อยู่ในกลุ่มเพื่อนที่ทำงานร่วมกันจะเคยได้ยินบ่อย คำว่าอย่า สอนจระเข้ว่ายน้ำ เพราะอะไรจึงพูดเช่นนั้น จระเข้ว่ายน้ำเก่งอยู่แล้วแต่ยังมีครูสอนว่ายน้ำให้อีก ผลที่ออกมาจระเข้ก็จะว่ายน้ำเก่งกว่าครู  คนจึงชอบพูดเปรียบเปรยเพื่อนที่เก่งกว่าเพื่อนว่า
อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ  คำนี้ฟังแล้วสะเทือนใจลูกศิษย์ที่ดีที่เก่งกว่าครู  ครูไม่อยากสอน สอนแล้วก็จะเก่งกว่าครู  ถ้าจะคิดแบบนี้ก็ยังไม่ใช่ไม่ถูก  ทุกคนไม่มีใครรู้มาตั้งแต่เกิดจะต้องมาเรียนรู้จากพ่อแม่หัดพูดให้เป็นก่อนแล้วเข้าโรงเรียนก-ฮ หัดอ่านหัดเขียน แล้วก็ไปต่อยอดเพิ่มขึ้นไปเรื่อย อยู่ในวัยทำงานแล้วก็ยังคงมีการเรียนรู้กับงานอีก ทุกคนยังคงต้องเรียนรู้ใครจะรู้น้อยรู้มากขึ้นอยู่ที่ใครสะสมความรู้ไว้มากแค่ใหน พอคนรู้พอสมควรแล้วบางคนอาจจะคิดว่าเรารู้แล้วไม่ต้องการใครมาสอนอีก แต่บางคนก็ยังต้องเรียนไปเรื่อย คนที่เรียนไปเรื่อยนี้มักจะโดนเพื่อนล้อว่า อย่าไปสอนจระเข้ว่านน้ำ เพื่อนอย่าว่ากันเลยคนที่ใฝ่หาความรู้อยู่ในขณะที่บางอย่างก็ยังต้องถามผู้ที่รู้น้อยกว่าก็ได้ เพราะรู้กันคนละอย่าง  ถึงครูจะสอนจระเข้ว่ายน้ำก็จงสอนด้วยความเต็มใจ เมื่อจระเข้ว่ายน้ำได้เก่งที่สุดแล้วจระเข้ไม่ควรจะลืมบุญคุณที่ครูสอนตนจงเป็นลูกศิษย์ที่ดีของอาจารย์
แต่ถ้าอาจารย์บอกว่า อย่าสอนจระเข้ว่ายน้ำ นี้อาจารย์ล้างลูกศิษย์แล้ว ฝากให้ผู้เป็นครูที่ดีต่อลูกศิษย์  ขอจงสอนลูกศิษย์ให้ความรู้กับลูกศิษย์ด้วยความเต็มใจ ผลที่ได้ตอบแทนนั้นคือบุญ