธิบายได้อย่างเห็นภาพมากเลยทีเดียว
จึงนำแปลเพื่อให้ทุกคนลองอ่านกันครับ
ต้นฉบับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
"หากไฟฟ้าดับ 48 ชั่วโมงจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?
ไฟฟ้าในที่นี้ผมจะหมายความรวมถึงไฟฟ้าทุกชนิดที่เราใช้กันอยู่
นั่นรวมถึงแบตเตอรี่และเครื่องปั่นไฟทุกชนิด
แต่จะไม่รวมถึงระบบไฟฟ้าในระบบชีววิทยาที่หมายถึงการทำงานของเซลล์หรือกล้ามเนื้อ
เพราะหากจะเหมารวมระบบไฟฟ้าในส่วนนี้ด้วยแล้วนั้น สิ่งมีชีวิตบนโลกทั้งหมดคงเสียชีวิตลงทันที
และคงไม่ใช่ประเด็นที่น่าสนใจนักที่จะพูดถึง
ในส่วนแรก ผลกระทบที่จะเกิดขึ้นทันทีหลังจากที่พลังงานไฟฟ้าหายไป
ยานพาหนะทุกชนิดจะหยุดการทำงานทันที ในส่วนของรถที่ใช้แก๊สก็จะไม่สามารถทำงานได้
หากขาดไฟฟ้าในการสตาร์ทเครื่อง เครื่องยนต์ดีเซลบางชนิดอาจทำงานได้อยู่
แต่ในปัจจุบันเครื่องยนต์ส่วนมากต้องทำงานร่วมกับระบบอิเล็กทรอนิกส์ซึ่งนั่นหมายความว่า
เครื่องยนต์เหล่านี้จะดับลงเช่นกัน แต่นั่นก็ยังไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรนัก
อาจจะเกิดอุบัติเหตุทางถนนขึ้นบ้าง แต่ผลกระทบสำคัญที่จะเกิดขึ้นนั้นคือเครื่องบินจะตกทั่วโลก
เครื่องยนต์บางชนิดอาจทำงานได้ แต่ระบบควบคุม ระบบการนำทาง
และระบบการสื่อสารจะไม่สามารถใช้งานได้ทั้งสิ้น และนั่นหมายถึง
เครื่องบินเหล่านี้จะตกลงด้วยความรวดเร็ว และจะกลายเป็นหายนะครั้งใหญ่
โดยเฉพาะที่สนามบินและตามหัวเมืองที่มีการเดินทางหนาแน่น
แต่สถานที่ ที่สำคัญไปกว่านั้นคือโรงพยาบาลจะมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก
ทุกคนที่อยู่ในช่วงการผ่าตัดจะตกอยู่ในความมืด เครื่องมือทางการแพทย์ทั้งหมดจะใช้งานไม่ได้
และนั่นหมายถึงการเสียชีวิตของคนไข้จำนวนมาก เครื่องกระตุ้นหัวใจที่ฝังอยู่ในผู้ป่วยโรคหัวใจจะหยุดทำงาน
และทำให้เกิดสภาวะหัวใจล้มเหลว ยังไม่นับรวมถึงผู้ป่วยที่ต้องอาศัยเครื่องช่วยชีวิต
แพทย์ทั้งโรงพยาบาลจะวิ่งวุ่นไปทั่วเพื่อช่วยเหลือคนไข้ แต่ก็จะไม่สามารถทำอะไรเนื่องจากไม่มีเครื่องมือในการช่วยเหลือ
นอกจากนี้ผู้ที่ต้องการการช่วยเหลือทางการแพทย์จะไม่ได้รับการช่วยเหลือได้เลย
เนื่องจากโทรศัพท์จะใช้งานไม่ได้ ทำให้ไม่สามารถขอความช่วยเหลือได้ และรถพยาบาลก็ไม่สามารถทำงานได้เช่นกัน
และส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากภายในเวลา 24 ชั่วโมง
แต่สำหรับคนปกติอย่างเราๆ ที่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ไม่ได้กำลังนั่งเครื่องบิน และไม่ได้ขับรถ
สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเราตื่นมา เราจะพบว่าแอร์ในห้องของเราดับลงไฟในห้องอาจเปิดไม่ได้และอาจคิดว่าไฟตก
แต่เราจะเริ่มเกิดความสงสัยมากขึ้นเมื่อมือถือของเราก็ไม่ทำงาน ไม่สามารถไปทำงานได้เพราะรถดับ
แต่เราก็จะไม่สามารถหาคำตอบได้อยู่ดีว่ามันเกิดอะไรขึ้น เนื่องจากเครื่องมือสื่อสาร วิทยุ ทีวี นั้นไม่ทำงานแล้ว
และเมื่อไม่มีรถ รถไฟ และเรือทำงาน ทุกคนจะเหลือทางเลือกเดียวคือการเดินและจะติดอยู่ในบริเวณที่ พวกเขาอยู่ในเวลาที่เกิดไฟดับขึ้น
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไร ปัญหาที่แท้จริงคือการที่พวกเขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
คนเราปัจจุบันนี้เคยชินกับการรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รวดเร็ว แต่เมื่อไม่ได้รับการตอบสนอง จะทำให้เกิดความรู้สึกวิตก หวาดกลัว
ต่อกันที่เรื่องน้ำ น้ำจะหมดไปอย่างรวดเร็วจากแท้งค์น้ำต่างๆ
เนื่องจากไม่มีเครื่องปั้มน้ำที่คอยเติมและเมื่อเวลาผ่านไปไม่นาน ผู้คนจะไม่มีน้ำใช้ แต่ที่สำคัญคือน้ำกิน
ผู้คนจะเริ่มออกไปหาซื้อน้ำแต่จะพบว่า ร้านต่าง ๆ ก็ไม่สามารถให้บริการได้เนื่องจากเครื่องคิดเงินไม่ทำงาน
ส่วนผลกระทบของผู้คนที่อยู่ในสภาพอากาศที่เลวร้าย เช่นอากาศที่ร้อนจัด
พวกเขาจะต้องรู้สึกทรมาณกับความร้อนเพราะเครื่องปรับอากาศไม่ทำงาน
แต่สำหรับผู้ที่อยู่ในบริเวณที่มีอากาศหนาวจัดจะอันตรายมาก
เนื่องจากเครื่องฮิตเตอร์ไม่ทำงานและอาจทำให้ถึงตายได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเด็ก คนชรา
และคนป่วย ผู้คนที่ตกอยู่ในความหวาดกลัว ความเครียด ตกอยู่ในสภาวะกดดันนานๆ เข้าในไม่ช้า
พวกเขาจะทนไม่ไหวและก่อการจราจล อาจเริ่มขึ้นที่ร้านสะดวกซื้อด้วยความโกรธและความหิวจะรวมตัวกัน
จะเริ่มใช้ความรุนแรงเพื่อให้ได้ในสิ่งที่ต้องการ เกิดการแย่งชิงและการต่อสู้ขึ้นและนำไปสู่ความโกลาหล
และจะไม่มีตำรวจหรือหน่วยงานไหน ๆ สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้เลย
ความโกลาหลจะก่อตัวขึ้นทั่วทุกที่ คนอีกกลุ่มจะเกิดความกลัวและกลัวมากขึ้นเมื่อเห็นความโกลาหลจากผู้คนที่ต่อสู่กัน
บางคนอาจเริ่มหาอาวุธเพื่อปกป้องตนเองและเมื่อปะทะเข้ากับกลุ่มคนที่กำลังคลั่งอาจเกิดการยิงกัน
และทำให้มีผู้คนล้มตายจำนวนมาก บางคนอาจตายเพราะแผลเล็กน้อยเพราะไม่มีการช่วยเหลือทางแพทย์เข้าถึง และกว่าไฟฟ้าจะกลับมา
ความสูญเสียก็เกิดขึ้นในวงกว้างเสียแล้ว
บางคนอาจอยู่ที่บ้านอย่างปลอดภัย บางคนอาจเสียชีวิต แต่บางคนก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
พลังงานไฟฟ้าหายไป 48 ชั่วโมง อาจไม่ทำให้มนุษยชาติต้องสูญพันธุ์แต่มันจะเกิดความสูญเสียขึ้นมากมายอย่างแน่นอน"
แม้ว่าบทความนี้จะเป็นเพียงแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น แต่เราก็ควรหาทางรับมือกับวิกฤตเหล่านี้
ซึ่งทางหนึ่งออกหนึ่งอาจเป็นการสร้างแหล่งพลังงานใหม่ เพื่อนๆ คิดว่าอย่างไรครับ ?