สวัสดี...เราเอง

เราเองนะ เรากับเธอเจอกันในนี้งัย เราเข้าgroup line จากในพันทิป(ตอนนั้นคนตั้งtag ห้องบลูด้วย) เราก็อยากเลยทิ้ง id ไว้ อยากรู้เค้าคุยไรกัน นับๆดูเราเป็นรุ่นพี่เธอนะ อยู่ในกรุ๊ปตั้งนาน กว่าเธอจะเข้ากรุ๊ปเหมือนกัน แต่เหตุผลเธอคงเหงาหาเพื่อนคุย ช่วงนั้นเธอคงเครียดคิดมาก เพราะเธอหย่ามาเกือบปีละมั้ง ตอนนั้น เธอกับเราเจอกันในนั้น ในกรุ๊ป พอเธอรู้ว่าเราบังเอิญบ้านอยู่ไม่ไกลจากเธอเท่าไหร่ เธอก็คุยกับเราทุกวัน ทุกๆวัน ถามนู่นนี่นั่น ภาพโปรไฟล์ในline ก็เป็นรูปลูกๆ ใช่เลยเธอไม่ได้ปิดบังสถานภาพของเธอ ชัดเจนตั้งแต่แรก เราพิมพ์คุยกัน สักพักใหญ่ กว่าจะโทรคุยกว่าจะได้เจอกันแวปๆ อีกพักก็เจอกันเป็นกิจจะ แต่ก็นะ เราซึ่งตลอดชีวิตปกป้องหัวใจตัวเองมาตลอด ก็มาพลาดเผลอนิดเดียว เธอเข้ามาแล้ว เธอผู้ซึ่งเคยผ่านการมีครอบครัวมาแล้ว เธอผู้ผิดหวังจากรักแรกรักเดียว รักที่มีตัวแทนความรักมาถึง 2 คนให้เธอได้ส่งต่อความรักของพวกเธอให้คอยดูแล รักมั่นคงตลอด17 ปี ส่วนเราผู้มาทีหลัง และอยู่ในระยะทำใจให้รับสภาพกับสถานภาพของเธอ ให้ได้ในทุกๆเรื่อง เราเคยถามเธอเรื่องการกลับไป เธอมั่นคงและหนักแน่นว่าไม่มีทาง เธอถอดเกียร์ถอยหลังออกแล้ว หมดความไว้วางใจ ไม่กลับไปแน่นอนให้เราวางใจ และดูกันไป โอเคเราดู เราเข้าใจว่าตัวเองรับได้ เข้าใจได้ ถึงสถานภาพของเธอ ข้อจำกัดเรื่องเวลาของเธอที่มีให้กับเรา เราจะคุยกันเยอะๆช่วงขับรถไป-กลับ ระหว่างไปทำงาน ส่วนช่วงกลางวัน หรือเวลางานแวปๆ ที่เธอจะโทรมา เราก็ขอบคุณเธอมากๆ ที่อุตสาห์โทรหาเรา แต่พอเธอกลับบ้านอยู่ในโลกของเธอ ก็ไม่โทรหาเรา หรืออย่างดีก็ 2-3 นาที เราเคยถามเธอว่าทำไม เธอก็บอกว่าถ้าเรามีธุระโทรมาเลยรับได้ตลอด เออออ คืออย่างเราน่ะไม่มีธุระอะไรเร่งด่วนไปรบกวนเธอหรอก เราจัดการทุกเรื่องของเราได้ แต่จะให้เราโทรไป เราโทรไปทีไรเธอก็คุยแปปๆ แล้วก็โอเคเนอะแล้ววาง คือไร ปกติเธอมักชวนคุย แต่ก็นะต้องเธอเป็นฝ่ายโทร เราก็ไม่ใช่คนชอบโทรศัพท์เท่าไหร่ เธอก็รู้ บางทีพอเราไม่โทรเธอก็ทดสอบเรา ไม่โทรหาเราในเวลาปกติที่เธอโทร เธอเงียบหาย เราก็ห่วง พอเราโทรไปแล้วถามเป็นอะไรรึเปล่า เธอบอก เธออยากรู้เราจะโทรมาบ้างมั้ย จ้ะ เราไม่ชอบเลย อยากให้เราโทรหาบอกเราสิ เพราะเวลาเราโทรทีไร เธอมักไม่ค่อยคุยคัดบทวางตลอด เราก็รอแต่เธอโทรมาสิ เราคงเยอะอย่างทีเธอว่ามั้ง เรื่องความรู้สึกเราละเอียด อาจด้วยสถานภาพของเธอที่ครอบครัวเราและรอบข้างเรา ไม่ได้สนับสนุนเท่าไหร่ เราก็ต้องดูใจตัวเองดีๆ ขนาดยังเป็นแค่แฟนกัน เธอทำอะไรเพื่อเราบ้าง มีปัญหากันเราก็ไม่เห็นเธอจะแก้อะไร เงียบ แล้วก็ปล่อยไป เธอเคยพูดถึงอนาคตของเรา เธออยากแต่งงานกับเรา อยากออกมาสร้างครอบครัวใหม่อีกครั้ง เราดีใจนะ ที่เธอคิดแบบนั้น แต่...ตอนนี้เรามานั่งนึกๆดู นี่เรารู้จักเธอดีแค่ไหนกัน เราไม่เคยพูดคุยเปิดอกกันจริงจังสักครั้ง ทุกครั้งที่เธอโทรมา ก็คุยเรื่องของเธอ งานของเธอ ทุกข์ของเธอ พอถึงเวลาเราจะพูดบ้าง คุยๆสักพัก เหมือนเธอไม่ได้สนใจ อ้าว ถึงที่ทำงาน ถึงบ้านพอดี โอเค ไม่ได้คุย วันหยุดเราเจอกันทุกสัปดาห์ เราเจอกัน4 คน ใช่แล้ว 4 คน มีเธอ มีเรา และเด็กๆลูกของเธอ เราก็ช่วยดูแลเด็กน้อย ป้อนข้าว เข้าห้องน้ำ ระวังเรื่องหลง หกล้ม นู่นนี่ ใครเห็นคงนึกว่าเป็นพ่อแม่ลูก เราเคยอยู่กัน2 คนนานๆครั้ง นี่เราเห็นแก่ตัวใช่มั้ย ที่อยากมีเวลาระหว่างเรากันบ้าง

เด็กน้อยลูกของเธอ เราไม่เคยรังเกียจ หมดเงินทองกับเด็กๆ ไม่ใช่น้อย ขนม ของกิน ของเล่น นิทาน ฯลฯ ไม่เคยดุว่า เธอเคยบอกว่าลูกเธอไม่ได้ขาด แต่พวกเค้าขาดนะ เรารู้สึกได้เค้าโหยหาแม่เค้า ยิ่งเด็กน้อยคนเล็ก 5 ขวบ ที่เธอมักจะให้เค้ามานอนค้างกับเราที่บ้าน  ตลอดแทบทุกสัปดาห์ อ่านนิทานก่อนนอนให้ฟังทุกคืน ล้างก้น เช็ดขี้หู ตัดเล็บ ทาครีม ทายาแก้คัน เพราะเค้าผิวแห้ง ชอบคันตรงข้อพับบ่อยๆ และมักมีน้ำมูก แน่นจมูกจนเราต้องซื้อ mar plus มาทิ้งไว้ที่บ้าน ช่วงหลังเค้ามักพูดถึงแม่บ่อยครั้งอาจเพราะสนิทกันมากแล้ว  เราก็เข้าใจนะ ที่เธอมักให้เค้ามาค้างกับเราเพราะอาจให้สนิทกับเรามากๆ

      เธอเป็นคุณพ่อที่ดีมากๆๆๆ เธอนึกถึงลูกเสมอ ซึ่งก็ถูกต้องแล้ว มันควรเป็นแบบนั้นแหละ แต่เราล่ะ เราอยู่ตรงไหน ตรงไหนที่เราจะรู้สึกอบอุ่นปลอดภัย และรู้สึกว่าเธอจะดูแลเราได้ เธอเคยบอกว่าชีวิตคู่ไม่ได้มีแต่ความรักอย่างเดียว ต้องเข้าใจและให้อภัย อึมมม มันก็จริงอะนะ ถ้าทำได้แบบที่พูด และช่วยประคับประคองกันทั้งคู่ ปรับให้พอดีทั้งคู่ไม่ใช่มีแต่ใครคนเดียวที่ต้องปรับ มันเหนื่อยและท้อ เราเคยบอกเธอว่าต้นไม้ควรหมั่นรดน้ำพรวนดิน หรือใส่ปุ๋ยบ้าง ต้นไม้จะได้งาม แต่เธอบอกว่าเธอเหมือนต้นตะบองเพ็ชร ยิ่งแล้งยิ่งงาม โอเคงั้นเธอคงงามไปคนเดียวเราก็แห้งเหี่ยวไปนะ เธอบอกเราว่าบางเรื่องไม่ต้องเข้าใจบ้างก็ได้เธอเคยผ่านมาแล้ว เวลาเราไม่เข้าใจแล้วถามนู่นนี่ อ้าว ก็ไหนเคยบอกว่าต้องเข้าใจและให้อภัย แล้วบางเรื่องไม่ต้องเข้าใจ คือยังงัยงง เธอพูดแบบนั้นทำให้บางทีเราก็คิดไปว่า ถ้าเธอเลือกจะไม่เข้าใจในชีวิตคู่ครั้งก่อนไปบ้าง มันจะดีกว่านั้นเหรอ มันจะไม่จบและไม่เกิดเหตุการณ์แบบนั้นเหรอ มันใช่เหรอ

เรามีอะไรไม่เข้าใจเธอเราก็ถาม เพราะไม่อยากคิดไปเองผิดถูกก็ไม่รู้ และเธอไม่เคยตอบอะไรเราสักอย่าง ไม่เคยเลย พอเธอไม่พอใจเรา เธอก็เลือกจะเงียบ หายไปเลยเป็นคืนๆ ปล่อยให้เราทุกข์อยู่คนเดียว เราเคยบอกแล้วว่าเราไม่โอเค แต่เธอก็ยังทำ เราไม่ใช่เด็ก เรามีวุฒิภาวะมากพอ ที่จะฟังเหตุผล เราไม่เคยพูดจาหยาบคายใส่เธอ หรือใส่ใคร ไม่เคยเกรี้ยวกราดเสียงดังเธอก็รู้ แล้วทำไมถึงเงียบ นึกว่าเราโกรธให้อารมณ์สงบเหรอ?? เอาดีๆ จริงๆแล้วใครกันแน่ที่โกรธ ? พอเธอกลับมาคุยเธอก็ไม่เคยเคลียร์นะ ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ที่เคยบอกว่าเงียบแล้วค่อยก็มาคุย คือคุยอะไร เธอนึกดีๆ เธอเคยแก้ปัญหามั้ย? เธอเลือกที่จะหนีปัญหา ปล่อยให้มันหายไปกับเวลาช่วงที่เธอเงียบ แต่มันไม่ได้ถูกแก้ไข บางเรื่องการเงียบไม่ได้แก้ปัญหาแต่มันคือการสะสมปัญหา..


เราไม่รู้ว่าเธอจะเข้ามาอ่านมั้ย 99% คงไม่ได้อ่าน แต่เราก็เคยส่งจม.ลษณ.นี้ให้เธออ่าน ว่าเราคิดยังงัย รู้สึกยังงัย ซึ่งก้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ดังนั้นเธอรู้แล้ว ว่าปัญหาของเราคืออะไร แต่เลือกที่จะเป็นแบบนี้ เลือกที่จะให้เรารับสภาพและทนให้ได้เอง เธอไม่เคยพยายามที่จะเข้ามาช่วยเราแก้ปัญหา หรืออยากแม้แต่จะรับรู้ปัญหาที่เราทุกข์ใจ ทุกวันนี้เราก็ยังรู้สึกแบบเดิม นี่เราถึงทางตันกันรึยัง ถ้าเธอเปิดโอกาสให้เราได้พูดคุยกันจริงๆบ้างคงจะดี แต่เราว่าถ้าเธออ่าน เธอคงมีข้อโต้แย้งเรา ที่ว่าเธอไม่สูบบุหรี่ ไม่กินเหล้า(กินบ้างแต่น้อยสุดๆ) ไม่เที่ยว ไม่เล่นการพนัน ขยันทำงาน ไม่เจ้าชู้ ยังไม่ดีพออีกเหรอ นั่นสิ.... ไลฟ์สไตล์เธอเป็นแบบนั้น มีเราหรือไม่มีเราเธอก็เป็นแบบนั้น พอมีเราเธอใส่ใจอะไรเราบ้าง ทุกครั้งที่เราต้องรอ ทุกครั้งที่มีแต่เราที่ต้องเข้าใจเธอ ต้องคอยระวังว่าที่เธอเงียบไปเพราะเราพูดอะไรขัดใจเธอรึเปล่า หรือเพราะไม่สะดวกไม่ว่างจริงๆ
ในทุกๆสังคมของเธอ ที่รู้จักเธอและแม่เด็ก เวลาที่มีคนเข้าใจผิดเธอปกป้องอะไรเราบ้าง ลองคิดดู เธอรู้มั้ยเมื่อก่อนเวลาเราอ่านFB ของเพื่อนแล้วเพื่อนโพสรูปคู่ หรือรูปลูก เรารู้สึกชื่นชมยินดีไปกับเพื่อน มีความสุขไปกับเพื่อนด้วย แต่ตอนนี้ มันมีอีกความรู้สึกเข้ามา คือ แล้วเราล่ะ จะมีความสุขแบบนั้นได้มั้ย ถ้าเราเป็นครอบครัวกันแล้ว

เราเคยคิดนะ ขนาดตอนนี้เป็นแค่แฟนกัน สิ่งที่เธอทำให้เราเพื่อเรา ยังแค่นี่ อย่าไปคิดหวังว่าหลังจากได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกันจริงๆ จะมีมากกว่านี้ ไม่มีทางเลย แต่สิ่งที่แน่นอนคือความรู้สึกของเราที่มีให้เธอ มันมากขึ้นแน่นอน และแน่นอนถ้าเธอก็ยังเป็นเธอไม่เปลี่ยน(อย่างที่เธอบอกเสมอเธอจะไม่ปรับอะไร) เราทุกข์เพิ่มแน่นอน ณ ตอนนี้เธอบอกโฟมล้างหน้ายี่ห้อนี้ดี เธอซื้อสิ ไอ้นั้นดีไอ้นี่ดี เธอซื้อสิ อึมม นะ ร้อยกว่าบาทเป็นเราเห็นว่าดีเราซื้อให้แฟนแล้ว เราก็ทำบ่อยๆนี่ เธอไม่สบายเราถามเราห่วง เราไปเป็นเพื่อนตอนไปหาหมอทั้งเวลาเธอไม่สบาย หรือเด็กๆไม่สบาย เราตามไปอยู่เป็นเพื่อนตลอด ถ้าไม่หาหมอเราซื้อยาให้เธอเลย ส่วนเธอล่ะ เราบอกเธอเรา ไม่สบาย เธอบอกเหรอๆกินยาๆ แล้วจบ ไม่มีถามต่อ วันต่อมาคุยปกติไม่ถามอาการ เราเคยป่วยลางานนอนบ้าน 3 วันเธอไม่มาเยี่ยมเลยทั้งๆ ที่บ้านไม่ไกลกันเลย(ขับรถ10 นาทีถึง) จนแม่เราบ่นๆ เราถึงต้องบอกให้เธอแวะมา (เรากังวลว่าแม่จะมองเธอไม่ดี) อึมๆ ก็ห่วงไม่เท่ากัน

เธอเคยบอกว่าเธอจะไม่ปรับเปลี่ยนอะไรเธอก็เป็นเธอแบบนี้ เป็นตัวของตัวเอง ดีเนอะ เราว่าการปรับแต่ไม่หนีความเป็นตัวเองก็น่าจะดี ถ้าจะทำให้คนรักมีความสุขบ้าง แล้วเราจะถ้าจะไม่ปรับจะเกิดอะไรขึ้น จากผญ.โสดๆคนนึง มีงานมีเงิน สบายตัวจะกินจะไปไหนก็ได้ จะต้องมาคอยอุ้มเด็ก ดูแลเด็ก นอนอ่านนิทาน บลาๆ แบบพลิกเลย นี่เราต้องปรับมั้ย? เราก็ปรับมั้ย เรารักเธอ เรารักเด็กๆ ไปห้างเดี๋ยวนี้เราก็ชอบไปดูเสื้อผ้าเด็ก เข้าร้านหนังสือเราก็ไปหานิทาน เข้าไปตามเพจคุณหมอเด็ก จิตวิทยาเด็ก การเลี้ยงลูก บลาๆ บางทีเรายังเคย inbox ไปถามคุณหมอเลย นี่เราก็ต้องปรับรึเปล่า?(เราก็ไม่ได้อะไร ทุกสิ่งที่ทำไม่เคยฝืน ทำได้ เพราะพื้นนิสัยก็เล่นกับเด็กๆได้) ชีวิตปกติเราก็เปลี่ยนไปเลยนะ ? เราก็ทำให้ทำได้ เธอมองเห็นบ้างรึเปล่า หรือว่าเห็นแต่เฉยๆ เราควรทำแบบนี้อยู่แล้ว หรืองัย ส่วนเธอละ ปรับหรือเปลี่ยนอะไรบางอย่างเพื่อเราบ้าง.

มาถึงตอนนี้เราก็รู้สึกขอบคุณเธอในทุกๆเรื่อง ที่เธอทำให้เรา ซ่อมนู้นนี่ ซื้อของให้บ้าง พาไปกินนู่นนี่กัน  ที่สำคัญเธอเป็นสุภาพบุรุษ และเข้าใจข้อจำกัดที่บ้านของเรา ณ วันนี้เธอก็ยังโทรหาเราตอนขับรถออกจากบ้าน แล้วก็ขับกลับบ้าน ถ้าจะผิดก็คงเป็นเราเองที่เห็นแก่ตัว เรานะรักเธอมากเลย เธอคือรักแรกของเรา(แม้เธอจะไม่รู้สึกรู้สมกับเรื่องนี้) แต่เรามองดูแล้วในอนาคต เราน่าจะทุกข์มากกว่าสุข เพราะใจเรามันไม่ปล่อยวาง สถานภาพของเธอและการกระทำของเธอมีผลกับเรามากจริงๆ สุดท้ายมันจะวนกลับมาทุกข์ เธอก็คงทำดีที่สุดเท่าที่เธอทำได้แล้วละมั้ง(หรือเธอไม่คิดจะปรับจะทำอะไรเพื่อเราบ้างก็ไม่รู้) ส่วนเด็กๆ ต่อให้เราทำดีแค่ไหนก็เท่านั้นเสมอตัว แม่คือ The Best แม้ว่าแม่จะไม่ค่อยมาหาเท่าไหร่ ในขณะที่ใจเธอ เด็กๆคือที่หนึ่ง ส่วนเด็กๆ ที่หนึ่งในใจคือ แม่ของเค้า  แล้วเราล่ะเรามีพื้นที่อยู่ตรงไหน? ในใจของเธอเคยมีเราอยู่บ้างรึเปล่า?



นี่เราเป็นผญ.เห็นแก่ตัวใช่มั้ย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่