สงคราม IFEC "ผู้ชนะ" และ "ตัวประกันผู้น่าสงสาร"
กว่า 6 เดือนแล้วที่สงครามระหว่างผู้ถือหุ้นของ IFEC หรือบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประทุขึ้น ส่งผลให้
1.ราคาหุ้นที่เคยขึ้นสูงถึง 18.80 บาท ตกลงสู่ราคา 3.10 บาท และปัจจุบันถูกแขวนเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขาย)
2.ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝ่ายต่างแฉพฤติกรรมสกปรกของกันและกันผ่านสื่อ พร้อมทั้งใช้กฎหมายดำเนินคดีฝ่ายตรงข้าม โดยลืมคิดไปว่าที่ผ่านมาก็หากินข้าวหม้อเดียวกัน
3.บริษัทผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E มากมาย มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือสิทธิ์ตั๋วเหล่านี้คือ บลจ. หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แปลง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน คือ IFEC เป็นหนี้ประชาชนที่ฝากเงินให้กองทุนรวมบริหาร และเบี้ยวไม่จ่ายจนถึงปัจจุบัน
4.ตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น (กว่า 5 แสนล้านบาท) ปั่นป่วนอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนแห่ถอนหน่วยลงทุนจากความเชื่อมั่นที่สูญสิ้นไป ... ร้อนถึง รมต.คลัง และ ผู้ว่าการธปท. ต้องลงมาบีบให้ ก.ล.ต.ผู้น่าสงสารต้องรีบหาวิธีดำเนินการ
จากที่ลำดับเรื่องราวมา คงสรุปได้ทันทีว่า สงครามนี้ "ไม่มีใครชนะ" ทุกคนแพ้หมด...
การสาวไส้ให้กากิน ...
การไม่โปร่งใสในการบริหารและซื้อสินทรัพย์...
การไม่รับผิดชอบหนี้ต่อสาธารณชน...
การลงทุนในตั๋ว B/E ที่หละหลวมของผู้จัดการกองทุน ที่มีผลประโยชน์กับราคาหุ้น และStory ของ IFEC
ความโลภของกลุ่มใหม่ที่กะฮุบบริษัท ... รู้ทั้งรู้ว่าคนเขาตีกัน ยังอุตส่าห์มาลงทุน
หลายคนถามความเห็นของผมเรื่องสงครามของ IFEC (เพราะมองว่าผมมีประสบการณ์มากมายในการทำศึกสงครามในตลาดทุน... ซึ่ง "ไม่จริง")
ผมไม่ชอบการรบแต่ไม่กลัวที่จะทำสงครามหากจำเป็น...
กรณี IFEC war ผมสงสาร บลจ. และประชาชนผู้ลงทุนในตั๋วB/E ของ IFEC ... เขาไม่เกี่ยว และต้องการเพียงเงินบริสุทธิ์คืน
การเอาประชาชน(เจ้าหนี้) เป็นตัวประกันในสงครามส่วนตัวของ 2 กลุ่มเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ...
หากคุณคืนหนี้เสร็จ คุณจะสู้รบตบตีกันก็คงไม่มีใครสนใจมาก
คำทำนายของผม
สิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้กับ IFEC หากภายใน 3 เดือน IFEC ไม่สามารถคืนหนี้ได้ เจ้าหนี้ (กว่า 7 พันล้านบาท) จะใช้สิทธิ์ในการฟ้องล้มละลายและขอให้มีการฟื้นฟูบริษัท
คดีความที่กินในที่ลับและคายในที่แจ้งจะทำร้ายทั้ง 2 ฝั่งและบานปลายจนมีคนติดคุกในที่สุดเพราะการกระทำเก่าๆ
กรรมการชุดใหม่จะถอดใจและทยอยลาออกเพราะไม่อยากเสียชื่อเสียง
ดาราเทวีตกไปอยู่ในมือของเจ้าหนี้หรือเจ้าของเดิม
IFEC เข้าสู่หมวด NR และไม่กลับมาซื้อขายอีกนาน
ในการศึกสงคราม... การเจรจาจะเกิดก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกว่าตนไม่ชนะ
การเจรจาวันนี้ยังไม่เกิด เพราะทั้งคู่ยึดถืออัตตาและความโลภของตนเป็นตัวตั้ง...
กรรมบังตาทั้ง 2 ฝ่าย... สร้างความเสียหายทุกหย่อมหญ้า...
คอลัมน์ : พอเพียงอย่างพอใจ / หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3260 ระหว่างวันที่ 11-13 พ.ค.2560
ฉาย บุนนาค : สงคราม IFEC "ผู้ชนะ" และ "ตัวประกันผู้น่าสงสาร"
กว่า 6 เดือนแล้วที่สงครามระหว่างผู้ถือหุ้นของ IFEC หรือบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ประทุขึ้น ส่งผลให้
1.ราคาหุ้นที่เคยขึ้นสูงถึง 18.80 บาท ตกลงสู่ราคา 3.10 บาท และปัจจุบันถูกแขวนเครื่องหมาย SP (ห้ามซื้อขาย)
2.ผู้ถือหุ้นทั้ง 2 ฝ่ายต่างแฉพฤติกรรมสกปรกของกันและกันผ่านสื่อ พร้อมทั้งใช้กฎหมายดำเนินคดีฝ่ายตรงข้าม โดยลืมคิดไปว่าที่ผ่านมาก็หากินข้าวหม้อเดียวกัน
3.บริษัทผิดนัดชำระหนี้ตั๋ว B/E มากมาย มูลค่ารวมกว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ถือสิทธิ์ตั๋วเหล่านี้คือ บลจ. หรือ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน แปลง่ายๆ ภาษาชาวบ้าน คือ IFEC เป็นหนี้ประชาชนที่ฝากเงินให้กองทุนรวมบริหาร และเบี้ยวไม่จ่ายจนถึงปัจจุบัน
4.ตลาดตราสารหนี้ระยะสั้น (กว่า 5 แสนล้านบาท) ปั่นป่วนอย่างรุนแรง โดยนักลงทุนแห่ถอนหน่วยลงทุนจากความเชื่อมั่นที่สูญสิ้นไป ... ร้อนถึง รมต.คลัง และ ผู้ว่าการธปท. ต้องลงมาบีบให้ ก.ล.ต.ผู้น่าสงสารต้องรีบหาวิธีดำเนินการ
จากที่ลำดับเรื่องราวมา คงสรุปได้ทันทีว่า สงครามนี้ "ไม่มีใครชนะ" ทุกคนแพ้หมด...
การสาวไส้ให้กากิน ...
การไม่โปร่งใสในการบริหารและซื้อสินทรัพย์...
การไม่รับผิดชอบหนี้ต่อสาธารณชน...
การลงทุนในตั๋ว B/E ที่หละหลวมของผู้จัดการกองทุน ที่มีผลประโยชน์กับราคาหุ้น และStory ของ IFEC
ความโลภของกลุ่มใหม่ที่กะฮุบบริษัท ... รู้ทั้งรู้ว่าคนเขาตีกัน ยังอุตส่าห์มาลงทุน
หลายคนถามความเห็นของผมเรื่องสงครามของ IFEC (เพราะมองว่าผมมีประสบการณ์มากมายในการทำศึกสงครามในตลาดทุน... ซึ่ง "ไม่จริง")
ผมไม่ชอบการรบแต่ไม่กลัวที่จะทำสงครามหากจำเป็น...
กรณี IFEC war ผมสงสาร บลจ. และประชาชนผู้ลงทุนในตั๋วB/E ของ IFEC ... เขาไม่เกี่ยว และต้องการเพียงเงินบริสุทธิ์คืน
การเอาประชาชน(เจ้าหนี้) เป็นตัวประกันในสงครามส่วนตัวของ 2 กลุ่มเป็นสิ่งที่ไม่พึงกระทำ...
หากคุณคืนหนี้เสร็จ คุณจะสู้รบตบตีกันก็คงไม่มีใครสนใจมาก
คำทำนายของผม
สิ่งที่จะเกิดต่อจากนี้กับ IFEC หากภายใน 3 เดือน IFEC ไม่สามารถคืนหนี้ได้ เจ้าหนี้ (กว่า 7 พันล้านบาท) จะใช้สิทธิ์ในการฟ้องล้มละลายและขอให้มีการฟื้นฟูบริษัท
คดีความที่กินในที่ลับและคายในที่แจ้งจะทำร้ายทั้ง 2 ฝั่งและบานปลายจนมีคนติดคุกในที่สุดเพราะการกระทำเก่าๆ
กรรมการชุดใหม่จะถอดใจและทยอยลาออกเพราะไม่อยากเสียชื่อเสียง
ดาราเทวีตกไปอยู่ในมือของเจ้าหนี้หรือเจ้าของเดิม
IFEC เข้าสู่หมวด NR และไม่กลับมาซื้อขายอีกนาน
ในการศึกสงคราม... การเจรจาจะเกิดก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายรู้สึกว่าตนไม่ชนะ
การเจรจาวันนี้ยังไม่เกิด เพราะทั้งคู่ยึดถืออัตตาและความโลภของตนเป็นตัวตั้ง...
กรรมบังตาทั้ง 2 ฝ่าย... สร้างความเสียหายทุกหย่อมหญ้า...
คอลัมน์ : พอเพียงอย่างพอใจ / หน้า 18 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ /ฉบับ 3260 ระหว่างวันที่ 11-13 พ.ค.2560