สวัสดีครับ ขอแชร์ประสบการณ์เที่ยวประเทศอียิปต์ของผมกับเพื่อนๆนะครับ (กระทู้แรกในพันทิปครับ) เหตุผลที่ผมอยากมาแชร์เพราะตอนผมหาข้อมูลเที่ยวอียิปต์ ผมรู้สึกว่าข้อมูลมีค่อนข้างน้อยไปนิดและก็ผ่านมา 2-3 ปีแล้ว
รีวิวนี้ถือว่าเป็นการอัพเดทข้อมูลเที่ยวอียิปต์ในส่วนของกีซ่าและไคโร (ถ้าอ่านยากหรือพิมพ์ผิดไปต้องขอโทษไว้ด้วยนะครับ)
ทริปของผมกับเพื่อน 4 คน (เพื่อนกันสมัย ม.ต้น) เริ่มมจากการหาตั๋วราคาประหยัดที่สุดที่ตรงกับวันหยุดให้มากที่สุด โดยได้ตั๋วของ
Qatar Airway มาคนละ 13,050 บาท สำหรับพวกผมถือว่าถูกมากแล้ว ไปกันช่วงวันหยุดยาว 5-10 พค ลางานแค่ 2 วันเท่านั้น
5 พค. : กรุงเทพ – โดฮา – ไคโร เข้าที่พักดูแสงสีเสียงฟรี ที่ Pyramid View Inn
6 พค. : เที่ยวปิรามิดที่กีซ่าทั้งวัน (เพื่อนผมเป็นตากล้องเลยขอถ่ายรูปที่นี่ทั้งวัน)
7 พค. : เที่ยวเมือง ดาร์ชูร์ เมมฟิส ซัคคาร่า
8 พค. : เที่ยวในไคโร เข้าพิพิธภัณฑ์
9 พค. : ล่องแม่น้ำไนล์ช่วงสาย บ่ายๆไปช๊อปปิ้งตลาดข่านเอลคาลีลี และขึ้นเครื่องกลับ 19.20
10 พค. : กลับถึงประเทศไทย 13.30
ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปลักซอร์ อาบูซิมเบล ด้วยแต่ข่าวการวางระเบิด กับ ISIS ทำให้คนทางบ้านไม่อยากให้พวกเราไป
Qatar Airway ไปโดฮา เป็น Airbus A380-800 พวกเราโชคดีได้นั้งชั้นสอง (สำหรับการแบกเป้เที่ยวถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ของพวกเราครับ) เครื่องดีเลย์เกือบๆ 40 นาที น่าจะเป็นที่สภาพอากาศเช้าวันที่เราไป (5.พค)
เครื่องใกล้ถึงโดฮาก็แซวกันเล่นๆว่าจะโดนเทไหมนิจองตั๋วมาราคานี้ สรุปโดนเทจริงๆครับ
มีน้องคนไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ของการ์ต้ายืนรอรับพร้อมป้าย ตอนแรกนึกว่าน้องเค้ามารับไปเปลี่ยนเครื่องเพราะเครื่องดีเลย์
แต่ปล่าวครับ น้องบอกว่าพวกพี่เป็นผู้ที่ถูกเลือก 4 คน ก็นะงงๆ มองหน้ากันเอางัยดี
สรุปคือต้องบินไปบาร์เรนก่อนแล้วจากบาร์เรนไปไคโร ทำให้เราถึงไคโรช้าไปประมาณ 2.30 ชม (จากเดิมถึงประมาณ 16.45 เป็นถึง 19.20) ค่าเสียเวลาคือ คนหละ $150 (ห้าพันบาทกับการช้าไป 2.30 ชม) พวกเราเลยตกลงกับดีลนี้ ค่าตั๋วเลยเหลือแค่คนละ 7,750 บาท (น้องคนไทยของการ์ต้า ชื่อน้องอายครับ น้องเค้าช่วยโทรแจ้ง รร. ให้เราด้วยว่าเราจะไปถึงช้าประมาณ ทุ่มครึ่ง)
ถึงไคโรก็ประมาณทุ่มครึ่งกว่าจะออกจาก ตม.อียิปต์กับการสแกนกระเป๋าก็เกือบสองทุ่มครึ่งแล้ว กระเป๋าที่เรากังวลก็ตามมา (สบายใจไปหนึ่ง) สิ่งที่กังวลตามมา คือ รร. จะมารับพวกเราไหม เดินออกมามองหาป้ายสักพักก็เจอครับคือแบบดีใจมาก
รถที่มารับผู้ชายตัวใหญ่ๆ 4 คน เป็นรถเก๋งเก่าๆ แต่ก็นะมารับฟรี จากสนามบินมาถึง รร. ก็เกือบๆชั่วโมงครับ ตั้งใจกันว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตีห้า
เช้าวันที่ 6 พค. พวกเราก็ตื่นตีห้าครับว่าจะดูพระอาทิตย์ขึ้นเหนือปิรามิด แต่ว่าเวลาตีห้าของอียิปต์แสงแดดก็ประมาณเที่ยงของบ้านเราแล้ว วิวนี้จากห้องพัก มุมนี้ถ่ายจากหัวนอนครับ

วิวเช้าบนดาดฟ้ากับอาหารเช้า(ฟรี)ของ รร.

มีไข่เป็ดต้ม โยเกิร์ต ขนมปัง ชีส มีถั๋วเขียวทอดรสชาติออกเค็มๆ มีน้ำส้ม (น่าจะส้มเช้ง) ตื่นเต้นกับอาหารเช้าเซตนี้มากแต่ก็แค่วันแรกวันเดียวครับ วันต่อๆมาก็กินกันไม่หมด กินมาม่าที่เตรียมไปกัน

พวกเราซื้อซิมราคา 100 EGP (เรทคูณสองก็ 200บาท) โทรได้เล่นเน็ทได้ 3GB

ปิรามิดเปิดให้เข้าประมาณ 08.00 ค่าเข้าคนหละ 80 EGP
สฟิงซ์ระยะใกล้ๆ


แดดที่เห็นเป็นเวลาเกือบเก้าโมงเช้า แดดแรง ร้อน แต่พอมีลมบ้าง



เกือบๆเที่ยงก็ตัดสินใจจะขี่อูฐไปวิวมหาชน อูฐสี่ตัวเปิดราคามาจาก 600 EGP จนมาเหลือ 200 EGP (400 บาท) เป็นราคาที่รับได้ เพราะขี่ช้างที่อยุธยาราคาต่างชาติก็ประมาณนี้
วิวมหาชนครับ (ต้องมีอีกมุมบนเนินไปทางซ้าย แต่ไม่ได้ไปครับ)

พอจะกลับ ก็มีเปิดราคาใหม่ว่าจะพาขี่อูฐกลับไปถึงปิรามิดคูฟู พาไปถ่ายรูปสวยๆอีกและปิดท้ายด้วยร้านน้ำหอม ขอแค่ 250 EGP (ตอนนั้นไว้ใจแล้ว) ผมเลยบอกจะให้เพิ่มเป็น 300 EGP ถ้าได้รูปสวยๆ ระหว่างทางที่ขี่อูฐเค้าก็จะถามบ่อยๆ Happy? Are you happy? เราก็หลงดีใจว่าเค้าดูแลเอาใจใส่อย่างดีเพราะเราจะให้มากกว่าที่เค้าขอ

ขี่อูฐเที่ยวอีกเกือบชั่วโมงก็มาจบที่ร้านน้ำหอมการเสนอขายก็ไม่เร่งรีบให้ดมให้เทสอยู่หลายกลิ่น พอสั่งกลิ่นไหนก็เทกันให้เห็นๆ สรุปแล้วพวกผมซื้อกันไปประมาณ 10 ขวดครับ แปลงเป็นราคาไทยแล้วพวกเรารับได้ ซื้อน้ำหอมเสร็จ ดราม่าก็บังเกิด เจ้าของอูฐถามอีก Are you happy? เราก็บอกแฮปปี้มาก เค้าเลยบอกว่าถ้างั้นขอ คนละ 900 EGP (1800 บาท) ผมก็แบบ เฮ้ย!!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า บอกแค่ 250 EGP เอง เค้าก็ถามย้ำๆว่าคุณไม่แฮปปี้หรอ อืมมม แบบว่าไม่แฮปปี้เพราะราคานี่แหละ เลยบอกเพื่อนว่าให้จ่ายไปแค่ 400 EGP (800 บาท) พอ แล้วเดินหนีเลย
มื้อเย็นพวกผมเป็น Pizza Hut ครับ วิวจากร้าน Pizza Hut


พิซซ่าถาดใหญ่ ไก่สิบชิ้นกับน้ำคนละกระป๋อง ประมาณ 360 EGP


กลับมาจับจองดาดฟ้า รร. เพื่อรอพระอาทิตย์ตก และชมแสงสีเสียง


19.30 ตรง การแสดงแสงสีเสียงก็เริ่มขึ้นแต่พวกผมไม่ค่อยประทับใจ คือเหมือนคนมาเล่าประวัติศาสาตร์ให้ฟังสลับกับการเปิดไฟใส่ปิรามิดแล้วเปลี่ยนสีไปเรื่อยๆ (แสงสีเสียงอยุธยามรดกโลกดีกว่า ความเห็นส่วนตัวพวกผมน่ะ)


วันที่ 7.พค เรานัดคนขับรถไว้ (จากรีวิวคุณ Juone ในพันทิป) ติดต่อกันทางเมล์ ราคาวันหละ 900 EGP ถามว่าแพงไหมก็แพงน่ะ แต่ซื้อความสบายใจ คนขับชื่อ Ayman Saif กับรถที่เราใช้ 3 วันต่อจากนี้

เราจะไปปิรามิดแดงและปิรามิดโค้งที่เมืองดาร์ชูร์ ค่าเข้า 80 EGP ซึ่งเป็นเมืองที่ไกลสุดของวันนี้ ประมาณ 1ชม นิดๆ ปิรามิดแดง (จะเห็นทางขึ้นเพื่อจะได้ลงไปในตัวปิรามิด)

ทางลงครับ ลึกมากกกก

ภายในปิรามิดแดง

ปิรามิดโค้ง

รอบๆปิรามิดแดงและปิรามิดโค้งเป็นเขตทหารเลยจะได้ยินเสียงปืนอยู่เรื่อยๆ มุมนี้จากรีวิวคุณ Juone

ไปต่อกันที่เมืองเมมฟิส ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ค่าเข้า 60 EGP


กินข้าวเที่ยงที่เมืองซัคคาร่า



ปิรามิดขั้นบันได ค่าเข้า 80 EGP แต่กำลังซ้อมแซมอยู่



วิวหน้าร้านข้าวมื้อเย็น

ฝากท้องร้านนี้ครับ

วันที่ 8 พค. ไปพักที่ในไคโรครับ
เที่ยว Old Cairo ถ้าเข้า Coptic Museum 60 EGP ค่ากล้อง 50 EGP



Mohamed Ali Alabaster Mosque และ Citadel of Salah El Din ค่าเข้า 60 EGP


วิวเมืองบน Citadel of Salah El Din


แล้วไปพิพิธภัณฑ์กันต่อ ไม่มีรูปนะครับ หน้ากากตุตันคาเมนและห้องมัมมี่ห้ามถ่ายรูป (แต่เห็นมีคนถ่ายน่ะ ผมว่าดูหลอนไป)
เช็คอินที่ Cairo Inn (คืนละ 1600 บาท) ห้องพักครับ

ห้องน้ำครับ

วิวตรงระเบียง



มื้อเย็นจากคำแนะนำร้านน้ำผลไม้

จานนี้เป็นกุ้งครับ

แล้วก็เดินช๊อปปิ้ง (แต่ไม่ได้อะไรเลย) ไอติม 5 EGP อร่อยและถูกครับ


วันที่ 9 พค. เริ่มต้นด้วยการล่องแม่น้ำไนล์ 1ชม 500 EGP (1,000 บาท) เป็นวิวที่แปลกตาครับ ผ่านบ้านคนรวยเยอะ

และไปช๊อปปิ้งของฝากกันที่ตลาดข่านเอลคาลีลี เรียกว่าละลายเงินอียิปต์ดีกว่า

ขอจบท้ายรีวิวด้วยรูปนี้นะครับ

ประเทศอียิปต์ ก่อนจะมาพวกเราก็แอบหวั่นๆกันนะครับ ขนาดตอนทำวีซ่าเจ้าหน้าสถานทูตอียิปต์ยังถามเลยไปทำอะไรที่อียิปต์ แต่พอมาแล้ว สวยครับประทับใจ ควรลองสักครั้งในชีวิตครับ
[CR] แชร์ประสบการณ์เที่ยวอียิปต์เดือนพฤษภาคม 2017
รีวิวนี้ถือว่าเป็นการอัพเดทข้อมูลเที่ยวอียิปต์ในส่วนของกีซ่าและไคโร (ถ้าอ่านยากหรือพิมพ์ผิดไปต้องขอโทษไว้ด้วยนะครับ)
ทริปของผมกับเพื่อน 4 คน (เพื่อนกันสมัย ม.ต้น) เริ่มมจากการหาตั๋วราคาประหยัดที่สุดที่ตรงกับวันหยุดให้มากที่สุด โดยได้ตั๋วของ
Qatar Airway มาคนละ 13,050 บาท สำหรับพวกผมถือว่าถูกมากแล้ว ไปกันช่วงวันหยุดยาว 5-10 พค ลางานแค่ 2 วันเท่านั้น
5 พค. : กรุงเทพ – โดฮา – ไคโร เข้าที่พักดูแสงสีเสียงฟรี ที่ Pyramid View Inn
6 พค. : เที่ยวปิรามิดที่กีซ่าทั้งวัน (เพื่อนผมเป็นตากล้องเลยขอถ่ายรูปที่นี่ทั้งวัน)
7 พค. : เที่ยวเมือง ดาร์ชูร์ เมมฟิส ซัคคาร่า
8 พค. : เที่ยวในไคโร เข้าพิพิธภัณฑ์
9 พค. : ล่องแม่น้ำไนล์ช่วงสาย บ่ายๆไปช๊อปปิ้งตลาดข่านเอลคาลีลี และขึ้นเครื่องกลับ 19.20
10 พค. : กลับถึงประเทศไทย 13.30
ตอนแรกพวกเราตั้งใจจะไปลักซอร์ อาบูซิมเบล ด้วยแต่ข่าวการวางระเบิด กับ ISIS ทำให้คนทางบ้านไม่อยากให้พวกเราไป
Qatar Airway ไปโดฮา เป็น Airbus A380-800 พวกเราโชคดีได้นั้งชั้นสอง (สำหรับการแบกเป้เที่ยวถือเป็นประสบการณ์ที่แปลกใหม่ของพวกเราครับ) เครื่องดีเลย์เกือบๆ 40 นาที น่าจะเป็นที่สภาพอากาศเช้าวันที่เราไป (5.พค)
เครื่องใกล้ถึงโดฮาก็แซวกันเล่นๆว่าจะโดนเทไหมนิจองตั๋วมาราคานี้ สรุปโดนเทจริงๆครับ
มีน้องคนไทยที่เป็นเจ้าหน้าที่ของการ์ต้ายืนรอรับพร้อมป้าย ตอนแรกนึกว่าน้องเค้ามารับไปเปลี่ยนเครื่องเพราะเครื่องดีเลย์
แต่ปล่าวครับ น้องบอกว่าพวกพี่เป็นผู้ที่ถูกเลือก 4 คน ก็นะงงๆ มองหน้ากันเอางัยดี
สรุปคือต้องบินไปบาร์เรนก่อนแล้วจากบาร์เรนไปไคโร ทำให้เราถึงไคโรช้าไปประมาณ 2.30 ชม (จากเดิมถึงประมาณ 16.45 เป็นถึง 19.20) ค่าเสียเวลาคือ คนหละ $150 (ห้าพันบาทกับการช้าไป 2.30 ชม) พวกเราเลยตกลงกับดีลนี้ ค่าตั๋วเลยเหลือแค่คนละ 7,750 บาท (น้องคนไทยของการ์ต้า ชื่อน้องอายครับ น้องเค้าช่วยโทรแจ้ง รร. ให้เราด้วยว่าเราจะไปถึงช้าประมาณ ทุ่มครึ่ง)
ถึงไคโรก็ประมาณทุ่มครึ่งกว่าจะออกจาก ตม.อียิปต์กับการสแกนกระเป๋าก็เกือบสองทุ่มครึ่งแล้ว กระเป๋าที่เรากังวลก็ตามมา (สบายใจไปหนึ่ง) สิ่งที่กังวลตามมา คือ รร. จะมารับพวกเราไหม เดินออกมามองหาป้ายสักพักก็เจอครับคือแบบดีใจมาก
รถที่มารับผู้ชายตัวใหญ่ๆ 4 คน เป็นรถเก๋งเก่าๆ แต่ก็นะมารับฟรี จากสนามบินมาถึง รร. ก็เกือบๆชั่วโมงครับ ตั้งใจกันว่าจะตื่นมาดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ตีห้า
เช้าวันที่ 6 พค. พวกเราก็ตื่นตีห้าครับว่าจะดูพระอาทิตย์ขึ้นเหนือปิรามิด แต่ว่าเวลาตีห้าของอียิปต์แสงแดดก็ประมาณเที่ยงของบ้านเราแล้ว วิวนี้จากห้องพัก มุมนี้ถ่ายจากหัวนอนครับ
วิวเช้าบนดาดฟ้ากับอาหารเช้า(ฟรี)ของ รร.
พวกเราซื้อซิมราคา 100 EGP (เรทคูณสองก็ 200บาท) โทรได้เล่นเน็ทได้ 3GB
สฟิงซ์ระยะใกล้ๆ
เกือบๆเที่ยงก็ตัดสินใจจะขี่อูฐไปวิวมหาชน อูฐสี่ตัวเปิดราคามาจาก 600 EGP จนมาเหลือ 200 EGP (400 บาท) เป็นราคาที่รับได้ เพราะขี่ช้างที่อยุธยาราคาต่างชาติก็ประมาณนี้
วิวมหาชนครับ (ต้องมีอีกมุมบนเนินไปทางซ้าย แต่ไม่ได้ไปครับ)
ขี่อูฐเที่ยวอีกเกือบชั่วโมงก็มาจบที่ร้านน้ำหอมการเสนอขายก็ไม่เร่งรีบให้ดมให้เทสอยู่หลายกลิ่น พอสั่งกลิ่นไหนก็เทกันให้เห็นๆ สรุปแล้วพวกผมซื้อกันไปประมาณ 10 ขวดครับ แปลงเป็นราคาไทยแล้วพวกเรารับได้ ซื้อน้ำหอมเสร็จ ดราม่าก็บังเกิด เจ้าของอูฐถามอีก Are you happy? เราก็บอกแฮปปี้มาก เค้าเลยบอกว่าถ้างั้นขอ คนละ 900 EGP (1800 บาท) ผมก็แบบ เฮ้ย!!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า บอกแค่ 250 EGP เอง เค้าก็ถามย้ำๆว่าคุณไม่แฮปปี้หรอ อืมมม แบบว่าไม่แฮปปี้เพราะราคานี่แหละ เลยบอกเพื่อนว่าให้จ่ายไปแค่ 400 EGP (800 บาท) พอ แล้วเดินหนีเลย
มื้อเย็นพวกผมเป็น Pizza Hut ครับ วิวจากร้าน Pizza Hut
วันที่ 7.พค เรานัดคนขับรถไว้ (จากรีวิวคุณ Juone ในพันทิป) ติดต่อกันทางเมล์ ราคาวันหละ 900 EGP ถามว่าแพงไหมก็แพงน่ะ แต่ซื้อความสบายใจ คนขับชื่อ Ayman Saif กับรถที่เราใช้ 3 วันต่อจากนี้
ปิรามิดโค้ง
วันที่ 8 พค. ไปพักที่ในไคโรครับ
เที่ยว Old Cairo ถ้าเข้า Coptic Museum 60 EGP ค่ากล้อง 50 EGP
เช็คอินที่ Cairo Inn (คืนละ 1600 บาท) ห้องพักครับ
วิวตรงระเบียง
วันที่ 9 พค. เริ่มต้นด้วยการล่องแม่น้ำไนล์ 1ชม 500 EGP (1,000 บาท) เป็นวิวที่แปลกตาครับ ผ่านบ้านคนรวยเยอะ
ขอจบท้ายรีวิวด้วยรูปนี้นะครับ
ประเทศอียิปต์ ก่อนจะมาพวกเราก็แอบหวั่นๆกันนะครับ ขนาดตอนทำวีซ่าเจ้าหน้าสถานทูตอียิปต์ยังถามเลยไปทำอะไรที่อียิปต์ แต่พอมาแล้ว สวยครับประทับใจ ควรลองสักครั้งในชีวิตครับ