คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
“ศรีวราห์” งัดเอกสาร โต้ “วีระ”ยันสร้างฝายถูกต้อง แจ้งความกลับ “ใส่ความ-หมิ่นประมาท-รุกล้ำน่านฟ้า”
http://www.matichon.co.th/news/553921
“ศรีวราห์”ตั้งโต๊ะแถลง โชว์หลักฐาน แจงยิบสร้างฝายบนที่ดินปากช่องถูกกฎหมาย ท้าตรวจสอบ ซัดกลับ “วีระ” เถรจิตกลั่นแกล้ง แค้นปมเอาผิดร่วมม็อบ งัดกฎหมายแจ้งความกลับฐานใส่ความ-หมิ่นประมาท-รุกล้ำน่านฟ้า
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) แถลงชี้แจงกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวตสอบกรณีสร้างถนนทับคลองน้ำสาธารณะ ที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากนายสุพีร์ รังสิพราหมณกุล บิดา ซึ่งการก่อสร้างทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำมีมาตั้งแต่สมัยบิดาตนครอบครองที่ดิน หลังจากตนรับมรดกในปี 2557 เป็นที่ดินผืนใหญ่กว่า 100ไร่ ตรวจสอบไม่พบเอกสารเกี่ยวกับสร้างฝายนี้ ต่อมาปี2558 ตนจึงได้ดำเนินการประสานขออนุญาตกับทาง อบต.ปากช่อง ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ฉบับที่2/2558 ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสัญจร
รองผบ.ตร. กล่าวว่า การที่นายวีระ ออกมาบอกว่าตนทำฝายน้ำล้นหรือสร้างถนนแล้วทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านล่างไม่มีน้ำใช้ คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ฝายน้ำล้นที่ทางอบต.อนุญาตให้สร้าง ก็เพื่อป้องกันน้ำป่าไหลเข้าในเมือง ไปท่วมที่ชาวบ้านในช่วงน้ำหลาก และเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ทั้งนี้เนื่องจากลำน้ำเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน เมื่อก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดแล้วลงในพื้นที่ดังกล่าว สิ่งปลูกสร้างนั้นก็ตกเป็นของแผ่นดินโดยอัตโนมัติตามกฎหมาย และตนเองก็ได้ลั่นวาจาเมื่อครั้งไปขออนุญาต ว่าให้ฝายที่สร้างขึ้นนี้ ตกเป็นของแผ่นดิน อยู่ในความดูแลของ อบต.ปากช่อง ดังนั้นการที่นายวีระ กล่าวหาเรื่องการสร้างฝายนี้ ก็เท่ากับว่ากล่าวหา อบต.ปากช่อง ไม่ใช่ตน
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายวีระ ถูกตนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ในกรณีการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน และวันนี้คนที่ถูกจับกุมดำเนินคดีพร้อมนายวีระในวันนั้น ก็มาร้องเรียนด้วย
“ไม่ทราบว่านายวีระ ไปกินดีหมีที่ไหนมา การกระทำของนายวีระและพวก ถือว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 172 ฐานใส่ความพนักงานเจ้าหน้าที่ และมาตรา 326ว่าด้วยการหมิ่นประมาท วันนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกลับ เพราะเห็นคลิปที่นายวีระ มาแสดงชี้ชัดว่าเป็นผม ทำให้ผมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสียหาย จึงจำเป็นจะต้องปกป้องตัวเอง ซึ่งนายวีระกับพวก เถรจิต หรือที่แปลว่า กลั่นแกล้ง ใส่ความ อย่างชัดเจน” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว และว่า การที่นายวีระ จะนำสื่อมวลชนไปดูพื้นที่ของตนก็ทำได้ ไปพิสูจน์เลย แต่การเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลก็ขอให้ดูกฎหมายด้วย ทำในกรอบกฎหมายแล้วกัน ส่วนที่นำโดรนขึ้นบินสำรวจเหนือที่ดินของตน ตนจะพิจารณาว่าถือว่าผิดกฎหมายฐานรกล้ำน่านฟ้าของตนหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินผืนนี้ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีการฝายน้ำล้นอีก 2จุด ที่ขออนุญาตถูกต้องแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
รองผบ.ตร.กล่าวว่า นอกจากร้องทุกข์ดำเนินคดีนายวีระและพวกแล้ว ตนตนจะทำหนังสือรายงาน ชี้แจง ถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตามขั้นตอนต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำหลักฐานโฉนดที่ดินผืนดังกล่าว พร้อมเอกสารใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ หรือ แบบ ท.28 ที่ออกโดย อบต.ปากช่อง อนุญาตโดย นายกิตติพงษ์ รุ่งพิมาย นายช่างอบต.ปากช่อง พร้อมใบเสร็จรับเงิน ในการขอใบอนุญาต ดังกล่าว มาแสดง
http://www.matichon.co.th/news/553921
“ศรีวราห์”ตั้งโต๊ะแถลง โชว์หลักฐาน แจงยิบสร้างฝายบนที่ดินปากช่องถูกกฎหมาย ท้าตรวจสอบ ซัดกลับ “วีระ” เถรจิตกลั่นแกล้ง แค้นปมเอาผิดร่วมม็อบ งัดกฎหมายแจ้งความกลับฐานใส่ความ-หมิ่นประมาท-รุกล้ำน่านฟ้า
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) แถลงชี้แจงกรณี นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. เพื่อให้ตรวตสอบกรณีสร้างถนนทับคลองน้ำสาธารณะ ที่ ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ว่า ที่ดินดังกล่าวเป็นมรดกตกทอดจากนายสุพีร์ รังสิพราหมณกุล บิดา ซึ่งการก่อสร้างทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำมีมาตั้งแต่สมัยบิดาตนครอบครองที่ดิน หลังจากตนรับมรดกในปี 2557 เป็นที่ดินผืนใหญ่กว่า 100ไร่ ตรวจสอบไม่พบเอกสารเกี่ยวกับสร้างฝายนี้ ต่อมาปี2558 ตนจึงได้ดำเนินการประสานขออนุญาตกับทาง อบต.ปากช่อง ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ตามใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ ฉบับที่2/2558 ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการสัญจร
รองผบ.ตร. กล่าวว่า การที่นายวีระ ออกมาบอกว่าตนทำฝายน้ำล้นหรือสร้างถนนแล้วทำให้ประชาชนที่อยู่ด้านล่างไม่มีน้ำใช้ คงเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน ฝายน้ำล้นที่ทางอบต.อนุญาตให้สร้าง ก็เพื่อป้องกันน้ำป่าไหลเข้าในเมือง ไปท่วมที่ชาวบ้านในช่วงน้ำหลาก และเก็บน้ำไว้ใช้ในหน้าแล้ง ทั้งนี้เนื่องจากลำน้ำเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน เมื่อก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างใดแล้วลงในพื้นที่ดังกล่าว สิ่งปลูกสร้างนั้นก็ตกเป็นของแผ่นดินโดยอัตโนมัติตามกฎหมาย และตนเองก็ได้ลั่นวาจาเมื่อครั้งไปขออนุญาต ว่าให้ฝายที่สร้างขึ้นนี้ ตกเป็นของแผ่นดิน อยู่ในความดูแลของ อบต.ปากช่อง ดังนั้นการที่นายวีระ กล่าวหาเรื่องการสร้างฝายนี้ ก็เท่ากับว่ากล่าวหา อบต.ปากช่อง ไม่ใช่ตน
“ถ้าคุณเป็นคนปากช่องคุณจะรู้ เวลามีน้ำแล้งก็จะแล้งมาก ไม่มีน้ำเลย ถ้าไม่มีฝายจะไม่มีน้ำ น้ำจะแห้งไปหมด เวลาหน้าน้ำมาน้ำก็จะไหล ไม่มีอะไรกั้น น้ำจะไหลเข้าบ้านเรือนก็เสียหาย การที่ อบต.ปากช่องพิจารณาให้สร้างฝายนี้ต้องพิจารณามาแล้วว่าเกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติ ถ้าเกิดผลเสียหายคงไม่อนุญาตหรอก และยืนยันที่ดินผืนนี้เดิมทีเป้นที่ตาบอด และเมื่อสร้างฝาย ก็ยังเป็นที่ตาบอด เพราะที่ดินผืนติดกัน ซึ่งเป็นของผมก็เป็นที่ดินตาบอดเหมือนกัน บอดเจอบอดยังก็บอด ผมไม่ได้ประโยชน์อะไรมากมายจากการสร้างฝายนี้ จึงไม่ได้เป็นไปตามที่นายวีระ กล่าวอ้างว่าผมได้ประโยชน์จากการสร้าง และไม่เคยได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ สมัยคุณพ่อสร้างก็ไม่มีใครร้องเรียน แต่ยอมรับว่าอยู่ในพื้นที่ดินตรงนี้ ตั้งแต่ตนอายุ 9 ขวบ คนแถวนั้นรู้ดีว่าเป็นที่ของใคร แต่ก็ไม่เคยมีการร้องเรียน ส่วนนายวีระอ้างว่าไม่มีใครกล้าร้องเรียนเพราะเป็นตำรวจระดับสูง ไม่มีเป็นความจริง ไม่เกี่ยวกัน ฝายนี้มีมาตั้งแต่ปี 2511 ตอนนั้นผมอายุแค่ 9 ขวบ เป็นด.ช.ศรีวราห์ อยู่เลย ถ้าไม่เชื่อเอาภาพถ่ายทางอากาศมาแปรดูก็ได้ ที่สำคัญชาวบ้านทั่วไปในเขตพื้นที่ก็ทำกัน ถ้าอย่างนั้นชาวบ้านทำฝายเก็บกักน้ำเป็นแก้มลิงก็ต้องถูกดำเนินคดีหมดสิ ผมเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นผู้รักษากฎหมาย ยืนยันไม่ทำผิดกฎหมายแน่นอน” พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าว
รองผบ.ตร. กล่าวด้วยว่า ก่อนหน้านี้ นายวีระ ถูกตนดำเนินคดีตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะฯ ในกรณีการชุมนุมใกล้เขตพระราชฐาน และวันนี้คนที่ถูกจับกุมดำเนินคดีพร้อมนายวีระในวันนั้น ก็มาร้องเรียนด้วย
“ไม่ทราบว่านายวีระ ไปกินดีหมีที่ไหนมา การกระทำของนายวีระและพวก ถือว่าผิดกฎหมายอาญา มาตรา 172 ฐานใส่ความพนักงานเจ้าหน้าที่ และมาตรา 326ว่าด้วยการหมิ่นประมาท วันนี้จะแจ้งความดำเนินคดีกลับ เพราะเห็นคลิปที่นายวีระ มาแสดงชี้ชัดว่าเป็นผม ทำให้ผมและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นผู้เสียหาย จึงจำเป็นจะต้องปกป้องตัวเอง ซึ่งนายวีระกับพวก เถรจิต หรือที่แปลว่า กลั่นแกล้ง ใส่ความ อย่างชัดเจน” พล.ต.อ.ศรีวราห์กล่าว และว่า การที่นายวีระ จะนำสื่อมวลชนไปดูพื้นที่ของตนก็ทำได้ ไปพิสูจน์เลย แต่การเข้าไปในพื้นที่ส่วนบุคคลก็ขอให้ดูกฎหมายด้วย ทำในกรอบกฎหมายแล้วกัน ส่วนที่นำโดรนขึ้นบินสำรวจเหนือที่ดินของตน ตนจะพิจารณาว่าถือว่าผิดกฎหมายฐานรกล้ำน่านฟ้าของตนหรือไม่ อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินผืนนี้ทำอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และยังมีการฝายน้ำล้นอีก 2จุด ที่ขออนุญาตถูกต้องแล้ว อยู่ระหว่างการก่อสร้าง
รองผบ.ตร.กล่าวว่า นอกจากร้องทุกข์ดำเนินคดีนายวีระและพวกแล้ว ตนตนจะทำหนังสือรายงาน ชี้แจง ถึง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ตามขั้นตอนต่อไปด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้นำหลักฐานโฉนดที่ดินผืนดังกล่าว พร้อมเอกสารใบอนุญาตทำสิ่งล่วงล้ำลำน้ำ หรือ แบบ ท.28 ที่ออกโดย อบต.ปากช่อง อนุญาตโดย นายกิตติพงษ์ รุ่งพิมาย นายช่างอบต.ปากช่อง พร้อมใบเสร็จรับเงิน ในการขอใบอนุญาต ดังกล่าว มาแสดง
แสดงความคิดเห็น
JJNY : “วีระ” ร้อง ผบ.ตร.ตรวจสอบ”ศรีวราห์”กรณีสร้างถนนทับลำน้ำ ทำชาวปากช่องเดือดร้อน ให้เอาผิดวินัย-อาญา
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 8 พฤษภาคม ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) นายวีระ สมความคิด เลขาธิการเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น เดินทางเข้ายื่นหนังสือ ถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) เพื่อให้ดำเนินการทางวินัย และอาญา กับนายตำรวจระดับสูงในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นายวีระ กล่าวว่า วันนี้เดินทางมายื่นหนังสือถึง ผบ.ตร.ให้ดำเนินการตรวจสอบ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร. ในหลายความผิด โดยนำหลักฐานคลิปวิดีโอ ภาพนิ่ง และแผนที่ กล่าวสร้างถนนรุกล้ำที่สาธารณะ โดยสร้างถนนทับคลอง สาธารณะประโยชน์ ในพื้นที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ทำถนนขวางลำน้ำ ทั้งนี้ได้นำสำเนาเอกสารโฉนดที่ดินเลขที่ 11540 (เลขที่ดิน 187) ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สำเนาเอกสารโฉนดที่ดินเลขที่11548 (เลขที่ดิน185) ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา สำเนาแผนที่ที่ดินโฉนดเลขที่ 11540 (เลขที่ดิน187 ) และเลขที่ 11548 (เลขที่ดิน185) ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาภาพถ่ายถนนคอนกรีตปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์ มีขนาดกว้างประมาณ10 เมตร ยาว ประมาณ 30 เมตร ภาพถ่ายถนนคอนกรีตปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์ ด้วยการเชื่อมที่ดินทั้ง 2 แปลง โดยขอกล่าวหาร้องเรียนพล.ต.อ.ศรีวราห์ ว่ากระทำความผิดตามกฎหมายหลายฉบับ และหลายบท กรณีได้ก่อสร้างถนนคอนกรีตขนาดใหญ่มีลักษณะเป็นการถาวร ปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์โดยมิชอบกล่าวคือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ได้รับโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินมาจากนายสุพีร์ รังสิพราหมณกุล ซึ่งเป็นบิดา ทางมรดกเมื่อวันที่ 10 เมษายน2557 จำนวน 2แปลง
1. โฉนดที่ดินเลขที่ 11540 เลขที่ดิน187 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง
2. โฉนดที่ดินเลขที่ 11584เลขที่ดิน185 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา
ซึ่งปรากฎตามแผนที่ที่ดินทั้ง2แปลงดังกล่าว ได้มีการก่อสร้างถนนคอนกรีตขนาดใหญ่ ลักษณะเป็นการถาวรปิดกั้นคลองสาธารณประโยชน์ มีขนาดกว้างประมาณ 10 เมตร ยาวประมาณ 30 เมตร โดยการก่อสร้างดังกล่าวนั้น ขึ้นรูปลักษณะเป็นถนนคอนกรีตที่มีความมั่นคงแข็งแรงสามารถต้านทานกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวในหน้าฝนได้เป็นอย่างดี การก่อสร้างถนนคอนกรีตดังกล่าวได้ปิดกั้นลำคลองสาธารณประโยชน์นี้ เพื่อประโยชน์ในการสัญจรข้ามคลองสาธารณประโยชน์ ด้วยการเชื่อมที่ดินทั้ง 2 แปลง ซึ่งที่ดินทั้ง 2 แปลงนี้ ตั้งอยู่คนละฝั่งคลองสาธารณประโยชน์ เป็นที่ดินแปลงฝั่งตะวันตกกับที่ดินแปลงฝั่งตะวันออก เพื่อประโยชน์ส่วนตน
นายวีระ กล่าวว่า ที่สำคัญการก่อสร้างถนนคอนกรีตดังกล่าว ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีพของชาวปากช่อง ที่อาศัยอยู่ท้ายคลองสาธารณประโยชน์แห่งนี้ เพราะทำให้สภาพลำคลองแห้งแล้ง ตื้นเขิน ไม่สามารถใช้ประโยชน์ในการเกษตรกรรม และไม่สามารถสัญจรทางน้ำได้ อีกทั้งยังทำให้เกิดผลกระทบต่อระบบนิเวศน์ของธรรมชาติป่าแห่งนี้ เพราะการไหลของกระแสน้ำตามธรรมชาติแต่เดิมมานั้น ต้องหยุดชะงักขาดตอน ขาดความชุ่มชื้น ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์ป่าที่อาศัยอยู่ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ประชาชนทั่วไปยังใช้ประโยชน์จากคลองสาธารณประโยชน์สายนี้ ในการเกษตรกรรม และใช้เพื่อการบริโภคดื่มกินมาช้านาน การที่ได้มีการก่อสร้างถนนคอนกรีตดังกล่าว ผู้ที่ได้รับประโยชน์คือ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินทั้ง 2 แปลงดังกล่าว กรณีจึงมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่า พล.ต.อ.ศรีวราห์ น่าจะเป็นผู้สั่งให้ดำเนินการก่อสร้างถนนคอนกรีตดังกล่าว การกระทำดังกล่าว จึงเป็นการกระทำด้วยประการใดๆ ให้ทางสาธารณะอยู่ในลักษณะอันน่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่การจราจร เข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่น รัฐ เพื่อถือการครอบครองอสังหาริมทรัพย์นั้นทั้งหมด หรือแต่บางส่วน เข้าไปครอบครองที่ดิน ซึ่งที่ดิน หมายความรวมถึงคลอง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 1 หรือทำด้วยประการใด ทำให้เสื่อมสภาพที่ดิน และปลูกสร้างสิ่งอื่นใดล่วงล้ำเข้าไปเหนือน้ำของลำคลอง อันเป็นทางสัญจรของประชาชน หรือที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกัน อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา229 ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9 และตาม พ.ร.บ.การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.2456 มาตรา117 , 118 , 118 ทวิ , 119 ซึ่งเป็นการไม่ปฏิบัติตามกฎหมายด้วย จึงมีความผิดทางวินัยตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2547 มาตรา 77 , 78 และมาตรา 79 ด้วย
“ดังนั้น จึงขอกล่าวหาร้องเรียนต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะเป็นผู้บังคับบัญชา และเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวน ให้ดำเนินการทางวินัย และอาญา แก่พล.ต.อ.ศรีวราห์ ต่อไป ผลการดำเนินการเป็นประการใด ขอได้โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบโดยด่วนด้วย จักขอบคุณมาก” นายวีระกล่าว