ฉลาดเกมส์โกง
Intense มาก, นักแสดงมาสุด, อารมณ์มาเต็ม

มันเกินความคาดหมายไว้หลายๆเรื่องเหมือนกัน ...
จากตัวอย่าง บอกตามตรงว่าไม่ได้คิดอะไรเยอะ เห็นนักแสดงแล้วแบบก็ยังรู้สึก เฉยๆ ... แต่พอดูๆไป เฮ้ย ... เฉียบ

หนังเป็นเรื่องราวของการโกงข้อสอบครับ โกงในการสอบระดับโรงเรียน ระดับโลก เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ของเด็กมัธยมปลาย ... ย้ำว่าเด็ก ม ปลาย ...
เชื่อว่าคนที่ดูแล้วน่าจะรับรู้ได้ถึงความกดดัน ความบีบ ... แต่ผมคิดว่ามันเป็นความละเอียด ที่ถูกคิดเอาไว้เป็นอย่างดี เข้าทางผมเลย ชอบหนังละเอียด ฮาาา
หนังมีความพยายามเล่าเรื่องในแบบสลับๆไปมา ผมว่าดีนะ มันเป็นเสน่ห์อย่างนึง แต่แบบถ้าสมองไม่พร้อมนี่ มีมึนๆ ... ช่วงแรกของหนังมีความอึดอัด เพราะลำดับภาพนี่แหล่ะ .... แต่ความอึดอัดนั้น กลายมาเป็นปมคลี่คลายตอนท้ายได้แฮะ
สำหรับผมความสนุกของฉลาดเกมส์โกงเป็นการร้อยเรียงอารมณ์ได้ดีมาก ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเลย ซึ่งมันเกิดจากเทคนิคหลายๆอย่างมารวมกันได้อย่างลงตัวมากๆ

อยากยกทุกนิ้วให้กับนักแสดงทุกคนเลยครับ อินสุดๆ เห็นละไม่เฟคเลย ... ส่วนตัวผมแค่คุ้นๆกับนักแสดงบางคนจากฮอร์โมน และถ้าใครได้ดูเบื้องหลังจะรู้ว่า เด็กพวกนี้เมพจริงๆ ... การแสดงมันมีความอร่อย กินง่าย เข้าใจง่ายๆ แค่มองตา แค่พยักหน้า ผมว่านี่มันยากมากนะ การแสดงโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด แต่คนดูต้องเข้าใจ ... เล่นจนแบบ ช่วงหนึ่งของหนังรู้สึกเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์และคิดตามไปด้วยเลย ...

อีกอันที่ต้องยกย่องคือ Cinematography เทคนิคมุมมอง ที่สามารถเปลี่ยนห้องธรรมดาๆ เปลี่ยนการส่งของธรรมดาๆ เปลี่ยนการเดินตามธรรมดาๆ ให้เรารู้สึกอินได้มากจริงๆ ... ด้วยความที่ผมเป็นช่างภาพ การสื่อสารในมุมแบบนี้ มันขยี้อารมณ์ได้สุดๆ ... คนที่ทำเรื่องลำดับภาพ ต้องเข้าใจการสื่อสารมากๆ ... การลำดับภาพพร้อมกับดนตรีประกอบที่มีความหนักเบาพอดีๆในทุกฉากนี่มันอร่อยจิมๆ
ไม่ทันได้ฟังเพลงประกอบ ... ตอนแรกแอบสงสัย มีด้วยหรอฟร่ะ ถถถถถถถถ

พลอตเรื่องจริงๆไม่ได้มีอะไรเยอะเลย มีความบิดอยู่บ้าง ... แต่ที่ชอบคือสิ่งที่หนังพยายามจะบอกเรา เรื่อง จรรยาบรรณ ความถูกต้อง
ตอนดูจบแล้วมีทีมงานมาถามว่า พ่อแม่จะดูได้มั้ย ... ตอนแรกผมคิดว่าวัยกลางคนจะไม่ค่อยอิน แต่ตอนนี้คิดว่า หนังนี้เหมาะกับทุกวัยนะครับ ... ผมว่าคนไทยได้ผ่านการสอบอะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ และมันบอกถึงการเรียนการสอนของไทยได้เป็นอย่างดี ทำไมต้องเรียนพิเศษ ... สอบไปทำไม ความกดดันมาจากไหน

ไม่รู้ทำไมแต่ผมเชื่อว่ามันมีตอนจบอยู่หลายแบบ ... แต่คงเค้าอยากให้เป็นแบบนี้ ^^
เป็นเรื่องที่อยากให้ลองไปดูกันครับ
อยากให้ลองถามตัวเองดูครับ ว่าในฉากสุดท้ายถ้าเป็นตัวเราเองจะคิดยังไง
จนกว่าจะพบกันใหม่
Tony Freeman
==============================================================================
ขอบคุณเมเจอร์ ซีเนเพลกซ์สำหรับโอกาสในการชมภาพยนตร์
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ภาพเล็กๆน้อยๆจากงานกาล่าเมื่อวานครับ






[SR] ฉลาดเกมส์โกง 9/10 ไม่สปอย (TNF)
Intense มาก, นักแสดงมาสุด, อารมณ์มาเต็ม
มันเกินความคาดหมายไว้หลายๆเรื่องเหมือนกัน ...
จากตัวอย่าง บอกตามตรงว่าไม่ได้คิดอะไรเยอะ เห็นนักแสดงแล้วแบบก็ยังรู้สึก เฉยๆ ... แต่พอดูๆไป เฮ้ย ... เฉียบ
หนังเป็นเรื่องราวของการโกงข้อสอบครับ โกงในการสอบระดับโรงเรียน ระดับโลก เพื่อวัตถุประสงค์บางอย่าง ของเด็กมัธยมปลาย ... ย้ำว่าเด็ก ม ปลาย ...
เชื่อว่าคนที่ดูแล้วน่าจะรับรู้ได้ถึงความกดดัน ความบีบ ... แต่ผมคิดว่ามันเป็นความละเอียด ที่ถูกคิดเอาไว้เป็นอย่างดี เข้าทางผมเลย ชอบหนังละเอียด ฮาาา
หนังมีความพยายามเล่าเรื่องในแบบสลับๆไปมา ผมว่าดีนะ มันเป็นเสน่ห์อย่างนึง แต่แบบถ้าสมองไม่พร้อมนี่ มีมึนๆ ... ช่วงแรกของหนังมีความอึดอัด เพราะลำดับภาพนี่แหล่ะ .... แต่ความอึดอัดนั้น กลายมาเป็นปมคลี่คลายตอนท้ายได้แฮะ
สำหรับผมความสนุกของฉลาดเกมส์โกงเป็นการร้อยเรียงอารมณ์ได้ดีมาก ตั้งแต่ต้นเรื่องจนจบเลย ซึ่งมันเกิดจากเทคนิคหลายๆอย่างมารวมกันได้อย่างลงตัวมากๆ
อยากยกทุกนิ้วให้กับนักแสดงทุกคนเลยครับ อินสุดๆ เห็นละไม่เฟคเลย ... ส่วนตัวผมแค่คุ้นๆกับนักแสดงบางคนจากฮอร์โมน และถ้าใครได้ดูเบื้องหลังจะรู้ว่า เด็กพวกนี้เมพจริงๆ ... การแสดงมันมีความอร่อย กินง่าย เข้าใจง่ายๆ แค่มองตา แค่พยักหน้า ผมว่านี่มันยากมากนะ การแสดงโดยที่ไม่ต้องใช้คำพูด แต่คนดูต้องเข้าใจ ... เล่นจนแบบ ช่วงหนึ่งของหนังรู้สึกเหมือนเราอยู่ในเหตุการณ์และคิดตามไปด้วยเลย ...
อีกอันที่ต้องยกย่องคือ Cinematography เทคนิคมุมมอง ที่สามารถเปลี่ยนห้องธรรมดาๆ เปลี่ยนการส่งของธรรมดาๆ เปลี่ยนการเดินตามธรรมดาๆ ให้เรารู้สึกอินได้มากจริงๆ ... ด้วยความที่ผมเป็นช่างภาพ การสื่อสารในมุมแบบนี้ มันขยี้อารมณ์ได้สุดๆ ... คนที่ทำเรื่องลำดับภาพ ต้องเข้าใจการสื่อสารมากๆ ... การลำดับภาพพร้อมกับดนตรีประกอบที่มีความหนักเบาพอดีๆในทุกฉากนี่มันอร่อยจิมๆ
ไม่ทันได้ฟังเพลงประกอบ ... ตอนแรกแอบสงสัย มีด้วยหรอฟร่ะ ถถถถถถถถ
พลอตเรื่องจริงๆไม่ได้มีอะไรเยอะเลย มีความบิดอยู่บ้าง ... แต่ที่ชอบคือสิ่งที่หนังพยายามจะบอกเรา เรื่อง จรรยาบรรณ ความถูกต้อง
ตอนดูจบแล้วมีทีมงานมาถามว่า พ่อแม่จะดูได้มั้ย ... ตอนแรกผมคิดว่าวัยกลางคนจะไม่ค่อยอิน แต่ตอนนี้คิดว่า หนังนี้เหมาะกับทุกวัยนะครับ ... ผมว่าคนไทยได้ผ่านการสอบอะไรแบบนี้มาค่อนข้างเยอะ และมันบอกถึงการเรียนการสอนของไทยได้เป็นอย่างดี ทำไมต้องเรียนพิเศษ ... สอบไปทำไม ความกดดันมาจากไหน
ไม่รู้ทำไมแต่ผมเชื่อว่ามันมีตอนจบอยู่หลายแบบ ... แต่คงเค้าอยากให้เป็นแบบนี้ ^^
เป็นเรื่องที่อยากให้ลองไปดูกันครับ
อยากให้ลองถามตัวเองดูครับ ว่าในฉากสุดท้ายถ้าเป็นตัวเราเองจะคิดยังไง
จนกว่าจะพบกันใหม่
Tony Freeman
==============================================================================
ขอบคุณเมเจอร์ ซีเนเพลกซ์สำหรับโอกาสในการชมภาพยนตร์
ขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เนต
ภาพเล็กๆน้อยๆจากงานกาล่าเมื่อวานครับ