ห้องเพลง**คนรากหญ้า** พักยกการเมือง มุมนี้ไม่มีสี ไม่มีกลุ่ม...มีแต่เสียง 29/4/2017 (หนักแน่น ดุดัน VS สงบสยบเคลื่อนไหว)

กระทู้คำถาม



ห้องเพลงคนรากหญ้าเปิดขึ้นมามีวัตถุประสงค์ เพื่อ

1. มีพื้นที่ให้เพื่อนๆ ได้มาพบปะ พูดคุยระหว่างกัน ในภาวะที่ต้องระมัดระวังการโพสการเมืองอย่างเคร่งครัด
2. เป็นพื้นที่ พักผ่อน ลดความเครียดทางการเมือง ให้เพื่อนๆ มีกิจกรรมสนุกๆ ร่วมกัน
3. สร้างมิตรภาพและความปรองดอง ซึ่งเราหวังให้สังคมไทยเป็นเช่นนี้ แม้นคิดต่างกัน แต่เมื่อคุยกันแล้วก็เป็นเพื่อนกันเหมือนเดิม

กระทู้ห้องเพลงเป็นกระทู้เปิด มิได้ปิดกั้นผู้หนึ่งผู้ใด "ขอให้มาดี เราคือเพื่อนกัน" ซึ่งก็เหมือนกับกระทู้ทั่วไป ที่เราไม่จำเป็นต้องทราบว่า User ท่านไหนเป็นใครมาจากไหน  ...ดังนั้น หากมีบุคคลใดที่มีการโพสสิ่งผิดกฎหมายและศีลธรรมอันดีของสังคมนั้น หรือสิ่งรบกวนใดๆ ในบอร์ด เป็นเรื่องส่วนบุคคล ทางห้องเพลงจึงขอแสดงความบริสุทธิ์ใจว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น





สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ห้องเพลงและเพื่อนสมาชิกทุกท่าน


วันนี้พาไปฝึกวิทยายุทธกันอีกรอบค่ะ เพื่อไว้ป้องกันตัว

สมัยก่อนเสาหลักยุทธภพคือเส้าหลินกับบู๊ตึ๊ง ในหนังจีนมักจะเห็นสองสำนักนี้ประจำ
จนมีคำเปรียบเปรยที่ว่า "เหนือเทิดทูนเส้าหลิน ใต้ยกย่องบู๊ตึ๊ง"

- มวยเส้าหลินมีต้นกำเนิดมาจากแถบอินเดีย คัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นมีรากฐานมาจากโยคะ เป็นธาตุหยาง เน้นความแข็งกร้าว

- ส่วนบู๊ตึ๊งหรือมวยไท่เก็ก เป็นภูมิปัญญาแบบจีน เน้นความอ่อนหยุ่น เป็นธาตุหยิน เน้นความสงบสยบความเคลื่อนไหว



วัดเส้าหลิน หรือที่จีนแต้จิ๋วเรียก เสียวลิ้มยี่

เป็นวัดเก่าแก่กว่า 1,500 ปี มีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของจีนโดยเฉพาะศิลปะการต่อสู้และป้องกันตัว  

ปรมาจารย์ตักม้อ (อินเดียเรียกว่า “ตะโมภิกขุ” ภาษาไทยเรียก "พระโพธิธรรม")  เป็นผู้ให้กำเนิดวิชามวยของ “วัดเส้าหลิน”

สำหรับนักประวัติศาสตร์รุ่นใหม่นั้นเชื่อว่าสิ่งที่ท่านทิ้งเอาไว้ให้ก็คือ หลักการบริหารร่างกายและหลักของการฝึกหายใจ
อันเป็นการเพิ่มพลังปราณและพลังชีวิตเพื่อสุขภาพ



วัดเส้าหลินกับการเมือง ในหนังจีนเรามักจะเห็นภาพเส้าหลินคือพระนักรบและพัวพันกับเรื่องการเมืองเสมอ
ซึ่งผลก็คือ เส้าหลินนั้นก็ถูกอำนาจรัฐหรือผู้ที่ต้องการก่อกบฏบุกเผาอยู่เรื่อยๆ

เช่น ปลายราชวงศ์สุย (พ.ศ.1124-1611) บ้านเมืองเกิดจราจล วัดมีที่ดินและทรัพย์สินมากจึงต้องจัดกองกำลังคุ้มกัน

ต่อมาในสมัยถัง การฝึกวิทยายุทธ์ได้รับการสนับสนุนจากราชสำนักเต็มที่ถึงขนาดมีกองทัพพระ
พระเหล่านี้ยามเกิดศึกสงครามก็ลาสิกขาไปป้องกันประเทศ พอเสร็จก็กลับมาบวชใหม่
ยุคที่วัดรุ่งเรืองนั้นเส้าหลินมีพระเณรถึง 2,000 กว่ารูป สังกัดกองทัพพระประมาณ 500 รูป



สำหรับเรื่องการฝึกวิชานั้น เส้าหลินจะเน้นกำลังและความแข็งแรงของกล้ามเนื้อเป็นหลัก พวกแนวคงกระพัน
หรือตระกูลเหล็กต่างๆ แต่ก็ยังมีวิชาเฉพาะทางที่เสริมด้วยเรื่องของชี่ด้วยเช่นกัน อย่างเช่น วิชาดรรชนี

ฝึกกำลังแขนด้วยการยกถังน้ำ


ฝึกวิทยายุทธบนสะพานแขวนเลียบผา เป็นการฝึกสมาธิ


ฝึกความแข็งแกร่ง


วิชาตัวเบา


ศิษย์วัดเส้าหลินทุกคน หากสำเร็จวิชาแล้วต้องการออกสู่โลกภายนอก เพื่อไม่ให้เสียชื่อเสียงวัดด้านฝีมือ
ก็ต้องผ่านด่านหลายๆ ด่าน สิ่งที่เรารู้จักกันดีคือ "18 อรหันต์ทองคำ"

ด่าน 18 อรหันต์มนุษย์ทองคำคือด่านสุดท้าย ถ้าไม่ผ่านก็ยังไปไหนไม่ได้ ต้องกลับไปฝึกฝนวิชามาทดสอบใหม่

หากผ่านด่านไปได้หมดแล้วจะได้ไปยกกระถางมังกรร้อนๆ ใช้แขนสองข้างยกซึ่งมันจะทำให้เกิดตราประทับ
เหมือนรอยสักรูปมังกรที่แขน เป็นสิ่งยืนยันว่าสำเร็จยุทธจากเส้าหลินแล้ว

เคยอ่านเจอว่า มีบ้างที่ไม่สามารถผ่านด่านได้ แต่หากต้องการลงจากเขาก็ต้องไปใช้ตรอกสุนัข ซึ่งถือว่าเสียศักดิ์ศรีมาก

บางครั้งเราเปรียบเทียบการฝ่าด่าน 18 อรหันต์ หมายถึงฝ่าฟันภารกิจที่ยากลำเค็ญ ไม่เว้นแม้กระทั่งการปฏิบัติที่ต้องมีอุปสรรคมากมาย

ผู้ใดผ่านด่าน 18 อรหันต์ได้ .... ผู้นั้นย่อมประสบความสำเร็จในชีวิต หรือค้นพบสัจธรรมแห่งความจริงแท้ในทางธรรม



บู๊ตึ๊ง จางซานฟง (แต้จิ๋วจะเรียก เตียซำฮง) สุดยอดปรมาจารย์แห่งเขาบู๊ตึ๊ง

เดิมท่านเฝ้าหอคัมภีร์อยู่เส้าหลิน แต่เขาสังเกตธรรมชาติ แล้วนำแก่นมาปรับเป็นวิชาหมัดมวยทั้งสิ้น จนภายหลังตั้งสำนักบู๊ตึ๊งขึ้น

ปรัชญาที่มีชื่อเสียงคือ "หลักการสงบสยบเคลื่อนไหว หลักการอ่อนพิชิตแข็ง"



เช่น ดูนกกระเรียนสู้กับงู ก็ได้หมัดนกกระเรียน
เรียนรู้หลักการอ่อนนุ่มรับแข็งกร้าวก็จากการฝึกรับเต้าหู้สดโดยไม่ให้แตกคามือ
ในหนังมีการตีนุ่นลอยฟ่อง โดยมีแนวคิดว่า นุ่นที่ว่าอ่อนนุ่ม แต่เอาเข้าจริงไม่มีหมัดไหนทำให้นุ่นเจ็บหรือทำลายนุ่นได้

เคล็ดวิชาอ่อนหยุ่นชนะแข็งกร้าว สงบสยบเคลื่อนไหว ถือเป็นปรัชญาวิชาใหม่และกลายเป็นหลักวิชาไทเก็ก
นอกจากนั้นยังมี วิชามวยสิงอี้ ที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของสัตว์ เช่น เสือ วานร มังกร เหยี่ยว นกนางแอ่น เป็นต้น
และวิชาฝ่ามือแปดทิศ หรือวิชาปากว้าจ่างที่ใช้การเคลื่อนไหวโดยการสืบเท้าเป็นรูปวงกลม แล้วแปรกระบวนท่าฝ่ามือเป็นท่าต่าง ๆ
ซึ่งทั้งสองวิชานี้ก็ได้กลายเป็นศิลปะการต่อสู้ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของประเทศจีนที่โด่งดังและได้รับการยอมรับจากทั่วโลกด้วย



ไท้เก๊กเน้นการกำหนดลมหายใจ และการออกท่วงท่าที่ช้าและนุ่มนวล แตกต่างจากศิลปะป้องกันตัวอื่นที่เน้นความว่องไว
ไท้เก๊กในปัจจุบันจึงคล้ายการบริหารดูแลสุขภาพ ไท้เก๊กยังช่วยป้องกันและรักษาโรคต่างๆ




ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพประกอบ
http://www.yodyut.com/topic.php?topic=6139
http://www.manager.co.th/asp-bin/ViewNews.aspx?NewsID=9590000028440
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9550000032159
http://www.manager.co.th/China/ViewNews.aspx?NewsID=9530000154011
https://pantip.com/topic/31852201
http://www.clipmass.com/story/92660
http://board.postjung.com/784919.html
http://static.you2play.com/2013/assets/uploads/movie/images/original/28365_tcz_5.jpg


....................................................................


ถามว่าแล้วหลักการใดดีกว่ากัน? หนักแน่น ดุดัน แข็งแกร่ง หรือสงบสยบเคลื่อนไหว ?

MC ชุนเทียน ไม่มีความรู้เรื่องนี้ลึกซึ้ง ได้แต่คิดว่า ไม่จำเป็นต้องเปรียบเทียบเพื่อหาสิ่งที่ดีกว่ากัน  

เพราะสิ่งสำคัญน่าจะเป็น การเข้าใจในแก่นนั้น และนำมาประยุกต์ใช้ให้ถูกที่ ถูกเวลา ถูกสถานการณ์
บางครั้งความอ่อนโยนย่อมชนะความแข็งกร้าว แต่บางคราวจำต้องหนักแน่น ดุดัน เด็ดขาด


วิทยายุทธ์เดียวกัน อาวุธวิเศษเดียวกัน คนใช้ต่างกัน ยังได้ผลต่างกันเลย
ใครเข้าถึงแก่นแท้ หลักการได้ มีใจเที่ยงธรรม เจตนาบริสุทธิ์ รู้จักนำไปใช้ให้ถูกทาง ก็ย่อมเป็นคุณอนันต์

เพลงหมัดมวยไม่ว่าจะเส้าหลินและบู๊ตึ๊งนั้น
วัตถุประสงค์สำคัญคือ ฝึกเพื่อสุขภาพ เมื่อเชี่ยวชาญก็ใช้ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ให้ใช้ไปทำร้ายผู้อื่น


Kung Fu Fighting Cee Lo Green & Jack Black

https://www.youtube.com/watch?v=5I2MHj1iDIU
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 33
ขอเสริมนิดหน่อย เป็นข้อความที่เคยออกความเห็นไว้ช่วงที่เข้าพันทิปใหม่ๆ คัดลอกมาให้เพื่อนสมาชิกอ่าน ... วันนี้คิดหนัก ว่า จะกด+ โหวตให้ดีหรือไม่ ??? เกิดกระทู้ขึ้นแนะนำ จะมีใครตั้งกระทู้ถามอีกหรือเปล่า ห้องราชดำเนินนี่ก็แปลก สมาชิกโหวตกระทู้ขึ้นแนะนำ ก็มีคนตั้งกระทู้ถาม !!!

- บู๊ตึง เป็นชื่อภูเขาในมณฑลโอ้วปัก(หูเป่ย) อยู่ฝั่งใต้ของแม่น้ำแยงซี มีธรรมชาติงดงามมาก ประกอบด้วยยอดเขาน้อยใหญ่ 72 ยอด สูงที่สุดชื่อว่า เทียนเถียวฮง(เทียนจูเฟิง) แปลว่า ยอดเสาฟ้า อีกชื่อหนึ่ง จือเสียเฟิง แปลว่า ยอดรัศมีม่วง สูงจากระดับน้ำทะเล 1,613 เมตร ภูเขาบู๊ตึงเดิมชื่อว่าไท้ฮั้วซัว(ไท่เหอซาน) มีหน้าผา 36 แห่ง หุบผาสูงชัน 18 แห่ง น้ำพุ 3 แห่ง ลำธาร 24 สาย มีถ้ำและน้ำตกงดงามอีกหลายแห่ง เนื่องจากมีธรรมชาติงดงามมาก จึงมีผู้นิยมมาแสวงวิเวกและปฏิบัติธรรมกันมาก จนมีอีกชื่อหนึ่งว่า เซียนซิกซัว(เซียนสื้อซาน) แปลว่า ผาห้องเซียน ต่อมา เจ้าชายจินบู๊(เจินหวู่) แห่งแคว้นเจ็งลัก(จิ้งเล่อ) ในสมัยราชวงศ์ฮั่น(พ.ศ. 337-738)มาปฏิบัติธรรมอยู่ที่นี่ 42 ปี จึงสำเร็จเป็นเซียน ภูเขานี้จึงได้ชื่อใหม่ว่า "บู๊ตึง"

- ง้อไบ๊ เป็นชื่อภูเขาในมณฑลเสฉวน ประกอบด้วยยอดเขาหลายยอด มียอดสูงเด่นสองยอดเรียงกันดูคล้ายรูปคิ้วอันโก่งงาม จึงได้ชื่อว่า ง้อไบ๊ แปลว่า คิ้วโก่ง ยอดเขาที่สูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล 3,099 เมตร ที่ภูเขาแห่งนี้มีทั้งวัดพุทธและเต๋า แต่วัดของพุทธมีมากกว่า จึงได้รับยกย่องว่า เป็นหนึ่งในมหาพุทธบรรพตสี่แห่ง ซึ่งเชื่อกันว่า เป็นที่ประท้บแสดงธรรมของพระโพธิสัตว์สี่องค์
ภูเขาทั้งสี่ได้แก่ ภูเขาโหงวไท้ซัว(หวูไท่ซาน) ของพระมัญชุศรีโพธิสัตว์ ภูเขากิ๋วฮั้วซัว(จิ่วหัวซาน) ของพระกษิติครรภโพธิสัตว์ ภูเขาง้อไบ๊(เอ๋อร์เหมย) ของพระสมันตภัทรโพธิสัตว์ ภูเขาโพวท้อซัว(ผูถัวซาน) ของพระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์(พระแม่กวนอิม) ภูเขาลูกสุดท้ายอยู่ในทะเลทางด้านตะวันออกเฉียงเหนือของมณฑลจิ๊ดกัง(เจ้อเจียง)
ตั้งแต่เชิงเขาง้อไบ๊ไปจนถึงยอดเขา วัดพุทธศาสนาเรียงรายอยู่ตลอดหลายวัด เช่น วัดป้อก๊กยี่(เป่ากั๋วสื้อ วัดรัฐพิทักษาราม) วัดฮกโฮ้วยี่(ฝูหู่สื้อ วัดสยบพยัคฆ์) วัดลุ้ยอิมยี่(เหลยอินสื้อ วัดฟ้าคำรน) วัดบนยอดเขาสูงสุดเรียกว่า วัดกิมเต็ง(จินติ่ง) แปลว่า ยอดทอง มีสิ่งก่อสร้างสีทองทอประกายงดงาม มักถูกอ้างถึงในนิยายกำลังภายในบ่อยๆ

- สำนักบู๊ตึงเกิดหลังสำนักเสียวลิ้มยี่ ราว 800 ปี นักพรตส่วนมากมีความรู้ทางหนังสือดี ประวัติของสำนักนี้มีการบันทึกค่อนข้างชัดเจน ตั้งแต่เตียซำฮง จนถึงปัจจุบันประมาณ 700 ปี มีศิษย์สืบทอดวิชาต่อเนื่องกันมาประมาณ 12 - 20 รุ่น วิชาสำนักบู๊ตึงจึงงอกงามออกไปโดยเฉพาะมวยไท้เก๊ก ซึ่งเป็นวิทยายุทธของลัทธิเต๋า เน้นพลังภายใน สุขุมแช่มช้า อ่อนช้อยงดงาม ได้รับการยกย่องเป็นต้นแบบของมวยพลังภายในของจีน มวยไท้เก๊ก ความจริงเป็นท่าบริหารร่างกายที่มีมาก่อนเตียซำฮง ได้รับการพัฒนาตลอดมาทุกยุคทุกสมัย นับได้ว่าเป็นมวยจีนแท้แต่โบราณชุดหนึ่ง
ไท้เก๊กตามรูปศัพท์ แปลว่า ที่สุดแห่งไพศาล อันได้แก่จักรวาล แต่ตามหลักในลัทธิเต๋า คือ พลังมูลกำเนิด ซึ่งเป็นที่มาของสรรพสิ่งในจักรวาล............ฯ

- สำนักง้อไบ๊เกิดขึ้นระยะไล่เลี่ยกับสำนักบู๊ตึง บุคคลที่มีการบันทึกได้แก่ แม่ชีโหงวบ๊วย(อู่เหมย) นักพรตคิ้วขาว เพลงมวยของนักพรตคิ้วขาวชุดหนึ่ง ยังสืบทอดมาถึงปัจจุบัน มีชื่อว่า เพลงมวยคิ้วขาว แพร่หลายอยู่ในเสฉวน ยูนนาน กวางตุ้ง ฮ่องกง มาเก๊า และในหมู่ชาวจีนโพ้นทะเล
วิทยายุทธของสำนักง้อไบ๊ มีลักษณะกึ่งพุทธกึ่งเต๋า ผสานข้อเด่นเข้าด้วยกัน................ฯ

จากหนังสือ สกัดจุดยุทธจักรมังกรหยก โดย ถาวร สิกขโกศล
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 53
เอามาแจมกระทู้ด้วยคำคมดีๆจากท่านเสนาธิการในประวัติศาสตร์จีนครับ



คําคมขงเบ้ง
1. เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
2. ถ้าคุณหัวเสีย คุณจะเสียหัว
3. อย่าไล่สุนัขให้จนตรอก อย่าต้อนคนให้จนมุม
4. อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
5. ถ้าคุณคิดจะเป็นใหญ่ คุณก็จะได้เป็นใหญ ถ้าคุณคิดอยากเป็นอะไร คุณก็จะได้เป็นสิ่งนั้น
6. เพราะแสวงหา มิใช่เพราะรอคอย เพราะเชี่ยวชาญ มิใช่เพราะโอกาส เพราะสามารถ มิใช่เพราะโชคช่วย ดังนี้แล้ว “ลิขิตฟ้าหรือจะสู้มานะตน”


7. นกทำรังให้ดูไม้ ข้าเลือกนายให้ดูน้ำใจ
8. ผู้ ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด คือ ผู้ที่ทำตนให้เล็กที่สุด ผู้ที่เล็กที่สุดก็จะกลายเป็นผู้ที่ใหญ่ที่สุด ผู้ที่มีเกียรติ คือ ผู้ที่ให้เกียรติผู้อื่น
9. จริงคือลวง ลวงคือจริง ถ้าคุณคิดว่าข้าศึกมีทางเลือกเพียง 2 ทาง จงแน่ใจได้ว่าเขาจะเลือกทางที่ 3
10. ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
11. มังกรถ้าไร้หัว หางก็ตีกันเอง ถ้าคานบนเอน คานล่างก็เบี้ยว ถ้าเสาเอกเฉียง เสาโทก็เฉ
12. คนมองไม่เห็นการณ์ไกล ภัยก็จะมาถึงตัว คนไม่รู้จักตัดไฟ ภัยก็จะน่ากลัว
13. ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
14. ไม้คดใช้ทำขอเหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย
15. เล่นหมากรุก อย่าเอาแต่บุกอย่างเดียว เดินหมากรุกยังต้องคิด เดินหมากชีวิต จะไม่คิดได้อย่างไร
16. เมื่อเสียหลักก็ต้องหลบอย่างฉลาด เมื่อพลั้งพลาดต้องรู้หลึกใส่ปลีกหาง ค่อย ๆ คิด ค่อย ๆทำ ค่อยคลำทาง จึงจะย่างสู่จุดหมายเมื่อปลายมือ
17. ปลาใหญ่มักตายน้ำตื้น
18. เกียรติยศย่อมเกิดจากการกระทำที่สุจริต
19. ถ้าสติไม่มา ปัญญาก็ไม่มี
20. เมื่อใครสักคนหนึ่ง ทำผิด ท่านอย่าเพิ่งตำหนิหรือต่อว่าเขา เพราะถ้าท่านเป็นเขาและตกอยู่ในสภาพแวดล้อมเช่นเดียว กับเขา ท่านอาจจะตัดสินใจทำเช่นเดียวกับเขาก็ได้
21. การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น


22. ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
23. อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
24. เมื่อนักการฑูตพูดว่า “ใช่ หรือ อาจจะ” เขามีความหมายว่า “อาจจะ” เมื่อนักการฑูตพูดว่า “อาจจะ” เขามีความหมายว่า “ไม่” เมื่อนักการฑูตพูดว่า “ไม่” เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร
25. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “ไม่” หล่อนมีความหมายว่า “อาจจะ” เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “อาจจะ” หล่อนมีความหมายว่า “ใช่ หรือ ได้” เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “ใช่ หรือ ได้” หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
26. คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
27. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
28. อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
29. ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
30. ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก คิดทำการใหญ่ ใจคอต้อง…มหาญ
31. ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า
32. เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้
33. คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม
34. ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
35. ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
36. ความรู้ คือ อำนาจ
37. นั่งภูดูเสือ กัดกัน
38. เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจึงอย่าประมาท
39. ถ้าเป็นกษัตริย์ แล้ว ไม่โลภ ก็ เป็นกษัตริย์ ที่ดีไม่ได้ ถ้าเป็นนักบวชแล้วโลภ ก็ เป็นนักบวช ที่ดีไม่ได้
40. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
41. น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น
42. ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่


คำคมสอนใจ
43. โลกกลมๆใบนี้ ไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ
44. อยู่ให้ไว้ใจ ไปให้คิดถึง
45. คนเราต้องเดินหน้า เวลายังเดินหน้าเลย
46. ไม่ต้องสนใจว่าแมวจะสีขาวหรือดำ ขอให้จับหนูได้ก็พอ
47. ยิ่งมีใจศรัทธา ยิ่งต้องมีสายตาที่เยือกเย็น
48. ในโลกกลมๆ ใบนี้ไม่มีคำว่าแน่นอน
49. ความปราถนาอย่างแรงกล้า นั่นแหละคือเหตุผล
50. คนเราเมื่อม้าตาย ก็ต้องลงเดิน
51. คนเราจะไม่ต้องใช้สมองเลย ถ้าพูดแต่ความจริง
52. ท้อแท้ได้แต่อย่าท้อถอย อิจฉาได้แต่อย่าริษยา พักได้แต่อย่าหยุด
53. เหตุผลของคนๆ หนึ่ง อาจจะไม่ใช่เหตุผลของคนอีกคนหนึ่ง
54. ถ้าคุณไม่ลองก้าว จะไม่มีวันรู้เลยว่า ข้างหน้าเป็นอย่างไร
55. ปัญหาทุกอย่าง ล้วนอยู่ที่ตัวเราทั้งสิ้น
56. น้ำใจส่วนน้ำใจ เหตุผลส่วนเหตุผล
57. เรื่องดีหรือเรื่องร้ายทางที่ดีบอกกันก่อน
58. หนทางยาวไกลนับหมื่นลี้ ต้องเริ่มต้นด้วยก้าวแรกก่อนเสมอ
59. เราจะเห็นค่าความอบอุ่น ก็ต่อเมื่อเราผ่านความเหน็บหนาวมาแล้ว
60. อันตรายที่สุดสำหรับชีวิตคนเรา คือ การคาดหวัง
61. เริ่มต้นดีแล้ว ลงท้ายก็ต้องดีด้วย
62. สวรรค์นั้นพึ่งยาก คนนั้นพึ่งยากกว่า
63. อย่ายอมแพ้ถ้ายังไม่ได้พยายามอย่างเต็มที่
64. จงใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
65. เบื้องหลังความเข้มแข็ง สมควรมีความอ่อนโยน เบื้องหลังของสติ สมควรมีอารมณ์
66. ไม่มีคำว่าบังเอิญในเรื่องของความรัก มีแต่คำว่าตั้งใจ
67. ยินดีกับสิ่งที่ได้มา และยอมรับกับสิ่งที่เสียไป
68. หลังพายุผ่านไป ฟ้าย่อมสดใส
69. หลังผ่านปัญหา จะรู้ว่าปัญหานั้นเล็กนิดเดียว


70. ไม่เป็นขุนนางน่ะได้ แต่ไม่เป็นคนไม่ได้
71. มีแต่วันนี้ ที่มีค่า ไม่มีวันหน้า วันหลัง
72. เมื่อวานก็สายเกินแก้ พรุ่งนี้ก็สายเกินไป
73. เพื่อนกิน เพื่อนกัน เพื่อนกินไม่ทัน เพื่อนกันเอาไปกิน
74. ชะตาฟ้าลิขิต…แต่ชีวิตนะของผม
75. รักแท้ต้องแย่งชิง..รักจริงต้องปล่อยไป
76. ตัดกระดาษต้องใช้กรรไกร .แต่ตัดใจต้องใช้เวลา
77. กาเม มอระนัง ทุกขัง โลเก…(กามตายด้านเป็นทุกข์ในโลก)
78. รักดีกินถั่ว รักชั่วกินเหล้า..รักดีรักชั่ว กินถั่วแกล้มกะเหล้า เอิ้ก ๆ
79. สิ่งเดียวที่จะทำให้คนชั่วชนะก็คือ ‘การที่คนดีนิ่งดูดาย’
80. กำขี้ดีกว่ากำตด แต่ถ้ากำขี้สดๆกำตดจะดีกว่ากำขี้
81. ทำแล้วเสียใจ ยังดีกว่าเสียใจที่ไม่ได้ทำ
82. จุดยืนของเราทุกคนคือ ….
83. กระบี่อยู่ที่ใจ แค่ไม้ไผ่ก้อไร้เทียมทาน
84. เห็นงานเป็นลม เห็นนมสู้ตาย สู้ว้อย
85. ตัวอย่างที่ดี…มีค่ากว่าคำสอน
86. ดี-ชั่ว ไม่ได้เป็นที่กรรมพันธุ์…
87. เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “ไม่” หล่อนมีความหมายว่า “อาจจะ” เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “อาจจะ” หล่อนมีความหมายว่า “ใช่ หรือ ได้” เมื่อสุภาพสตรีพูดว่า “ใช่ หรือ ได้” หล่อนไม่ใช่สุภาพสตรี
88. คิดทำการใหญ่ อย่าสนใจเรื่องเล็กน้อย
89. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน คนส่วนใหญ่ใส่ใจกับผลได้ระยะสั้นเท่านั้น แต่คนฉลาดอย่างแท้จริงจะมองไปยังอนาคต
90. อำนาจที่ปราศจากเหตุผล คือ อำนาจของคนพาล อำนาจที่ปราศจากความเมตตา คือ อำนาจที่นำมาซึ่งความปราชัย
91. ยามเรืองรุ่งพุ่งเปรี้ยงดุจเสียงฟ้า แม้เทวายังสยบหลบทางให้ จะหยิบดาวเดือนชมก็สมใจ คงร้องให้วันหนึ่งแน่ คราวแพ้มี
92. ตัดไผ่อย่าไว้หน่อ ฆ่าพ่ออย่าเหลือลูก คิดทำการใหญ่ ใจคอต้อง…มหาญ
93. ข้าพเจ้ายอมทรยศต่อคนทั้งโลก ดีกว่าให้คนในโลกทรยศต่อข้าพเจ้า
94. เป็นแม่ทัพแล้วไม่กล้าตัดหัวคน เป็นแม่ทัพที่ดีไม่ได้
95. คนฉลาดปราดเปรื่อง เขานั่งนิ่งสงวนคม
96. ไม่มีใครเลี้ยงอาหารใครเปล่า ๆ โดยไม่หวังผลประโยชน์ตอบแทน
97. ศัตรูที่ร้ายเหลือ ไม่เท่าเกลือเป็นหนอน
98. ความรู้ คือ อำนาจ
99. นั่งภูดูเสือ กัดกัน


100. เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมียอดคน ฉะนั้นจึงอย่าประมาท
101. ถ้าเป็นกษัตริย์ แล้ว ไม่โลภ ก็ เป็นกษัตริย์ ที่ดีไม่ได้ ถ้าเป็นนักบวชแล้วโลภ ก็ เป็นนักบวช ที่ดีไม่ได้
102. ตาสามารถมองเห็นสิ่งที่ไกลได้ แต่ไม่สามารถ มองเห็นคิ้วของตน
103. น้ำไหลลงสู่ที่ต่ำฉันใด เราก็กลายเป็นคนฉลาดในช่วงเวลาลำบากฉันนั้น
104. ดวงอาทิตย์ทำให้ทุกสิ่งกระจ่างชัด แต่ เรายังต้องทำความเข้าใจในส่วนที่มืด ซึ่งยังคงดำรงอยู่
105. การบริหารคือการทำงานให้สำเร็จโดยอาศัยมือผู้อื่น
106. ผู้ปกครองระดับธรรมดา ใช้ความสารมารถของตนอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับกลาง ใช้กำลังของคนอื่นอย่างเต็มที่ ผู้ปกครองระดับสูง ใช้ปัญญาของคนอื่นอย่างเต็มที่
107. อ่านคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น
108. เมื่อนักการฑูตพูดว่า “ใช่ หรือ อาจจะ” เขามีความหมายว่า “อาจจะ” เมื่อนักการฑูตพูดว่า “อาจจะ” เขามีความหมายว่า “ไม่” เมื่อนักการฑูตพูดว่า “ไม่” เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

ขอบคุณ http://www.xn--108-pkla8onerj.com/108-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%82%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%87-%E0%B8%84%E0%B8%B3%E0%B8%84%E0%B8%A1%E0%B8%AA%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%88.html

และ https://www.youtube.com/watch?v=NUzJ0KUvHDc
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่