เห็นว่าสามก๊ก 2010 ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้ายของจิวยี่ กงจิ๋น ตัวละครที่หลายท่านชื่นชอบและบ้างก็ไม่ชอบ ทุกวันนี้ก็ยังเถียงกันอยู่ว่า ตกลงจิวยี่อิจฉาขงเบ้ง และเป็นคนใจคับแคบจริงหรือไม่ ดังนั้นวันนี้ก็เลยอยากนำเสนอสองแผนการศึกสุดท้ายของจิวยี่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริงสักหน่อย

ไม่ได้กล่าวเกินไปถ้าจะบอกว่า จิวยี่เป็นยอดแม่ทัพเรือแห่งง่อก๊ก และเป็นหนึ่งในขุนพลผู้เก่งกล้าปราดเปรื่องที่สุดในยุคสามก๊ก เชี่ยวชาญแผนการศึกมาก
แต่ก็มีหลายแผนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง มีอยู่สองแผนที่เขาเสนอให้ซุนกวนในช่วงท้ายของชีวิต แต่ยังไม่ทันดำเนินการ เขาก็ป่วยตายเสียก่อน ส่วนอีกแผนนั้นซุนกวนไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะรู้ว่าสึกว่าทำได้ยากเกินไป
ตรงนี้ทั้งในวรรณกรรมสามก๊กและในประวัติศาสตร์ ซานกั๋วจื้อ บันทึกไว้คล้ายกัน คือ จิวยี่มีความคิดที่จะดึงเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ออกจากกัน ใช้สถานะการดองเป็นเขยกับเล่าปี่เพื่อจำกัดอำนาจอีกฝ่าย แล้วผนวกเอากวนอูและเตียวหุยมาใช้งานภายใต้บัญชาของซุนกวนแทน เป็นแผนการหาทางออกในแบบที่จะทำให้ง่อก๊กขึ้นมามีอานุภาพในการสู้กับวุยก๊กของโจโฉได้ แถมยังได้ตัวเล่าปี่มาเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูฮั่นด้วย
แม้ว่าแผนการนี้ ซุนกวนจะไม่เห็นด้วย แต่จิวยี่ก็ยังเสนอแผนการอีกในภายหลัง และเป็นแผนการสุดท้าย เกี่ยวกับการยกทัพปราบเล่าเจี้ยงแห่งเสฉวน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ง่อก๊กสามารถขยายอำนาจสู้กับวุยก๊กได้ แต่สุดท้ายแล้วแผนการทั้งหมดก็ยังไม่ทันเริ่มดำเนินการ จิวยี่ก็ปว่ยตายไปเสียก่อน
ในจดหมายเหตุสามก๊กบทประวัติจิวยี่ เล่าถึงแผนการทั้งสองนี้ไว้ว่า
-----------------------------------------------------
ปีเจี้ยนอันที่ 14 (ค.ศ.209)
เวลานั้นเล่าปี่อาศัยตำแหน่งแม่ทัพซ้ายที่เคยได้จากราชสำนักฮั่น เข้าควบคุมเหล่าขุนนางและเจ้าพนักงานในเมืองกงอั๋น ทำให้ได้กำลังมาเพิ่มมามาก แล้วเล่าปี่ก็เดินทางมาเยือนซุนกวนเพื่อปรึกษาเรื่องพันธมิตรสู้ศึกโจโฉ
จิวยี่เห็นเป็นโอกาสที่จะเข้าควบคุมเล่าปี่ จึงเสนอแผนให้ซุนกวนหาทางแยก เล่าปี่ ออกจาก กวนอู และ เตียวหุย เพื่อที่จะได้ใช้งานพวกเขาในการทำศึกกับโจโฉเพื่อปราบปรามภาคเหนือต่อไป โดยกล่าวว่า
"ควรให้กักตัวเล่าปี่ไว้ที่เมืองง่อ แล้วประทานตำแหน่งขุนนาง มีทรัพย์สมบัติพรั่งพร้อม"
จิวยี่มีความเห็นว่า ที่ผ่านมาเล่าปี่ต้องประสบความเหนื่อยยากมาทั้งชีวิต ดังนั้นหากซุนกวนเลี้ยงดูปูเสื่อเล่าปี่อย่างดี ก็น่าจะคุมตัวเล่าปี่ได้ไม่ยาก
สำหรับกวนอูและเตียวหุยนั้น หากสามารถใช้งานทั้งสองเป็นแนวหน้าออกศึกได้ การศึกระยะยาวย่อมได้ชัยชนะแน่
แต่ซุนกวนกลับไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ เพราะคิดว่าการควบคุมเล่าปี่นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งนัก การใช้งานกวนอูและเตียวหุยก็ออกจะเป็นไปไม่ได้เกินไป อาจเพราะซุนกวนพิจารณาแล้วว่า ครั้งหนึ่งคนที่มีอำนาจและปราดเปรื่องอย่างโจโฉก็ยังไม่สามารถควบคุมเล่าปี่ได้เลย กวนอูเคยทำงานให้โจโฉ แต่เมื่อทราบว่าเล่าปี่มีชีวิตอยู่ ก็แยกตัวออกไปทันที ดังนั้นซุนกวนจึงไม่รับข้อเสนอของจิวยี่ในครั้งนี้
สำหรับแผนบุกเล่าเจี้ยงนั้น เล่าว่า
ในปีเจี้ยนอันที่ 16 (ค.ศ.211) จิวยี่ทราบข่าวว่า เล่าเจี้ยงเจ้าเมืองเอ๊กจิ๋ว (เสฉวน) กำลังจะเปิดศึกกับ เตียวฬ่อ เจ้าเมืองฮั่นจง จิวยี่จึงเข้าพบซุนกวนเพื่อเสนอแผนพิชิตภาคเหนือครั้งใหญ่
จิวยี่เสนอว่า ขั้นแรก เขาจะนำทัพร่วมกับแม่ทัพซุนอู่ (ซุนยู่) แล้วร่วมกันนำกองทัพใหญ่บุกพิชิตดินแดนจ๊กก๊ก (สู่) หรือเสฉวนทางตะวันตก
(ซุนอู่เป็นญาติสนิทของซุนกวน มีตำแหน่งทางทหารสูง เคยนำทัพร่วมกับจิวยี่ตีเมืองกังแฮมาแล้ว จิวยี่จึงเชื่อถือมาก)
ถ้าการบุกโจมตีประสบผล ขั้นต่อมา เขาจะให้ซุนอู่ปักหลักที่เสฉวน แล้วบุกโจมตีเตียวฬ่อต่อ จากนั้นจะร่วมเป็นพันธมิตรกับม้าเฉียวแห่งเสเหลียง ร่วมกันเคลื่อนทัพบุกโจมตีโจโฉพร้อมกันจากทางภาคเหนือและตะวันตก
ส่วนขั้นสุดท้าย จิวยี่จะย้อนกลับมาตั้งหลักที่เกงจิ๋ว แล้วบัญชาทัพใหญ่ร่วมกับซุนกวนเพื่อบุกโจมตีเมืองซงหยง เมื่อนั้นก็จะสามารถครองเกงจิ๋วไว้ได้ทั้งหมด แล้วใช้ซงหยงเป็นฐานที่มั่น บุกโจมตีโจโฉทางภาคเหนือต่อไป
ซุนกวนเห็นด้วยกับแผนการใหญ่นี้ จึงอนุมัติให้ดำเนินการได้ จิวยี่จึงเดินทางกลับไปกังเหลงเพื่อเตรียมกำลังพล แต่เมื่อถึงปาคิว อาการบาดเจ็บเรื้อรังก็กำเริบอย่างรุนแรง จิวยี่ล้มป่วยแล้วเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น
เฉินโซ่วบันทึกทิ้งท้ายถึงบุคลิกภาพของจิวยี่ว่า จิวยี่เป็นบุคคลที่เปี่ยมล้นด้วยสติปัญญา ความสามารถ มีจิตใจกว้างขวาง มีความสามารถในการพูดเจรจาเป็นเยี่ยม อีกทั้งเชี่ยวชาญในด้านดนตรีอย่างสูง เป็นที่รักและนับถือของผู้คนมากมาย มีคำเปรียบเปรยถึงความสามารถทางดนตรีของจิวยี่ว่า สามารถฟังเสียงดนตรีแล้วจับจุดที่ผิดพลาดได้ทันที
----------------------------------------------------------
น่าเสียดายว่าจิวยี่ด่วนจากไปก่อน ไม่เช่นนั้นง่อก๊กอาจจะไม่ต้องเสียเวลาตั้งหลักนานเกินไป นโยบายของง่อก๊กที่จิวยี่เสนอนั้นเป็นเชิงรุกทั้งสิ้น แต่หลังจากเขาสิ้นไปแล้ว โลซกที่รับช่วงต่อมาเลือกจะยึดนโยบายผูกมิตรกับเล่าปี่เป็นหลัก อาจเพราะโลซกเล็งเห็นว่าลำพังง่อก๊กฝั่งเดียว ยากจะสู้กับวุยก๊กได้นั่นเอง
ทีนี้มาลองดูกันนิดหน่อยว่า แผนการของจิวยี่ทั้งสองนี้ มีโอกาสทำสำเร็จได้จริงไหม
แผนแรก ก็คงยากอย่างที่ซุนกวนระแวงจริงๆ อาจเพราะซุนกวนเคยเห็นตัวอย่างจากโจโฉมาแล้ว ซึ่งซุนกวนหนักกว่าอีกตรงที่เขาไม่เคยมีสายสัมพันธ์อะไรกับสามคนนี้มาก่อน แล้วก็ไม่น่าจะเลี้ยงดูเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ให้ได้ขนาดโจโฉด้วย
จุดหนึ่งที่ซุนกวนคิดว่า คงไม่ต้องพึ่งกวนอูและเตียวหุยขนาดนั้น อาจเพราะเขาก็เพิ่งรบชนะที่ผาแดงมา ความมั่นใจในขุนพลของตนเองยังมีอยู่มาก แต่จิวยี่เป็นแม่ทัพที่ทำศึก ก็น่าจะประเมินและมองออกว่า ศักยภาพขุนพลและทหารของง่อมีแค่ไหน ต้องยอมรับว่าถ้าเป็นศึกทางบก ศึกตีปราสาท หรือทัพม้า ง่อก๊กไม่อาจเทียบวุยก๊กได้เลย อีกทั้งจิวยี่ก็คงอยากลดศัตรูที่จะชวนปวดหัวและระแวงลงด้วย
ส่วนข้อสอง มีโอกาสทำสำเร็จ แต่ติดปัญหาคือ ฐานที่มั่นตรงเกงจิ๋วตอนนั้นเล่าปี่ยืมไปแล้ว การจะบุกเสฉวนต้องผ่านเกงจิ๋ว จำเป็นต้องขอความร่วมมือเล่าปี่ด้วยในการเดินทัพผ่าน ตรงนี้ไม่ง่าย แต่ยังพอจะ "คุยกันได้" เพราะเล่าปี่ก็อยู่ระหว่างสะสมกำลัง ยังไม่พร้อมบุกเสฉวนเอง แต่แน่นอนว่าแผนนี้ก็เกิดยาก เพราะเล่าปี่และขงเบ้งหมายตาเสฉวนมานาน ตามยุทธศาสตร์หลงจง ย่อมไม่อาจปล่อยให้จิวยี่บุกเสฉวนได้แน่นอน
สรุปแล้ว แผนศึกทั้งสองของจิวยี่ มีโอกาสที่จะทำให้สำเร็จได้จริงน้อยมาก แต่จิวยี่คงมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะถ้าสำเร็จ ง่อจะผงาดขึ้นมาใกล้เคียงกับวุยทันที
สองแผนศึกสุดท้ายของจิวยี่ที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง "แผนผนวกเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย" และ "บุกเสฉวน ยึดเกงจิ๋ว ยันโจโฉ"
ไม่ได้กล่าวเกินไปถ้าจะบอกว่า จิวยี่เป็นยอดแม่ทัพเรือแห่งง่อก๊ก และเป็นหนึ่งในขุนพลผู้เก่งกล้าปราดเปรื่องที่สุดในยุคสามก๊ก เชี่ยวชาญแผนการศึกมาก
แต่ก็มีหลายแผนที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง มีอยู่สองแผนที่เขาเสนอให้ซุนกวนในช่วงท้ายของชีวิต แต่ยังไม่ทันดำเนินการ เขาก็ป่วยตายเสียก่อน ส่วนอีกแผนนั้นซุนกวนไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะรู้ว่าสึกว่าทำได้ยากเกินไป
ตรงนี้ทั้งในวรรณกรรมสามก๊กและในประวัติศาสตร์ ซานกั๋วจื้อ บันทึกไว้คล้ายกัน คือ จิวยี่มีความคิดที่จะดึงเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ออกจากกัน ใช้สถานะการดองเป็นเขยกับเล่าปี่เพื่อจำกัดอำนาจอีกฝ่าย แล้วผนวกเอากวนอูและเตียวหุยมาใช้งานภายใต้บัญชาของซุนกวนแทน เป็นแผนการหาทางออกในแบบที่จะทำให้ง่อก๊กขึ้นมามีอานุภาพในการสู้กับวุยก๊กของโจโฉได้ แถมยังได้ตัวเล่าปี่มาเป็นสัญลักษณ์ของการฟื้นฟูฮั่นด้วย
แม้ว่าแผนการนี้ ซุนกวนจะไม่เห็นด้วย แต่จิวยี่ก็ยังเสนอแผนการอีกในภายหลัง และเป็นแผนการสุดท้าย เกี่ยวกับการยกทัพปราบเล่าเจี้ยงแห่งเสฉวน แสดงถึงความมุ่งมั่นที่จะทำให้ง่อก๊กสามารถขยายอำนาจสู้กับวุยก๊กได้ แต่สุดท้ายแล้วแผนการทั้งหมดก็ยังไม่ทันเริ่มดำเนินการ จิวยี่ก็ปว่ยตายไปเสียก่อน
ในจดหมายเหตุสามก๊กบทประวัติจิวยี่ เล่าถึงแผนการทั้งสองนี้ไว้ว่า
-----------------------------------------------------
ปีเจี้ยนอันที่ 14 (ค.ศ.209)
เวลานั้นเล่าปี่อาศัยตำแหน่งแม่ทัพซ้ายที่เคยได้จากราชสำนักฮั่น เข้าควบคุมเหล่าขุนนางและเจ้าพนักงานในเมืองกงอั๋น ทำให้ได้กำลังมาเพิ่มมามาก แล้วเล่าปี่ก็เดินทางมาเยือนซุนกวนเพื่อปรึกษาเรื่องพันธมิตรสู้ศึกโจโฉ
จิวยี่เห็นเป็นโอกาสที่จะเข้าควบคุมเล่าปี่ จึงเสนอแผนให้ซุนกวนหาทางแยก เล่าปี่ ออกจาก กวนอู และ เตียวหุย เพื่อที่จะได้ใช้งานพวกเขาในการทำศึกกับโจโฉเพื่อปราบปรามภาคเหนือต่อไป โดยกล่าวว่า
"ควรให้กักตัวเล่าปี่ไว้ที่เมืองง่อ แล้วประทานตำแหน่งขุนนาง มีทรัพย์สมบัติพรั่งพร้อม"
จิวยี่มีความเห็นว่า ที่ผ่านมาเล่าปี่ต้องประสบความเหนื่อยยากมาทั้งชีวิต ดังนั้นหากซุนกวนเลี้ยงดูปูเสื่อเล่าปี่อย่างดี ก็น่าจะคุมตัวเล่าปี่ได้ไม่ยาก
สำหรับกวนอูและเตียวหุยนั้น หากสามารถใช้งานทั้งสองเป็นแนวหน้าออกศึกได้ การศึกระยะยาวย่อมได้ชัยชนะแน่
แต่ซุนกวนกลับไม่เห็นด้วยกับแผนการนี้ เพราะคิดว่าการควบคุมเล่าปี่นั้นเป็นเรื่องยากยิ่งนัก การใช้งานกวนอูและเตียวหุยก็ออกจะเป็นไปไม่ได้เกินไป อาจเพราะซุนกวนพิจารณาแล้วว่า ครั้งหนึ่งคนที่มีอำนาจและปราดเปรื่องอย่างโจโฉก็ยังไม่สามารถควบคุมเล่าปี่ได้เลย กวนอูเคยทำงานให้โจโฉ แต่เมื่อทราบว่าเล่าปี่มีชีวิตอยู่ ก็แยกตัวออกไปทันที ดังนั้นซุนกวนจึงไม่รับข้อเสนอของจิวยี่ในครั้งนี้
สำหรับแผนบุกเล่าเจี้ยงนั้น เล่าว่า
ในปีเจี้ยนอันที่ 16 (ค.ศ.211) จิวยี่ทราบข่าวว่า เล่าเจี้ยงเจ้าเมืองเอ๊กจิ๋ว (เสฉวน) กำลังจะเปิดศึกกับ เตียวฬ่อ เจ้าเมืองฮั่นจง จิวยี่จึงเข้าพบซุนกวนเพื่อเสนอแผนพิชิตภาคเหนือครั้งใหญ่
จิวยี่เสนอว่า ขั้นแรก เขาจะนำทัพร่วมกับแม่ทัพซุนอู่ (ซุนยู่) แล้วร่วมกันนำกองทัพใหญ่บุกพิชิตดินแดนจ๊กก๊ก (สู่) หรือเสฉวนทางตะวันตก
(ซุนอู่เป็นญาติสนิทของซุนกวน มีตำแหน่งทางทหารสูง เคยนำทัพร่วมกับจิวยี่ตีเมืองกังแฮมาแล้ว จิวยี่จึงเชื่อถือมาก)
ถ้าการบุกโจมตีประสบผล ขั้นต่อมา เขาจะให้ซุนอู่ปักหลักที่เสฉวน แล้วบุกโจมตีเตียวฬ่อต่อ จากนั้นจะร่วมเป็นพันธมิตรกับม้าเฉียวแห่งเสเหลียง ร่วมกันเคลื่อนทัพบุกโจมตีโจโฉพร้อมกันจากทางภาคเหนือและตะวันตก
ส่วนขั้นสุดท้าย จิวยี่จะย้อนกลับมาตั้งหลักที่เกงจิ๋ว แล้วบัญชาทัพใหญ่ร่วมกับซุนกวนเพื่อบุกโจมตีเมืองซงหยง เมื่อนั้นก็จะสามารถครองเกงจิ๋วไว้ได้ทั้งหมด แล้วใช้ซงหยงเป็นฐานที่มั่น บุกโจมตีโจโฉทางภาคเหนือต่อไป
ซุนกวนเห็นด้วยกับแผนการใหญ่นี้ จึงอนุมัติให้ดำเนินการได้ จิวยี่จึงเดินทางกลับไปกังเหลงเพื่อเตรียมกำลังพล แต่เมื่อถึงปาคิว อาการบาดเจ็บเรื้อรังก็กำเริบอย่างรุนแรง จิวยี่ล้มป่วยแล้วเสียชีวิตด้วยอายุเพียง 36 ปีเท่านั้น
เฉินโซ่วบันทึกทิ้งท้ายถึงบุคลิกภาพของจิวยี่ว่า จิวยี่เป็นบุคคลที่เปี่ยมล้นด้วยสติปัญญา ความสามารถ มีจิตใจกว้างขวาง มีความสามารถในการพูดเจรจาเป็นเยี่ยม อีกทั้งเชี่ยวชาญในด้านดนตรีอย่างสูง เป็นที่รักและนับถือของผู้คนมากมาย มีคำเปรียบเปรยถึงความสามารถทางดนตรีของจิวยี่ว่า สามารถฟังเสียงดนตรีแล้วจับจุดที่ผิดพลาดได้ทันที
----------------------------------------------------------
น่าเสียดายว่าจิวยี่ด่วนจากไปก่อน ไม่เช่นนั้นง่อก๊กอาจจะไม่ต้องเสียเวลาตั้งหลักนานเกินไป นโยบายของง่อก๊กที่จิวยี่เสนอนั้นเป็นเชิงรุกทั้งสิ้น แต่หลังจากเขาสิ้นไปแล้ว โลซกที่รับช่วงต่อมาเลือกจะยึดนโยบายผูกมิตรกับเล่าปี่เป็นหลัก อาจเพราะโลซกเล็งเห็นว่าลำพังง่อก๊กฝั่งเดียว ยากจะสู้กับวุยก๊กได้นั่นเอง
ทีนี้มาลองดูกันนิดหน่อยว่า แผนการของจิวยี่ทั้งสองนี้ มีโอกาสทำสำเร็จได้จริงไหม
แผนแรก ก็คงยากอย่างที่ซุนกวนระแวงจริงๆ อาจเพราะซุนกวนเคยเห็นตัวอย่างจากโจโฉมาแล้ว ซึ่งซุนกวนหนักกว่าอีกตรงที่เขาไม่เคยมีสายสัมพันธ์อะไรกับสามคนนี้มาก่อน แล้วก็ไม่น่าจะเลี้ยงดูเล่าปี่ กวนอู เตียวหุย ให้ได้ขนาดโจโฉด้วย
จุดหนึ่งที่ซุนกวนคิดว่า คงไม่ต้องพึ่งกวนอูและเตียวหุยขนาดนั้น อาจเพราะเขาก็เพิ่งรบชนะที่ผาแดงมา ความมั่นใจในขุนพลของตนเองยังมีอยู่มาก แต่จิวยี่เป็นแม่ทัพที่ทำศึก ก็น่าจะประเมินและมองออกว่า ศักยภาพขุนพลและทหารของง่อมีแค่ไหน ต้องยอมรับว่าถ้าเป็นศึกทางบก ศึกตีปราสาท หรือทัพม้า ง่อก๊กไม่อาจเทียบวุยก๊กได้เลย อีกทั้งจิวยี่ก็คงอยากลดศัตรูที่จะชวนปวดหัวและระแวงลงด้วย
ส่วนข้อสอง มีโอกาสทำสำเร็จ แต่ติดปัญหาคือ ฐานที่มั่นตรงเกงจิ๋วตอนนั้นเล่าปี่ยืมไปแล้ว การจะบุกเสฉวนต้องผ่านเกงจิ๋ว จำเป็นต้องขอความร่วมมือเล่าปี่ด้วยในการเดินทัพผ่าน ตรงนี้ไม่ง่าย แต่ยังพอจะ "คุยกันได้" เพราะเล่าปี่ก็อยู่ระหว่างสะสมกำลัง ยังไม่พร้อมบุกเสฉวนเอง แต่แน่นอนว่าแผนนี้ก็เกิดยาก เพราะเล่าปี่และขงเบ้งหมายตาเสฉวนมานาน ตามยุทธศาสตร์หลงจง ย่อมไม่อาจปล่อยให้จิวยี่บุกเสฉวนได้แน่นอน
สรุปแล้ว แผนศึกทั้งสองของจิวยี่ มีโอกาสที่จะทำให้สำเร็จได้จริงน้อยมาก แต่จิวยี่คงมองว่าคุ้มที่จะเสี่ยง เพราะถ้าสำเร็จ ง่อจะผงาดขึ้นมาใกล้เคียงกับวุยทันที