ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 1 : หม่ำซูชิจานเวียนที่ร้าน Magurobito @Asakusa

รวมลิงก์ทริปนี้จ้า
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 2 : คาวากุจิโกะ ฟูจิซังอลังการ กับโฮโต อาหารพื้นเมืองยามานาชิ @Houtoufudou : https://pantip.com/topic/36413704
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 3 : Kawaguchiko Living Center - Kawaguchiko Herb Hall - Wind Cave - Sanrokuen : https://pantip.com/topic/36463445/
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 4 : บุกบุฟเฟต์โรงแรมย่านชินจูกุกับ Super Buffet Glasscourt @ Keio Plaza Hotel : https://pantip.com/topic/36511684
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 5 : เที่ยวชิบะ หม่ำสตรอเบอร์รี่ @Dragon Farm ทานข้าวหน้าปลาไหล @Kawatoyo Honten : https://pantip.com/topic/36520232
ตระเวนกินเที่ยวรอบโตเกียว DAY 6 : ฟินกับซูชิที่แถวยาวสุดๆ Sushi Dai @Tsukiji Fish Market : https://pantip.com/topic/36563978



กลับมาอีกครั้งกับทริปตระเวนกินดะที่ญี่ปุ่น หลังจากทริปที่แล้วที่บุกไป ฮาโกดาเตะ (ฮอกไกโด) อาโอโมริ เซนได และ โตเกียวนิดหน่อย รอบนี้เรากลับมาเก็บตกรอบโตเกียวกันอีกรอบนึง โดยต้นกำเนิดของทริปนี้เกิดจากการดูรายการทีวีญี่ปุ่นแล้วเกิดไปปะฉะดะกับร้านอาหารน่ากินหลากหลายร้าน แถมยังอ่านรีวิวเพื่อนๆ ในพันทิปที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วเกิดกิเลส ประจวบเหมาะกับดันไปเจอโปรตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นช่วงหลังสงกรานต์ราคาน่าคบหา เลยเกิดเป็นทริปนี้ขึ้นมา บอกก่อนเลยว่าไม่ได้เตรียมตัวอะไรมามากมาย แต่ก็ทำการบ้านล่วงหน้าพักใหญ่เหมือนกัน เอาล่ะ เรามาเริ่มเบาๆ ในส่วนของรายละเอียดการเดินทางกันก่อนเนอะ

ระยะเวลา 10 วัน (16 - 26 APRIL 17) <กลับ 26 APR ตอนเช้า>

1. ตั๋วเครื่องบิน Vietnam Airline ประมาณ 8,000 บาท Full Service ดีงาม แต่ต่อเครื่องขาไปนานหน่อย ประมาณ 8 ชม. (นอนสนามบินคืนนึง) ผมก็หาร้านกินข้าว ใช้ wifi ร้านอาหารเล่นเกมไป นอนไป ไม่มีปัญหา (มีประสบการณ์จากครั้งแรกแล้ว 55)

2. ที่พักครั้งนี้เกือบทั้งหมด (ยกเว้นคืนแรก) จองผ่าน airbnb โดยค่าใช้จ่าย 10 คืนรวมประมาณ 11,000 บาท (ครั้งก่อน จองโรงแรมผ่าน Cheapticket คราวนี้มาลองแบบโฮมสเตย์บ้างเนอะ)

3. ค่า Internet จากครั้งที่แล้ว ผมใช้ Pocket Wifi ของ Samurai งวดนี้ลองเปลี่ยนมาใช้ Sim2fly ของ AIS ดูบ้างเพราะไปแค่คนเดียว ซึ่งส่วนตัวผมว่ามันโอเคเลยนะ 8 วัน 399 กับเน็ต 4G แต่ผมอยู่ 10 วัน เลยต้องเติมเงินเพิ่มอีก 119 บาท สำหรับเนต 1GB 2 วัน คุณภาพเน็ตใช้ได้เลย ใครไปคนเดียวผมแนะนำว่าซิมน่าจะสะดวกในการพกพาและประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า

4. ค่าเดินทาง ทริปนี้เราจะเที่ยวโซนรอบโตเกียวพ่วง Kawaguchiko - Chiba ไปด้วยนิดหน่อย ทริปนี้ผมเลยเลือกที่จะไม่ใช้ Pass เพราะไม่ match กับแผนการเดินทางผม แต่จะใช้ Pasmo เติมเงิน 10,000 เยน สำหรับใช้เดินทางใน Tokyo และ Chiba ส่วน Kawaguchiko ผมจะนั่งรส Keio Bus ไปแทน


พาน้องหมึกที่ไปกดกาชาปองได้จากตู้ที่ฮาโกดาเตะกลับมาด้วย ถึงจะไม่ได้ไปเยี่ยมบ้านที่ฮาโกดาเตะ แต่ก็ได้กลับมาญี่ปุ่นละนะเจ้าหมึก


พอเครื่องลง ผมก็รีบไปจัดการไปซื้อบัตร PASMO มาใช้งานด่วนๆ การซื้อบัตรโดยสารสำหรับเดินทางในโซนโตเกียว SUICA กับ PASMO เป็นทางเลือกที่สะดวกดีตรงใช้ได้ยาวๆ ไม่ต้องไปกดตั๋วทุกครั้งที่จะเดินทาง แต่บางคนอาจจะชอบซื้อตั๋วเป็นรอบๆ มากกว่าเพราะจะไม่อยากเสียเงินก้อนก็แล้วแต่ความชอบครับ ขาเข้างวดนี้เราจะใช้ Narita Sky Access Line นั่งไปลงที่สถานี Asakusa เลย อาจจะจอดหลายป้ายนิดนึงแต่ค่าโดยสารเป็นมิตรกว่า Narita Express หรือ Keisei Skyliner เยอะ (ประมาณ 1,300 เยน)


และแล้วเราก็มาถึงย่านอาซากุสะ หลังจากจัดการเช็คอิน เก็บสัมภารกต่างๆ ตามด้วยอาบน้ำให้ชื่นใจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงช่วงเวลาเดินสำรวจ ช่วงเย็นคนก็ยังคึกคักไม่เปลี่ยนแปลง


เดินไปเดินมา ทะลุมาโผล่ถนนนากามิเสะแถววัด Sensoji เฉยเลย


เจอร้านขนมโมจิย่าง คลุกน้ำตาลและผงถั่ว ขายคู่กับชาเขียว เห็นคนเยอะน่าดูเลยซื้อมาทานเล่นดู
ขนมอร่อยใช้ได้เลย แป้งเหนียวนุ่ม ผงถั่วกับน้ำตาลก็หวานอร่อยดี แต่กินมากไประวังเลี่ยนนะ ส่วนชาเขียวที่ขายคู่กันก็หอมอร่อยดี


ยืนกินข้างร้านได้เลย วัฒนธรรมคนญี่ปุ่น เค้าไม่ให้เดินถือไปกินไปนะ มันจะไม่งาม ทานเสร็จแถวนั้นก็มีที่ทิ้งให้พร้อมเลย


วิวยามค่ำคืนจาก Orange Street เป็นซอยที่เชื่อมกับทางเดินระหว่างทางเข้าประตูชั้นในวัดเซนโซจิกับถนนนากามิเสะ เปิดไฟแล้วสวยมาก จากมุมนี้เห็นTokyo Sky Tree ด้วยนะ


ณ อีกมุมหนึ่งที่ไม่ได้เห็นครั้งที่แล้ว คือวันเซนโซจิยามดึก สวยมากๆ คนด้านในที่ยังไหลเข้ามาที่วัดก็ยังมีไม่น้อย แม้ร้านรวงบนถนนนากามิเสะจะเริ่มปิดแล้วก็ตาม


และแล้วก็ได้เวลาอาหาร ค่ำคืนนี้ผมจะฝากท้องกับร้านมากุโระบิโตะ เป็นซูชิจานเวียนชื่อดังในย่านนี้มีหลายสาขาเลย ส่วนใหญ่จะเป็นแบบให้ยืนทานแต่แบบนั่งทานก็มี เช่นสาขาที่ผมจะเข้าไป อยู่แถวๆ ถนน ชินนากามิเสะใกล้ๆ นี่เอง


มีคิวก่อนหน้าพอสมควร รอประมาณ 15-20 นาทีก็ได้ทานครับ ถึงแม้จะบอกว่าเป็นซูชิจานเวียน แต่ถ้าอยากทานอะไรบอกเชฟเองเลยก็ได้เช่นกันครับ อย่างโอโทโร่ หรือ อูนิบางทีไม่มีวางให้เห็นก็ต้องบอกพี่เชฟเอาเหมือนกัน ไม่ต้องกังวลว่าบริการไม่ทั่วถึง เชฟแต่ละเคาท์เตอร์จะคอยดูแลลูกค้าในโซนตัวเองอย่างดีครับ


เมนูจ้า รายการบนสายพานเหมือนจะมีบางอันที่ไม่มีในเมนูด้วยนะ ราคาแตกต่างไปตามสีจานตั้งแต่ 160 เยนไปยัน 580 เยน แต่ราคายังไม่รวม vat นะเออ

ประเดิมจานแรกด้วย
โบตั๋นเอบิ - แม้จะเป็นซูชิจานเวียน แต่ความสดของกุ้งไม่หายไปเลย รสชาตินุ่มนวลและหวานสด ถือเป็นจานนึงที่อร่อยมาก ในแง่ปริมาณ มีกุ้งสองตัวต่อข้าว 1 คำ ปริมาณค่อนข้างใช้ได้เลย

ไข่หวาน - จานนี้รสชาติธรรมดา ไม่ได้หวือหวาแต่ก็เป็นจานพักที่ดี เนื้อไข่ไม่แข็งหรือนุ่มเกินไป


พ่อครัวก็ปั้นไปคุยกับลูกค้าไป ไม่อึดอัด และไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง เค้าพอพูดภาษาอังกฤษได้ และเมนูภาษาอังกฤษก็มี อย่าห่วง ผมเองก็เริ่มอยากลองอะไรเด็ดๆ บ้างแล้วขอให้เชฟจัดโอโทโร กับ อูนิ อย่างละคำ


โอโทโร่ - ละลายในปากจริงๆ น้ำมันฟูฟ่อง เข้มข้นและหอมมาก เส้นเอ็นในเนื้อปลามีไม่เยอะ กินได้อร่อยอย่างสบายอารมณ์
อูนิ - ไข่หอยเม่นเป็นยวง มีรสครีมหวานอ่อนๆ หอมอ่อนๆ ถือว่าสดใช้ได้

โฮตาเตะ - เป็นอีกจานที่อร่อยถูกใจมาก เนื้อหอยนุ่มและสด รสชาติเข้มข้นกับเนื้อสัมผัสที่ดี แถมขนาดตัวก็ใหญ่ ให้ความรู้สึกสุขสมมากเวลาเคี้ยวเจ้าคำนี้


นอกจากนี้ยังมีโฮตาเตะแบบดองและแบบมีไข่ติดมาด้วย ความอร่อยก็แตกต่างกันไป โฮตาเตะที่ติดไข่ส่วนเนื้อจะคล้ายๆ แบบปกติ และไข่จะมีความมันหอมที่ต่างออกไป ซึ่งอร่อยไม่แพ้กันเลย ส่วนโฮตาเตะดอง รสชาติจะเข้มข้นกว่าแบบปกติ และเนื้อจะนุ่มกว่าเล็กน้อย อันนี้แล้วแต่ความชอบแต่ละคนเลย แต่ผมชอบหมดทั้งสามแบบ 555


ตามติดมาด้วย
แซลมอน - ซึ่งมีสองคำพร้อมมีอิกุระ (ไข่ปลาแซลมอน) ติดมาด้วย อร่อยใช้ได้เลย มันแทรกกำลังดี ชิ้นหนาพอสมควร
อานาโกะ (ปลาไหลทะเล) คำนี้ค่อนข้างธรรมดาสำหรับผม แต่ก็ไม่ได้แย่เสียทีเดียว ปลาสด แต่รสมันจืด กินอานาโกะมากี่ที่ก็ยังไม่เจอถูกใจซักเท่าไหร่


ก่อนกลับสั่งโอโทโร่มาอีกคำให้สบายใจ แล้วปิดท้ายด้วยสตรอเบอร์รี่ราดนมข้นหวาน รสเปรี้ยวตัดหวานนิดๆ สตรอเบอร์รี่มีความเย็น แต่เหมือนจะแช่เย็นนานไปนิดข้างในบางลูกเป็นเกล็ดน้ำแข็งเลย แต่ก็อร่อยดี




ค่าเสียหายหนักหนาเอาการอยู่ แต่กินขนาดนี้ก็ยอมรับชะตากรรมจ้า T w T

ก็เป็นอันจบไปแล้วสำหรับวันแรก เดี๋ยววันต่อๆ ไป จะมาต่อให้เรื่อยๆ ทีละพาร์ทนะครับ ยังไงก็ขอบคุณที่ติดตามอ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ ถ้าใครสนใจจะได้ดูรีวิวเก่าๆ ที่ไปญี่ปุ่นมาก็เชิญติดตามได้ตามลิงก์ด้านล่างเลยครับ : D

https://pantip.com/topic/35893968
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่